ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 28: น้ำอมฤตลมปราณและหินลมปราณ

“ระบบ ของที่ล้ำค่าที่สุดในสิบห้าเมตรนี้คืออะไร?” เฉินเฉินถามในหัวตัวเอง
 
“น้ำอมฤตลมปราณที่อยู่ในกล่องหน้าท่าน มันบรรจุพลังปราณไว้สองร้อยปี”
 
เมื่อได้ยินมัน เฉินเฉินมองไปที่ลูกประคำเทาในกล่องสุดท้าย
 
เป็นไปตามที่เขาคิดไว้ ถึงแม้ว่าของในกล่องนี้จะดูธรรมดาทั่วไป มันยังล้ำค่าอย่างมาก มากยิ่งกว่าทรัพย์สมบัติเหล่านั้นเสียอีก
 
“ของที่ล้ำค่าอันดับที่สองละ?”
 
“หินลมปราณระดับกลางที่อยู่ในกล่องด้านหน้าท่าน”
 
“ของล้ำค่าลำดับสามละ?”
 
“เกราะเบาทำพิเศษในกล่องที่อยู่ห่างออกไปทางซ้ายสองเมตร”
 

 
เฉินเฉินถามของแต่ละอย่าง แต่ระบบไม่ได้พูดถึงเหรียญตราอันเล็ก เขาจึงหยิบเหรียญตราออกมาจากกล่องและดูมันอย่างระมัดระวัง
 
เหรียญตราอันนี้มีเป็นตราที่มีรูปสัตว์สลักไว้ มันไม่มีคำอธิบายอะไร เฉินเฉินเดาว่ามันเป็นเหรียญตราที่มีความสำคัญอยู่
 
“หัวหน้าคนรับใช้เจา เจ้าขโมยของพวกนี้มาจากคนเดียวกันงั้นเหรอ? พวกเจ้าไปปล้นเซียนมางั้นเหรอ?” เฉินเฉินชี้ไปที่กล่องใบสุดท้ายและมองไปที่หัวหน้าคนรับใช้เจา
 
ไม่ว่าจะเป็นน้ำอมฤตหรือจะเป็นหินลมปราณก็ตาม ของเหล่านี้ไม่ใช่ของที่คนธรรมดาทั่วไปจะมีไว้ได้ แต่ถ้าเจาเบียวได้ปล้นมันมาจากเซียนแล้วละก็ ทำไมเขาถึงตายอย่างน่าสงสารแบบนั้นกัน?
 
หัวหน้าคนรับใช้เจายิ้มอย่างอายๆ เมื่อเขาได้ยินคำถาม
 
“ชายหนุ่มที่พวกเราปล้นไม่ใช่เซียนครับ แต่เขาเป็นชายที่มีความสามารถด้านวรยุทธ์ที่สุดยอดมาก ในครั้งนั้น พวกเรามีคนมากกว่าร้อยคนและม้า ภายใต้การรุมโจมตีของพวกเราแล้ว เขาก็ตายลงหลังจากที่สังหารพวกเราไปเกือบร้อยคน”
 
“ในภายหลัง เจาเบียวรู้สึกว่าเขาอาจจะไปยั่วยุคนที่เขาไม่ควรยั่วยุ เขาจึงได้มาซ่อนตัวที่มณฑลเสฉวนแห่งนี้”
 
เฉินเฉินขมวดคิ้วเมื่อได้ยินมัน ชายคนที่โดนปล้นไม่ใช่เซียน แต่ยังมีของเหล่านี้อยู่อีกงั้นเหรอ? เขาน่าจะเป็นศิษย์ของเซียนอย่างจางจี
 
แต่ครอบครัวของเขาคงจะยอดเยี่ยมกว่าจางจีมากมายหลายเท่า เขาน่าจะมีผู้อาวุโสในตระกูลของเขาที่เป็นเซียนและมันจึงเป็นเหตุผลที่ว่าทำไมเขาถึงได้พกของล้ำค่าเหล่านั้นติดตัวไปด้วย
 
ในเวลาเดียวกัน เฉินเฉินก็ใส่เหรียญตราไว้ในกระเป๋าเสื้อของตัวเอง ก่อนที่จะหยิบหินลมปราณและน้ำอมฤตออกมาด้วย
 
หลังจากนั้นเขามองไปที่จางจีและพูดออกมา “น้องชาย ของในกล่องสุดท้ายเป็นของที่จำเป็นสำหรับการฝึกตน ข้าขอรับมันเอาไว้ สำหรับของในกล่องอื่นแล้ว เจ้าอยากได้อะไรก็เอาไปได้เลย”
 
“เมื่อเจ้าได้เริ่มต้นบนเส้นทางของการฝึกตนในอนาคตอย่างแท้จริงแล้ว ข้าจะหาทางตอบแทนเจ้าเอง”
 
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้ จางจีโบกมือพร้อมกับคำพูดที่จริงจังบนใบหน้า “พี่เฉิน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องการตอบแทนเลยครับ ถ้ามันไม่ใช่เพราะท่านแล้ว ตระกูลจางของพวกเราคงจะถูกฆ่าล้างตระกูลไปแล้ว ทุกสิ่งทุกอย่างเป็นของพี่นั่นแหละ”
 
ทั้งสองคนยังคงพูดคุยกันอย่างสุภาพ พวกเขาทั้งสองต่างตัดสินกันว่าจะไม่แตะต้องสมบัติที่เหลือ ทิ้งห้องลับนี้ไว้ใช้ต่อในภายหลัง ในยามจำเป็น
 
บ้านของตระกูลเจานั้นกลายเป็นของเฉินเฉินไปแล้ว
 
ด้วยบ้านหลังใหญ่ขนาดนี้ เฉินเฉินก็ไม่ยอมที่จะให้พ่อแม่ของเขาอาศัยอยู่ในบ้านดินในหมู่บ้านหินอีกต่อไป
 
แน่นอนว่าเฟอร์นิเจอร์จะต้องถูกเปลี่ยนไปด้วย ไม่อย่างงั้นมันคงจะกลายเป็นตัวนำโชคร้าย
 
หลังจากที่พูดคุยกันเสร็จ ทั้งสองคนก็ออกมาจากห้องลับ
 
สำหรับหัวหน้าคนรับใช้เจาแล้ว เขาไม่ใช่คนดีและเขายังรู้ถึงที่ซ่อนของห้องลับนี้ด้วย ดังนั้นเฉินเฉินจึงไม่ปล่อยเขาให้รอดชีวิตไป แต่การที่เขาได้รับการช่วยเหลือมา เฉินเฉินก็ปล่อยให้เขายังมีศพเหลือไว้
 
“เอาละ ในเมื่อมันจบแล้ว ข้าคงต้องกลับบ้านละ อีกสองวันต่อมา ข้าจะพาพ่อแม่ของข้ามาอาศัยที่นี่” เฉินเฉินบอกจางจีก่อนที่จะแยกจากกัน
 
จางจีตบไปที่หน้าอกและสัญญากลับมา “พี่เฉิน พี่ไม่ต้องกังวลไป เมื่อเวลาที่พี่กลับมาถึง ข้าจะจัดการทำความสะอาดคฤหาสน์แห่งนี้ให้เสร็จเพื่อพี่และหาสาวใช้ไว้ให้พี่ด้วย”
 
“ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะ” เฉินเฉินขอบคุณเขาด้วยการพนมมือกลับ
 
เขาไม่จำเป็นต้องทำอะไรมากมายสักเท่าไหร่ เมื่อเขามีน้องชายเขาอยู่เคียงข้าง ซึ่งมันทำให้เขารู้สึกผ่อนคลายมาก
 
เขาแค่ไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น เมื่อเขากลับไปยังหมู่บ้าน พ่อแม่ของเขาและชาวบ้านจะรู้สึกยังไง เมื่อพบว่าตระกูลหวังนั้นถูกทำลายไปหรือทรัพย์สมบัติทั้งหมดตกกลายเป็นของเขาไปแล้ว
 
‘เหอะ พวกเขาคงจะต้องการให้ข้าแต่งงานกับลูกสาวของพวกเขากันทั้งหมดนั่นแหละ’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง ก่อนที่จะยิ้มออกมา
 

 
ในระหว่างทางกลับไปยังหมู่บ้าน เฉินเฉินก็ครุ่นคิดอะไรบางอย่าง ก่อนที่จะหยิบเหรียญตราออกมาและเผามันทิ้งไป
 
เจ้าของสิ่งนี้น่าจะเป็นของไว้ระบุตัวตนเจ้าของ ถ้าเขาพบกับเจ้าของที่แท้จริงในอนาคตแล้ว มันคงจะเป็นเรื่องยากที่จะอธิบาย แทนที่จะทำให้เกิดการเข้าใจผิดในทีหลัง มันคงเป็นเรื่องที่ดีกว่าที่จะเผามันทิ้งตอนนี้
 
“ระบบ ของอะไรที่ข้ากินได้ในระยะสิบห้าเมตร?”
 
“ม้าข้างใต้คุณ หญ้าที่อยู่บนถนน ใบไม้ที่อยู่ห่างออกไปแปดเมตร เห็ดที่อยู่ใต้หินที่ห่างไปสิบเอ็ดเมตร..”
 
ระบบได้บอกหลายอย่าง แต่มันไม่ได้พูดถึงน้ำอมฤตที่อยู่ในมือของเขา
 
เฉินเฉินปาดเหงื่อเย็นบนหน้าผากของตัวเอง โชคดีที่เขาฉลาดพอที่จะถามระบบก่อน ไม่อย่างงั้นแล้วเขาคงจะทำให้ตัวเองตกที่นั่งลำบาก
 
“มันมีอะไรที่อยู่ใกล้เคียงฉัน ซึ่งมันทำให้ฉันตายได้ ถ้าฉันกินมันลงไป?”
 
“น้ำอมฤตในมือของเจ้าของค่ะ”
 
ระบบไม่ลังเลใจ ตอบกลับทันที
 
“มันมีอะไรที่อยู่แถวนี้ที่สามารกินน้ำอมฤตนี้ได้บ้าง?” เฉินเฉินไม่เชื่อในคำตอบที่เขาได้รับมา เขาเปลี่ยนคำถามใหม่อีกครั้งหนึ่ง
 
‘ถ้ามันเป็นแบบนี้ต่อไป’ เขาคิด ‘อีกไม่นาน ฉันคงจะกลายเป็นเทพแห่งภาษาแล้ว บางทีอาจจะกลายเป็นนักปราชญ์ที่ใช้คำได้ยอดเยี่ยมแล้วละ’
 
“ม้าของท่านเจ้าของสามารถดื่มมันได้ค่ะ”
 
เฉินเฉินพูดไม่ออก
 
เจ้าน้ำอมฤตนี้ มนุษย์ดื่มไม่ได้? แต่สัตว์ดื่มได้เพียงเท่านั้นงั้นเหรอ?
 
‘บางทีมันอาจจะเป็นเรื่องที่ดีกว่าที่ให้เหลาเฮยดื่มมัน! มันอาจจะทำให้เหลาเฮยทรงพลังมากยิ่งขึ้นก็ได้!’ เฉินเฉินคิดและเร่งความเร็วตัวเองขึ้น
 
เขาได้หาทางที่เขามาแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ต้องหาทางกลับอีกรอบหนึ่ง
 
ก่อนที่เขาจะรู้ตัว เสาก้อนหินที่คุ้นเคยของหมู่บ้านหินก็อยู่ในสายตาของเขาแล้ว
 
ตอนนี้ ศพที่นอนกองอยู่หน้าหมู่บ้านได้ถูกกำจัดไปหมดแล้ว นอกจากนี้แล้ว มันยังมีคนสามคนยืนอยู่ตรงนั้น ซึ่งก็คือหัวหน้าหมู่บ้านคนเก่าและพ่อแม่ของเขา
 
เมื่อเขาเห็นพ่อแม่ที่เป็นกังวล เฉินเฉินรู้สึกเศร้าใจเล็กน้อย
 
ถึงแม้ว่าจิตวิญญาณของเขาจะไม่ได้เป็นของโลกใบนี้ ร่างกายของเขาก็ยังเป็นและมันถูกสร้างขึ้นมาโดยแม่ของเขานั้นเอง
 
ด้วยเหตุนี้นี่เอง ในหัวใจของเขาแล้ว เฉินชานและฉินโหลวต่างเป็นพ่อแม่ของเขา
 
และถ้าเขาต้องการไปยังสำนักเทียนหยุน เขาจะต้องไปจากบ้านเกิดของเขาและอยู่ห่างจากพ่อแม่
 
ถึงแม้ว่าเขาจะไม่อยากที่จะไปก็ตามที เขาก็ต้องไปที่นั่นเพื่อฝึกตนให้กลายเป็นเซียนอยู่ดี
 
เขาเกิดมาในโลกที่มีเซียน ถ้าเขาไม่ได้ฝึกตนให้เป็นเซียนและไปเผชิญโลกที่อยู่เบื้องหน้าเขาแล้ว เขาจะสามารถใช้สิ่งที่เขาย้อนเวลากลับมาให้คุ้มค่าได้ยังไงกัน? เขาจะเป็นคนที่มีค่าพอกับระบบที่ยอดเยี่ยมแบบนี้ได้ยังไงกัน?
 
ยิ่งไปกว่านั้นแล้ว พ่อแม่ของเขาต่างทำงานกันมาอย่างยากลำบาก ถึงแม้ว่าพวกเขาจะยังอายุไม่ถึงสี่สิบก็ตาม พวกเขาก็ผมหงอกกันหมดแล้ว พวกเขาจะอาศัยอยู่ในโลกนี้ไปได้อีกนานแค่ไหนกัน?
 
ถ้าเขาฝึกตนเป็นเซียนแล้ว เขาอาจจะมีอากสที่จะทำให้พ่อแม่ของเขาเดินบนเส้นทางของการเป็นเซียนในอนาคตได้ ทำให้พวกเขาอาศัยอยู่ได้ไปตลอดกาล
 
‘ข้าจะฝึกตนกลายเป็นเซียน แต่ก่อนที่ข้าจะจากไป ข้าจะจัดการดูแลครอบครัวของข้าก่อน’
 
เฉินเฉินตัดสินใจได้ เขาตบไปที่หลังม้าและมุ่งตรงไปที่หมู่บ้านหิน
 
ในวินาทีนั้นเอง เฉินชานและภรรยาของเขา ทั้งสองคนที่อยู่ด้านหน้าของหมู่บ้านหินเห็นลูกชายของตนเอง รอยย่นบนใบหน้าของพวกเขาจางหายไปเล็กน้อย ความรู้สึกเป็นกังวลที่พวกเขารู้สึกกลับกลายเป็นความสบายใจอย่างมากแทน
 
 
 

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset