คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 148 เวยปั๋วระเบิด!

ตอนที่อิ๋งจื่อจินเปิดไพ่ไม่ได้มีกฎอะไร แค่เปิดไปตามใจ

ไพ่ทาโรต์ที่ต้องวางเป็นระบบคือไพ่พวกนั้นที่วางขายตามท้องตลาด

เนื่องจากความสามารถในการทำนายต่ำ จึงมีกฎมากมายในการวางไพ่และเปิดไพ่ ซึ่งก็เพื่อเพิ่มความสามารถในการทำนาย

ย่อมไม่เหมือนกับไพ่ทาโรต์ของแท้สำรับนี้ที่เธอซื้อมาจากตลาดใต้ดิน

ไพ่ทาโรต์ของแท้ไม่จำเป็นต้องเตรียมอะไรพวกนี้

ขณะเลือกไพ่ ไพ่จะดึงดูดเข้าหาเอง

และไพ่สามใบนี้ของซังเย่าจือ สองใบแรกไม่มีอะไร

ใบหนึ่งคือไพ่ตัวตลก อีกใบคือไพ่พระจันทร์กลับหัว

แต่ใบที่สาม…

ไพ่หอคอย

ไม่กลับหัว

อิ๋งจื่อจินมองไพ่ใบที่สามนี้แล้วตกอยู่ในห้วงความเงียบ

“คุณอิ๋ง ไม่เป็นไรครับ ค่อยๆ ทำนายไป” ซังเย่าจือเห็นเธอเป็นแบบนี้กลับเป็นฝ่ายปลอบ “ยังไงซะก็แค่เล่นๆ”

หลานสาวของเขาก็ทำนายไพ่ที่เขาเลือกออกมาไม่ได้ สุดท้ายต้องเป็นฝ่ายเซ็งตัวเอง

อิ๋งจื่อจินเงยหน้าแล้วพยักหน้า “ตอนคุณจับไพ่คิดอะไรอยู่คะ”

เมื่อก่อนซังเย่าจือก็เคยถูกคนลากไปเล่นไพ่ทาโรต์อยู่หลายครั้ง รู้ว่าตอนทำนายจะต้องคิดเรื่องที่ตัวเองอยากรู้ไว้ในใจ

เขาคิดแล้วตอบ “ก็ไม่ได้คิดอะไรเป็นพิเศษ นึกถึงอนาคตของผมครับ”

ตามคาด

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วครู่แล้วค่อยๆ เอ่ยขึ้น “ไพ่ตัวตลก ใบแรกของไพ่สำรับใหญ่ แต่ลำดับคือศูนย์ ไพ่ใบนี้หมายถึงร่อนเร่ ความหมายของไพ่นี้แบบไม่กลับหัวใช้ได้ทีเดียว คุณซังออกมาช่วยที่บ้านทำงานหาเงินตั้งแต่ห้าขวบ เจ็ดขวบก็เป็นนักแสดงประกอบในละครแล้ว”

“อายุสิบหกสะดุดตาแมวมองของบริษัทชิงเฉินตอนที่ช่วยแม่ขายของตรงชายฝั่งในฮู่เฉิง จากนั้นก็มีงานเป็นของตัวเอง อายุยี่สิบแปดคุณจะได้รับรางวัลใหญ่อีกสองรางวัลด้านภาพยนตร์ ทำให้โด่งดังในระดับโลก”

“อายุยี่สิบเก้าหนังที่คุณร่วมแสดงจะถูกส่งไปพิจารณาที่ยุโรป ทำให้คุณได้รับรางวัลออสการ์ จากนั้นคุณจะเป็นเบอร์หนึ่งในวงการภาพยนตร์ของประเทศจีน ยินดีด้วยค่ะ”

ซังเย่าจือชะงักไปชั่วขณะ อึ้งไปเล็กน้อย

บอกช่วงเวลาได้เป๊ะมาก

ใช่ว่าเขาจะไม่เคยเล่นไพ่ทาโรต์ แต่ก็ได้แค่คำตอบที่คลุมเครือ

เป็นต้นว่า ‘ในอนาคตงานของคุณจะมีปัญหา ระวังให้ดี’ หรือ ‘เพราะการตัดสินใจที่ผิดพลาดจะทำให้คุณตกที่นั่งลำบาก’ แต่ปัญหาที่ว่าคืออะไรก็ไม่เห็นระบุ

ถึงแม้ซังเย่าจือจะเป็นราชาภาพยนตร์ที่ได้รางวัลโกลด์เด้น ฟลาวเวอร์แล้ว แต่เขากลับไม่กล้าจินตนาการถึงรางวัลออสการ์

“ใบที่สอง พระจันทร์กลับหัว ครึ่งปีให้หลังคุณจะหมดสัญญากับต้นสังกัด หลุดพ้นจากสัญญาที่เอารัดเอาเปรียบ แต่ก่อนหน้านั้นคุณจะถูกขัดขวางจากตงอวิ๋นประธานใหญ่ของพวกคุณ ทั้งหมดสิบสามครั้ง”

“ซึ่งมีเก้าครั้งที่เธอจะยกเรื่องคนในครอบครัวมาขู่คุณ”

แววตาของซังเย่าจือเริ่มจริงจังขึ้น

เขาตระหนักได้ว่า นี่ไม่ใช่การทำนายไพ่ทาโรต์ธรรมดา

ครอบครัวของเขายากจน พ่อพิการ แม่ป่วยหนัก ไม่อย่างนั้นตอนนั้นเขาไม่มีทางขายตัวเองให้บริษัทซิงเฉิน

ตงอวิ๋นประธานบริษัทซิงเฉินรู้เรื่องของเขาดีทุกอย่าง

หากมีคนใหม่ในบริษัทเข้ามาคุยกับเขามากหน่อยก็จะถูกตงอวิ๋นตัดเส้นทางการเป็นดาว ถูกทอดทิ้งอย่างสิ้นเชิง

“ไพ่ใบที่สาม…” อิ๋งจื่อจินชะงักเล็กน้อย ไม่ได้อธิบายไพ่ใบนี้ เธอเหลือบตาขึ้น “คุณซังเหลือเวลากับซิงเฉินแค่ครึ่งปีแล้ว อยากยุติสัญญาเร็วขึ้นไหมคะ”

ซังเย่าจืออึ้งไปชั่วขณะ เห็นได้ชัดว่านึกไม่ถึงว่าอีกฝ่ายจะถามแบบนี้

ผ่านไปสักพักเขาก็ส่ายหน้า ยิ้มพลางถอนหายใจ “ถ้าเร็วได้ก็จะดีที่สุดเลยครับ”

น้ำเสียงเบาจนแทบไม่ได้ยิน “แต่มันจะเป็นไปได้ยังไงล่ะครับ”

ตอนนั้นเซ็นสัญญาสิบปี เขาไม่ได้อ่านรายละเอียดเงื่อนไขเลยด้วยซ้ำ เพราะอยากเลี้ยงครอบครัว

ช่วงหลายปีมานี้เขาหาทนายอ่านสัญญาของเขากับซิงเฉิน ไม่มีสักข้อที่เป็นประโยชน์กับเขา

การยกเลิกสัญญาแทบจะเป็นไปไม่ได้

อิ๋งจื่อจินไม่พูดอะไร หยิบถุงใบเล็กที่คล้ายกับถุงหอมออกมาจากในลิ้นชักแล้วยื่นให้ “ช่วยในการนอนหลับ ช่วงหลายวันนี้ทางที่ดีพกติดตัวไว้นะคะ”

“คุณอิ๋ง ไพ่ใบที่สาม…” ถึงแม้ซังเย่าจือจะสนใจมาก แต่ก็ไม่ได้ถาม “ขอบคุณคุณอิ๋งมากครับ เดี๋ยวผมจะโอนค่าทำนายให้”

“ไม่ต้องค่ะ” อิ๋งจื่อจินเก็บไพ่แล้วพูดขึ้น “อีกไม่กี่วันค่อยว่ากัน”

ซังเย่าจือขอบคุณเสร็จก็ออกจากโรงพยาบาลเซ่าเหริน

อิ๋งจื่อจินนิ่งอยู่สักพักก็ดึง ‘ไพ่หอคอย’ ใบนั้นออกมา

ไพ่หอคอย

ไพ่ใบที่เจ็ดของสำรับใหญ่

ไม่กลับหัว

หมายถึง การถูกโจมตีอย่างรุนแรง

ไพ่หอคอยเป็นไพ่ใบเดียวในสำรับใหญ่ที่ไม่ว่าจะกลับหัวหรือไม่กลับหัวก็มีความหมายที่ไม่ดี

ถูกไพ่ใบนี้เลือกได้ก็หนักพอสมควร

ถึงแม้ตอนนี้การเปลี่ยนแปลงโชคชะตาที่หนักหน่วงแบบนี้จะค่อนข้างยุ่งยากสำหรับเธอ แต่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

อนาคตที่ถูกแก้ไขก็จะไม่ใช่อนาคตอีกต่อไปแล้ว

อิ๋งจื่อจินถูหน้าไพ่ใบนี้ สุดท้ายก็เอามันเก็บเข้ากล่องอีกครั้ง

หลังจากขึ้นไปนั่งบนรถตู้พี่เลี้ยง ซังเย่าจือก็ยังคงมองถุงขนาดเล็กนี้พลางคิดหนัก

เขาหลับไม่ค่อยสบายจริง แต่เขาดมดูแล้วก็ไม่เห็นมีกลิ่นหอมอะไร น่าจะไม่ใช่ถุงหอม

รูปร่างหน้าตาดูธรรมดา คล้ายเครื่องรางที่ขอมาจากวัดมากกว่า

ซังเย่าจือครุ่นคิด สุดท้ายก็เก็บมันเข้าไปในกระเป๋าเสื้อ

อย่างไรซะหมอเทวดาก็ให้มา ต่อให้ไม่เกี่ยวข้องกับการนอนหลับ แต่ก็ต้องช่วยเขาได้แน่นอน

อีกทั้งเขารู้สึกว่าหมออิ๋งไม่ใช่แค่หมอเทวดา เธอยังทำนายแม่นอีกด้วย

“ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าบริษัทคิดอะไรอยู่” ผู้จัดการส่วนตัวที่อยู่ข้างๆ เริ่มบ่น “เย่าจือ นายเป็นราชาภาพยนตร์ ไม่ใช่ไอดอลหรือดาราหน้าใหม่ที่ไม่มีศักยภาพพวกนั้น บริษัทจะให้นายไปร่วมรายการวาไรตี้ประเภทกีฬา บ้าไปแล้ว”

ซังเย่าจืออายุยังน้อยก็จริง แต่สถานะของเขาสูงมาก

หลังจากได้รางวัลโกลด์เด้น ฟลาวเวอร์ของวงการภาพยนตร์ เขาก็ไม่ค่อยได้รับงานละครแล้ว

รายการวาไรตี้เหรอ

แถมยังเป็นประเภทกีฬา

ผู้จัดการส่วนตัวไม่รู้จริงๆ ว่าบริษัทจงใจทรมานซังเย่าจือก่อนที่จะหมดสัญญาหรือเปล่า

แต่มีสัญญากางอยู่ทนโท่ ก็ได้แต่จนปัญญา

“ใกล้แล้ว” ซังเย่าจือส่ายหน้าเล็กน้อย “ครึ่งปีอีกไม่นานหรอก”

ผู้จัดการส่วนตัวขมวดคิ้ว “ฉันว่านะ ถ้าไม่ไหวเราก็แฉสัญญาของบริษัทเลย ถึงแม้แฟนคลับของนายจะเป็นสายใจบุญ ไม่ระรานใคร แต่เรื่องที่เกี่ยวข้องกับนาย พลังทำลายล้างก็สูงอยู่นะ อาจกดดันได้ถึงขั้นซิงเฉินต้องเป็นฝ่ายยกเลิกสัญญาก่อนก็ได้”

พูดถึงแฟนคลับของซังเย่าจือถือเป็นเรื่องแปลกในวงการบันเทิง

ทั้งๆ ที่ซังเย่าจือเป็นหนึ่งในดาราที่โด่งดังอันดับต้นๆ ของวงการบันเทิง แต่พวกแฟนคลับกลับถ่อมตัวมาก ไม่เหมือนแฟนคลับของดาราดังคนอื่นๆ

อาจเพราะแฟนคลับก็เหมือนตัวดารา

“ไม่ได้” ซังเย่าจือตอบด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “ด้วยนิสัยของตงอวิ๋น พี่ก็น่าจะรู้ ผมต้องคำนึงถึงครอบครัวผมด้วย”

ผู้จัดการส่วนตัวถอนหายใจ

ใครจะไปคาดคิด ราชาภาพยนตร์ที่แสนโด่งดังมีชื่อเสียง เบื้องหลังสภาพยังสู้ดาราโนเนมไม่ได้ด้วยซ้ำ

เห็นซังเย่าจือหยิบโทรศัพท์มือถือออกมาล็อกอินเข้าเวยปั๋ว ผู้จัดการส่วนตัวก็ชะโงกหน้าเข้ามาดู “เย่าจือ จะโพสต์อะไรเหรอ”

“คุณอิ๋งช่วยผมไว้มากเหลือเกิน ไม่มีอะไรที่ผมพอทำได้” ซังเย่าจือเงียบไปเล็กน้อย “เลยจะช่วยโปรโมตกิจการของบ้านเธอหน่อย”

แอทซังเย่าจือ : [ผมซื้อหยกมาจากบ้านเกิดนิดหน่อย สุ่มจับรางวัลให้ผู้โชคดีสามท่านครับ]

ด้านล่างมีรูปแนบ เป็นหยกจากเฝ่ยชุ่ยไจ

ความสามารถในการเรียกแขกของดาราแถวหน้าไม่ใช่เล่นๆ เวยปั๋วโพสต์นี้ยังไม่ถึงหนึ่งนาทีก็มีคอมเมนต์ด้านล่างเกินหนึ่งหมื่นแล้ว

[ปู๋จ๋า ราชาภาพยนตร์ที่ปู่ชอบโพสต์เวยปั๋วแล้ว หนูมาเมนต์แทนปู่แล้วนะ]

[พี่ชายแนะนำ ต้องซื้อๆๆ!]

[หยกของเฝ่ยชุ่ยไจอันดับหนึ่งของฮู่เฉิงจริงๆ ควรค่าให้เก็บสะสม มีราคาที่เหมาะกับนักเรียนอย่างพวกเราด้วย ใกล้ถึงวันเกิดแม่ฉันแล้ว ฉันเตรียมซื้อให้แม่เป็นของขวัญ]

[นักเรียนควรซื้อตามกำลังทรัพย์ของตัวเอง หน้าที่ของพวกเธอคือตั้งใจเรียนนะ]

[ทุกคนซื้ออย่างมีสตินะจ๊ะ อย่าหน้ามืด]

แฟนคลับผู้ชายของซังเย่าจือก็มีอยู่ไม่น้อย ถึงขนาดที่เป็นส่วนใหญ่เสียด้วยซ้ำ

กำลังซื้อของแฟนคลับเหล่านี้มองข้ามไม่ได้เลยทีเดียว

ดังนั้นหลังจากที่ซังเย่าจือโพสต์เวยปั๋วโพสต์นี้ ผ่านไปไม่นาน ผู้เฒ่าจงที่ยังอยู่บริษัทได้ฟังเลขาพูดเรื่องเฝ่ยชุ่ยไจได้ออเดอร์มาเกือบหมื่นออเดอร์ก็รู้สึกงงนิดหน่อย

หลังจากที่รู้สาเหตุของเรื่องนี้ ผู้เฒ่าจงก็เข้าเวยปั๋ว แอบกดไลก์ให้ซังเย่าจือเงียบๆ

เนื่องจากซังเย่าจือเป็นคนแนะนำ ซิวอวี่ก็เลยเอาด้วย ซื้อหยกจากเฝ่ยชุ่ยไจมาเต็มไปหมด

อย่างไรซะเธอก็ชอบพ่ออิ๋ง อีกทั้งยังเป็นแฟนคลับซังเย่าจือ ความสุขที่ได้เป็นแฟนคลับของทั้งสองคน คนอื่นไม่เข้าใจหรอก

พอถึงวันศุกร์เธอก็ทำเหมือนตอนปกติ ช่วยดันให้ซังเย่าจือติดอันดับ

ถึงแม้ซังเย่าจือจะเป็นราชาภาพยนตร์แล้ว แต่แฟนคลับอย่างพวกเขาก็ไม่อยากให้ยอดสถิติต่างๆ ดูแย่

แต่วันนี้พอซิวอวี่กดเข้าไปดูในกลุ่มแฟนคลับของซังเย่าจือ เธอก็ถึงกับงง

[โอ้โห ฉันไม่เชื่อ ข่าวปลอม ข่าวปลอมแน่ๆ!]

[ทำไมพี่ชายไม่ออกมาแก้ข่าว รีบออกมาแก้ข่าวสิ!]

[ซิงเฉินแดกขี้กันเหรอ เป็นถึงราชาภาพยนตร์ แต่กลับถูกส่งไปเข้าร่วมรายการวาไรตี้กีฬา นี่มันแกล้งอะไรกันเนี่ย!]

กลุ่มแฟนคลับในเวยปั๋วโกลาหลกันแต่เช้า

ซิวอวี่รู้สึกได้ถึงความไม่ชอบมาพากลอย่างเห็นได้ชัด เธอกดออกทันทีแล้วเข้าตรงคำค้นยอดนิยม

ตอนนี้เป็นเวลาเช้าหกโมงครึ่ง คนที่เล่นเวยปั๋วมีไม่มาก แต่ด้านหลังแฮชแท็กยอดนิยมมีคำว่า ‘ฮอต (Hot)’

#ซังเย่าจือเป็นลม#

ถัดจากแฮชแท็กนี้ยังมีอีกหลายอัน

#ช่วยชีวิตซังเย่าจือ#

#เรื่องไม่คาดฝันตอนอัดรายการ#

หัวใจของซิวอวี่หดเกร็ง ไม่ค่อยกล้ากดเข้าไปดู

แต่พอเลื่อนลงมาข้างล่างก็ยังมีอีกแฮชแท็กที่กำลังไต่อันดับ

#ซังเย่าจือหัวใจหยุดเต้นตายฉับพลัน#

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset