คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ – ตอนที่ 130: ท่านประธานคะ คุณลิสาจะถูกรังแกจะตายอยู่แล้วค่ะ!

“ห้า……อะไรนะ? ฉันไม่มีทางปิ๊งรักดุสิต เข้าหรอก! “เพื่อพิสูจน์ตัวเอง น้ำหวานหน้าแดง

ตื่นเต้นจนเกือบจะกระโดดโลดเต้นขึ้นมา “เขารักแฟนเก่าเขาจนหัวปักหัวป่า

ถึงถูกคนทิ้งก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจเช่นเคย ฉันไม่ชอบผู้ชายที่ไม่เอาไหนหรอกน่ะ!”

“ไม่เปลี่ยนใจกับเรื่องความรักไม่ใช่เรื่องดี หรือไง?”พิงกี้ถามด้วยความสงสัย

“ผู้ชายแบบนี้เปิดไฟส่องหายังยากที่จะหา เจอ คิดไม่ถึงเธอยังจะรังเกียจขนาดนี้อีก?”

“เควินก็มีความมุ่งมั่นต่อเธอมาก เธอทำไม ไม่ยอมรับเขาล่ะ?” น้ำหวานย้อนถาม

ผู้ชายที่สูงหล่อเดิมทีกำลังจะเดินเข้าห้องผู้ ป่วย ได้ยินคําพูดในห้อง

จู่ๆหยุดท้าวไว้และยืนเงียบอยู่หน้าประตู “เธอรู้สึกเขามีความมุ่งมั่นต่อฉันมากหรือ?”
พิงกี้เม้มปากยิ้มและส่ายหัว “ถ้าจะบอกว่า เขามีความมุ่งมั่นต่อฉัน

ต้องบอกว่าเขากำลังแข่งและวัดกับตัวเอง มากกว่าถึงจะถูก

ความรู้สึกที่เขามีให้ฉันไม่ใช่เกิดจะความ สนใจที่ผู้ชายมีให้ผู้หญิง

แต่เขาเพื่ออยากจะพิสูจน์ความสามารถ ของตัวเองเฉยๆมั้ง? หรือคงเพราะรู้สึกไม่ พอใจ”

“ก็ไม่ถูก เขาน่าจะไม่ใช่แบบนั้น น่าจะเป็น

เพราะ.…..………….

“เพราะอะไร?”

” น้ำหวานกะพริบตา “จะให้ฉันพูด

ตรงๆจริงหรือ?”

ก็ใช่น่ะสิ! “พิงกี้ยักไหล่ทำเหมือนไม่เป็นไร และปั๊มข่มขืน “ที่จริง

ฉันก็พอจะเดาออกว่าเธออยากพูดอะไร “อืมๆ เธอก็รู้เขาก็แค่ยังรักเธอไม่มากพอ

(เขาแค่ยังรักเธอไม่มากพอ!] พิงกี้นึกว่า ตัวเองคิดตกตั้งนานแล้ว แต่ว่า

ตอนที่คำพูดนี้ออกมาจากปากของน้ำหวาน หัวใจเธอยังเหมือนถูกปืนยิงจนเอาชีวิตอีกเช่น เคย

มีความรู้สึกที่เจ็บรุนแรงส่งผ่านมาที่ทั่วร่าง ของเธอ ทำให้เธอเจ็บจนหายใจไม่ได้

ที่แท้เธอก็ยังปล่อยวางไม่ได้ เธอยิ้มมุม ปาก “ฉันรู้ ฉันก็เลยไม่รักเขาไง

ฉันไดทำการตัดสินใจไปตั้งนาน แล้ว……….” นั่นก็คืออยู่ให้ห่างจากผู้ชายคน

นั้นเยอะๆ!
เธอพยายามอยู่ตลอดเวลา!

พิงกี้หายใจลึกๆ อยากจะหยุดความเจ็บ ปวดที่มาเป็นรัวๆของร่างกายไว้ เธอพยายามยิ้ม เข้าไว้

อย่างน้อยดูจากใบหน้าที่สะสวยของเธอ นาทีนี้ดูไม่ออกว่าในใจเธอทรมานมากแค่ไหน?

แต่ว่า ที่เธอไม่รู้คือ ตอนที่เธอพูดคำว่า “ฉัน ก็เลยไม่ได้รักเขาไง

ฉันได้ทำการตัดสินใจไปตั้งนานแล้ว” ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างนอก

สายตาที่เย็นชามีแสงที่เยือกเย็นแว๊บผ่าน จู่ๆอุณภูมิรอบกายลดลงหลายองศา ทำการ

ตัดสินใจไปตั้งนานแล้ว………….. ความหมาย

คือ เธอเลือกเตชิตแต่ละทิ้งเขางั้นหรอ?

ามรู้สึกพ่ายแพ้ที่ลึกๆเหมือนคลื่นม้วน ซัดเข้ามา ซัดท่วมเควินอย่างไร้เมตตา
เขาจนปัญญาไม่รู้ตัวเองยังจะทำยังไงได้ อีก? หัวใจของผู้หญิงคนนี้แข็งเหมือนเหล็ก

ไม่ว่าเขาจะแสดงถึงความมุ่งมั่นของตัวเอง ยังไง อยู่ในสายตาเธอก็เป็นการราวีที่ไม่คุ้มค่า

กับการมองเห็น ความพยายามของเขา อยู่ ในสายตาเธอเป็นแค่เรื่องตลก

เธอละเลยการทุ่มเทของเขา กำกุญแจที่ อยู่ในมือจนแน่น เควินแววตาหม่นหมอง

ก้าวเท้าเดินจากไปอย่างไม่หันกลับมา เหลียวมอง ฝีเท้าเขาไวมาก

ราวกับว่ามีพายุเฮอริเคนพัดผ่านริมทางเดิน ไป รูปร่างที่สูงใหญ่เต็มไปด้วยแรงกดดัน

ใบหน้าที่เคร่งข็มเต็มไปด้วยความโกรธที่ ชัดเจน ตลอดทางคนที่เจอเขาก็ต้องถอยให้เขา สามก้าว
กลัวก็แต่จะทำให้เทพองค์นี้โมโห

กุญแจที่เขากำไว้ในมือ ก็คือกุญแจของ วิลล่าหลังเล็กในวิมานเมฆ เขารู้ว่าตอนนี้พิงกี้ ไม่มีที่พัก

ออฟฟิศที่ร้านบาร์ก็เพราะร้านจะเปิด ทำการใหม่เลยไม่สามารถพักที่นั่นต่อ เธอต้อง ไปหาห้องใหม่

เป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก เดิมทีเขาอยากให้ เธอย้ายไปอยู่กับเขา อยากช่วยเธอแบ่งเบา ความทุกข์

แต่ถ้าเธอไม่อยากเห็นเขา เขาไม่พักที่นั่น ก็ได้ ขอแค่เธอเองพักอยู่สบายก็พอ

แต่ตอนนี้ เขารู้ถึงเขาเอากุญแจดอกนี้มอบ ออกไป ก็ต้องถูกปฎิเสธอย่างไร้ความปราณี แน่นอน!

เธอไม่รักเขาแล้วจริงๆ ตอนนี้เธอกลายเป็นของผู้ชายอีกคน

——เก็บข้าวของเสร็จ อยู่ภาย

ใต้การดูแลของพยาบาล

พิงกี้ก็ทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลได้ อย่างไวมาก แต่ว่า ตอนที่เธอเดินลงมาจากขั้น บันได

มองซ้ายมองขวา กลับไม่เห็นร่างเงาที่ดื้อ รั้นและโดดเด่นของผู้ชายบางคน

ในใจถึงกับมีความโศกเศร้าและเสียใจ เมื่อ คืนเควินยังพักที่ห้องผู้ป่วย กลางคืนก่อนที่เธอ จะปิดไฟ

เขายังถามเธอจะออกจากโรงพยาบาลวัน ไหน เธอก็บอกกับเขาอย่างจับผลัดจับผลู

แต่วันนี้เขากลับไม่มา

เธอ……..กำลังรอคนๆนั้นอยู่หรือ?
เพราะว่าเขาไม่เคยมา วันนี้เธอเลยรู้สึก หดหู่มาก?

ไม่ถูกสิ คงจะแค่ไม่คุ้นชินมั้ง?

พิงกี้พูดกับตัวเองแบบนี้ ก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้ นานมากนัก

เธอไม่ใช่คนที่ชอบหมกมุ่นอยู่กับความโศก เศร้า เธอเตรียมใจที่จะไม่พัวพันกับเควินอีกต่อ ไป

ตั้งนานแล้ว เธอบังคับตัวเองอย่าไปคิดถึง ไม่นานอารมณ์ก็กลับมาสงบลง

บาร์ไม่สามารถพักต่อได้แล้ว จุดนี้พิง กี้เตรียมการไว้ตั้งนานแล้ว ตอนที่อยู่ในโรง พยาบาล เธอก็ขอร้องให้น้ำหวานช่วยเธอหา ห้องไว้แล้ว ห้องที่เธอเช่าใหม่เป็นห้องเดี่ยว เล็กๆห้องนึง

รวมกันแล้วห้องมีพื้นที่ไม่ถึง30ตารางเมตรหลังจากวางเครื่องใช้ในบ้านไปก็จะคับแคบมาก

แต่พื้นที่สำหรับพิงกี้ก็พอใช้แล้ว ที่สำคัญ ที่สุดคือค่าเช่าถูกมาก!

วางของในมือลง พิงกี้ยืนอยู่ในห้องเล็กๆ ร่างกายเต็มไปด้วยความฮึดสู้

เควินไม่ได้เดินไปไกล

เขานั่งอยู่ในรถอย่างสงบ

ดวงตาที่ดำเข้มจ้องหน้าประตูโรงพยาบาล ไว้ จนร่างเงาของพิงกี้โผล่มา

ความเยือกเย็นในแววตาถึงหลอมละลาย ลงไปบ้าง แต่ความจนปัญญาในใจกลับผุดขึ้น มา

เยอะกว่าเดิม เขาลำลึกถึงความอบอุ่นของ ก่อนหน้านั้น แต่ทําไมตอนนี้เหลือแค่ลำลึก?

พอพิงกี้กับน้ำหวานเดินไปไกล เขายังนั่งอยู่บนรถตั้งนานท่ามกลางพระอาทิตย์ที่สองจ้า

สูบบุหรี่ไปห้าหกมวนถึงสตาร์ทรถเตรียม ตัวจากไป เพิ่งสตาร์ทรถ โทรศัพท์กลับดังขึ้น มา “ท่านประธานรีบมาโดยเร็วหน่อยค่ะ ถ้าคุณ ไม่มาอีก คุณลิสาก็จะถูกรังแกตายแล้วค่ะ

ฮือๆๆ……… ” เพิ่งรับสายมา ข้างในก็มี เสียงร้องไห้หวาดกลัวก้องมา

ทำให้เควินขมวดคิ้วขึ้นแน่น เขาถามอย่าง เย็นซา “เกิดเรื่องอะไร?” คนที่โทรมาชื่อหยาด ทิพย์

เป็นพยาบาลเฉพาะทางที่เขาเชิญมาดูแลลิ สา จบคณะแพทยศาสตร์จากมหาลัยชื่อดัง

ปกตินิสัยถือว่าเงียบสงบดี ก็ไม่รู้วันนี้ถูก สะกิดใจอะไรถึงได้ตื่นตระหนกขนาดนี้?

“คนมา แล้วมาดึงมือคุณลิสาบอกว่าเธอ คือฆาตกรกล่าวหาว่าเธอเป็นคนฆ่าลูกของพวกเขา

ยังไม่ยอมรับอะไรประมาณนั้น

ค่ะ……..คุณลิสาไม่ยอมรับ พวกเขาก็ลงมือ อย่างรุนแรงเลยค่ะ!

ท่านประธานรีบมาเถอะค่ะ พยาบาลและ รปภ.ก็ห้ามคนพวกนี้ไม่อยู่

ดิฉันกลัวคุณลิสาจะเกิดอุบัติเหตุได้ค่ะ ” หยาดทิพย์ร้องไห้ไป

แต่ก็ยังเอาเรื่องที่ตัวเองรู้รายงานออกมา อย่างมีเหตุมีผล

แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็แค่วิเคราะห์จากคำพูดที่ พวกเขาด่าทอกัน

สาเหตุที่ระเอียดกว่านี้เธอก็ไม่ได้รู้อย่าง แจ่มแจ้ง ดังนั้นจึงไม่สามารถพูดเป็นรูปธรรมได้

“ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ “เควินเหยียบคันเร่งอย่างไม่ลังเล

“ห้า……อะไรนะ? ฉันไม่มีทางปิ๊งรักดุสิต เข้าหรอก! “เพื่อพิสูจน์ตัวเอง น้ำหวานหน้าแดง

ตื่นเต้นจนเกือบจะกระโดดโลดเต้นขึ้นมา “เขารักแฟนเก่าเขาจนหัวปักหัวป่า

ถึงถูกคนทิ้งก็ไม่มีทางเปลี่ยนใจเช่นเคย ฉันไม่ชอบผู้ชายที่ไม่เอาไหนหรอกน่ะ!”

“ไม่เปลี่ยนใจกับเรื่องความรักไม่ใช่เรื่องดี หรือไง?”พิงกี้ถามด้วยความสงสัย

“ผู้ชายแบบนี้เปิดไฟส่องหายังยากที่จะหา เจอ คิดไม่ถึงเธอยังจะรังเกียจขนาดนี้อีก?”

“เควินก็มีความมุ่งมั่นต่อเธอมาก เธอทำไม ไม่ยอมรับเขาล่ะ?” น้ำหวานย้อนถาม

ผู้ชายที่สูงหล่อเดิมทีกำลังจะเดินเข้าห้องผู้ ป่วย ได้ยินคําพูดในห้อง

จู่ๆหยุดท้าวไว้และยืนเงียบอยู่หน้าประตู “เธอรู้สึกเขามีความมุ่งมั่นต่อฉันมากหรือ?”
พิงกี้เม้มปากยิ้มและส่ายหัว “ถ้าจะบอกว่า เขามีความมุ่งมั่นต่อฉัน

ต้องบอกว่าเขากำลังแข่งและวัดกับตัวเอง มากกว่าถึงจะถูก

ความรู้สึกที่เขามีให้ฉันไม่ใช่เกิดจะความ สนใจที่ผู้ชายมีให้ผู้หญิง

แต่เขาเพื่ออยากจะพิสูจน์ความสามารถ ของตัวเองเฉยๆมั้ง? หรือคงเพราะรู้สึกไม่ พอใจ”

“ก็ไม่ถูก เขาน่าจะไม่ใช่แบบนั้น น่าจะเป็น

เพราะ.…..………….

“เพราะอะไร?”

” น้ำหวานกะพริบตา “จะให้ฉันพูด

ตรงๆจริงหรือ?”

ก็ใช่น่ะสิ! “พิงกี้ยักไหล่ทำเหมือนไม่เป็นไร และปั๊มข่มขืน “ที่จริง

ฉันก็พอจะเดาออกว่าเธออยากพูดอะไร “อืมๆ เธอก็รู้เขาก็แค่ยังรักเธอไม่มากพอ

(เขาแค่ยังรักเธอไม่มากพอ!] พิงกี้นึกว่า ตัวเองคิดตกตั้งนานแล้ว แต่ว่า

ตอนที่คำพูดนี้ออกมาจากปากของน้ำหวาน หัวใจเธอยังเหมือนถูกปืนยิงจนเอาชีวิตอีกเช่น เคย

มีความรู้สึกที่เจ็บรุนแรงส่งผ่านมาที่ทั่วร่าง ของเธอ ทำให้เธอเจ็บจนหายใจไม่ได้

ที่แท้เธอก็ยังปล่อยวางไม่ได้ เธอยิ้มมุม ปาก “ฉันรู้ ฉันก็เลยไม่รักเขาไง

ฉันไดทำการตัดสินใจไปตั้งนาน แล้ว……….” นั่นก็คืออยู่ให้ห่างจากผู้ชายคน

นั้นเยอะๆ!
เธอพยายามอยู่ตลอดเวลา!

พิงกี้หายใจลึกๆ อยากจะหยุดความเจ็บ ปวดที่มาเป็นรัวๆของร่างกายไว้ เธอพยายามยิ้ม เข้าไว้

อย่างน้อยดูจากใบหน้าที่สะสวยของเธอ นาทีนี้ดูไม่ออกว่าในใจเธอทรมานมากแค่ไหน?

แต่ว่า ที่เธอไม่รู้คือ ตอนที่เธอพูดคำว่า “ฉัน ก็เลยไม่ได้รักเขาไง

ฉันได้ทำการตัดสินใจไปตั้งนานแล้ว” ผู้ชายที่ยืนอยู่ข้างนอก

สายตาที่เย็นชามีแสงที่เยือกเย็นแว๊บผ่าน จู่ๆอุณภูมิรอบกายลดลงหลายองศา ทำการ

ตัดสินใจไปตั้งนานแล้ว………….. ความหมาย

คือ เธอเลือกเตชิตแต่ละทิ้งเขางั้นหรอ?

ามรู้สึกพ่ายแพ้ที่ลึกๆเหมือนคลื่นม้วน ซัดเข้ามา ซัดท่วมเควินอย่างไร้เมตตา
เขาจนปัญญาไม่รู้ตัวเองยังจะทำยังไงได้ อีก? หัวใจของผู้หญิงคนนี้แข็งเหมือนเหล็ก

ไม่ว่าเขาจะแสดงถึงความมุ่งมั่นของตัวเอง ยังไง อยู่ในสายตาเธอก็เป็นการราวีที่ไม่คุ้มค่า

กับการมองเห็น ความพยายามของเขา อยู่ ในสายตาเธอเป็นแค่เรื่องตลก

เธอละเลยการทุ่มเทของเขา กำกุญแจที่ อยู่ในมือจนแน่น เควินแววตาหม่นหมอง

ก้าวเท้าเดินจากไปอย่างไม่หันกลับมา เหลียวมอง ฝีเท้าเขาไวมาก

ราวกับว่ามีพายุเฮอริเคนพัดผ่านริมทางเดิน ไป รูปร่างที่สูงใหญ่เต็มไปด้วยแรงกดดัน

ใบหน้าที่เคร่งข็มเต็มไปด้วยความโกรธที่ ชัดเจน ตลอดทางคนที่เจอเขาก็ต้องถอยให้เขา สามก้าว
กลัวก็แต่จะทำให้เทพองค์นี้โมโห

กุญแจที่เขากำไว้ในมือ ก็คือกุญแจของ วิลล่าหลังเล็กในวิมานเมฆ เขารู้ว่าตอนนี้พิงกี้ ไม่มีที่พัก

ออฟฟิศที่ร้านบาร์ก็เพราะร้านจะเปิด ทำการใหม่เลยไม่สามารถพักที่นั่นต่อ เธอต้อง ไปหาห้องใหม่

เป็นเรื่องที่ยุ่งยากมาก เดิมทีเขาอยากให้ เธอย้ายไปอยู่กับเขา อยากช่วยเธอแบ่งเบา ความทุกข์

แต่ถ้าเธอไม่อยากเห็นเขา เขาไม่พักที่นั่น ก็ได้ ขอแค่เธอเองพักอยู่สบายก็พอ

แต่ตอนนี้ เขารู้ถึงเขาเอากุญแจดอกนี้มอบ ออกไป ก็ต้องถูกปฎิเสธอย่างไร้ความปราณี แน่นอน!

เธอไม่รักเขาแล้วจริงๆ ตอนนี้เธอกลายเป็นของผู้ชายอีกคน

——เก็บข้าวของเสร็จ อยู่ภาย

ใต้การดูแลของพยาบาล

พิงกี้ก็ทำเรื่องออกจากโรงพยาบาลได้ อย่างไวมาก แต่ว่า ตอนที่เธอเดินลงมาจากขั้น บันได

มองซ้ายมองขวา กลับไม่เห็นร่างเงาที่ดื้อ รั้นและโดดเด่นของผู้ชายบางคน

ในใจถึงกับมีความโศกเศร้าและเสียใจ เมื่อ คืนเควินยังพักที่ห้องผู้ป่วย กลางคืนก่อนที่เธอ จะปิดไฟ

เขายังถามเธอจะออกจากโรงพยาบาลวัน ไหน เธอก็บอกกับเขาอย่างจับผลัดจับผลู

แต่วันนี้เขากลับไม่มา

เธอ……..กำลังรอคนๆนั้นอยู่หรือ?
เพราะว่าเขาไม่เคยมา วันนี้เธอเลยรู้สึก หดหู่มาก?

ไม่ถูกสิ คงจะแค่ไม่คุ้นชินมั้ง?

พิงกี้พูดกับตัวเองแบบนี้ ก็ไม่ได้คิดเรื่องนี้ นานมากนัก

เธอไม่ใช่คนที่ชอบหมกมุ่นอยู่กับความโศก เศร้า เธอเตรียมใจที่จะไม่พัวพันกับเควินอีกต่อ ไป

ตั้งนานแล้ว เธอบังคับตัวเองอย่าไปคิดถึง ไม่นานอารมณ์ก็กลับมาสงบลง

บาร์ไม่สามารถพักต่อได้แล้ว จุดนี้พิง กี้เตรียมการไว้ตั้งนานแล้ว ตอนที่อยู่ในโรง พยาบาล เธอก็ขอร้องให้น้ำหวานช่วยเธอหา ห้องไว้แล้ว ห้องที่เธอเช่าใหม่เป็นห้องเดี่ยว เล็กๆห้องนึง

รวมกันแล้วห้องมีพื้นที่ไม่ถึง30ตารางเมตรหลังจากวางเครื่องใช้ในบ้านไปก็จะคับแคบมาก

แต่พื้นที่สำหรับพิงกี้ก็พอใช้แล้ว ที่สำคัญ ที่สุดคือค่าเช่าถูกมาก!

วางของในมือลง พิงกี้ยืนอยู่ในห้องเล็กๆ ร่างกายเต็มไปด้วยความฮึดสู้

เควินไม่ได้เดินไปไกล

เขานั่งอยู่ในรถอย่างสงบ

ดวงตาที่ดำเข้มจ้องหน้าประตูโรงพยาบาล ไว้ จนร่างเงาของพิงกี้โผล่มา

ความเยือกเย็นในแววตาถึงหลอมละลาย ลงไปบ้าง แต่ความจนปัญญาในใจกลับผุดขึ้น มา

เยอะกว่าเดิม เขาลำลึกถึงความอบอุ่นของ ก่อนหน้านั้น แต่ทําไมตอนนี้เหลือแค่ลำลึก?

พอพิงกี้กับน้ำหวานเดินไปไกล เขายังนั่งอยู่บนรถตั้งนานท่ามกลางพระอาทิตย์ที่สองจ้า

สูบบุหรี่ไปห้าหกมวนถึงสตาร์ทรถเตรียม ตัวจากไป เพิ่งสตาร์ทรถ โทรศัพท์กลับดังขึ้น มา “ท่านประธานรีบมาโดยเร็วหน่อยค่ะ ถ้าคุณ ไม่มาอีก คุณลิสาก็จะถูกรังแกตายแล้วค่ะ

ฮือๆๆ……… ” เพิ่งรับสายมา ข้างในก็มี เสียงร้องไห้หวาดกลัวก้องมา

ทำให้เควินขมวดคิ้วขึ้นแน่น เขาถามอย่าง เย็นซา “เกิดเรื่องอะไร?” คนที่โทรมาชื่อหยาด ทิพย์

เป็นพยาบาลเฉพาะทางที่เขาเชิญมาดูแลลิ สา จบคณะแพทยศาสตร์จากมหาลัยชื่อดัง

ปกตินิสัยถือว่าเงียบสงบดี ก็ไม่รู้วันนี้ถูก สะกิดใจอะไรถึงได้ตื่นตระหนกขนาดนี้?

“คนมา แล้วมาดึงมือคุณลิสาบอกว่าเธอ คือฆาตกรกล่าวหาว่าเธอเป็นคนฆ่าลูกของพวกเขา

ยังไม่ยอมรับอะไรประมาณนั้น

ค่ะ……..คุณลิสาไม่ยอมรับ พวกเขาก็ลงมือ อย่างรุนแรงเลยค่ะ!

ท่านประธานรีบมาเถอะค่ะ พยาบาลและ รปภ.ก็ห้ามคนพวกนี้ไม่อยู่

ดิฉันกลัวคุณลิสาจะเกิดอุบัติเหตุได้ค่ะ ” หยาดทิพย์ร้องไห้ไป

แต่ก็ยังเอาเรื่องที่ตัวเองรู้รายงานออกมา อย่างมีเหตุมีผล

แต่ไม่ว่ายังไงเธอก็แค่วิเคราะห์จากคำพูดที่ พวกเขาด่าทอกัน

สาเหตุที่ระเอียดกว่านี้เธอก็ไม่ได้รู้อย่าง แจ่มแจ้ง ดังนั้นจึงไม่สามารถพูดเป็นรูปธรรมได้

“ฉันจะรีบไปเดี๋ยวนี้ “เควินเหยียบคันเร่งอย่างไม่ลังเล

คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

คุณชายมาดเข้มกับคุณหนูสุดแสบ

พอตื่นขึ้นมา พบว่าตัวเองมีอะไรกับพีเขย? รู้สึกยังไงกับ ประสบการณ์? ฟังก็กล่าวเปรียวสะใจมาก! การวางแผนสับเปลี่ยน ครั้งนึง ทำให้พิงกีกับลิสาถูกสลับสับเปลี่ยนฐานะ เกิดเป็นสายเลือด แท้ๆของตระกูล ดำรงกูล ตั้งแต่วันที่ฟังก็กลับมาที่บ้านดำรงกูล พ่อ ไม่เอ็นดูแม่ไม่รัก มีแต่ความลำบากกับความทุกข์ใจ ไม่มีใครรักเธอ เลย และลิสาก็แย่งฐานะลูกสาวสุดที่รักของพ่อแม่ไปจากเธอ แย่ง พ่อแม่เธอไป แถมยังวางแผนพยายามกำจัดเธอให้สิ้นซาก

Comment

Options

not work with dark mode
Reset