ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25 – ตอนที่ 46 น่ารักเป็นบ้า

หลี่เจี่ยซินมองตามหลังของเฉินอิ่งไปอย่างครุ่นคิด ผู้หญิงคนนั้นดูเหมือนว่าจะไม่กลัวเฉินเฟยอวี๋แม้แต่น้อย ตั้งแต่เธอทำหน้าที่เป็นบอดี้การ์ดให้เฉินเฟยอวี๋หลายครั้งที่หลี่เจี่ยซินมั่นใจว่าเป็นฝีมือของเฉินอิ่งที่ลอบทำร้ายเฉินเฟยอวี๋เพราะเรื่องธุรกิจ

หลิวไห่มองเธอดวงตาเป็นประกาย ท่าทางกังวลของหลี่เจี่ยซินทำให้เขาแอบยิ้ม

หญิงสาวขยับเข้ามาใกล้เขาแล้วก้มลงมาเท้าแขนกับโต๊ะทำงานพร้อมกับถามเฉินเฟยอวี๋

“ที่รัก เธอไปเอาความกล้ามาจากไหน ถึงได้ต่อปากต่อคำกับเฉินอิ่งได้ทั้งที่แต่ก่อนกลัวผู้หญิงคนนั้นหัวหดแทบจะวิ่งมาหลบอยู่ข้างหลังฉันด้วยซ้ำ”

หลิวไห่สบตาของหญิงสาว

“ความกล้าเหรอ ก็มาจากเธอไง”

เฉินเฟยอวี๋ชี้มือเข้าที่หน้าอกต้วเอง

“ฉันเหรอ”

หลิวไห่พยักหน้า เขาชอบมองท่าทางแปลกใจของหลี่เจี่ยซิน

“ใช่สิ”

“ยังไง ความกล้าจากฉันได้ยังไง ฉันยังไม่ได้ทำอะไรเลยนะ”

“ก็เพราะเธออยู่ที่นี่ ต่อให้เฉินอิ่งลงมือเธอก็ต้องจับน้องสาวฉันหักมือไม่ให้ผู้หญิงคนนั้นแตะต้องฉันได้แน่ ๆ ฉันคิดว่าฉันขี้ขลาดมานาน ฉันเลยอยากจะลองท้าทายผู้หญิงคนนั้นสักหน่อย”

หลี่เจี่ยซินเข้าใจแล้ว

“อ้อ แต่ก่อนไม่เห็นคิดแบบนี้นี่ จู่ ๆ กล้าหาญแบบนี้ฉันเลยตกใจน่ะ”

หลิวไห่ยิ้ม

“บอกแล้วไม่ใช่เหรอ ว่าฉันจะสู้ไม่ถอยต่อไปก็คงมีอีกหลายเรื่องทำให้เธอประหลาดใจ”

หลี่เจี่ยซินหัวเราะเบา ๆ ขยับเข้าใกล้ตัวเฉินเฟยอวี๋มากกว่าเดิม รู้สึกว่าในตอนที่เขามาดแมนแบบนี้ดูดีไม่น้อย

“ฉันชอบที่เธอเป็นแบบนี้นะ ดูกร้าวใจดี”

“ฉันจะทำให้เธอชอบมากกว่านี้อีก”

หลี่เจี่ยซินลูบที่ไหล่ของเขา

“คิดว่าจะยั่วฉันสำเร็จเหรอ ฉันไม่ใช่ของเล่นนะ”

หลิวไห่ยักไหล่

“ก็ไม่แน่นะ ใครจะรู้ล่ะอะไรก็เกิดขึ้นได้”

หลี่เจี่ยซินดูเหมือนจะนิ่งอึ้งไปชั่วครู่ สายตาของเขาแบบนี้ดูอันตรายเป็นอย่างยิ่ง

“ฉันขอตรวจดูนี่อีกสักหน่อย”

หลิวไห่ไม่คุยต่อแล้ว คราวนี้เขาก้มหน้าก้มตาอ่านรายงานการเงินโดยละเอียด เขาพบจุดที่บกพร่องหลายจุดและยังใช้ปากกาวงกลมเอาไว้หลายจุด

เวลาผ่านไปราวชั่วโมงหลิวไห่จึงถอนหายใจออกมา ตัวเลขหลอกลวงกันแบบนี้เฉินเฟยอวี๋คงเชื่อสนิทใจ คงเพราะเป็นแบบนี้เฉินเฟยอวี๋ถึงได้บริหารขาดทุนย่อยยับแบบนี้

เสียงเคาะประตูดังขึ้น เป็นเลขาของเฉินเฟยอวี๋อีกคน

เธอเดินเข้ามาแล้วนำการ์ดเชิญมาให้เขาพร้อมกับอธิบาย

“ท่านประธานคะนี่คือการ์ดเชิญเพื่อสร้างสัมพันธ์ของสกุลกู้ค่ะ ประธานกู้จัดงานเลี้ยงทั้งยังเชิญผู้บริหารหลายบริษัทเข้าร่วมงานในสัปดาห์หน้าค่ะ งานนี้มีทั้งคนในวงสังคมนักการเมืองใหญ่ทั้งระดับชาติและท้องถิ่นเข้าร่วมงาน ดิฉันดูตารางงานของท่านในวันและเวลานั้นแล้วไม่ได้ติดอะไร ท่านประธานจะให้ตอบรับเลยหรือเปล่าคะ”

อันที่จริงเลขาของเขาอยากจะบอกว่า ตารางของเฉินเฟยอวี๋ว่างและมีเวลาเหลือเฟือจนน่าตกใจ

หลิวไห่รับการ์ดเชิญจากเลขา เขาเปิดดูการ์ดสีแดงและตัวหนังสือจึนที่เป็นทางการด้านในเขาคิดอยู่แล้วว่าเป็นบริษัทของกู้เมิ่ง แต่เขาก็ยังถามเลขาออกไป

“ประธานกู้ที่ว่านี่ชื่ออะไรเหรอครับ และเป็นใครมาจากไหน”

เลขาตอบเขาอย่างสุภาพ

“เห็นว่าเพิ่งย้ายมาจากฮ่องกงเพื่อดูแลขยายกิจการค่ะ เป็นลูกชายคนเดียวของสกุลกู้ชื่อกู้เมิ่งค่ะ คนหนุ่มไฟแรงที่มีความสามารถคนหนึ่งเลยทีเดียว”

หลิวไห่ถึงกับหัวเราะเสียงดังแต่น้ำเสียงนั้นดูขมขื่นอยู่ในที

“คนหนุ่มมีความสามารถเหรอครับ ฮ่า ฮ่า ฮ่า”

“ใช่ค่ะ เห็นใคร ๆ ต่างก็พูดถึงเขาแบบนั้นหากท่านประธานลืมก็คือคนที่ต้องการควบรวมกิจการของบริษัทเราค่ะ เป็นคนคนเดียวกัน”

หลิวไห่พยักหน้า ดูเขาไม่ได้ตกใจอะไร

“คุณออกไปก่อนเถอะ ผมจะพิจารณาอีกทีว่าสมควรไปหรือเปล่า”

“ได้ค่ะ”

เมื่อเลขาปิเดประตูห้องแล้ว หลี่เจี่ยซินถามเขาว่า

“เกิดอะไรขึ้นถึงได้หัวเราะแบบนั้น ทำไมล่ะ หรือว่ากลัวจนเพี้ยนแล้วเหรอ ไม่ต้องกลัวนะถ้าที่รักไปฉันก็จะอยู่ข้าง ๆ คอยดูแลความปลอดภัยให้อย่างเต็มที่”

“ไม่ได้กลัวแบบนั้นสักหน่อย”

หลิ่วไห่ไม่อธิบายให้หลี่เจี่ยซินฟัง เขาก้มลงกวาดสายตาอ่านทุกตัวอักษรในการ์ดอย่างละเอียด

เขาคิดว่าหากเขาไปเกรงว่ากู้เมิ่งจะรู้ตัวเร็วเกินไปอาจจะส่งผลเสีย เขาอยากพบกู้เมิ่งในตอนที่เขากอบกู้บริษัทนี้ให้มั่นคงกว่านี้ และให้คนเลวคนนั้นรู้ว่าไม่มันไม่สามารถจะซื้อบริษัทนี้ได้ เขาย่อมรู้ดีว่างานแรกที่ประธานกู้มอบหมายให้กู้เมิ่ง ก็คงเป็นการเทคโอเวอร์เฉินอวี๋เทคโนโลยี

บริษัทอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกที่เคยเป็นบริษัทแถวหน้ามีมูลค่าทรัพย์สินมหาศาลแห่งนี้ บริษัทที่มีผู้บริหารห่วยแตกและยังเป็นเกย์อีกด้วย กู้เมิ่งคงคิดว่าคงจะสามารถยึดครองได้อย่างง่ายดายสินะ

“ที่รัก ที่รัก”

หลิวไห่เหม่อลอย หลี่เจี่ยซินตบไหล่เขาเบา ๆ กระทั่งเขารู้สึกตัว

“เป็นอะไรหรือเปล่า”

หลิวไห่ส่ายหน้า

“คิดอะไรเพลิน ๆ น่ะ ไม่ได้กลัวใครแบบที่เธอคิดหรอกสบายใจได้”

“แล้วเธอจะไปหรือเปล่างานเลี้ยงน่ะ จะได้ให้คนเตรียมชุดสูทชุดใหม่ให้เร่งตัดใหม่ตอนนี้ก็น่าจะทัน”

หลิวไห่ส่ายหน้า เขาตัดสินใจแล้ว

“ยังไม่ถึงเวลา เห็นว่าเฉินอิ่งสนิทกับประธานกู้คนนี้นี่ ให้เฉินอิ่งไปแทนก็แล้วกัน”

หลี่เจี่ยซินเองก็กลัวว่าเฉินเฟยอวี๋จะเกิดเรื่อง อีกทั้งงานในบริษัทแห่งนี้เขาก็แทบจะไม่รู้อะไรเลยจึงคิดว่าเขาไม่ไปน่ะถูกต้องแล้ว อย่างน้อยต้องเตรียมตัวและเตรียมความพร้อมให้มากกว่านี้

“ฉันก็คิดแบบนั้น ที่รักยังต้องฝึกปรือฝีมืออีกหน่อย”

หลิวไห่มองเธอด้วยสายตาอ่อนโยน

“ห่วงเหรอ”

หลี่เจี่ยซินพยักหน้า

“อื้อ ห่วงสิเกิดไปทำขายหน้าล่ะอายเขาแย่เลย”

จู่ ๆ เขาก็ดึงหลี่เจี่ยซินให้นั่งลงบนตักของเขา ยังรวบตัวกอดเธอเอาไว้หลี่เจี่ยซินยังไม่ชินกับพฤติกรรมแปลกประหลาดของเขาแต่เธอก็ไม่ได้ขัดขืน

“สัญญาว่าต่อไปจะไม่ทำให้คู่หมั้นของฉันขายหน้าอีก ไม่ต้องกลัวนะ”

หลี่เจี่ยซินถูกเขาจ้องด้วยสายตาแสนอบอุ่น จู่ ๆ เธอก็รู้สึกหน้าแดงและกระดากอาย เธอจึงดึงมือของเขาออกแล้วลุกขึ้นทันที

“เอ้อ ฉะ ฉันไปเอากาแฟให้ที่รักนะ”

หลี่เจี่ยซินหาทางเลี่ยงเขา เธอเดินออกไปจากห้องอย่างรวดเร็ว

หลิวไห่มองเธอจนลับสายตา ดวงตาเป็นประกายพร้อมกับยิ้มออกมา

“หลี่เจี่ยซิน เธอรู้ตัวหรือเปล่าว่าเวลาเธออายแบบนี้แล้วน่ารักเป็นบ้า”

ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25

ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25

ความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25
Status: Completed
อ่านความลับ(รัก)ของประธานพันธุ์ร้าย NC25สภาพของโรงฝึกที่ถูกรื้อค้นจนเละตุ้มเป๊ะ คนของเธอสามคนถูกทำร้ายและยังถูกบังคับให้คุกเข่าอยู่ต่อหน้าผู้ชายคนหนึ่ง ในมือของผู้ชายคนนั้นมีปืนที่กำลังจ่อเข้าไปที่หัวของครูฝึกของเธอ หลี่เจี่ยซินกลืนน้ำลายลงคอ พวกเขามองหน้าเธอแล้วบอกเธอให้หนีไป หลี่เจี่ยซินน้ำตาคลอเบ้า เธอกำมือแน่นปล่อยถุงผักผลไม้ที่เพิ่งซื้อมาลงไปกองกับพื้น ส้มลูกหนึ่งกลิ้งไปหยุดที่หน้าของชายคนหนึ่งที่หนึ่งอยู่บนเก้าอี้ ม้นก้มลงเก็บส้มที่หยุดเมื่อกลิ้งมาโดนขาของมันขึ้นมา ใบหน้าที่เป็นรอยนั้นแลดูน่ากลัว มันหยิบส้มขึ้นมาดมแล้วแสยะยิ้มพร้อมกับปอกส้มช้า ๆ  "ถ้าเงินไม่มีก็ขายตัวให้ฉัน เข้าซ่องสักปีสองปีแป๊บเดียวก็ใช้หนี้หมดตอนนั้นอยากได้ตึกคืนก็ไม่สาย"

Comment

Options

not work with dark mode
Reset