ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 107: ร่างกายไร้เทียมทาน

“ผลไม้ชำระวิญญาณครึ่งเมตรทางซ้ายของท่านสามารถปัดเป่าเวทมนตร์คำสาปได้ ดอกบัวศักดิ์สิทธิ์สามารถทำลายคำสาปศพตายโหงอายุ 10,000 ปีได้ เลือดของท่านเจ้าของ สมุนไพรวิญญาณที่อยู่สองเมตรตรงหน้าท่าน และน้ำระฆังสวรรค์สามารถรักษาพิษพันปีได้”
 
คำตอบของระบบดังอยู่ในหัวของเขา และเฉินเฉินก็รีบหยิบสมบัติสวรรค์ตามคำแนะนำและกลืนพวกมันเข้าไปหลังจากที่ได้ฟังแต่ละประโยค
 
อย่างไรก็ตาม ถึงแม้กระนั้น เขาก็ยังรู้สึกเวียนหัวในขณะที่พลังปราณในร่างกายของเขาเริ่มหยุดนิ่งเพราะเขาไม่รู้สึกถึงการไหลเวียนของมันเลย
 
“พิษที่เรียกว่าความพิโรธของมนุษย์นี่มันน่ากลัวจริงๆ!”
 
เฉินเฉินตกใจ
 
ความพิโรธของมนุษย์คือการรวมกันของพิษพันปีและศพตายโหง 10,000 ปีกับเวทมนตร์คำสาป
 
พิษจะโจมตีร่างเนื้อของเป้าหมายในขณะที่คำสาปจะทำลายวิญญาณ ส่วนศพจะยับยั้งพลังปราณและขัดขวางไม่ให้คนที่ได้รับพิษช่วยเหลือตัวเองได้ แค่ตัวพิษที่น่ากลัวทั้งสามนี้ก็ถือว่าเป็นสมบัติที่ล้ำค่ามากๆแล้ว
 
‘ไม่แปลกใจที่ฉงเย่ซึ่งใกล้จะถึงขั้นแก่นทองคำแล้วถึงกลายเป็นขี้เถ้าในเวลาแค่ 20 วินาทีแม้จะได้รับความช่วยเหลือจากเซียนทั้งสามที่อยู่ขั้นก่อกำเนิดวิญญาณก็ตาม’
 
จิตใจของเฉินเฉินเต็มไปด้วยความหวาดกลัวในขณะที่เขาคิดเกี่ยวกับมัน
 
โชคดีที่เมื่อสักครู่นี้เขาไม่ได้เสียเวลาโดยเปล่าประโยชน์แม้แต่นิดเดียว ไม่อย่างนั้นพลังปราณของเขาคงจะถูกยับยั้งและจบลงที่การไม่สามารถเปิดแหวนเก็บของได้ ต่อให้เขาจะมีระบบอยู่ในร่างกาย เขาก็น่าจะยังไม่รอดอยู่ดี
 
เขาจะไปถามหาเหตุผลกับใครได้หล่ะในตอนที่เรื่องแบบนั้นเกิดขึ้น?
 
“เวรเอ๊ย! โคตรน่ากลัวเลย!”
 
เฉินเฉินสบถอย่างโกรธเคืองอยู่ในใจ หลังจากที่กินผลไม้ชำระวิญญาณเข้าไป เสียงโหยหวนจากบาดแผลก็เริ่มเลือนหายไปในที่สุด และเขาก็มีสติมากขึ้น
 
อย่างไรก็ตาม เสื้อคลุมผ้าไหมทองคำได้ถูกกัดกร่อนเป็นขี้เถ้าไปแล้ว
 
ในอีกด้านนึง คำสาปศพตายโหง 10,000 ปีเองก็ถูกพลังรักษาที่แข็งแกร่งของดอกบัวศักดิ์สิทธิ์ยับยั้งเอาไว้ได้และร่องรอยของพลังปราณก็ค่อยๆกลับเข้ามาในร่างกาย
 
อย่างไรก็ตาม พิษแปลกประหลาดยังคงมีอำนาจอยู่และกัดกร่อนบาดแผลของเขา
 
ร่างกายของเฉินเฉินนั้นพิเศษ และบาดแผลของเขาก็ถูกรักษาในทันทีด้วยพลังชีวิตอันแข็งแกร่ง
 
ความเปลี่ยนแปลงและการฟื้นฟูนี้เหมือนกับสงครามเลย
 
ในขณะที่กำลังดิ้นรนอยู่นี้ เฉินเฉินก็กินสมุนไพรวิญญาณบริสุทธิ์เข้าไป ตามด้วยน้ำระฆังสวรรค์หนึ่งขวด ตอนนี้มันไม่ใช่เวลามาประหยัดแล้ว
 
ขอแค่เขามีชีวิตรอดต่อไปได้ เขาก็จะมีสมบัติอื่นๆที่เขาต้องการอีกในอนาคต
 
พิษสามชนิดและพลังรักษาทั้งสามกำลังต่อสู้กันในร่างกายของเขาและนี่คงไม่สามารถจินตนาการได้เลยว่าเฉินเฉินรู้สึกเลวร้ายแค่ไหน ไม่นานนัก เขาก็หน้าซีดและดูเหมือนว่าพลังงานของเขาจะถูกผลาญไป
 
ในตอนนี้เอง ก็มีเส้นแสงมากมายปรากฎขึ้นบนทองฟ้าไกลๆ
 
เมื่อเห็นเส้นแสงพวกนี้ ม่านตาของเฉินเฉินก็บีบตัวลงเล็กน้อย และเขาก็ใช้พลังปราณที่เขาพึ่งจะฟื้นฟูกลับมาเพียงเล็กน้อยเพื่อเก็บสมบัติสวรรค์ทั้งหมดเข้าไปในแหวนเก็บของ
 
ในเวลาเดียวกันนั้นเอง เขาก็เอาหน้ากากพิเศษออกมาจากแหวนเก็บของและนำมาสวมที่หน้า ไม่นานนัก ใบหน้าของเขาก็เริ่มเปลี่ยนไปและเขาก็ดูหล่อเหลายิ่งขึ้น
 
หน้ากากนี้คือสิ่งที่เขาได้รับมาจากภรรยาของท่านอาจารย์ และมันก็ทำมาจากหนังของสัตว์อสูรที่พิเศษมากๆ ซึ่งสามารถหลอมรวมเข้ากับผิวหนังมนุษย์ได้ แม้กระทั่งสุดยอดฝีมือก็คงจะไม่ได้มองออกง่ายๆ
 
หลังจากที่ทำเช่นนี้ เฉินเฉินก็นั่งลงกับพื้นและซ่อนแหวนเก็บของเอาไว้ในช่องเสื้อของเขา จากนั้นเขาก็เริ่มหายใจหอบ
 
เมื่อเห็นว่าเส้นแสงกำลังใกล้เข้ามาเรื่อยๆ เฉินเฉินก็ยื่นนิ้วออกไปด้วยความยากลำบากและชี้ไปยังหยวนฉิงเทียนที่อยู่ห่างออกไปไม่กี่เมตร
 
“ไอ้สารเลว แกไม่มีทางรอดไปง่ายๆหรอก”
 
ในจังหวะต่อมา เส้นสายฟ้าบางๆก็ถูกยิงออกไป มันถูกปกคลุมด้วยพลังปราณที่เหลืออยู่ทั้งหมดของเฉินเฉินก่อนที่จะไประเบิดเหนือหัวของหยวนฉิงเทียน
 

 
ไม่นานนัก คนสองคนก็ลงมาที่พื้นและรีบเข้าไปหาหยวนฉิงเทียนในทันที
 
“นายน้อย!”
 
เมื่อเห็นสภาพที่น่าสังเวชของหยวนฉิงเทียน ทั้งสองคนก็ตะโกนออกมาพร้อมกัน
 
เมื่อได้ยินเสียงของพวกเขา เฉินเฉินก็รู้สึกหวั่นใจ
 
‘บ้าชะมัด ข้านี่ซวยจริงๆ ให้ตายเถอะ มันเป็นคนจากสำนักอสูร โชคดีที่ข้าฉลาดพอก็เลยรีบเปลี่ยนหน้าตาของตัวเอง’
 
เฉินเฉินหันหัวไปเล็กน้อยและเย้ยหยันในตอนที่เขาเห็นพวกเขากำลังป้อนสมบัติสวรรค์ให้หยวนฉิงเทียน
 
ต่อให้หยวนฉิงเทียนไม่ตาย เขาก็เหมือนตายไปแล้ว 99% เว้นเสียแต่ว่าเขาจะมีน้ำระฆังสวรรค์ ไม่อย่างนั้น เขาก็คงจะไม่สามารถฟื้นฟูกลับมาได้ในระยะเวลาอันสั้น
 
และมันก็เหมือนกับที่เขาคิดเอาไว้จริงๆ ครู่ต่อมา เสียงของทั้งสองก็เริ่มหดหู่
 
“นายน้อย… ฟื้นสิ!”
 
“เกิดอะไรขึ้นกับเขา?”
 
“ถ้าเส้นเอ็นหรือเส้นเลือดของเขาถูกทำลาย มันก็ยังสามารถฟื้นฟูได้ แต่ว่าเขา…จิตสำนึกของเขาได้รับความเสียหายรุนแรงและเขาก็โดนระเบิดใหญ่จนทำให้หมดสติไป”
 
เมื่อได้ฟังคำตอบ อีกคนที่นั่งอยู่บนพื้นก็ดูสิ้นหวัง
 
“สติของเขาถูกทำลาย… ถ้างั้นเขาก็จะกลายเป็นคนปัญญาอ่อนน่ะสิ?”
 
อีกคนเงียบ เหมือนกับจุดตันเถียน ทะเลแห่งจิตสำนึกนั้นจับต้องไม่ได้และยากที่จะรักษา
 
ซึ่งถ้ารักษาไม่ได้ คนที่ได้รับบาดเจ็บก็ไม่ต่างอะไรจากซอมบี้
 
อย่างไรก็ตาม ถ้ารักษาได้ มันก็จะเป็นความทรงจำใหม่ ไม่เพียงแค่ความทรงจำเก่าของเขาจะหายไป แต่สติปัญญาของเขาจะกลับไปอยู่ระดับเด็กแรกเกิดด้วย
 
แล้วแบบนั้นมันจะต่างจากคนพิการตรงไหนกันหล่ะ?
 
“เป็นฝีมือใคร!?! ใครมันทำแบบนี้กับนายน้อย!”
 
“มีคนอื่นอยู่ที่นี่!”
 
ในที่สุดทั้งสองคนจากสำนักอสูรก็สังเกตเห็นเฉินเฉิน และเข้ามาหาเขาในทันที
 
เฉินเฉินพูดไม่ออกในตอนที่เขาเห็นเสื้อผ้าที่พวกเขาสวมอยู่
 
พวกเขาทั้งคู่เป็นระดับผู้อาวุโสของสำนักอสูรและมีการฝึกตนอยู่เหนือกว่าแก่นทองคำ
 
“เจ้าหนู เจ้ามาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?”
 
ผู้อาวุโสคนนึงถามในขณะที่จับแขนของเฉินเฉิน และหลังจากที่ดูดีๆแล้ว ก็มีความประหลาดใจแสดงอยู่บนหน้าของเขา
 
เฉินเฉินไม่มีจุดตันเถียนแต่เขาก็ดูไม่เหมือนมนุษย์ธรรมดาสำหรับพวกเขาดังนั้นพวกเขาจึงคิดว่าจุดตันเถียนของเขาถูกทำให้พิการไปแล้ว
 
“คือว่า…ข้าบังเอิญผ่านทางมาและได้รับบาดเจ็บจากแรงกระแทกครับ” เฉินเฉินพูดอย่างสิ้นหวัง
 
“เจ้ารู้รึเปล่าว่าใครเป็นคนทำร้ายนายน้อยของพวกข้า?” ผู้อาวุโสอีกคนถาม
 
“ครับ… ยอดฝีมืออันดับสองของรัฐจิน เฉินเฉิน ที่เป็นผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุน เขาทำมันโดยใช้วิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุนครับ”
 
วิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุนก่อให้เกิดความปั่นป่วนระดับใหญ่โตและเฉินเฉินก็ไม่รู้ว่าคนอื่นเห็นเห็นมันรึเปล่า ดังนั้นเขาจึงตัดสินใจที่จะพูดความจริง
 
“ทำไมมันถึงโหดร้ายได้ขนาดนี้?”
 
“เขาบอกว่าคนๆนี้ฆ่าพระราชาองค์ใหม่ของรัฐจินแต่ความตายคงเป็นทางออกที่ง่ายเกินไปสำหรับเขาครับ เขาอยากให้คนๆนี้ใช้ชีวิตต่อด้วยความเจ็บปวดและความน่าสมเพชไปตลอดชีวิตที่เหลือ” เฉินเฉินโกหก
 
ผู้อาวุโสสำนักอสูรเศร้าโศกมากจนพวกเขาอดร้องไห้ออกมาอย่างคับแค้นใจไม่ได้
 
“เฉินเฉิน! ข้าจะจัดการเจ้า!”
 
“พวกเรายอมรับการดูถูกนี้ไม่ได้! เฉินเฉิน เจ้ากล้ามาเหยียดหยามนายน้อยของพวกเราแบบนี้ได้ยังไง!”
 
เฉินเฉินรู้สึกหนาวสันหลังวาบในตอนที่เขาได้ยิน
 
ถ้าพวกเขาสองคนรู้ว่าเขาคือเฉินเฉินเขาก็น่าจะไม่รอด
 
หลังจากที่ผู้อาวุโสสำนักอสูรทั้งสองคนสบถออกมาจนพอใจ พวกเขาก็กลับมามองเฉินเฉิน
 
“พวกเราจะฆ่าเขาหรือไว้ชีวิต?”
 
“ชาวรัฐจินทุกคนสมควรตาย ฆ่าเขาซะ”
 
เมื่อได้ฟังบทสนทนาระหว่างสองคนนี้ เฉินเฉินก็พยายามฝืนลุกขึ้นมา
 
“ข้ามีเรื่องบางอย่างจะพูดครับ!”
 
สายตาของผู้อาวุโสทั้งสองหยุดนิ่งและพวกเขาก็รอฟังสิ่งที่เฉินเฉินจะพูด
 
ในตอนนี้เอง เฉินเฉินก็เอาเหรียญสำนักอสูรออกมาจากกระเป๋าของเขาและวางลงบนพื้นด้วยสีหน้าขมขื่น
 
“ข้าใช้ชีวิตอยู่ที่ชานเมือง ข้ามีร้านกับสวนอยู่ที่บ้าน และใช้ชีวิตอย่างมีความสุข แต่ว่า ในวันหนึ่ง ผู้อาวุโสในชุดดำคนนึงก็มาเคาะประตูบ้านของข้า แล้วบอกว่าคุณสมบัติของข้าน่าเหลือเชื่อด้วย ดังนั้น เขาก็เลยมอบเหรียญนี้ให้ข้าและบอกให้ข้าเก็บมันเอาไว้กับตัวตลอดเวลาครับ”
 
“แต่ใครจะไปรู้กัน? สำนักอู๋ซินนั้นกลับเป็นพวกเจ้าเล่ห์และมีนิสัยโหดร้าย พวกมันเข้ามาหาเรื่องพวกเราและผู้อาวุโสก็พยายามจะต่อต้าน แต่ก็ถูกอัดเละ หลังจากที่พวกอู๋ซินมันเจอเหรียญของข้า พวกมันก็ทำลายจุดตันเถียนของข้าครับ”
 
“ด้วยเหตุนี้เอง ตอนนี้พอเมืองตกอยู่ในความวุ่นวายข้าก็สามารถหนีออกมาได้แต่ข้าไม่คาดคิดเลยว่าจะมาเจอกับความโชคร้ายอีกครั้งนึงเพราะข้าถูกซัดกระเด็นมาไกลถึงข้างถนน! ชีวิตนั้นคาดเดาไม่ได้จริงๆ แค่คำพูดคงไม่สามารถบรรยายความเสียใจของข้าได้ ข้าขอแค่ท่านทั้งสองไว้ชีวิตของข้าก็พอครับ!”
 
ผู้อาวุโสของสำนักอสูรทั้งสองคนตกตะลึงและสายตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความสับสน
 
หลังจากนั้นซักพัก หนึ่งในพวกเขาก็ได้สติ เขาหยิบเหรียญขึ้นมาและพูดด้วยความเห็นใจ “เจ้าเป็นศิษย์ของสำนักอสูรเหรอ?”
 
เมื่อได้ฟังเช่นนี้ เฉินเฉินก็พูดอย่างนุ่มนวลด้วยสีหน้าน่าสงสาร “ผู้อาวุโสชุดดำบอกว่าข้าจะถูกพิจารณาให้เป็นศิษย์สำนักอสูรหลังจากที่เขาพาข้ากลับไปได้ครับ”
 
ผู้อาวุโสทั้งสองมองหน้ากัน พวกเขาเชื่อไป 80% แล้วว่าเฉินเฉินกำลังพูดความจริง
 
พวกเขาคิดว่าเด็กหนุ่มตรงหน้าของพวกเขาน่าจะเป็นเซียนที่มีศักยภาพดีซึ่งเพื่อนร่วมสำนักอสูรในรัฐจินของพวกเขาเป็นคนพบเข้า อย่างไรก็ตาม เรื่องก็ถูกเปิดโปงและเพื่อนคนนั้นก็น่าจะตายไปแล้วในขณะที่เด็กหนุ่มเฉินเฉินถูกทำลายจุดตันเถียนและทำได้แค่หนีในระหว่างความวุ่นวาย
 
อย่างไรก็ตาม ในตอนนี้เอง สีหน้าของหนึ่งในผู้อาวุโสก็เปลี่ยนไปอย่างกะทันหันและเขาก็พูดด้วยน้ำเสียงจริงจัง “ศิษย์ที่ถูกเกณฑ์เข้าสำนักอสูรในรัฐจินจะได้รับยาเผาร่างก่อนที่พวกเขาจะไปรัฐโจว ข้าขอดูสภาพร่างกายของเจ้าอีกครั้งนึงนะ”
 
หลังจากที่พูดแบบนั้น เขาก็ไม่ปล่อยโอกาสให้เฉินเฉินได้เคลื่อนไหวและพยายามจับข้อมือของเฉินเฉินอีกครั้ง
 
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่สัมผัสข้อมือของเฉินเฉิน เขาก็ตัวแข็งทื่ออีกครั้ง
 
ครั้งแรกที่เขาตรวจสอบสภาพร่างกายของเฉินเฉิน เขาได้ออกแรงอย่างมาก และจุดที่เขากดข้อมือของเฉินเฉินก็เป็นจ้ำแดงแล้ว
 
อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ข้อมือของเขาดีเหมือนใหม่
 
“เกิดอะไรขึ้นกับเด็กคนนี้เนี่ย?”
 
เขาตกตะลึงในขณะที่ผู้อาวุโสที่อยู่ข้างเขาดูหวาดหวั่น โดยไม่ได้พูดอะไรออกมาอีก เขาก็ตัดแขนของเฉินเฉิน
 
แต่ในท้ายที่สุด แขนที่ถูกตัดไปนั้นก็เริ่มฟื้นฟูด้วยความเร็วที่มองเห็นได้ด้วยตาเปล่าต่อหน้าพวกเขา
 
เมื่อเห็นฉากนี้ สายตาของพวกเขาก็เต็มไปด้วยความหวั่นเกรงและพวกเขาก็ตัวสั่นพร้อมกัน!
 
“นี่มัน… นี่มันคือร่างกายไร้เทียมทานของหลวงหวง!”

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset