ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 24: ข้าคือพี่ใหญ่ของจางจี!

Chapter 24: ข้าคือพี่ใหญ่ของจางจี!
“เจ้า! เจ้า…”
 
อู๋เว่ยชี้ไปที่เฉินเฉิน เขาตกใจจนพูดอะไรไม่ออกสักคำ
 
ไม่ใช่ว่าเจ้านี่พึ่งจะดื่มชาที่ผสมยาลงไปงั้นเหรอ? เขายังคงจิบดื่มไปเรื่อยๆอีก ทำไมเขาถึงไม่มีปฏิกิริยาอะไรเลยละ?
 
อีกอย่างหนึ่ง เขาใช้ความสามารถอะไรกันละนั่น เขาจับใบมีดด้วยนิ้วมือได้ยังไงกัน?
 
ในช่วงเวลานี้เอง ความคิดของเขาต่างยุ่งเหยิงมาก
 
เฉินเฉินหันกลับไปมองชายตัวโตที่น่ารังเกียจ เขาขมวดคิ้วเล็กน้อย
 
เจ้าสิ่งนี้มันเกิดมาโคตรน่าขยะแขยงเลย ไม่ต้องพูดถึงจมูกที่บิดเบี้ยวของเขาแล้ว มันมียังขนจมูกที่ยาวหลายเซนออกมาอีกด้วย ไม่ต้องพูดถึงดวงตาและทรงผมที่อุบาทว์ของเขาอีกด้วยซ้ำ
 
“พี่ชาย เจ้าซ่อนตัวอยู่ด้านหลังกำแพงข้ามาตลอดเลยใช่ไหม?” เฉินเฉินอดที่จะถามออกมาไม่ได้
 
“เจ้า..เจ้ารู้ได้ยังไงกัน?” ชายน่าเกลียดตัวโตพยายามที่จะกระชากมีดออกมาให้หลุดด้วยพละกำลังทั้งหมดของเขา เขาตอบเฉินเฉินอย่างไม่รู้ตัว
 
เฉินเฉินส่ายหัวและถอนหายใจออกมาเบาๆ “อารมณ์ของเจ้ามันทำให้ข้าไม่มีทางที่จะไม่สังเกตเห็นหรอกพี่ชาย ข้าไม่ได้ว่าเจ้าหรอกนะ แต่เมื่อข้ามองมาที่เจ้า ข้าอดคิดไม่ได้ว่าหมูที่ข้าเลี้ยงไว้มันได้เปลี่ยนกลายเป็นมนุษย์ไปซะแล้วเนี่ย”
 
อุ๊ปส์!
 
จางเสี่ยวหยาที่ร้องไห้อยู่อดที่จะหัวเราะออกมาไม่ได้
 
“ไอ้เด็กเวร! ไอ้เวร!” เขาสูญเสียความใจเย็นไปและเหวี่ยงขาเข้าใส่ใบหน้าที่งดงามของเฉินเฉิน
 
เฉินเฉินไม่ได้ทำอะไรมากสักเท่าไหร่ ด้วยการดีดนิ้วออกมาเพียงสองนิ้ว พลังความแข็งแกร่งอันมากมายก็ถูกปลดปล่อยออกมา มันได้ทำลายคมมีดในทันที หลังจากนั้นเขาก็แทงนิ้วออกไปราวกับสายฟ้าฟาด!
 
แสงสว่างวาบ!
 
การเคลื่อนไหวของชายที่น่ารังเกียจหยุดนิ่ง วินาทีต่อมาเขาก็ล้มลงอยู่ที่เบื้องหน้าของเฉินเฉิน
 
“ผู้เชี่ยวชาญ!”
 
เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น ตาของผู้นำของชายทั้งแปดคนเล็กลงอย่างตกใจ เขาพุ่งเข้าใส่จางเต๋อราวกับเสือที่กำลังไล่ล่าเหยื่อ
 
ไม่สำคัญว่ามันเกิดอะไรขึ้น สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้คือการจับกุมจางเต๋อไว้
 
“ฮ่าๆ!”
 
เฉินเฉินหัวเราะเยาะออกมา มือขวาที่ถือถ้วยไว้ในมือก็ส่งที่จับถ้วยบินออกไปโจมตีเข้าใส่คอของชายตัวโตราวกับลูกกระสุน
 
เลือดสาดกระจายออกและชายตัวโตก็ถูกสังหารทันที
 
หลังจากที่จัดการเสร็จ เฉินเฉินดื่มชาที่เหลืออยู่ในแก้วลง เขาก็ประกาศออกมาเสียงเย็นยะเยียบ “ใครก็ตามที่ขยับ ตาย!”
 
..
 
ห้องนั่งเล่นทั้งห้องต่างเงียบสงบเป็นครั้งที่สอง ชายร่างโตทั้งหกคนต่างมองไปที่เฉินเฉินราวกับพวกเขาจ้องไปที่ปีศาจร้าย
 
ไม่มีใครกล้าสงสัยความจริงในคำพูดของชายหนุ่ม เนื่องจากว่าศพทั้งสองศพต่างนอนกองอยู่บนพื้น พวกมันต่างเป็นข้อยืนยันที่ดีที่สุดแล้ว
 
สำหรับอู๋เว่ยแล้ว เขาไม่สามารถที่จะซ่อนความกลัวไว้ในดวงตาของเขาได้อีกต่อไป
 
เขาได้คำนวณความเป็นไปได้ที่ท่านเจาอาจจะกลับคำพูด แต่เขาไม่เคยคาดคิดเลยว่าเขาจะพบกับการพ่ายแพ้แบบนี้ ในเวลานี้
 
เมื่อเขารู้สึกกังวลและตื่นตระหนก เสียงก็ดังขึ้นมาจากด้านนอกบ้านตระกูลจาง ไม่นานหลังจากนั้น ชายสามสิบถึงสี่สิบคนก็ได้บุกเข้ามาภายในห้อง
 
ก่อนที่พวกเขาจะมาถึงห้องนั่งเล่น เสียงทะเลาะอันรุนแรงรวมทั้งเสียงดังสนั่นก็ดังไปทั่วทั้งบ้านจาง
 
“ตาเฒ่าจาง ข้าจะหยามเกียรติต่อผู้หญิงในตระกูลเจ้าทั้งหมดต่อหน้าเจ้าวันนี้แหละ! ข้าจะทำให้เจ้ารู้สึกน่าสมเพศและเจ้าจะต้องตายอย่างน่าอนาถา!”
 
เมื่อได้ยินเสียงนี้แล้ว ชายร่างโตทั้งหกคนต่างมองออกไปด้านนอก มันเหมือนกับว่าพวกเขาต่างพบเสาหลักไว้เป็นที่ยึดมั่น
 
ยังไงก็ตาม ขาของพวกเขายังคงยึดมั่นอยู่ที่พื้น ไม่มีใครกล้าที่จะขยับตัวเลยสักนิด
 
วินาทีต่อมา ชายที่มีเคราหยิกพร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยแผลก็ก้าวเข้ามาภายในห้องนั่งเล่น ก่อนที่ชายตัวโตเหล่านี้จะตะโกนร้องออกมา
 
“หัวหน้า! มันมีผู้เชี่ยวชาญอยู่ที่นี่ด้วย เขาได้สังหารพี่น้องเราไปสองคนแล้ว!”
 
ชายร่างโตที่มีหนวดหยิกนั้นก็เป็นเจ้าของตระกูลเจา เจาเบียว เมื่อเขาก้าวเข้ามาด้านในและพบกับศพทั้งสอง สายตาของเขาที่ส่องสว่างออกมาก็เปลี่ยนเป็นมืดหม่นลงไป
 
เขาได้รับการแจ้งมาว่าคนของตระกูลจางได้ถูกจับกุมไว้แล้ว แต่ทำไมลูกน้องของเขาถึงตายกัน?
 
“เกิดอะไรขึ้นกัน?” เจาเบียวจับไปที่อู๋เว่ยก่อนที่จะตั้งคำถามออกมาอย่างโกรธแค้น
 
“มันเป็นเพราะ….เจ้านั่น!” อู๋เว่ยตะโกนและชี้ไปที่เฉินเฉิน เขาตกใจมาก เขาได้ระบายความกลัวออกมาในทันที
 
เมื่อเห็นว่าเจ้านายของเขาอยู่ที่นี่แล้ว เฉินเฉินก็ได้เตรียมแผนการที่เขาได้ใช้กับหวังอีกครั้งหนึ่ง ยังไงก็ตาม เมื่อเขามองไปที่ห้องนั่งเล่นที่ทำจากไม้แล้ว เขาก็ขมวดคิ้ว
 
ถ้าเขาใช้การร่ายไฟขึ้นมาที่นี่แล้ว บ้านทั้งหลังคงจะถูกเผาจนกลายเป็นขี้เถ้าไปเลยไม่ใช่หรือไง?
 
เมื่อเป็นแบบนี้แล้ว ผู้คนจากตระกูลจางที่ยังขยับตัวไม่ได้ ซึ่งเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นคงจะโดนเพดานหล่นทับตายกันแน่นอน เขาไม่อยากที่จะทำให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น
 
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับจางเสี่ยวหยาแล้ว ซึ่งเธอดูบอบบางและอ่อนแอ ถ้าเธอโดนไฟครอกเข้า เธอคงจะเสียโฉมไปอย่างแน่นอน
 
“เจ้าคือใครกัน? บอกชื่อและบอกว่าทำไมเจ้าถึงมาขัดขวางธุรกิจของพวกเรา ตระกูลจางกัน?!” จางเบียวได้ชี้มีดไปที่เขา
 
เฉินเฉินถอนหายใจออกมาและลุกขึ้นยืน
 
เขาต้องการที่จะนั่งกลับไปและจัดการทุกสิ่งทุกอย่างให้จบสิ้นในรวดเดียว ดังนั้นเขาจะได้รู้สึกถึงความรู้สึกถึงกับการนั่งเล่นและพูดคุยอย่างผ่อนคลายไปพร้อมกับมองผนังที่กำลังลุกไหม้ไปพร้อมกัน ยังไงก็ตาม มันดูจะเป็นไปไม่ได้อีกต่อไป
 
เมื่อเขายืนขึ้น ผู้ชายทั้งหกคนที่อยู่ในห้องนั่งเล่นต่างถอยหนีกันอย่างไม่รู้ตัว
 
เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น สีหน้าของเจาเบียวก็มืดมนลง
 
เจ้าเด็กหนุ่มที่ดูธรรมดาทั่วไปนี้สังหารคนของเขาไปสองคนได้ยังไงกัน? ทำไมคนของเขาถึงกลัวแบบนี้กัน?
 
“ข้าคือใคร? ฮ่าๆ..”
 
เฉินเฉินทำสีหน้าไม่พอใจใส่เจาเบียว
 
เจาเบียวอดที่จะก้าวถอยไปหลายก้าวไม่ได้ เหงื่อเย็นไหลออกมาบนหน้าผากของเขา เขาคาดคิดว่าชายหนุ่มที่อยู่ด้านหน้าขาคงจะเปิดเผยถึงตัวตนที่สะเทือนฟ้าสะเทือนดิน ซึ่งมันจะทำให้เขาหวาดกลัวจนตัวสั่น
 
“ข้าคือใครงั้นเหรอ? มา เดี๋ยวข้าจะบอกเจ้าวันนี้เอง!”
 
เมื่อเขาพูดเสร็จ เฉินเฉินก็เดินไปที่ด้านข้างจางจีและยกตัวของเขาขึ้น
 
“ข้าคือพี่ใหญ่ของจางจียังไงละ! เจ้าสามารถที่จะรังแกใครก็ได้ แต่ถ้าเจ้าแตะต้องน้องชายและครอบครัวของเขา ชะตาของพวกเจ้าก็จะจบสิ้นลงแล้วละ!”
 
เฉินเฉินพูดด้วยท่าทางที่ซื่อตรงและไม่มีความลังเลอันใด เสียงของเขาทั้งก้องและดังฟังชัด
 
จางจีที่ได้ยินคำพูดนี้ เขาตื่นเต้นจนตัวสั่น เขาแทบจะล้มไปคุกเข่าต่อหน้าเฉินเฉินแล้ว
 
พร้อมกับพี่ชายแบบนี้แล้ว เขาจะต้องถามหาอะไรอีกกัน? หลังจากนี้แล้ว แม้ว่าข้าจะต้องตายเพื่อพี่ชายของข้าแล้ว ข้าก็จะไม่กระพริบตาเลยสักนิด! จางจีสาบานกับตัวของเขาเอง ดวงตาของเขานั้นมีหยาดน้ำตาอยู่ในนั้น
 
จาวเบียวสำลักกับสิ่งที่เขาได้ยิน
 
‘แม่งเอ้ย! เจ้าเด็กเวรนี่ใช้เวลาตั้งนานเพื่อที่จะพูดจาไร้สาระแบบนี้เนี่ยนะ? มันล้อเล่นกับข้าหรือเปล่า? ข้าจะต้องไปรู้เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของเจ้ากับเจ้าจางด้วยหรือไง?’
 
แม้ว่าจะมีความโกรธเคืองอยู่ในตัวของเขาก็ตาม เขายังมองไปที่ศพที่นอนกองอยู่บนพื้นด้วยหางตาของเขา
 
พูดให้ชัดเจนแล้ว เขาสังเกตเห็นที่จับถ้วยปักลงในคอของศพที่นอนตายอยู่
 
‘ความสามารถของมันไม่ใช่เรื่องที่ดูถูกได้เลย พวกเราจะต้องรุมสู้มัน’
 
ด้วยความคิดเหล่านี้ในหัว จาวเบียวก้าวถอยกลับและตะโกนใส่ “ทุกคน พุ่งเข้าไปทำลายเจ้านี้พร้อมกัน!”
 
ทันทีที่เขาพูดเสร็จ ลูกสมุนของเขาทั้งสองคนที่ไม่รู้เรื่องรู้ราวอะไรก็พุ่งเข้าใส่เฉินเฉิน
 
พวกเขาพุ่งเข้ามาอย่างรวดเร็ว แต่กลับกระเด็นกลับไปเร็วกว่าเดิม
 
พร้อมกับเสียงปัง พวกเขาถูกส่งกระเด็นลอยผ่านจาวเบียวและกระเด็นออกไปด้านนอกห้องนั่งเล่น มันเหมือนกับว่าพวกเขาโดนชนด้วยรถม้ายังไงยังงั้น
 
‘เขาแม่งโคตรทรงพลังเลย!’
 
ถึงแม้ว่าจาวเบียวจะเดินทางไปไกลและเห็นสิ่งต่างๆมากมาย ดวงตาของเขายังเต็มไปด้วยความหวาดกลัวอยู่ดี
 
เจ้าเด็กหนุ่มนี้มันอะไรกัน? เขาเกิดมาพร้อมกับความแข็งแกร่งของเทพเจ้าหรือยังไงกัน? หรือเขาพึ่งจะออกมาจากการฝึกตนกันแน่?
 
“ทำไมพวกเจ้าถึงหยุดละ?”
 
เฉินเฉินลุกขึ้นยืนพร้อมกับเอามือไว้ด้านหลัง เขายืนอยู่ตรงกลางของห้องนั่งเล่น มันเหมือนกับว่าเขากำลังยืนปกป้องสถานที่แห่งนี้ต่อศัตรูของเขา ผู้คนจากตระกูลจางต่างตกตะลึงกับสิ่งที่พวกเขาเห็น
 
เมื่อเป็นชายที่โหดเหี้ยม แม้ว่าเขาจะตื่นตระหนก จาวเบียวก็ไม่ได้ยอมแพ้ เขายังไม่ลืมว่าเขายังมีคนอีกนับสิบคนอยู่ด้านนอกห้องนั่งเล่น
 
มันเป็นเรื่องที่น่าเศร้าที่ห้องนั่งเล่นนี้มันเล็กเกินไปที่พวกเขาจะใช้คนได้อย่างเต็มกำลัง พวกเขาต้องล่อไอ้เด็กนี่ออกไปยังสนามและจัดการเขาที่นั่น
 
เมื่อความคิดนี้โผล่ขึ้นมาในหัวของเขาแล้ว เขาตะโกนออกมาด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้ง “ไอ้เด็กเวร สถานที่แห่งนี้มันเล็กเกินไปที่จะสู้กันอย่างเต็มกำลัง เจ้ามีความกล้ามากพอที่จะไปสู้กับข้าตัวต่อตัวไหม?”
 
เฉินเฉินหวังว่าจะทำแบบนั้นด้วยเช่นกัน แต่เขายังแสร้งทำเป็นลังเล
 
เมื่อเห็นเฉินเฉินไม่ได้ปฏิเสธทันที จาวเบียวก็รู้สึกโล่งอก เขาเริ่มที่จะยั่วยุต่อ “ไอ้เด็กเวร เป็นไงละ? ไม่กล้าแล้วหรือไง? ถ้าเจ้าไม่กล้าที่จะสู้กับข้าแล้ว มันก็ไม่สายเกินไปหรอกนะที่จะคุกเข่าอ้อนวอนขอความเมตตาจากข้า ข้าอาจจะไว้ชีวิตเจ้าก็ได้นะ!”
 
เมื่อได้ยินคำพูดของเขาแล้ว แก้มของเฉินเฉินก็แดงขึ้น มันเหมือนกับว่าเขาเป็นชายหนุ่มที่รับการยั่วยุไม่ได้
 
“ทำไมข้าจะไม่กล้ากัน? แต่พวกเจ้าทั้งหมดต้องอกไปด้านนอก เมื่อข้าออกไปสู้กับเจ้า คนของเจ้าไม่สามารถที่จะช่วยเจ้าได้แม้แต่นิดเดียวเลยนะ!”
 
จาวเบียวมีความสุขมากที่เฉินเฉินโดนหลอก เขาแอบเรียกเฉินเฉินว่าเจ้าโง่เง่าในหัวตัวเอง ก่อนที่จะรีบยืนยัน “ข้า จาวเบียว ซึ่งเป็นวีรบุรุษท้องถิ่น ข้าจะกล้าผิดสัญญาได้ยังไงกัน? มันเป็นการต่อสู้แบบตัวต่อตัวตามที่ข้าบอกเจ้าไป ถ้าใครก็ตามกล้าเสนอหน้ามา ข้าจะตัดเจ้าเป็นชิ้นๆ”
 
เมื่อเขาพูดเสร็จ จาวเบียวกลัวว่าเฉินเฉินจะเปลี่ยนใจ เขาสั่งให้คนของเขาในห้องนั่งเล่นถอยออกไปอย่างเร่งรีบ ในขณะที่เดินออกไปข้างนอกด้วยเช่นกัน
 
เมื่อเขาหันหลังกลับไป ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยรอยยิ้มอันชั่วร้าย
 
ถ้าคำสัญญานั้นเป็นจริง เขาคงจะตายไปนับครั้งไม่ถ้วนแล้วละ เจ้าเด็กนี่อาจจะยอดเยี่ยม แต่เขายังคงเยาว์วัยอยู่
 
เขาจะสั่งสอนบทเรียนให้กับเจ้าเด็กนี่และให้รู้ว่าธรรมชาติของมนุษย์มันคาดเดาไม่ได้!
 
ยังไงก็ตาม เขาก็ไม่มีความคิดเลยว่าเฉินเฉินก็จะยิ้มด้วยเหมือนกัน ในความเป็นจริงแล้ว รอยยิ้มของเขานั้นกว้างยิ่งกว่าเสียอีก
 
“น้องชาย จาวเบียวมันผิดคำพูดอยู่ตลอด! อย่าเชื่อมันนะ!” จางเต๋อเตือนเขาอย่างกังวลใจ
 
เฉินเฉินโบกมือหลังจากที่ได้ยินคำตอบ เขาเดินออกไปด้านนอกและหยุดอยู่ที่ด้านหน้าประตู เขาหันกลับไปและพูดขึ้น “มันโอเคดี วันนี้ ข้าจะสอนให้เขารู้เองว่าคำสาบานไม่ใช่สิ่งที่สามารถจัดการได้อย่างง่ายดาย”
 
 

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset