ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 48: ขอบคุณมาก อาจารย์!

“เจ้าสำ…เจ้าสำนักเทียนหยุน เซี่ยวอู่โยว…. เจ้า เจ้ามาทำอะไรที่นี่กัน?” ชายวัยกลางคนถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ
 
จากที่เขารู้มา มันก็เป็นเรื่องที่น่าตกใจแล้วที่จะมีผู้อาวุโสสองถึงสามคน แต่มันกลับกลายเป็นว่าเจ้าสำนักเทียนหยุนกลับมาถึงที่นี่ด้วยตัวของเขาเองซะอย่างงั้น!
 
นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน? ถ้าเขารู้ตัวก่อนหน้านี้แล้ว เขาคงไม่คิดวางแผนที่จะทำร้ายเจ้าลูกศิษย์ใหม่เหล่านี้เลย!
 
เจ้าสำนักเทียนหยุนนั้นอยู่ในขั้นแก่นทองคำและเขาแข็งแกร่งเทียบเท่ากับหัวหน้าหน่วยเลยด้วยซ้ำ มันเป็นเรื่องไร้ประโยชน์มาก แม้ว่าเขาจะพาผู้อาวุโสมาถึงห้าสิบคน มันไม่ต้องพูดถึงผู้อาวุโสแค่ห้าคนแบบนี้เลยด้วย!
 
“ฮ่าๆ เจ้านี่ฉลาดมากเลยนะ เจ้ายังเดาที่อยู่ของพวกเราได้อีก”
 
ผู้อาวุโสสูงสุดเผยตัวออกมาอย่างสบายๆ ท่ามกลางหมู่เมฆด้วยเช่นกัน เขามองไปที่ชายวัยกลางคนอย่างประหลาดใจ
 
ชายวัยกลางคนที่เป็นเหมือนโคนันตัวน้อยก็เหลือเพียงความคิดเดียวในหัวของเขา
 
‘นี่สินะ นี่คือจุดจบของข้าแล้วสินะ!’
 
แต่มันมีบางสิ่งบางอย่างโผล่ขึ้นมาในหัวของเขา เขาหันไปมองเฉินเฉินที่ยืนอยู่ข้างเว่ยฉานเฮอ ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก
 
“เจ้า! เจ้าคือ…”
 
ก่อนที่เขาจะพูดจบ สายฟ้าได้ฟาดลงมาจากฟากฟ้าและผ่าเขาเข้ากลางหัว ในชั่วพริบตา ชายวัยกลางคนที่เป็นดั่งโคนันก็ได้เหลือเพียงแค่ขี้เถ้า
 
ผู้อาวุโสของสำนักอสูรที่ดูตึงเครียดก่อนหน้านี้ พวกเขาต่างตื่นกลัวกันอย่างมาก พวกเขาต้องการที่จะวิ่งหนีเอาชีวิตรอด แต่พวกเขากลับขยับขากันไม่ได้เลยสักนิดแทน
 
“เซี่ยว….เซี่ยวอู่โยว เจ้าไม่คิดว่ามันน่าละอายบ้างหรือไงที่เจ้าออกมารับลูกศิษย์คนใหม่ด้วยตัวเองแบบนี้ โดยเฉพาะกับการเป็นเจ้าสำนักเนี่ยนะ?”
 
หนึ่งในผู้อาวุโสของสำนักอสูรเต็มไปด้วยความโกรธและความเศร้าสร้อย เขามองไปที่เซี่ยวอู่โยวที่อยู่บนกลางอากาศ
 
ผู้อาวุโสได้ทะเลาะแบะแว้งกันเอง แต่อีกฝ่ายหนึ่งกับเรียกผู้ปกครองออกมาโดยที่ไม่แจ้งพวกเขาก่อน ซึ่งมันแสดงให้เห็นชัดเจนว่าอีกฝ่ายไม่ยอมทำตามกฎเลยสักนิด!
 
“เซี่ยวอู่โยว สาขาที่ 12 ของสำนักอสูรไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรกับสำนักเทียนหยุน ข้าขอตัวไปก่อนละ!”
 
ผู้อาวุโสหลิวเฮยที่มีหน้าที่ควบคุมหุ่นศพพูดออกมาอย่างแข็งทื่อ ก่อนที่จะวิ่งหนีไปทันที แต่ทันใดนั้นเองสายฟ้าก็ผ่าลงกลางหัวของเขา
 
“อ๊าก! เซี่ยวอู่โยว เจ้ากล้าดียังไงถึงกล้าโจมตีใส่คนที่อายุน้อยกว่า?! เจ้ามันหน้าไม่ละอายจริง!” หลิวเฮยร้องโอดครวญมาอย่างเจ็บปวด เขารีบเรียกหุ่นทั้งสิบสองตัวมาอยู่ด้านบนหัวของเขา
 
สายฟ้าได้ฟาดลงมาอย่างไม่ทันคาดคิด มันทำให้หลิวเฮยหายไปพร้อมกับหุ่นศพของเขา เหลือทิ้งไว้แต่เพียงกองขี้เถ้าเท่านั้น
 
“โง่เขลา” เซี่ยวอู่โยวพูดออกมาก่อนที่จะส่ายหัว เขาหันไปมองคนที่เหลือ
 
ทุกคนจากสำนักอสูรต่างตกอยู่ในความสิ้นหวัง หลังจากเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ผู้อาวุโสของสำนักอสูรที่เป็นผู้นำมองไปที่เฉินเฉินด้วยความแค้นเคือง เขาพูดออกมาด้วยน้ำเสียงที่กราดเกรี้ยว
 
“เจ้าเด็กเวร เจ้ามีพรสวรรค์มากถึงเพียงใดกันแน่ มันมากถึงการที่สามารถทำให้เจ้าสำนักเทียนหยุนลงมารับด้วยตัวของเขาเองเลยเนี่ยนะ?! หรือว่าเจ้ามีร่างกายจิตวิญญาณโดยกำเนิดกัน?”
 
เมื่อได้ยินคำพูดของเขา ลูกศิษย์ทั้งหมดที่อยู่รอบข้างเฉินเฉินต่างมองมาที่เขาอย่างสงสัย แต่ไม่มีใครสักคนพูดอะไรออกมาสักคำ
 
มันมีความกราดเกรี้ยวปรากฏขึ้นมาในดวงตาของเซี่ยวอู่โยวเมื่อเขาได้ยินมัน ไม่นานหลังจากนั้นดาบที่เปล่งประกายด้วยสายฟ้าก็ได้ปรากฏขึ้นด้านหน้าเขา
 
“เจ้าสาขาจะเป็นคนล้างแค้นให้กับพวกเราเอง!” คนของสำนักอสูรตะโกนออกมาอย่างโกรธแค้น เมื่อพวกเขาเห็นดาบที่ปรากฏขึ้น
 
ก่อนที่พวกเขาจะได้พูดจบ ดาบก็ได้แทงลงไปบนพื้น คลื่นที่รุนแรงมหาศาลได้แพร่กระจายไปทั่ว มันได้ก่อตัวเป็นคลื่นแรงกระแทก
 
ปัง! ปัง! ปัง!
 
เสียงระเบิดดังก้องไปทั่วอากาศ ผู้คนทั้งหมดจากสำนักอสูร รวมทั้งผู้อาวุโสต่างถูกเปลี่ยนกลายเป็นหมอกเลือดที่กระจายไปทั่ว
 
“สุดยอด! มันโคตรสุดยอดเลย!”
 
ตาของเฉินเฉินส่องกรายออกมา ลูกบอลเล็กๆของเขาเหมือนกับการโยนก้อนหินใส่คนไปเลย เมื่อเทียบกับสิ่งที่เจ้าสำนักทำ เขาเหมือนกับยิงลูกระเบิดใส่อีกฝ่ายโดยการใช้ปืนใหญ่!
 
“ข้าเดาว่ามันเป็นเรื่องจริงที่ผู้คนต่างพูดกันว่าเซียนสามารถที่จะเคลื่อนภูเขาและถมทะเลได้ ในอนาคต ข้าจะต้องยอดเยี่ยมไปยิ่งกว่านั้นอีก!”
 
ในขณะที่เขาอิจฉาไปด้วยนั้น เฉินเฉินก็ได้มีความมุ่งมั่นที่จะฝึกตนดีๆ ไม่เพียงแต่เขาจะทำให้พ่อแม่ของเขากลายเป็นเซียน เขาจะกลายเป็นผู้ที่ไร้ผู้ต่อต้านให้ได้!
 
ลูกศิษย์ส่วนใหญ่ที่ถูกเชิญเข้าร่วมสำนักต่างมีความคิดเดียวกัน ตาของพวกเขาต่างเต็มไปด้วยความกระตือรือร้นในการเดินทางไปบนเส้นทางของการฝึกตน
 
“ข้าต้องการที่จะเก็บพวกเจ้าไว้ใช้เป็นเครื่องมือไว้สำหรับฝึกฝนสำหรับลูกศิษย์ของสำนักเทียนหยุนนะ แต่ข้าคิดว่ามันไม่จำเป็นอีกแล้วละ” เซี่ยวอู่โยวพึมพำก่อนที่เขาจะมองไปยังหมอกเลือดที่กระจายไปทั่วพื้น ก่อนที่จะเหลือบมามองเฉินเฉิน
 
เฉินเฉินรู้สึกเหมือนกับร่างกายของเขามีไฟฟ้าช็อตไปทั้งร่าง เมื่อสายตาของเจ้าสำนักสบลงมาที่ตัวเขา เขาทำอะไรไม่ได้นอกจากตัวสั่นสะท้าน
 
ทันใดนั้นเอง กลุ่มคนกลุ่มใหญ่ก็ลอยลงมาจากด้านบนท้องฟ้า พวกเขาต่างลงมาด้านหน้าของลูกศิษย์ใหม่อย่างเชื่องช้า พวกเขาต่างเป็นผู้อาวุโสของสำนักเทียนหยุน ผู้ซึ่งเป็นผู้ฝึกตนระดับสร้างรากฐานหรือสูงกว่านั้นกันทั้งหมด
 
“ปัญหามันได้ถูกจัดการแล้ว พวกเจ้าควรพาเหล่าลูกศิษย์กลับไปยังสำนักเทียนหยุน” เซี่ยวอู่โยวสั่งพวกเขา
 
ผู้อาวุโสแต่ละคนได้แบกลูกศิษย์ไปคนละสองคน ก่อนที่พวกเขาจะบินออกไปโดยไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ ผ่านไปไม่นาน คนเกือบสองร้อยคนก็ได้ถูกพาขึ้นไปกลางอากาศ
 
มันเหลือเพียงแค่เฉินเฉินและรถเกวียนสามคันของเขาเท่านั้น แม้แต่จางจียังถูกพาตัวไปก่อนแล้วเช่นกัน
 
เซี่ยวอู่โยวชี้ไปที่ดาบของเขาที่พึ่งใช้ไปและดาบมันก็ได้ยืดตัวไปกว่าเจ็ดหรือแปดเมตรและมันได้ขยายความกว้างของมันออกไปอีกสองเมตรทันที เซี่ยวอู่โยวกระโดดขึ้นไปบนดาบและมองไปที่เฉินเฉิน
 
เฉินเฉินรู้ถึงสิ่งที่เขาต้องการจะสื่อ แต่เขากลับมองไปยังรถเกวียนทั้งสามคันแทน ใบหน้าของเขาเต็มไปด้วยความกระอักกระอ่วน
 
เซี่ยวอู่โยวพ่นลมหายใจออกมาเบาๆก่อนที่จะโยนแหวนให้กับเฉินเฉิน
 
“ใส่พวกมันลงไปในแหวนด้วยพลังปราณซะ”
 
เฉินเฉินรับแหวนและทำตามคำสั่งของเซี่ยวอู่โยว เพียงเวลาไม่นานเขาก็สัมผัสได้ถึงพื้นที่ด้านในแหวน
 
จากการคำนวณคร่าวๆของเขาแล้ว มันมีพื้นที่ประมาณ 100 ลูกบาศก์เมตรเลยทีเดียว!
 
“มันมีของอย่างแหวนเก็บของจริงด้วย! ข้าคิดว่ามันจะเป็นเรื่องที่ง่ายดายขึ้นมากแล้วละกับการค้นหาของ!”
 
เฉินเฉินแทบจะร้องไห้ออกมาด้วยความดีใจ เจ้าสำนักเป็นชายที่ใจกว้างอะไรเช่นนี้ เขายังมอบของที่ล้ำค่าแบบนี้ให้กับการพบหน้ากันครั้งแรกอีก!
 
“มันเก็บสิ่งมีชีวิตไม่ได้นะ” เซี่ยวอู่โยวเตือนเขา
 
เฉินเฉินพยักหน้าเข้าใจก่อนที่จะเริ่มเก็บของในรถเกวียน ก่อนที่เขาจะย้ายพวกมันลงไปในแหวนเก็บของ ผ่านไปสักพักหนึ่งมันก็เหลือเพียงแค่เจ้าหูเซียงเอ๋อและเจ้าผักบุ้งน้อยเท่านั้น
 
ในเวลาเดียวกัน หูเซียงเอ๋อได้ทำตัวนิ่งมาก มันเหมือนกับว่าเธอทำตัวแบบพืชเหมือนกับเจ้าผักบุ้งน้อย เธอไม่กล้าที่จะขยับตัวเลยสักนิด เธอกลัวว่าเซี่ยวอู่โยวจะสังเกตเห็นเธอได้
 
“ปีศาจอย่างจิ้งจอกมันเป็นพวกเจ้าเล่ห์ มันไม่ใช่สัตว์ที่เหมาะกับการเลี้ยงนะ”
 
แต่เมื่อเจ้ายิ่งกลัวต่อสิ่งใด มันก็มีโอกาสมากขึ้นเท่านั้น สิ่งแรกที่เซี่ยวอู่โยวพูดมันก็ทำให้เธอตัวสั่นสะท้านอย่างรุนแรงแล้ว
 
“ไม่ต้องกังวลไปหรอกครับ เธอมีหน้าตาเหมือนกับจิ้งจอก แต่ในความเป็นจริงในตัวของเธอเป็นเพียงแค่หมาตัวหนึ่งเท่านั้นแหละครับ” เฉินเฉินตอบกลับพร้อมกับรอยยิ้ม ก่อนที่จะเดินขึ้นไปเหยียบบนดาบ
 
หูเซียงเอ๋อเต็มไปด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนกับสิ่งที่เธอได้ยิน ในเวลานี้เธอปรารถนาว่าเธอนั้นเป็นสุนัขอสูรจริงๆ และมันต้องเป็นพันธุ์ที่จงรักภักดีมากด้วย!
 
เซี่ยวอู่โยวไม่ได้พูดอะไรกลับมา เขาเพียงแค่เงยหน้าขึ้น ทันใดนั้นดาบยักษ์ก็ลอยขึ้นกลางอากาศก่อนที่จะพุ่งขึ้นไปด้านบน
 
เมื่อเทียบกับคนอื่นที่ถูกอุ้มไปโดยเหล่าผู้อาวุโสแล้ว การขี่ดาบมันเป็นอะไรที่ดูดีกว่าอย่างไม่ต้องสงสัย
 
ด้านบนดาบยักษ์ เซี่ยวอู่โยวมองตรงไปที่ด้านหน้าก่อนที่จะถามออกมา “เฉินเฉิน เจ้าเกิดมาในหมู่บ้านธรรมดาทั่วไปใช่ไหม?”
 
“ครับ มันคือหมู่บ้านหินของมณฑลเสฉวน ที่มีประชากรชาวบ้านไม่ถึงร้อยคน สำหรับการมีข้าปรากฏตัวขึ้นมาในหมู่บ้านแบบนั้น ข้าคิดว่าพวกเราคงใช้โชคทั้งหมดนับพันปีหมดไปแล้วละครับ ในตอนนี้ทั้งหมู่บ้านต่างรอคอยข้ากลับไปพร้อมกับโชคลาภ!”
 
เฉินเฉินรู้ดีว่าเซี่ยวอู่โยวได้สืบค้นเกี่ยวกับภูมิหลังของเขาแล้ว ดังนั้นเขาจึงไม่ได้ซ่อนมันเลยสักนิด
 
เซี่ยวอู่โยวพยักหน้าและแนะนำ “อย่าไปบอกคนอื่นว่าเจ้ามีร่างกายวิญญาณต้นกำเนิด ถ้าเจ้าถูกเปิดเผยออกไป ข้ากลัวว่าเจ้าจะกลายเป็นที่ดึงดูดต่อเซียนคนอื่นและจะมาลักพาตัวเจ้าไป ถ้ามันเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นแล้ว ข้าคงจะไม่สามารถปกป้องเจ้าเอาไว้ได้อีก”
 
“ข้าเข้าใจครับ” เฉินเฉินตอบกลับทันที
 
“เฉินเฉิน เจ้ารู้สึกยังไงกับวิชาสายฟ้าของข้าก่อนหน้านี้?”
 
“ยอดเยี่ยมมากเลยครับ! มันทั้งทรงพลังและเท่ห์มาก!”
 
“เจ้าต้องการเรียนมันไหม?”
 
“แน่นอนครับ!” เฉินเฉินตอบกลับโดยไม่มีความลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว
 
“ถ้างั้นเจ้าควรจะบอกว่าเจ้านั้นมีร่างกายวิญญาณสายฟ้าตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไปและฝึกฝนวิชาที่ยิ่งใหญ่นี้ของสำนักเทียนหยุนกับข้า วิชาสายฟ้าศักดิ์สิทธิ์เทียนหยุน”
 
“ครับ อาจารย์!”
 
เมื่อได้ยินเฉินเฉินเรียกเขาว่า ‘อาจารย์’ มันทำให้เซี่ยวอู่โยวตกตะลึงไปชั่วขณะ ก่อนที่จะมีรอยยิ้มกว้างออกมา
 
ดูเหมือนว่าเจ้าเด็กหนุ่มนี้เรียนรู้ว่าควรจะปฏิบัติตัวยังไงสินะ

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset