ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 108: สำนักงานใหญ่สำนักอสูร

“อะไรนะ ร่างกายไร้เทียมทานเหรอ?”
 
ในตอนที่เฉินเฉินเห็นบาดแผลทำการรักษาโดยอัตโนมัติ ตอนแรกเขาเสียใจแต่หลังจากที่ได้ยินผู้อาวุโสสำนักอสูรทั้งสองอุทาน เขาก็ตกตะลึง
 
‘การที่ร่างกายของข้ารักษาตัวเองได้โดยอัตโนมัติมันพิเศษขนาดนั้นเลยเหรอ?’
 
เมื่อเห็นว่าสีหน้าตกใจของเฉินเฉินดูเหมือนจะเป็นของจริง สีหน้าของผู้อาวุโสสำนักอสูรทั้งสองก็ดูซับซ้อนมาก
 
มี 36 สาขาอยู่สำนักอสูรของรัฐโจว อย่างไรก็ตาม นอกจากสาขาที่หนึ่ง ซึ่งเป็นสำนักงานใหญ่ สาขาอื่นๆนั้นชั่วร้ายหมด
 
มีแค่สาขาแรกที่เป็นสายขัดเกลาร่างกายเท่านั้นที่เป็นวิถีที่เหมาะสมซึ่งสามารถทำให้คนไปถึงระดับสูงสุดที่สามารถเทียบกับวิถีความเป็นอมตะได้
 
โดยการขัดขืนวิถีสวรรค์ด้วยกายเนื้อและฝึกปรือจนอยู่เหนือชีวิตและความตายนั้นก็คือหนทางของสายมาร
 
ร่างกายไร้เทียมทานก็เป็นหนึ่งในร่างกายที่มีความเหมาะสมที่สุดสำหรับการขัดเกลาร่างกาย
 
เนื่องจากความจริงที่ว่าการขัดเกลาร่างกายนั้นเป็นกระบวนการที่เจ็บปวดและทรมานอย่างเหลือเชื่อ การที่ร่างกายถูกทำลายในระหว่างกระบวนการจึงเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นอยู่บ่อยๆ
 
ในตอนที่ร่างกายของคนธรรมดาพยายามที่จะเพิ่มความแข็งแกร่งให้ร่างกาย พวกเขาอาจจะตายด้วยสภาพที่โหดร้ายถ้าพวกเขาไม่ระวัง
 
อย่างไรก็ตาม มันเป็นเรื่องยากมากที่ร่างกายไร้เทียมทานจะถูกทำลายเพราะมีการฟื้นฟูที่ทรงพลังมาก อันที่จริง มันยังสามารถใช้วิชาขัดเกลาร่างกายต้องห้ามเพื่อให้ได้รับร่างกายสุดยอดอสูรและไปถึงขั้นอมตะได้ในที่สุด!
 
“เจ้าหนุ่ม กลับไปที่สำนักอสูรกับพวกเราเถอะ”
 
ผู้อาวุโสสำนักอสูรคนนึงพูด
 
แม้ว่าเขาจะมาจากสาขาสองของสำนักอสูรรัฐโจว แต่สำนักอสูรรัฐโจวนั้นเป็นหนึ่งเดียวกันและแน่นอนว่าพวกเขาต้องพาคนที่มีร่างกายแบบนี้ไป
 
“เอ๊ะ? แต่จุดตันเถียนของข้าถูกทำลายไปแล้ว เพราะฉะนั้นข้าคงไม่สามารถฝึกตนได้หรอกครับ” เฉินเฉินสิ้นหวังเล็กน้อย แน่นอนว่าเขาหวังให้พวกเขาปล่อยเขาไป
 
ผู้อาวุโสสำนักอสูรอีกคนส่ายหัวแล้วพูด “ไม่เป็นอะไรหรอก พวกเรามีสาขาที่เจ้าสามารถฝึกตนได้โดยไม่ต้องใช้จุดตันเถียน”
 
“จริงเหรอครับ?” ดวงตาของเฉินเฉินเป็นประกายขึ้นมา
 
เมื่อได้ฟังเช่นนี้ แน่นอนว่าเรื่องแรกที่เข้ามาในหัวของเขาก็คือจางจี
 
จุดตันเถียนของจางจีถูกลูกน้องของฉีปู่ฝานทำลายไปแล้ว และตั้งแต่ตอนนั้น เขาก็ถูกกำหนดให้โดนตัดขาดจากหนทางแห่งเซียน ถ้าการฝึกตนโดยไม่ใช้จุดตันเถียนนั้นมีความเป็นไปได้ จางจีก็น่าจะสามารถฝึกตนต่อไปได้
 
มันไม่สำคัญหรอกว่าเขาจะกลายเป็นผู้ฝึกตนสายเซียนหรือผู้ฝึกตนสายมาร เฉินเฉินไม่ได้สนใจ เพราะเขารู้สึกว่าการที่สามารถมีชีวิตไปได้ตลอดกาลคือเป้าหมายสุดท้าย
 
“ข้าไม่ได้โกหกเจ้าหรอก เอาเถอะ เราจะรีบออกเดินทางโดยเร็วที่สุด พวกเราไม่ควรอยู่ที่นี่นานนัก”
 
หนึ่งในผู้อาวุโสสำนักอสูรดูเหมือนจะสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่างเพราะสีหน้าของเขาเปลี่ยนไปในขณะที่มีง้าวออกมาจากร่างกายของเขา
 
ผู้อาวุโสอีกคนแบกหยวนฉิงเทียนไปด้วยและไม่นานนัก ง้าวก็ลอยขึ้นฟ้าอย่างรวดเร็วและพุ่งออกไปไกล
 
….
 
“ข้าเกรงว่าพวกเราคงต้องเดินทางไปสำนักอสูรสินะ”
 
ในขณะที่อยู่บนง้าว เฉินเฉินนั้นพูดไม่ออก ณ ตอนนี้ ร่างกายของเขาฟื้นฟูเต็มที่แล้ว อย่างไรก็ตามเขาไม่กล้าดูดซับพลังปราณเข้าสู่ร่างกายเนื่องจากเขามียอดฝีมือสองคนขนาบข้าง
 
ไม่อย่างนั้น เขาคงสามารถกลับมาอยู่ในสภาพที่เพียบพร้อมที่สุดได้ในเวลาหนึ่งนาที
 
“เจ้าหนุ่ม เจ้าชื่ออะไร?”
 
“จางเฉินครับ”
 
เฉินเฉินพูดชื่อปลอมออกมาโดยยืมนามสกุลของจางจีมาใช้
 
“ข้าขอเลือดของเจ้าซักหน่อยได้ไหม?”
 
“เอ่อ ได้ครับ”
 
เฉินเฉินไม่มีทางเลือกนอกจากยื่นแขนออกไป และมันก็ใช้เวลาไม่นานนักที่เขาจะปล่อยให้เลือดออกมาเล็กน้อย
 
และมันก็เป็นไปตามที่เขาคิดไว้ ผู้อาวุโสสำนักอสูรได้เอาเลือดของเขาให้หยวนฉิงเทียน
 
ไม่นานนัก ชิ้นส่วนที่ไหม้ตามร่างกายของหยวนฉิงเทียนก็เริ่มหลุดออกมา และเผยให้เห็นผิวหนังใหม่ข้างใต้
 
“เฉินเฉิน! ไอ้สารเลว!”
 
หยวนฉิงเทียนอุทานออกมาอย่างกะทันหัน สร้างความตกใจให้เฉินเฉินอย่างมาก
 
เมื่อเห็นฉากนี้ สายตาของผู้อาวุโสสำนักอสูรทั้งสองก็เต็มไปด้วยความเจ็บปวดไม่รู้จบ
 
พวกเขาไม่รู้เลยว่านายน้อยของพวกเขาต้องเจออะไรมาบ้าง หลังจากที่ทะเลแห่งจิตใต้สำนึกของเขาถูกทำลาย เขาก็ได้เหลือความทุกข์ใจเอาไว้
 
ในที่สุดสาขาที่ 2 ของสำนักอสูรรัฐโจวก็ได้เจอกับคนที่ฝึกวิชาซ่อนเร้นศักดิ์สิทธิ์ได้ อย่างไรก็ตาม พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่าจะมาจบลงที่สถานการณ์เช่นนี้
 

 
ง้าวพุ่งผ่านเมฆด้วยความเร็วอันน่าเหลือเชื่อและพวกเขาก็ทิ้งห่างจากเมืองหลวงได้ในเวลาไม่นาน
 
ในช่วงกลางดึก พวกเขาบางส่วนได้ไปถึงชายแดนของรัฐจินแล้ว
 
ณ ตอนนี้ ใบหน้าของเฉินเฉินหม่นหมองอย่างเหลือเชื่อเพราะในตอนที่หยวนฉิงเทียนไม่ได้สติอยู่นั้น เขาสบถเฉินเฉินมาไม่ต่ำกว่า 180 ครั้งแล้วแต่ว่าเขาจะตะโกนประโยคเดียวกันในทุกๆครั้ง
 
‘ไอ้เวรนี่ รอไปก่อนเถอะ ไม่ช้าก็เร็วข้าจะจัดการเจ้าซะ!”
 
เฉินเฉินสบถในใจในขณะที่ผู้อาวุโสสำนักอสูรที่อยู่ข้างๆดูหดหู่ในขณะที่พวกเขาพูดด้วยความเป็นห่วง “การบินครั้งแรกจะทำให้เจ้ารู้สึกไม่สบายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ ผู้คนส่วนใหญ่จะอาเจียนออกมาหลังจากที่บินเป็นเวลานานแต่เจ้าแค่ดูไม่ค่อยสบายตัวนิดหน่อยเท่านั้นเอง นี่ต้องเกี่ยวกับร่างกายของเจ้าแน่ ๆ”
 
เฉินเฉินพยักหน้าอย่างจริงจัง แต่เขาก็บ่นในใจต่อไป
 
‘ถ้าเจ้าสบถ 180 ครั้ง เจ้าก็คงดูไม่ดีเหมือนกันนั่นแหล่ะ!’
 
ท่ามกลางการสนทนาของพวกเขา พวกเขาบางส่วนก็ได้เข้าไปในรัฐโจว
 
หลังจากที่พวกเขาเข้ามาไม่นานนัก จำนวนคนของสำนักอสูรก็เริ่มเพิ่มขึ้น
 
พวกเขาทุกคนมาจากทุกสารทิศ และพวกเขาต่างก็ได้รับบาดเจ็บหนัก พวกเขาน่าจะหนีกลับมาจากเมืองหลวงของรัฐจิน
 
‘ครั้งนี้สำนักอสูรส่งคนไปมากแค่ไหนกันนะ?’
 
อย่างไรก็ตาม ไม่ว่ายังไง สำนักอสูรก็ไม่น่าจะพ่ายแพ้ ครั้งนี้ พวกเขาไม่เพียงแค่จะสังหารราชาองค์ใหม่ของรัฐจินได้ แต่ยังป้องกันไม่ให้สำนักอู๋ซินควบรวม 36 สำนักได้ด้วย
 
นี่คือเรื่องที่ยอดเยี่ยมสำหรับสำนักอสูร
 
ในขณะที่มองเมืองที่ผู้คนพลุกพล่านและรุ่งเรืองในรัฐโจวยามค่ำคืน เฉินเฉินก็รู้สึกทึ่ง
 
แม้ว่าจะมีสำนักอสูร ชีวิตของมนุษย์ที่นี่ก็ดูพอๆกับที่รัฐจินเลย
 
อันที่จริง มันเป็นเรื่องที่หลีกเลี่ยงไม่ได้
 
ถ้าสำนักอสูรนี้ใช้วิธีการที่ช่วยร้ายทุกรูปแบบรวมทั้งการฆ่าและสังหารหมู่ทุกคนในเมือง ประเทศก็คงจะล่มสลายไปนานแล้ว
 
“ชาวรัฐโจวทุกคนนับถือเทพอสูร ถ้าเจ้าอยากเข้าร่วมสำนักอสูร เจ้าก็ต้องนับถือเทพอสูรเหมือนกัน”
 
ผู้อาวุโสสำนักอสูรที่อยู่ข้างๆ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยในขณะที่เขามองไปยังเมืองด้านล่าง
 
เฉินเฉินพยักหน้าอย่างจริงจัง เขาเป็นคนเดียวที่รู้ว่าเขาควรเก็บคำพูดพวกนี้ใส่หัวรึเปล่า
 
หลังจากที่บินไปได้ซักพัก ท้องฟ้าก็ค่อยๆสว่างขึ้นในขณะที่ยามรุ่งสางได้มาถึง
 
ในที่สุด ง้าวก็มาหยุดลงที่กลางเทือกเขา
 
เทือกเขาแห่งนี้ส่วนใหญ่เป็นพื้นที่รกร้างและพลังปราณที่นี่ก็ได้หมดลงไปแล้ว สภาพแวดล้อมรอบๆนั้นเลวร้าย แม้กระทั่งนกก็หายาก มันมีแค่อีกาหรือไม่ก็นกแร้งเท่านั้น
 
“ที่นี่คือสำนักงานใหญ่ของสำนักอสูร
 
ผู้อาวุโสสำนักอสูรแนะนำ
 
“สำนักงานใหญ่ของสำนักอสูรเหรอครับ?” เฉินเฉินรู้สึกใจหาย
 
เขาคิดว่าเขาจะถูกพาไปที่สำนักสาขาซักแห่ง แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าพวกเขาจะพาเขาตรงมาที่สำนักงานใหญ่ของสำนักอสูรเลย
 
ที่สำคัญที่สุด สำนักงานใหญ่มันดูโทรมเกินไป ในแง่ของสภาพแวดล้อมสำหรับใช้ชีวิตนั้น มันแย่ยิ่งกว่าหมู่บ้านหินซะอีก ไม่ต้องพูดถึงภูเขาเทียนหยุนเลย
 
“ผู้อาวุโสครับ ทุกคนในสำนักอสูรต้องใช้ชีวิตที่ยากลำบากแบบนี้เหรอ?” เฉินเฉินอดถามไม่ได้
 
ในช่วงเวลาแบบนี้ มันเป็นเรื่องปกติที่มือใหม่อย่างเขาจะถามคำถามแบบนี้ ถ้าเขาไม่ถาม มันก็คงดูน่าสงสัยแล้วล่ะ
 
“แก่นวิชาหลักก็คือการขัดเกลาร่างกาย และการขัดเกลาร่างกายก็ต้องมีสภาพแวดล้อมที่หนาวเย็นและโหดร้าย” ผู้อาวุโสสำนักอสูรตอบในขณะที่เขาพาเฉินเฉินบินตรงไปยังภูเขาที่สูงที่สุดที่อยู่ไกลๆ
 
หยวนฉิงเทียนเองก็ตามหลังมาโดยมีผู้อาวุโสสำนักอสูรอีกคนที่ดึงเขามาด้วย
 
“เพราะแบบนั้นนี่เอง”
 
เฉินเฉินตาสว่างแต่เขาก็รู้สึกทุกข์ใจ
 
‘บ้าจริง แล้วในสภาพแวดล้อมที่โหดร้ายแบบนี้จะมีสมบัติสวรรค์ไหมเนี่ย?’ ตั้งแต่แรกแล้วเขาคิดว่ามันเป็นโอกาสหายากที่เขาจะได้มาเยือนสำนักอสูร ดังนั้นเขาต้องเก็บของพิเศษของที่นี่แล้วเอาพวกมันกลับไปกับเขาด้วย
 
ในตอนที่เขาลงมาถึงยอดเขาที่สูงที่สุด เฉินเฉินก็ไม่ลังเลและเริ่มถามระบบ
 
เขาไม่ได้หวังอะไรมากนักสำหรับสภาพแวดล้อมแบบนี้ ดังนั้นเขาจึงระวังคำพูดที่ใช้มาก
 
“ระบบ ในระยะ 30 เมตรรอบๆมีอะไรที่พอมีค่าบ้างรึเปล่า?”
 
“มีแร่เหล็กดาวตกศักดิ์สิทธิ์สองเมตรใต้เท้าของท่าน”
 
“ที่สิบสองเมตรทางซ้าย มีดอกไม้ภูตผีอายุ 10,000 ปีที่ทำให้เกิดภาพหลอนที่น่าหวาดกลัวทุกรูปแบบ
 
“สิบแปดเมตรทางขวา มีหญ้าหนามศักดิ์สิทธิ์อายุ 1,000 ปี หลังจากจับมันแล้ว วิญญาณของท่านจะอ่อนแอลงจนกระทั่งตายไป”
 
“ตรงไปข้างหน้าแปดเมตรและขึ้นไปข้างบนสามเมตร ท่านจะได้เจอกับเห็ดเวทมนตร์พลังงานแห่งความตายที่ดูดซับพลังงานแห่งความตายมาหนึ่งหมื่นปี ถ้าท่านเข้าไปใกล้อีกหน่อย อายุขัยของท่านจะลดลง”
 

 
เมื่อได้ฟังคำตอบของระบบ หางตาของเฉินเฉินก็กระตุก
 
‘สำนักอสูรนี่แตกต่างออกไปจริงๆ พวกเราปลูกสิ่งของที่ช่วยชีวิตแต่ทั้งหมดที่อยู่ที่นี่มีฤทธิ์ถึงตายทั้งนั้น…’
 
ในตอนที่เขาอยู่ในสภาพพูดไม่ออก ระบบก็แจ้งเตือนอีกเรื่องนึงในหัวของเขา
 
“ท่านเจ้าของได้ใช้ระบบทั้งหมด 1,000 ครั้ง ท่านได้รับรางวัลเป็นโอกาสในการตรวจจับในระยะ 20,000 เมตร”
 

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset