คิงดราก้อน – ตอนที่ 99 ถังผู้อยู่เบื้องหลัง

เย่หยุนซูอึ้งไปเล็กน้อย แล้วก็เอาหัวพิงกับหน้าอกของเซียวหยางโดยไม่รู้ตัว จากนั้นก็หลับตาลง

ไม่นาน ทั้งสองคนก็กลับมาถึงห้องพักที่โรงแรม

เย่หยุนซูอาบน้ำอุ่นอยู่ในห้องน้ำอย่างต่อเนื่อง ถึงแม้อากาศด้านนอกนั้นร้อนมาก แต่เธอตัวเปียกไปทั้งตัว อีกทั้งถูกลมทะเลพัดอยู่ครึ่งค่อนวัน ถ้าไม่เป็นหวัดก็ถือว่าโชคดีแล้ว

ผ่านไปสิบห้านาที เย่หยุนซูสวมชุดคลุมอาบน้ำเดินออกมา บนโต๊ะหัวเตียง มีซุปขิงร้อน ๆ วางอยู่ถ้วยหนึ่ง

“ดื่มเถอะ ฉันวัดอุณหภูมิดูแล้ว กำลังดีเลย”

เย่หยุนซูยกถ้วยชาขึ้นมา แหงนคอขึ้นแล้วดื่มเข้าไปหนึ่งอึก รสชาติเผ็ดร้อน ทำให้เธอสำลักจนไออยู่หลายครั้ง

เซียวหยางค่อย ๆ ลูบหลังให้เธอ

“ระวังหน่อย อย่าให้สำลัก”

“ไปเอาซุปขิงมาจากไหน?”

“ฉันให้ห้องอาหารของโรงแรมทำน่ะ ถ้าพวกเขาไม่ทำ ฉันก็จะทุบโรงแรมของพวกเขาซะ!” เซียวหยางพูดอย่างจริงจัง

เย่หยุนซูยิ้มเล็กน้อย ในใจรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา

“ขอบคุณนายนะ ฉันไม่เป็นอะไรแล้ว”

เซียวหยางพยักหน้า แต่ในใจยังคงเป็นกังวล เดิมทีครั้งนี้อยากให้เย่หยุนซูออกมาผ่อนคลาย แต่คิดไม่ถึงว่าจะได้เผชิญกับเรื่องอันตรายมากยิ่งขึ้น

เข่นฆ่านองเลือด ถูกจี้เรือสปีดโบ๊ท แล้วไหนจะระเบิดตอร์ปิโดอีก เซียวหยางเองไม่เท่าไหร่หรอก แต่เย่หยุนซูไม่เหมือนกัน ถ้าจิตอ่อนหน่อย แล้วไม่ตกใจจนสติแตกกระเจิงก็คงแปลกแล้วล่ะ

“ฉันไม่เป็นอะไรจริง ๆ ผ่านเรื่องมามากมายขนาดนี้ ก็ควรชินได้แล้วถูกไหม?” เย่หยุนซูยิ้มกว้างจนเห็นฟันขาวทั้งสองแถว รอยยิ้มนั้นสวยงามราวกับดอกไม้

เพียงแต่ว่า ทั้งหมดนี่กลับทำให้เซียวหยางรู้สึกปวดใจ

“ขอโทษนะ ที่ฉันดูแลเธอไม่ดี”

เย่หยุนซูแสร้งทำเป็นพูดอย่างไม่ใส่ใจ “ไม่เป็นไรหรอกน่า ถ้าไม่ผ่านเรื่องราวพวกนี้ แล้วเมื่อไหร่ฉันจะโตสักทีล่ะ จะให้ใช้ชีวิตอยู่ในผ้าอ้อมตลอดก็คงไม่ได้ใช่ไหมล่ะ?”

เซียวหยางทำตัวสดชื่นขึ้นแล้วฝืนยิ้มออกมา “เอาเถอะ เธอคงหิวแล้ว ฉันไปสั่งอาหารไว้กินนะ”

เซียวหยางโทรศัพท์ไปที่แผนกต้อนรับ ไม่นานก็มีพนักงานนำอาหารมาส่ง

ทั้งสองคนค่อย ๆ ทานอาหารกัน แต่เย่หยุนซูกลับทานไม่ค่อยลง ไม่ค่อยอยากอาหารสักเท่าไหร่

เธอวางตะเกียบลง มองดูเซียวหยาง แล้วพูดอย่างจริงจังว่า “เซียวหยาง ฉันมีคำถามอยากถามนาย”

เซียวหยางอึ้งเล็กน้อย ดูเหมือนจะรู้ว่าเธอต้องการถามอะไร

“จำเป็นต้องตอบเหรอ?”

“ไม่ต้อง แต่ฉันหวังว่าฉันจะได้รู้” เย่หยุนซูเอ่ยพูดอย่างเรียบ ๆ

“ก็ได้ เธอถามเถอะ” เซียวหยางวางตะเกียบลงเช่นกัน

“คนผิวขาวคนนั้นเป็นอะไรกับนาย?”

เย่หยุนซูมั่นใจว่า คนผิวขาวที่สวมชุดไม่เข้ากับสถานการณ์คนนั้น ต้องเป็นพวกเดียวกับเซียวหยางแน่นอน และคนผิวขาวคนนั้นก็เก่งมากด้วย เซียวหยางไปรู้จักคนแบบนั้นได้ยังไงกัน

“อ้อ เขาเป็นเพื่อนของฉัน” เซียวหยางแกล้งตอบด้วยท่าทางสบาย ๆ

“เพื่อนเหรอ? แต่ฉันได้ยินเขาเรียกนายว่านายท่าน” เย่หยุนซูขมวดคิ้วเรียวสวยนั่นแล้วพลางเอ่ยถาม

เซียวหยางลูบจมูกไปมา แล้วอธิบายพลางยิ้มแห้ง ๆ “เมื่อก่อนพวกเราสองคนพนันกัน ถ้าเขาแพ้ต้องเรียกฉันว่านายท่าน ต่อมาเขาแพ้ เลยเป็นแบบนี้แหละ”

“ใครเอาเรื่องไร้สาระแบบนี้มาพนันกัน นายจริงจังหรือเปล่าเนี่ย?”

เย่หยุนซูมองเซียวหยางด้วยความสงสัยเป็นอย่างมาก ที่จริงเธอไม่ค่อยรู้เรื่องอิทธิพลมืดของฝั่งยุโรปสักเท่าไหร่ ขอแค่ได้รู้สักนิด ด้วยความฉลาดของเธอก็สามารถเดาสถานะของเซียวหยางได้

“แน่นอน” เซียวหยางยิ้มกว้าง

“เอาเถอะ จะเชื่อนายสักครั้ง” เย่หยุนซูไม่ได้ถามต่อ ถึงแม้เธอรู้สึกว่าเซียวหยางมีอะไรปิดบังเธออยู่ แต่เธอก็ไม่คิดจะซักถามจนถึงที่สุด ไว้รอให้เขาอยากบอก เขาก็จะบอกเองแหละ

ตอนค่ำ เย่หยุนซูเข้าไปอยู่ในห้องน้ำตั้งนาน เหมือนจะชำระล้างเอาเรื่องร้ายที่ได้ประสบเมื่อตอนกลางวันออกไปให้หมด

เซียวหยางอยู่ด้านนอก ได้ยินเสียงอาบน้ำดังออกมาจากในห้องน้ำ ก็จินตนาการภาพเย่หยุนซูไม่สวมใส่เสื้อผ้าขึ้นมาโดยไม่รู้ตัว จากนั้นไฟแห่งความชั่วร้ายก็ลุกโชนขึ้นอย่างไม่รู้ตัว

หลังจากเย่หยุนซูอาบน้ำเสร็จ ก็ใส่ชุดนอน แล้วปล่อยให้เซียวหยางเข้ามาในห้อง

เซียวหยางนอนอยู่บนโซฟาที่อยู่ไม่ไกลนัก ห่างจากเตียงไซส์ใหญ่ของเย่หยุนซูไม่ถึงห้าเมตร

เย่หยุนซูมองเซียวหยางที่นอนอยู่บนโซฟาอย่างไม่สบายตัว ในใจก็รู้สึกทนไม่ได้ขึ้นมา

หมอนี่เสี่ยงชีวิตเพื่อปกป้องตัวเอง แต่ให้เขานอนบนโซฟา ดูจะไร้เหตุผลเกินไปหน่อยหรือเปล่า

เธอเคยพูดไว้ว่า ต้องเป็นผู้หญิงที่มีเหตุมีผล หรือว่าจะให้หมอนี่มานอนที่เตียงดี?

แต่ถ้าเกิดหมอนี่ใจกล้าคิดจะเอาเปรียบเธอขึ้นมาจะทำยังไง ตัวเองยังไม่พร้อม ถ้าเกิดเรื่องแบบนั้นขึ้นจริง ๆ ล่ะก็……

น่าจะไม่หรอกมั้ง สามปีแล้ว แต่ไหนแต่ไรเขาก็ไม่เคยเรียกร้องอะไรที่มันเกินเลยกับตัวเองมาก่อน

แต่เมื่อย้อนกลับมาคิดดูอีกที เซียวหยางจองห้องเพียงห้องเดียวก็เพื่อความปลอดภัยของตัวเอง แต่ตัวเองกลับระแวงในสิ่งที่เขาทำด้วยใจอย่างยากลำบาก

เมื่อคิดถึงตรงนี้ เธอก็เอ่ยถามเสียงเบา ๆ ว่า “เซียวหยาง ที่โซฟา……หนาวไหม?”

เซียวหยางกำลังนั่งไขว่ห้าง นึกถึงเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวันอยู่ จู่ ๆ ได้ยินคำพูดของเย่หยุนซู ก็อดไม่ได้ที่จะสงสัยขึ้นมา

อากาศร้อนจะตาย จะหนาวได้ยังไงล่ะ เลยตอบไปอย่างที่คิดว่า

“ไม่หนาวนะ ทำไมเหรอ?”

“อ๋อ ไม่มีอะไร นอนเถอะ!” เย่หยุนซูพลิกตัว หันหน้าไปอีกทาง ใบหน้ารูปงามนั้นร้อนผ่าวขึ้นมาเล็กน้อย หมอนี่สมองทึ่มจริง ๆ

ตอนนี้เซียวหยางถึงเพิ่งคิดได้ขึ้นมา อยู่ดี ๆ มาถามว่าตัวเองหนาวไหมทำไม หรือว่าอยากให้ตัวเองไปนอนบนเตียง?

เมื่อคิดได้อย่างนี้ เซียวหยางก็รู้สึกตื่นตัวขึ้นมาทันที เขาเลียริมฝีปากแล้วพูดว่า “เอ่อคือว่า……หยุนซู เมื่อกี้เธอพูดอะไรนะ พูดอีกรอบได้ไหม?”

“ไม่ได้ โอกาสมีแค่ครั้งเดียว นายไม่รู้จักรักษาไว้เอง เหอะ”

เซียวหยางตบหัวตัวเอง รู้สึกเสียดายมากถึงมากที่สุด

ไม่รู้ผ่านไปนานแค่ไหน ในห้องเริ่มเข้าสู่ความเงียบอีกครั้ง ได้ยินเพียงแค่เสียงลมหายใจที่สม่ำเสมอของทั้งสองคน

หลังจากที่เซียวหยางรู้สึกได้ว่าเย่หยุนซูหลับไปแล้ว ก็ค่อย ๆ ลุกขึ้นมา เดินไปที่ระเบียงคนเดียว

มองแสงพระจันทร์สีเงิน หยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวน แล้วจุดบุหรี่สูบ

ทันใดนั้น มีเงาใครสักคน ปรากฏขึ้นอย่างเงียบ ๆ ที่ระเบียบ เหมือนเป็นแมวเจ้าเล่ห์ตัวหนึ่ง

“เป็นยังไงบ้าง หาคนรอดชีวิตเจอไหม?”

คนที่มาคือกาเบรียลนั่นเอง เมื่อกลางวันตอนที่เซียวหยางพาเย่หยุนซูกลับมาที่โรงแรม ด้วยความที่กลัวเธอจะตื่นตระหนก จึงอยู่ไม่ห่างเธอเลย

ส่วนเรื่องที่เหลือ เขาได้มอบหมายให้กาเบรียลไปจัดการต่อ

เมื่อย้อนกลับมาคิดถึงเรื่องนี้ ก็รู้ว่าต้องมีการวางแผนมาล่วงหน้าอย่างไม่ต้องสงสัยเลย มีการก่อการร้ายเกิดขึ้น ไม่ใช่กองกำลังเล็ก ๆ จะสามารถรับงานนี้ได้

ในส่วนคนรอดชีวิต ตอนที่เซียวหยางยืนอยู่บนเรือ ได้ส่อเค้าไว้แล้วว่าศัตรูทุกคนที่อยู่บนเรือต้องตายเท่านั้น

ถึงแม้เย่หยุนซูจะไม่เป็นอะไร แต่เซียวหยางก็ต้องรู้ให้ได้ว่าใครคือผู้บงการอยู่เบื้องหลังการลอบฆ่าครั้งนี้ ตกลงว่าใช่พวกเดียวกับที่ลอบฆ่าในอุโมงค์ใต้ดินคราวก่อนหรือเปล่า

การลอบฆ่าครั้งนี้ เป็นองค์กรที่อยู่ในเงามืด ครั้งที่สองและครั้งที่สาม คนที่ลอบฆ่ายังคงเป็นปริศนาอยู่

ผู้บงการที่อยู่เบื้องหลังยังไม่ถูกเปิดโปง เซียวหยางก็กังวลใจกินไม่ได้นอนไม่หลับ

ตอนนี้คนที่อยากได้ P—one จากเย่หยุนซู มีมากมายไปหมด เซียวหยางจำเป็นต้องหาแต่ละคนออกมาให้ได้ แล้วกำจัดทิ้งไปทีละคน!

เหมือนอย่างเรื่องวันนี้ เซียวหยางไม่อยากให้เย่หยุนซูต้องเผชิญเรื่องนี้อีกเป็นครั้งที่สอง!

สีหน้าของกาเบรียล ภายใต้แสงจันทร์ดูเลือดเย็นและแปลกมาก

“เจอคนรอดชีวิตคนหนึ่ง”

“หืม? ถามได้ความว่าไงบ้าง ผู้บงการอยู่เบื้องหลังคือใคร?”

ศัตรูตกอยู่ในเงื้อมมือของกาเบรียล ต้องสารภาพออกมาแน่นอน เซียวหยางรู้ถึงวิธีการของเจ้าหมอนี่ดี

กาเบรียลฝืนยิ้มออกมา “ไอ้คนนั้นกำลังจะพูด ก็ตายไปก่อน”

“ตายแล้ว?” เซียวหยางขมวดคิ้ว

“ใช่แล้ว แต่ก่อนตาย มันพูดออกมาคำหนึ่ง ถัง!”

คิงดราก้อน

คิงดราก้อน

เกิดมาก็เพื่อได้เป็นกษัตริย์ พ่อแม่โดนฆ่าตอนเขายังเป็นวัยหนุ่ม เขาหายไปหลายปี กลับมาสู่เมืองกลายเป็นมหากษัตริย์ของโลกอิทธิพลทางมืด การกลับมาคราวนี้ของเขา ดูว่าเขาจะเปลี่ยนแปลงสถานการณ์ของโลก กลายเป็นมหากษัตริย์ได้อย่างไรกันแน่

Comment

Options

not work with dark mode
Reset