คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ – ตอนที่ 125 ความจริงที่ทำให้สบายใจ

เมื่อมีการพิจารณากับเรื่องที่เกิดขึ้น ลิสา หรือใครก็ไม่พูดมันออกมา

เพราะจนถึงวันนี้ทุกคนต่างเก็บความลับนั้น

ไว้

เธอจึงบอกกับเควินพร้อมนําผลตรวจ ร่างกายจากแพทย์เพื่อเป็นเครื่องยืนยัน

แน่นอนว่าเหตุผลที่เธอทำแบบนี้ก็เพราะ ต้องการผูกมัดเควินไว้กับเธอ และยังทำให้เค วินไม่แยแสพิงกี้

อีกด้วย ไม่เพียงแค่นั้น ตราบใดที่เธอยังไม่ ได้เปลี่ยนไถ่หัวใจ

เธอก็จะใช้สิ่งนี้เพื่อมาเป็นข้ออ้างได้อีก

มากมาย

เหมือนอย่างทุกวันนี้ที่เพื่อเธอแล้ว เควินย อมทิ้งพิงกี้ทุกครั้ง ทำให้หล่อนทนทุกข์ และเพื่อ ให้พิงกี้รู้ว่า
หล่อนไม่มีวันที่จะเทียบเท่าลิสาอย่างเธอ ได้ หากชีวิตเธอถูกกําหนดให้อยู่ได้ถึงแค่ อายุ25ปี

ก็จะไม่ปล่อยให้คนที่เธอเกลียดอยู่ได้ อย่างสุขสบายหรอก

ก่อนตายก็จะร่างนี้ทำให้หล่อนอยู่ก็เหมือน

ตาย

“คุณต้องหาหัวใจที่มาเปลี่ยนไก่ได้ แน่นอน

ยังมีเวลาอีกหลายปี เวลาไม่ได้เร่งรีบ หรอก” เควินพูด

“แต่เวลาก็ไม่ใช่จะเหลือเฟือไม่ใช่หรือ

คะ?”

ลิสาที่ทำราวกับหมดหวังในทุกสิ่ง รอบกายปกคลุมไปด้วยความเศร้าหมอง

ทำให้เควินเองขมวดคิ้วแน่น อย่างไรก็ตาม

กรณีแบบนี้ก็คงเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่พูด

ปลอบใจ

แม้ว่าเควินเองปกติจะเป็นคนไม่ค่อยพูดอยู่ แล้ว แต่ครั้งนี้ก็ควรพูดสักหน่อย

สักพักจึงพูดขึ้น “หากมีวันนั้นขึ้นมาจริง เธอก็ไม่ต้องกลัวหรอก

ผมแนะนำให้คุณเริ่มทำสิ่งที่มีความหมาย ตั้งแต่วันนี้

มีชีวิตชีวา เห็นคุณค่าในชีวิต แบบนี้แล้วถึง แม้ชีวิตจะสั้น

ก็ไม่ต่างกับคนแก่ที่ใช้ชีวิตถึงเจ็ดแปดสิบปี

แล้วหรอก”
สบตากับนัยน์ตา จริงจังของเควิน เธอฝัน ฉีกรอยยิ้มออกมา

รู้สึกแค่หน้าของตัวเองยิ้มจนจะแข็งที่อ

แล้ว!

อาการของพิงกี้ที่ได้รับการดูแลจากโรง พยาบาล ดีขึ้นอย่างมาก

ร่างกายฟื้นฟูได้เร็วแค่เพียงเวลา3วัน

ใน3วันนี้มีเตชิตที่เข้ามารายงานตัวตลอด และยังได้รับความกดดันจากน้ำหวานจนชินชา

แล้วเลือกที่จะมองข้าม ทำให้บรรยากาศ เริ่มดีจึงคุยกันง่ายขึ้น

ที่จริงแล้วอาหารการกินที่คุณเตชิตนำมา ให้นั้นยอดเยี่ยมมากเลย

ในช่วงเวลาที่ว่างนี้พิงกี้ปลีกตัวออกมาจาก

ความวุ่นวาย
จนเมื่อเตชิตเข้ามาเป็นฝ่ายชวนคุย

พูดไปพูดมา กลับพูดถึงคู่รักที่แปลก ประหลาดของตระกูลบุญถาวร

“พวกเขาเป็นอย่างไรบ้าง

พิงกี้ถามด้วยความอยากรู้ ครั้งก่อนที่ สมคิดกับวันเพ็ญไปหาเรื่องที่วิมานเมฆคอนโด

หลังจากเธอขอความช่วยเหลือจากเตชิต ก็ไม่พบเจอกับคู่นี้อีกเลย

อีกอย่างด้วยความที่ยุ่งๆจึงลืมพวกเขาไป

พิงกี้คิดว่าการที่สมคิดไม่ได้มาหาเรื่องใน ช่วงนี้ ไม่ใช่เพราะต้องการปล่อยเธอ

แต่นี่ก็ทำให้เธอเบาใจขึ้นมาเปราะหนึ่ง

นั่นก็เพราะตอนนี้ทั้งคู่ต้องเจอกับปัญหาอยู่ แน่จึงไม่มีเวลามาระรานเธอ
เป็นอย่างที่คิด……

เมื่อเตชิตที่ได้ยินพิงกี้ถามขึ้นกลับย่นคิ้ว แล้วพูดด้วยความภูมิใจเล็กน้อย

“ฉันนึกว่าชาตินี้เธอจะไม่เอ่ยถึงเรื่องนี้ซะ

ฉันก็เสียโอกาศที่ได้แสดงบุญคุณที่ช่วย

เธอครั้งนึง

นึกไม่ถึง เธอยังถือว่าความจำดีอยู่นี่!

“พิงกี้ได้แต่ใช้ดวงตากลมสวยคู่นั้น

เหล่มอง

“อย่าพูดเรื่องไร้สาร รีบพูดมาเร็ว!

“ตอนนี้พวกเขายังอยู่ที่สถานกักกัน ยังได้ รับการอบรมสั่งสอนที่ดีอีกด้วย

รอเธอพึงพอใจแล้วฉันค่อยให้ปล่อยตัว”

แล้ว“ยังถูกขังอยู่เหรอคะ” พิงกี้ตกใจที่ได้รู้

“พวกเขาที่ถูกขังนานขนาดนี้ นี่คงไม่ใช่ การกักขังแบบผิดกฎหมายใช่มั้ย

“…ฉันจะไปทำเรื่องที่ผิดกฎแบบนั้นทำไม นี่เรียกว่ากฎข้อบังคับที่สมเหตุสมผล

เข้าใจมั้ย”

ถึงแม้ฟังดูไม่น่าเชื่อถือ แต่ที่เตชิตพูดมาก ลับสมเหตุสมผล พูดได้สมจริงมาก

“แล้วคุณคิดจะทำยังไงต่อ

“แน่นอนว่าต้องตามกฎหมายอยู่แล้ว ทุก ครั้งที่ฉันยอมให้ปล่อยตัวทั้งสอง

กลับไม่เปลี่ยนแปลงตัวเอง ทันทีที่ถูก ปล่อยตัวก็ก่ออาชญากรรมซะแล้ว

ฉันที่เป็นเหมือนหมาป่าหน้าเลือดไม่สามารถทนดูอยู่ได้ดังนั้นจึงทำงาน

อย่างหนัก…….

งั้นช่วยบอกทางนั้นให้คอยสอดส่องพวก เขาให้ดี กักขังแบบนี้ต่อไป อืม ก็เท่านี้แหละ

แล้วจะส่งตัวไปกี่ครั้งล่ะ

“เอ่อ…อันนี้ฉันก็ไม่แน่ใจ แต่หากฉันไม่ได้ บอกให้ปล่อยไป ยังไงก็ยังถูกคุมขังอยู่

“…”พิงกี้ตะลึงหลังจากฟัง เตชิตกลับมอง เธออย่างสบายอารมณ์

จ้องมองด้วยแววตาที่ร่าเริง

“จะชมก็ชมมาเร็วๆ

ยังไงก็ไม่ได้มากมายอะไรก็แค่เท่าหน้า แข้งหมาเท่านั้น…รีบพูดมาสิ

อย่างไรก็ตามนี่ก็ถือว่าเป็นเรื่องที่ดี พิงกี้จึงผงกหัวไปตามน้ำแล้วกล่าวชม

“ทำได้เยี่ยมมากค่ะ”

“นั่นมันแน่อยู่แล้ว จากที่ฉันเป็นผู้ชายที่มี ความยาว 20 เซนติเมตรน่ะ”

ไม่กี่วิ เตชิตกลับแสดงท่าทางสายตาปาน ดอกพีช หวานหยดย้อย

นุ่มลึกที่น่าดึงดูดให้กับพิงกี้

แล้วพูดอย่างมั่นอกมั่นใจว่า “รอให้อาการ บาดเจ็บของเธอหายดีแล้ว

อยากจะมาเรียนรู้ซึ่งกันและกันก็ได้นะ”

พิงกี้กลับตอบกลับด้วยคำสองคำ “ฮ่า ฮ่า

“อย่างไรก็ตามเธอเองก็ควรเตรียมตัวให้

พร้อม
ฉันจะสั่งให้คนเบื้องล่างไม่ต้องมุ่งเป้าหมาย ไปที่สมคิดสองคนนั้น

อย่างน้อยก็ไม่ต้องคอยไปติดตามเรื่องที่ พวกเขาจะก่อแล้วเข้ามาเองอีกครั้ง

สิ่งที่ฉันทำ เธอพอจะเข้าใจมั้ย

ความลำบากของสมคิดในช่วงนี้ ไม่เพียง

แต่เป็นเป้าหมายของเตชิต

นอกจากนี้ยังมีเหตุผลที่เตชิตลืม ไป….หลังจากที่เตชิตได้ลบบุคคลที่ไม่สำคัญ ไป

ทำให้ลืมเลือนถึงการมีอยู่ของเขาผู้นั้นไป อย่างไรก็ตาม ตอนนี้เขากลับคิดได้เรื่องหนึ่ง

การที่สมคิดถูกควบคุมไว้แบบนี้ก็ลำบาก ต่อการดำเนินชีวิตอยู่เหมือนกัน

แม้ว่าสมคิดที่ตอนนี้ถูกควบคุมโดยกฎหมาย หากเขาไม่ได้ก่ออาชญากรรมครั้ง

ใหญ่

ในความอยู่รอดก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร เกรงแค่ว่าอีกไม่นานจะทำให้เรื่องเกิดกับตัวเอง

กลายเป็นหลุมค่าที่ตัวเองสร้างขึ้น เท่านี้ก็

คุมแล้ว

“ได้อย่างแน่นอนค่ะ” พิงกี้พยักหน้าตอบ

เธอเองก็ไม่มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการ ปล่อยตัวของสมคิด

ไม่ใช่ไม่กล้าเผชิญหน้ากับสมคิด

เธอเพียงต้องเตรียมตัวให้พร้อม

“วางใจได้เลย ฉันรับประกันได้ว่าเวลาที่ เธอพักฟื้นอยู่ที่โรงพยาบาล

ไม่มีใครมายุ่งหรือรบกวนเธอได้แน่นอน”เตชิตพูดได้จริงจังมาก

แต่เมื่อพูดจบกลับเบี่ยงสายตามองไปทาง ด้านนอกประตูฝั่งพิงกี้

“คนนั้นยังอยู่ด้านนอก ฉันเองก็ห้ามไม่ ได้” หลายวันมานี้ ไม่เพียงแต่เตชิตที่มาเยี่ยม ทุกคืน

รวมถึงเควินเองก็มาด้วย แค่ว่าทุกครั้งที่เต ชิตมาเยี่ยมจะสามารถเข้ามาพูดคุยในห้องได้

ส่วนเควินนั้นทำได้แค่ยืนอยู่นอกประตู อย่างเงียบๆ จนผ่านไปอีกคืน

ถึงแม้เตชิตจะกลับไปแล้วแต่เขาก็ยังคงอยู่

ที่เดิม

“วันนี้เธอก็จะไม่พบกับเขาเหรอ” เตชิต

ถามขึ้น

คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

พอตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองมีอะไรกับพีเขย? รู้สึกยังไงกับ ประสบการณ์? ฟังก็กล่าวเปรียวสะใจมาก! การวางแผนสับเปลี่ยน ครั้งนึง ทำให้พิงกีกับลิสาถูกสลับสับเปลี่ยนฐานะ เกิดเป็นสายเลือด แท้ๆของตระกูล ดำรงกูล ตั้งแต่วันที่ฟังก็กลับมาที่บ้านดำรงกูล พ่อ ไม่เอ็นดูแม่ไม่รัก มีแต่ความลำบากกับความทุกข์ใจ ไม่มีใครรักเธอ เลย และลิสาก็แย่งฐานะลูกสาวสุดที่รักของพ่อแม่ไปจากเธอ แย่ง พ่อแม่เธอไป แถมยังวางแผนพยายามกำจัดเธอให้สิ้นซาก

Comment

Options

not work with dark mode
Reset