ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything – ตอนที่ 82: มีเพียงคนหน้าด้านเท่านั้น

เมื่อเขาพูดคำเหล่านี้ออกไป ทุกคนต่างตกอยู่ในความเงียบกันชั่วครู่หนึ่ง
 
ทันทีหลังจากนั้น ทุกคนต่างส่งเสียงเยาะเย้ยออกมา
 
“จิ่วเหนียง เจ้าโดนหลอกเข้าให้แล้วละ”
 
“หินวิญญาณ 300 ก้อนมันไม่ได้น้อยเลยนะ!”
 
เมื่อได้ยินคำพูดของเหล่าคนที่อยู่รอบข้างเธอแล้ว ใบหน้าของเด็กผู้หญิงเปลี่ยนเป็นสีแดงและเธอรีบแทรกตัวฝ่าฝูงชนไปก้มให้กับเฉินเฉิน
 
“ผู้สืบทอดคะ ได้โปรดมากับฉันด้วยค่ะ”
 
หลังจากพูดเสร็จ เธอก็เดินตรงไปยังรถม้าที่ตกแต่งงดงามที่อยู่ห่างออกไป
 
เมื่อเห็นดังนี้ เฉินเฉินต้องการที่จะเดินตามหลังเธอไป แต่เขากลับโดนผู้อาวุโสจ้าวดึงเอาไว้
 
“เฉินเฉิน ถ้าข้าได้ยินมาไม่ผิดแล้ว ที่แห่งนั้นมันคือหอโสเภณีเลยนะ!”
 
จางจีและซุนเทียนกังต่างก้มหัวลง เมื่อพวกเขาได้ยินมัน แต่พวกเขายังคงแอบสงสัยกับสถานที่แห่งนี้
 
พวกเขาไม่เคยมาที่หอโสเภณีมาก่อน!
 
เมื่อเผชิญหน้ากับการข่มขู่ของผู้อาวุโสจ้าวแล้ว เฉินเฉินทำหน้าตึงและตอบกลับ “ผู้อาวุโสจ้าว มันหาได้ยากนะที่จะหาคนจริงใจมากกว่าการหาเงิน! ข้าบอกได้เลยว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นคนที่ตัดสินคนได้ดีและเป็นคนที่โดดเด่น ทำไมพวกเราจะต้องปฏิเสธเธอ เนื่องจากงานของเธอด้วยกัน?”
 
ผู้อาวุโสจ้าวพูดไม่ออกหลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้ ‘ข้าพึ่งจะชมเจ้าไปไม่ใช่เหรอ?’
 
เขาพูดดูดีมาก
 
ยังไงก็ตาม เจ้าสำนักได้บอกว่าเฉินเฉินเป็นคนที่จะรับผิดชอบทุกสิ่งทุกอย่าง ตั้งแต่ที่เฉินเฉินปรารถนาที่จะอาศัยอยู่ที่นี่แล้ว พวกเขาก็จะต้องทำตามที่เขาบอก
 
เขาถอนหายใจยาวออกมา ผู้อาวุโสจ้าวยังคงเงียบต่อไป
 
กลุ่มของเขาได้ขึ้นไปยังรถม้า ‘โรงเตี๊ยมหยีหลาน’ ขับไปบนถนนกว้าง
 

 
“ผู้สืบทอดคะ นี่คือหินวิญญาณสำหรับท่านค่ะ ได้โปรดนับมันด้วย”
 
จิ่วเหนียงดูหงอยๆ เมื่อเผชิญหน้ากับคนจากสำนักเทียนหยุน
 
ไม่เหมือนกับหอโสเภณีใหญ่แห่งอื่นที่มีคนของราชวงศ์หนุนหลังอยู่ เธอไม่กล้าที่จะเล่นตลกหรือมุกขำขันกับผู้สืบทอดเหล่านี้เลยสักนิด
 
เธอเป็นแค่เด็กผู้หญิงธรรมดาทั่วไปที่ได้รับสืบทอดธุรกิจจากครอบครัวของเธอ ถ้าเธอไม่ต้องการทำตามความต้องการความฝันของแม่เธอแล้ว เธอคงไม่มีทางเลือกที่จะรับหน้าที่ดูแลโรงเตี๊ยมหยีหลานแห่งนี้
 
“หินฝึกปราณระดับห้า อืม คนจากเมืองหลวงนี่แตกต่างไปจากคนในจี่โจวจริง”
 
เฉินเฉินรับกระเป๋าที่ใส่ของจากจิ่วเหนียงและใส่แหวนเก็บของลงไปโดยไม่เหลียวมองเลยสักนิด
 
จิ่วเหนียงก้มหัวและพูดอย่างสุภาพ “ข้าทำให้ท่านอับอายแล้วค่ะ ผู้สืบทอด สถานะฝึกตนของข้ามันห่างกับท่านมากเกินไปค่ะ ข้าเหมือนอยู่คนละโลกกับท่านผู้สืบทอดเลยค่ะ”
 
พูดตามจริงแล้ว เธอไม่ได้มีความหวังสูงมากเท่าไหร่เมื่อตอนที่เธอเชินเฉินเฉินมา เธอไม่ได้คาดคิดว่าเขาจะตอบตกลงอะไร นอกจากนี้แล้วเธอยังไม่รู้ว่าเขามาจากสำนักไหนด้วย
 

 
ไม่กี่ชั่วครู่ต่อมา รถม้าได้มาจอดอยู่ที่ตึกสูงห้าชั้น
 
ในเวลาเดียวกัน คนสองกลุ่มในรถม้าก็ได้ทำความรู้จักกันระดับหนึ่งแล้ว
 
หลังจากที่เรียนรู้ว่าเฉินเฉินนั้นเป็นคนจากสำนักเทียนหยุน ซึ่งอยู่อันดับที่ 13 ใน 36 สำนักแล้ว อันจิ่วเหนียงมีความสุขมาก ความนับถือของเธอต่อเฉินเฉินและคนที่เหลือต่างเพิ่มสูงขึ้น
 

 
ด้วยเหตุนี้นี่เอง ทันทีที่พวกเธอออกมาจากรถม้า หญิงสาวหลายคนบนระเบียงชั้นสองต่างโบกมือให้กับเฉินเฉินและคนอื่น
 
“เจ้านายคะ! มาสนุกสนานกันเถอะ”
 
“ท่านหล่อเหลามากเลย! ท่านกล้าที่จะสู้กับพวกเราไหมคะ?!”
 
“ท่านลุง มากินอาหารนี้เถอะค่ะ”
 
เมื่อได้ยินคำพูดเหล่านี้แล้ว ผู้อาวุโสจ้าวที่อยู่ในขั้นสูงสุดของแก่นทองคำเต็มไปด้วยความเกรี้ยวกราด เขาแทบจะควบคุมลมหายใจของตัวเองไม่ได้ด้วยซ้ำ
 
ยังไงก็ตาม ภาพที่เขายอมรับไม่ได้ก็เกิดขึ้นในไม่ช้า
 
ในเวลานั้นเอง หญิงสาวที่สวมผ้าคลุมสีดำก็ปรากฏขึ้นจากระยะไกล
 
“ศิษย์พี่จ้าว ข้าไม่ได้คาดคิดเลยว่าท่านจะเป็นคนแบบนี้ ท่านไม่เคารพตัวเองด้วยซ้ำ แม้ว่าท่านจะแก่ถึงเพียงนี้! หลานซินได้มาบอกข้าให้แจ้งกับท่านว่าสำนักโยวฉุยพักอยู่ที่ตำหนักจิตวิญญาณแห่งลม ถ้ามีเรื่องจำเป็นแล้ว ท่านสามารถส่งลูกศิษย์มายังตำหนักจิตวิญญาณแห่งลมได้!”
 
หลังจากพูดเสร็จ เธอพ่นลมหายใจออกมาอย่างเย็นชาและหันหลังกลับเดินจากไป
 
เฉินเฉินเคยพบผู้หญิงคนนี้มาก่อน เธอคือผู้อาวุโสขั้นแก่นทองคำที่ถูกส่งมาโดยสำนักโยวฉุย เพื่อปกป้องโยวหลานซิน เขาคาดเดาจากน้ำเสียงของเธอว่าเธอรู้จักผู้อาวุโสจ้าว
 
ผู้อาวุโสจ้าวจ้องไปที่แผ่นหลังของเธอ ใบหน้าของเขาแดงฉาน เขารีบวิ่งไล่ตามไปอ้อนวอนเธอ “ศิษย์น้องเจียง! ฟังคำอธิบายของข้าก่อนเถิด!”
 

 
“ทำไมพวกเจ้ายังไม่กลับเข้าไปด้านในอีก? นี่คือผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุนนะ! ผู้อาวุโสท่านนั้นคือผู้อาวุโสระดับแก่นทองคำของสำนักเทียนหยุน!”
 
จิ่วเหนียงอับอายกับคำพูดเหล่านี้ เธอรีบด่าใส่หญิงสาวบนชั้นสอง
 
ใบหน้าของหญิงสาวเหล่านี้ต่างซีดเซียว เมื่อพวกเธอได้ยินมัน
 
เมื่อเห็นภาพที่เกิดขึ้น เฉินเฉินถอนหายใจออกมา โรงเตี๊ยมหยีหลานมีชื่อที่ดี แต่โชคร้ายที่ผู้หญิงเหล่านี้มันต้อยต่ำเกินไป ไม่แปลกใจเลยที่ว่าทำไมพวกเธอถึงยากจน
 
“ข้าขอโทษค่ะ ถ้าหญิงสาวเหล่านั้นได้ยั่วยุกับท่านผู้สืบทอด พวกเขาไม่รู้วิธีปฏิบัติกับตัวเอง ข้าจะจัดห้องให้กับท่านเองค่ะ”
 
หลังจากพูดออกมาเบาๆ จิ่วเหนียงก็เป็นคนนำทางและพาเฉินเฉินและคนอื่นไปยังห้องพักหรู
 
ถึงแม้ว่าห้องมันจะดูหรูหราก็ตาม มันก็ไม่มีสิ่งของที่แฝงไปด้วยจิตวิญญาณ ซึ่งมันทำให้ถูกพิจารณาว่ามันค่อนข้างยากจนในเมืองหลวง
 
เฉินเฉินไม่ได้พูดถึงเรื่องนี้ เขาแค่เดินเข้าไปในห้องอย่างเงียบๆ
 
“ผู้สืบทอดคะ ถ้าท่านต้องการอะไร บอกข้าได้เลยนะคะ” จิ่วเหนียงพูด เธอรู้สึกต้อยต่ำมาก เมื่อเธอเห็นใบหน้าที่เรียบเฉยของเฉินเฉิน
 
ในความเป็นจริงแล้ว หินวิญญาณ 300 ก้อนเหล่านั้นคือทรัพย์สมบัติชิ้นสุดท้ายที่แม่เตรียมไว้ให้กับเธอและตามแผนการของแม่เธอแล้ว พวกมันควรเอาไว้ใช้จ้างสาวงาม
 
ยังไงก็ตาม ด้วยความกระตือรือร้นนี้ เธอจึงได้ใช้มันเชิญผู้สืบทอด เฉินเฉินมา
 
มันเหมือนกับว่าสภาพแวดล้อมของหอโสเภณีของเธอมันไม่ได้เหมาะสมกับผู้สืบทอด
 
เธอถอนหายใจออกมาอย่างลับๆ จิ่วเหนียงเดินถอยออกไปอย่างเงียบๆ
 

 
ในชั่วพริบตา เฉินเฉินก็ได้พักในโรงเตี๊ยมหยีหลานมาครึ่งวันแล้ว
 
จางจีและซุนเทียนกงต่างออกไปหาข่าวใหม่ ในขณะที่เขายังคงอยู่ในโรงเตี๊ยมหยี่หลาน
 
มันเกือบจะถึงเวลามื้อค่ำ เสียงดังก็ปรากฏขึ้นที่ด้านหน้าโรงเตี๊ยมหยี่หลาน
 
“ข้าคือหวังเซี่ยวแห่งกองทัพพฤกษาราชวงศ์และข้าต้องการมาพบกับผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุน!”
 
เมื่อเขาได้ยินเสียงนี้ แสงก็ส่องประกายในดวงตาของเฉินเฉินและเดินออกมาจากห้องของตัวเอง
 
ทหารสวมชุดเกราะสองคนยืนอยู่เบื้องหน้าเขา ทั้งสองต่างมีสถานะฝึกตน ใบหน้าของพวกเขาดูจริงจังและแสดงให้เห็นว่าพวกเขาต่างเป็นพวกหัวกะทิ
 
“ข้าคือผู้สืบทอดสำนักเทียนหยุน มีอะไรรึ?”
 
“ฝ่าบาทได้ออกคำสั่งว่าพิธีการขึ้นครองราชย์จะถูกจัดขึ้นตอนกลางวัน ในอีกสองวันข้างหน้า มันมีการประกาศที่สำคัญในพิธีนั้น ได้โปรดใช้เหรียญยืนยันตัวนี้เพื่อเข้าสู่พระราชวังด้วยครับ!”
 
เมื่อเขาพูดเสร็จ ทหารยื่นเหรียญเก่าแก่ให้กับเฉินเฉินอย่างสุภาพ
 
เฉินเฉินรับเหรียญไปและพยักหน้าตกลง
 
หญิงสาวหลายคนต่างแอบมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจากในโรงเตี๊ยมหยีหลาน ดวงตาของพวกเธอต่างส่องประกายวิบวับด้วยความชื่นชม
 
“เขาเป็นผู้สืบทอดจริงด้วย! จิ่วเหนียงไม่ได้โดนหลอก! แม้แต่ทหารของกองทัพยังสุภาพกับเขาเลย! เขาดูดีมากเลย!”
 
“ทหารของกองทัพยังกล้าที่จะมายังหอโสเภณีของพวกเราเลย พวกเราไปโม้ได้แล้วละ!”
 
หญิงสาวเหล่านี้ต่างไม่ได้มีสถานะฝึกตนกันทั้งนั้น
 
นอกจากนี้แล้ว เฉินเฉินและทหารของกองทัพต่างได้ยินทุกสิ่งที่พวกเธอพูดออกมา
 
สีหน้าของทหารเปลี่ยนไปเล็กน้อย เมื่อพวกเขาได้ยินที่พวกเธอพูด หลังจกาบอกลาแล้ว พวกเขารีบหันหลังกลับและหายไปบนถนนอย่างรวดเร็ว พวกเขาเริ่มชะลอความเร็วลงจากวิ่งออกมาไกลกว่าร้อยเมตรแล้ว
 
“ผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุนกล้าที่จะอาศัยอยู่ในที่แบบนั้นเนี่ยนะ! น่าอับอายชะมัด!”
 
“ปกติข้าไม่ได้มายังหอโสเภณีชั้นต่ำแบบนั้นเลยนะ! ข้าไม่ได้คาดคิดว่าผู้สืบทอดจะ….ดูเหมือนว่าผู้สืบทอดนั้นก็ไม่ได้สูงส่งไปกว่าพวกเราสักเท่าไหร่นี่นา”
 
ในขณะที่ทั้งสองคนต่างปรึกษาเรื่องนี้กันอยู่ เสียงควบม้าก็ดังขึ้นบนถนน
 
รถม้าคันนี้ทั้งหรูหราและรวดเร็ว พร้อมกับแสงจิตวิญญาณที่ส่องประกายรอบตัวม้า!
 
“เอ่อ…มันดูเหมือนกับรถม้าของโรงเตี๊ยมแดงเมามายเลยนี่”
 
“รถม้าด้านหลังคันนั้นมันเป็นของบ้านดอกไม้พระจันทร์ซึ่งเป็นหอโสเภณีที่ยอดเยี่ยมเป็นอันดับสองในเมืองหลวง…พวกเขากำลังมุ่งตรงไปยังโรงเตี๊ยมหยีหลานเนี่ยนะ? มันเกิดอะไรขึ้นกันเนี่ย?”
 
ทหารทั้งสองคนต่างสบตากันเอง วินาทีต่อมา หนึ่งในพวกเขาก็ดูเหมือนจะเข้าใจ
 
“ข้ารู้แล้ว! ไม่มีผู้สืบทอดคนใดของทั้งสามสิบห้าสำนักเลือกที่จะอาศัยอยู่ในหอโสเภณีนี่เอง ไม่ว่าพวกเขาจะได้รับการเสนอหินวิญญาณไปมากเพียงใด แต่ผู้สืบทอดของสำนักเทียนหยุนคือข้อยกเว้น ดังนั้นหอโสเภณีชื่อดังเหล่านั้นกำลังคิดที่จะชิงตัวเขาไปนี่เอง!
 
ทหารอีกคนเข้าใจหลังจากที่ได้ยินคำพูดเหล่านี้
 
‘ทุกคนต่างต้องการเกียรติยศกันทั้งนั้น แต่เขาเป็นคนเดียวที่หน้าด้านแบบนั้น ความหน้าด้านของเขานี่มันหาได้ยากมาก…’
 
‘ยังไงก็ตาม รถม้า…มันมีมากเกินไปหรือเปล่าเนี่ย!’
 
มันมีรถม้าสิบแปดคัน ซึ่งหมายความว่าหอโสเภณี 18 แห่งต่างส่งตัวแทนกันมาทั้งหมด พวกเขาจะชักชวนผู้สืบทอดไปได้จริงๆหรือ?

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

I Can Track Everything ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง

Type: Author:
โดย เรื่อง ข้าสามารถตรวจสอบได้ทุกสรรพสิ่ง I Can Track Everything “นักเดินทาง ระบบของท่านได้มาถึงแล้ว ยินดีด้วยสำหรับการได้รับระบบการตรวจสอบที่ทรงอำนาจ!” เฉินเฉินที่กำลังนั่งเบื่อหน่ายอยู่ตรงทางเข้าของหมู่บ้านหิน เพียงแค่เขากำลังรู้สึกหดหู่ เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา เมื่อได้ยินเสียงนี้ เฉินเฉินรู้สึกมีชีวิตชีวาขึ้นมาก เขากระโดดขึ้นจากก้อนหินที่อยู่เบื้องหน้าหมู่บ้านทันที “ระบบ? พึ่งจะเพิ่มเข้ามาช้าขนาดนี้เนี่ยนะ?” “ระบบตรวจสอบในปัจจุบันคือระดับหนึ่งค่ะ เจ้าของสามารถที่จะตรวจจับทุกสิ่งทุกอย่างได้ในระยะสิบเมตร!” เมื่อเสียงในหัวของเขาดังขึ้นอย่างต่อเนื่อง เฉินเฉินรู้สึกตื้นตันจนร้องไห้ออกมาได้เลย ด้วยเหตุนี้นี่เอง ประวัติศาสตร์ที่เขาเรียนรู้มาตอนมหาลัยมันไร้ประโยชน์และเขายังไม่สามารถกลายเป็นคนดังโดยการเขียนบทกลอนได้อีก เขาไม่ได้เก่งวิชาฟิสิกส์และเคมีสักเท่าไหร่ ดังนั้นเขาจึงไม่สามารถที่จะคิดค้นหรือประดิษฐ์เทคโนโลยีได้ มีสิ่งเดียวที่เขาทำแล้วมันเป็นเรื่องที่น่าสนใจสำหรับคนอื่น อย่างเอ้อหยาที่อยู่ใกล้บ้านเขา นั่นคือการที่เขาทำสมุดบัญชีขึ้นมา แต่ไม่คาดคิดเลย วันนี้….ระบบมันก็ได้มาถึงแล้ว! เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับเรื่องตรวจสอบหรืออะไรสักอย่าง ตราบเท่าที่มันเป็นระบบ มันก็คงเป็นเรื่องที่ดีแน่นอน เขาไม่ได้ทำอะไรมากว่าสิบปี แต่ตอนนี้เขาไม่สนใจแล้วว่ามันจะเป็นระบบอะไร ขอแค่มันเป็นระบบก็พอ! การเป็นคนมันจะต้องเป็นคนกตัญญู ยังไงมันก็เป็นเรื่องที่ดีที่สุดที่มีระบบ! ‘อะไรก็ตามในระยะสิบเมตร….มันมีข้อจำกัดจำนวนในการใช้ไหม?’ เฉินเฉินถามขึ้นในหัวตัวเอง “มันไม่มีข้อจำกัดในการใช้ค่ะ ระบบจะแจ้งภารกิจลับให้กับเจ้าของ เพื่อการอัพเกรดความสำเร็จลับ รวมทั้งยังให้รางวัลกับเจ้าของเป็นครั้งคราวด้วยค่ะ ดังนั้นได้โปรดขยันขันแข็งด้วยค่ะ!” หลังจากนั้นเสียงได้จางหายไปจากในหัวของเขา เฉินเฉินนั่งคิดอยู่เป็นเวลานาน เขามองออกไปยังทางเข้าหมู่บ้านที่โดดเดี่ยวนั่น แล้วรู้สึกสิ้นหวังเล็กน้อย ชาวบ้านทั้งหมดของหมู่บ้านหินต่างเป็นชาวนากันทั้งหมด ทุกคนต่างยากจน ดังนั้นเขาจะตรวจสอบอะไรได้กัน? ภรรยาของหัวหน้าหมู่บ้านเหมือนจะมีเพชรนิลจิลดาที่มีราคาอยู่ แต่เขาจะต้องไปขโมยมัน หลังจากที่เขาตรวจพบงั้นเหรอ? เขาคงจะโดนกระทืบจนตาย ถ้าเขาทำมันอย่างแน่นอน แต่เขาไม่ได้รีบร้อนอะไร ตั้งแต่ที่มันเป็นระบบ มันก็มีความหมายในตัวของมันเอง เขาจะพัฒนาตัวเองอย่างเชื่องช้า เป้าหมายหลักของเขาในตอนนี้คือการกลับไปยังบ้านก่อน ดังนั้นเขาจะได้ไปลองใช้ระบบได้อย่างสบายใจ เมื่อเขาตัดสินใจได้แล้ว เฉินเฉินเดินกลับบ้าน ครอบครัวของเขาเป็นคนธรรมดาทั่วไปในหมู่บ้านหินและครอบครัวของเขาต่างเป็นชาวนากัน ถึงแม้ว่าพวกเขาจะไม่ได้จน ครอบครัวของเขาก็อบอุ่นมากและเป็นครอบครัวที่มีความสุข เมื่อเขากลับมายังบ้าน พ่อแม่ของเขายังคงทำไร่นาอยู่ด้านนอกและยังไม่ได้กลับบ้าน เขาพูดขึ้นมาในหัวตัวเอง ‘ตรวจเงินในบ้านสิ’ “อยู่ในลิ้นชักที่ห่างออกไป 3 เมตรค่ะ ภายในลิ้นชักมีเงินจำนวน 120 ตำลึงทองแดง” นี่คือสถานที่ที่ครอบครัวของเขาเก็บเงินไว้ เฉินเฉินรู้มันดี เพราะว่าพ่อแม่ของเขาไม่ได้ปิดบังอะไรกับเขาไว้ “ใต้เตียงที่อยู่ห่างออกไป 4 เมตร ยังมีอีกสี่สิบตำลึงทองแดงค่ะ” อะไรนะ?! เฉินเฉินไม่รู้เกี่ยวกับเงินนี้เลยสักนิด มันเป็นห้องนอนของพ่อแม่เขา ซึ่งอยู่ห่างออกไปสี่เมตร มันอาจจะเป็นเงินเก็บของพ่อของเขา เฉินเฉินคิดและสรุปได้ว่ามันน่าจะเป็นไปได้ ดังนั้นเขาจึงเดินไปที่ห้องด้านข้างและก้มมองลงใต้เตียง หลังจากคว้านดูสักพักหนึ่ง เขาพบกับกระเป๋าหนังเล็กที่มีเงินอยู่สี่สิบตำลึง ‘มีเงินอยู่ด้านในจริงด้วย’ เฉินเฉินคิดกับตัวเอง หลังจากนั้นเขาก็เก็บกระเป๋าหนังกลับไปยังที่เดิม ระบบยังคงพูดอย่างต่อเนื่องขึ้นมาในหัวของเขา “ก้าวไปด้านหน้าห้าก้าวและขุดลงไปใต้ดินสิบเมตร มันมีเหรียญทองแดงขึ้นสนิมอยู่” เมื่อได้ยินการแจ้งเตือน เฉินเฉินรีบหยิบพลั่วมาขุดอย่างกระตือรือร้น มันไม่ได้ใช้เวลานานสักเท่าไหร่สำหรับการหาเหรียญทองแดงขึ้นสนิม หลังจากครุ่นคิดมาเป็นเวลานาน เขาจำได้ลางๆว่าเขาเคยทำเงินหายตอนยังเด็ก มันเป็นเงินที่เขาได้มาตอนปีใหม่ และเขาอารมณ์เสียที่เงินหายเป็นเวลานานเลย ‘ตั้งแต่ที่ฉันมีระบบนี่แล้ว บางทีฉันอาจจะไปยังมณฑลใกล้ๆ เพื่อไปเก็บเงินจากพื้นมาอาศัยอยู่ต่อ…’ เฉินเฉินอดที่จะคิดออกมาไม่ได้ แต่เขาแทบจะตบหน้าตัวเองทันที หลังจากที่มีความคิดแบบนี้โผล่ขึ้นมา เมื่อเป็นนักเดินทางย้อนเวลาที่มีระบบแบบนี้แล้วแท้ๆ ทำไมความคิดของเขาถึงน่าสมเพศขนาดนี้กัน? นี่มันเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากสำหรับนักเดินทางที่ย้อนเวลากลับมาแบบนี้! ในเวลาเดียวกัน เสียงก็ดังขึ้นมาในหัวของเขา “รางวัลความสำเร็จ – เสร็จสมบูรณ์ : ใช้ระบบเป็นครั้งแรก รางวัลที่ได้รับ : โอกาสในการตรวจสอบทุกสิ่งทุกอย่างภายในมณฑลเสฉวนหนึ่งครั้งค่ะ” เมื่อเขาได้ยิน เฉินเฉินอดที่จะคิดเรื่องเดินไปหาเงินต่ออีกครั้งไม่ได้ ทั่วทั้งมณฑลเสฉวนคงจะมีเงินจำนวนมากอย่างแน่นอน… “เฮ้อออ! ทำไมฉันถึงเอาแต่อยากจะไปเก็บเงินกัน? ฉันมาที่โลกเซียนแห่งนี้ แน่นอนละว่าฉันมาเพื่อที่จะบ่มเพาะตนกลายเป็นเซียน!” เฉินเฉินตัดสินใจได้และไม่ได้ใช้รางวัลนี้ในทันที ใครจะไปรู้กันว่าเขาจะได้โอกาสตรวจสอบพื้นที่ขนาดกว้างแบบนี้อีกครั้งกัน? มันเป็นรางวัลที่ยอดเยี่ยม เขาไม่ต้องการที่จะเสียมันไปอย่างเปล่าประโยชน์ เขาจะรอจนกระทั่งเขาคุ้นเคยกับระบบ ก่อนที่จะตัดสินใจใช้มัน Traveling through the Xianxia world, Chen Chen got the strongest tracking system and was able to track everything ever since. Chen Chen, “System, I am short of money.” “Two meters away, your father has hidden some money under the bed. Five meters away, there is a rusty copper coin buried half a meter underground.” “There is a piece of silver in the grass ahead.” Chen Chen, “System, I need some luck.” “The sh*t in front of the pigsty is actually not ordinary.” “Go to Black Peak cliff twenty miles away to jump off the cliff.” “Somewhere hidden there is a fairy cave mansion. Please explore by yourself.”

Options

not work with dark mode
Reset