คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 170 ตบหน้า ทรมานอิ๋งลู่เวย

ประโยคเดียวทำให้ตระกูลอิ๋งทั้งสี่คนยังคิดตามไม่ทัน

คนที่สวมชุดยูนิฟอร์มสองคน มีคนหนึ่งก้าวขึ้นหน้าจับตัวอิ๋งลู่เวยไว้

ท่าทางไม่มีความปรานีแม้แต่น้อย ทั้งยังป่าเถื่อน

อิ๋งลู่เวยกำลังรอให้อิ๋งเจิ้นถิงจับอิ๋งจื่อจินกลับมาเพื่อให้เลือดเธอ

เธอย่อมรู้ดีว่าจงมั่นหวาไม่กล้าพูดเรื่องนั้นต่อหน้าแม่ของเธอ เพราะเป็นห่วงสุขภาพของคุณนายผู้เฒ่าอิ๋ง

อย่างไรเสียให้เธอได้เลือดของอิ๋งจื่อจินก่อนค่อยว่ากัน

จากนั้นเธอค่อยติดสินบนพยาบาลสองสามคน ทำให้เกิดเรื่องไม่คาดคิดขณะบริจาคเลือด

พออิ๋งจื่อจินตาย ยังจะเอาเรื่องเมื่อสิบหกปีก่อนมาข่มขู่เธอได้อีกเหรอ

อีกทั้งในใจของอิ๋งเจิ้นถิงกับจงมั่นหวาก็มีตัวแทนของอิ๋งจื่อจินมานานแล้ว ซึ่งตัวแทนนี้ดีกว่าอิ๋งจื่อจินไม่รู้กี่พันกี่หมื่นเท่า

เวลาสามารถเยียวยาทุกสิ่ง

แต่อิ๋งลู่เวยคาดไม่ถึงว่าความคิดนี้ของเธอยังไม่ทันได้เป็นรูปเป็นร่าง คนที่ถูกจับกลับเป็นเธอ

“พวกคุณจะทำอะไร” อิ๋งลู่เวยตกใจทำอะไรไม่ถูก พยายามดิ้นให้หลุด ส่งเสียงกรีดร้อง “บุกรุกเคหสถาน พวกคุณทำผิดกฎหมายอยู่นะรู้ไหม!”

ชายหนุ่มที่อยู่ในชุดยูนิฟอร์มสองคนรูปร่างสูงใหญ่ แรงเยอะ อิ๋งลู่เวยดิ้นให้หลุดได้ที่ไหนกัน

“ทำตัวดีๆ” หัวหน้าคาบบุหรี่หนึ่งมวน แสยะยิ้ม “อย่าคิดว่าคุณเป็นคุณหนูตระกูลอิ๋งก็จะหนีพ้นจากการลงโทษได้ เมื่ออยู่ต่อหน้ากฎหมาย ทุกคนเท่าเทียมกัน ไม่สนหรอกว่าคุณจะเป็นลูกเทวดามาจากไหน”

อิ๋งลู่เวยใจหายวาบ ร้องโวยวายมากกว่าเดิม “พูดอะไรน่ะ ฉันไม่เห็นเข้าใจ ปล่อยฉันนะ!”

พวกมืออาชีพที่เธอหามาบอกว่าคนขับรถบรรทุกจะรับความผิดแทนเธอทั้งหมด ขอแค่เงินถึงเป็นพอ

ต่อให้มีคนสงสัยเธอ แต่เธอก็ไม่มีทางเป็นอะไร

อีกอย่าง นี่เพิ่งผ่านมานานแค่ไหนเอง

ยังไม่ถึงสิบสองชั่วโมงเลยด้วยซ้ำ!

ใครกันเก่งถึงขั้นนี้ สาวมาถึงตัวเธอได้

“ปล่อยลูกสาวฉันนะ!” ในที่สุดคุณนายผู้เฒ่าอิ๋งก็ได้สติกลับมา เลือดในกายพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที เธอตวาดเสียงด้วยความโมโห “พวกคุณรู้หรือเปล่าว่าที่นี่บ้านตระกูลอิ๋ง กล้าทำตัวอุกอาจถึงขนาดนี้!”

“คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งใช่ไหมครับ ในเมื่อคุณเป็นห่วงลูกสาวขนาดนี้ งั้นก็ช่วยเตรียมทนายให้เธอด้วยนะครับ” หัวหน้าเอาบุหรี่ออกจากปาก พูดเสียงเย็นชา “แต่ว่าข้อหาเจตนาฆ่าคน คุณเชิญทนายมาก็ไม่มีประโยชน์”

“เจตนาฆ่าคนเหรอ” จงมั่นหวานึกถึงเรื่องเมื่อสิบหกปีก่อน เธอร้อนรนขึ้นมาทันที “พวกคุณเป็นใครกันแน่ มันเรื่องอะไรกัน!”

อิ๋งเจิ้นถิงขมวดคิ้ว ทันใดนั้นได้พูดขึ้น “พวกคุณเป็นคนของหน่วยอีจื้อ”

หน่วยอีจื้อเป็นหน่วยงานบังคับใช้กฎหมายที่ถูกต้องตามกฎหมาย

แต่หน่วยอีจื้อไม่ค่อยปรากฏตัวมาแต่ไหนแต่ไร พื้นที่เดียวที่มีความเคลื่อนไหวก็คือตี้ตู

อิ๋งลู่เวยก่อเรื่องอะไรไว้กันแน่ ถึงสะเทือนไปถึงหน่วยอีจื้อ

“อ่อ สายตาเฉียบคมไม่เบา” หัวหน้ากลับไม่แม้แต่จะมองอิ๋งเจิ้นถิง เขาโบกมือ “เอาตัวไป!”

ชายหนุ่มที่สวมชุดยูนิฟอร์มสองคนคุมตัวอิ๋งลู่เวยเดินออกไป ปล่อยให้เธอกรีดร้องดีดดิ้น ไม่มีการทะนุถนอมแม้แต่น้อย

คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งโมโหจนมือสั่น “พวกคุณ พวกคุณมันไม่มีความยุติธรรม!”

อิ๋งลู่เวยเป็นลูกสาวของเธอ เธอยังจะไม่รู้อีกเหรอว่าอิ๋งลู่เวยมีนิสัยยังไง

อย่าว่าแต่เจตนาฆ่าคนเลย แค่มดสักตัวยังไม่กล้าเหยียบ

“จริงสิ แล้วก็คุณนายอิ๋ง…” หัวหน้าเดินไปถึงปากประตู ทันใดนั้นก็หยุดลง ยิ้มอย่างเย็นชา “ในเมื่อคุณนายอิ๋งตัดสินใจเลือกแล้ว ถ้าอย่างนั้นต่อไปคุณจื่อจินก็ไม่เกี่ยวข้องกับพวกคุณแล้วนะครับ”

จงมั่นหวาหน้าซีด นึกถึงโทรศัพท์สายนั้นเมื่อวาน ริมฝีปากสั่น “หรือว่าพวกคุณ…”

“คุณนายอิ๋ง วางใจได้ครับ คุณเลือกที่จะปิดบัง พวกเราก็เคารพความคิดของคุณ” หัวหน้าพูดจบก็เดินต่อโดยไม่หันกลับไปมองอีก

“แม่คะ! พี่ใหญ่!” อิ๋งลู่เวยลนลานแล้วจริงๆ ร้องไห้พลางตะโกน “ช่วยด้วย! ช่วยหนูด้วย!”

เธอถูกลากตัวออกไป

คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งโมโหจนหมดสติ

อิ๋งเจิ้นถิงสีหน้าเปลี่ยน ไม่มีเวลาถามจงมั่นหวาว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ เขาเข้าไปประคองคุณนายผู้เฒ่าอิ๋ง “รีบพาไปโรงพยาบาล”

คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งมีห้องผู้ป่วยโดยเฉพาะและหมอเจ้าของไข้อยู่ที่โรงพยาบาลอันดับหนึ่ง

เนื่องจากอาจารย์ของลู่จื่อเคยฝังเข็มระงับอาการปวดหัวให้คุณนายผู้เฒ่าอิ๋ง อาการกำเริบครั้งนี้จึงไม่เป็นอันตรายถึงชีวิต

จงมั่นหวากระวนกระวายใจ จากนั้นก็เห็นอีกด้านหนึ่งของชั้นนี้มีคนที่เธอไม่เคยเห็นล้อมอยู่

บุคลิกสุขุม แต่งตัวดูก็รู้ว่าไม่ธรรมดา

จงมั่นหวาพูดอย่างลังเล “วันนี้เกิดอะไรขึ้นเหรอคะ”

“พวกคุณไม่รู้เหรอคะ” พยาบาลแขวนน้ำเกลือให้คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งพลางตอบ “เมื่อวานเย็นเกิดอุบัติเหตุรถชนที่ถนนฝั่งจือ คนบาดเจ็บคือคุณชายเจ็ดตระกูลฟู่ ผู้เฒ่าฟู่โมโหมาก บอกว่าจะเอาเรื่องฆาตกรให้หนัก”

“ทางตี้ตูมีตระกูลที่สนิทกับผู้เฒ่าฟู่ใช่ไหมล่ะคะ นี่ก็เลยมาเยี่ยมโดยเฉพาะ”

เรื่องพวกนี้แวดวงตระกูลเศรษฐีต่างรู้กันหมด พยาบาลจึงไม่ได้ปิดบัง

จงมั่นหวาพยักหน้า ไม่ได้ถามต่อ

ในเมื่อเป็นเรื่องของตระกูลฟู่ งั้นก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเธอ

เธอเม้มริมฝีปาก พูดอย่างยากลำบาก “เจิ้นถิง ที่ฉันเรียกคุณกลับมาเพราะสืบได้แล้วว่า…ตอนนั้นคนที่เอาลูกสาวของเราไปทิ้งก็คือลู่เวย”

อิ๋งเจิ้นถิงกำลังห่มผ้าให้คุณนายผู้เฒ่าอิ๋ง พอได้ยินแบบนั้นก็หันขวับ “คุณว่าไงนะ”

“เจิ้นถิง ฉันรู้ว่าคุณไม่เชื่อ” จงมั่นหวาขอบตาแดงขึ้นมาอีกครั้ง “ฉันเองก็ไม่เชื่อเหมือนกัน แต่หลักฐานแน่นหนา”

อิ๋งเจิ้นถิงมองไปรอบๆ ก่อน พูดเสียงเบา “คุณได้เล่าเรื่องนี้ให้ใครฟังอีกหรือเปล่า”

จงมั่นหวาส่ายหน้า “ฉันไม่รู้ว่าควรจัดการยังไงดีเลยไม่ได้พูด”

“อย่าเพิ่งพูดออกไป” อิ๋งเจิ้นถิงนวดขมับ “พวกเราต้องคิดแผนรับมือ”

อิ๋งลู่เวยขโมยหลานสาวแท้ๆ ออกไปทิ้ง นี่เป็นข่าวฉาวที่ใหญ่มากอย่างไม่ต้องสงสัย

ทางที่ดีจัดการกันเงียบๆ ดีกว่า

อีกด้านหนึ่ง มู่เฮ่อชิงออกจากโรงพยาบาลไปขึ้นรถมายบัค

“คุณท่าน พาตัวมาแล้วครับ” มู่เฉิงพูดอย่างนอบน้อม “คุณชายเจ็ดจะมาด้วย แต่ถูกผมห้ามไว้”

“ทำได้ดี” มู่เฮ่อชิงทำเสียงฮึดฮัด “เจ้าเด็กนั่นชอบทำให้ปวดหัวตั้งแต่เด็ก เมื่อก่อนก็เจ็บตัวทุกวัน เล่นเอาฉันที่แก่ปูนนี้ยังต้องพาเขาไปรักษาในวงการแพทย์แผนโบราณ”

พอได้ยินมู่เฮ่อชิงพูดแบบนี้ มู่เฉิงก็เกิดความสงสัย แต่เขารู้ว่าถามไม่ได้

เขาหมุนพวงมาลัยรถ เริ่มออกรถ จากนั้นก็พูดขึ้นมาอีกครั้ง “จริงสิครับคุณท่าน ตอนที่ผมออกมาจากห้องพักคุณชายเจ็ด ผมเห็นคุณอิ๋งเข้าไปด้วย”

“คนที่เป็นโรคที่น่าสงสารสองคน” มู่เฮ่อชิงถอนหายใจ พูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉย “บางครั้งก็เหมือนกองไฟที่ให้ความอบอุ่นซึ่งกันและกัน”

มู่เฉิงฟังแล้วก็งง เขาเลยหุบปากดีกว่า

มู่เฮ่อชิงคิด “เจ้าเด็กตระกูลเนี่ยคนนั้นก็มาด้วยหรือเปล่า”

“นั่งเครื่องบินมาถึงตอนบ่ายครับ” มู่เฉิงตอบ “ครั้งนี้หน่วยอีจื้อออกโรง คุณชายเนี่ยที่เป็นหัวหน้าไม่มีทางไม่มาครับ”

ทั้งสองคนพูดถึงเนี่ยอี้

“อืม ก็ดี” มู่เฮ่อชิงพยักหน้า “หมอนี่ฝีมือโหด ฉันยังสู้ไม่ได้ มีเขาอยู่ คนผิดตายยังดีกว่าอยู่”

ภายในห้องผู้ป่วย

มือขวาของอิ๋งจื่อจินถือชามโจ๊ก มืออีกข้างถือช้อน กำลังป้อนโจ๊กบำรุงให้ฟู่อวิ๋นเซิน

ถึงแม้แขนขวาของเธอจะกระดูกร้าว แต่ก็ไม่ถึงกับหัก

บวกกับเธอมียาของตัวเอง คืนเดียวก็ดีขึ้นแล้ว

ผู้เฒ่าฟู่ยิ้มตาหยีมองดู มีความสุขเหลือเกิน

ถ้าไม่ติดว่าอิ๋งจื่อจินยังไม่ถึงเกณฑ์อายุที่แต่งงานตามกฎหมายได้ เขาจะไปเรียกเจ้าหน้าที่เขตมาให้สองคนนี้เดี๋ยวนี้เลย

ดูสิ เหมาะสมกันขนาดไหน

ผู้เฒ่าฟู่แอบเสียใจนิดหน่อย

เมื่อก่อนเพราะเขาสุขภาพไม่ดี พร้อมจะจากไปได้ทุกเมื่อ คิดแค่ว่าอยากหาคู่ที่เป็นคุณหนูชาติตระกูลดีมาให้ฟู่อวิ๋นเซิน

นึกไม่ถึงว่าครอบครัวที่เขาหามา คุณหนูคนนั้นไม่แม้แต่จะเจอหน้าฟู่อวิ๋นเซินสักครั้งก็หนีไปแต่งงานกับฟู่อี้หันหลานชายคนโตเสียแล้ว

ทำให้ฟู่อวิ๋นเซินถูกพวกคุณชายในฮู่เฉิงหัวเราะเยาะอยู่นาน จนกระทั่งทุกวันนี้ก็ยังเอาเรื่องนี้มาล้ออยู่

ถ้ารู้ว่าตัวเองยังกลับมาแข็งแรงได้ ผู้เฒ่าฟู่ไม่มีทางจับคู่ให้แบบนั้นเป็นอันขาด

ผู้เฒ่าจงรู้สึกปวดใจ “จื่อจิน เขาไม่มีมือเหรอ หลานให้เขากินเองสิ”

“เอ๊ะ ตาจง หมายความว่าไง” ผู้เฒ่าฟู่กำลังมีความสุข ชักไม่พอใจ “ไม่ว่ายังไงเจ้าเจ็ดก็ช่วยจื่อจินไว้ ป้อนแค่นี้จะเป็นอะไรไป”

คำพูดนี้ทำเอาผู้เฒ่าจงเถียงไม่ได้ ทำได้เพียงอดกลั้นไว้

ฟู่อวิ๋นเซินทนไม่ไหว หัวเราะออกมา

เขาหัวเราะไหล่สั่น สะเทือนไปถึงบาดแผล

อิ๋งจื่อจินเงยหน้า

เธอวางชามลง ยื่นมือออกไป จากนั้นก็กดเข้าที่จุดลมปราณตรงช่วงท้องของเขาโดยมีเสื้อกั้นไว้

“แค่กๆๆ…” ฟู่อวิ๋นเซินไอออกมาอย่างไม่ทันตั้งตัว เขาเหลือบมองเธอ “เด็กน้อย พี่ชายจำได้ว่าเคยบอกแล้ว ห้ามแตะถูกเอวกับท้องของผู้ชายส่งเดช”

“ไม่ได้แตะส่งเดช” อิ๋งจื่อจินหยิบชามขึ้นมาอีกครั้ง พูดอย่างใจเย็น “ช่วยรักษาให้”

ฟู่อวิ๋นเซิน “…”

ได้

ในสายตาของหมอ อันที่จริงเขากับตูตูไม่มีอะไรแตกต่างกัน

ผู้เฒ่าจงทนดูต่อไปไม่ไหว หันตัวเดินออกไป

ผู้เฒ่าฟู่ก็ไม่อยากอยู่เป็นกขค.ตามออกไปด้วยอีกคน

ผู้เฒ่าจงนั่งที่เก้าอี้ด้านนอก หยิบโทรศัพท์มือถือออกมาอ่านข่าว

หน้าหลักปรากฏเวยปั๋วโพสต์หนึ่ง

ผู้เฒ่าจงล้วงแว่นสายตายาวออกมาใส่แล้วเริ่มอ่าน

เขาคุ้นเคยไอดีที่โพสต์เวยปั๋ว ตอนนั้นเคยช่วยลงคลิปวิดีโอยืนยันความบริสุทธิ์ให้อิ๋งจื่อจิน

แอทเรียกข้าว่าจอมยุทธ์ศัตรูพ่าย : [อิ๋งลู่เวยไฮโซสาวอันดับหนึ่งแห่งฮู่เฉิงเคยทำอะไรลงไปบ้าง วีรกรรมเยอะจนพูดไม่หมด คัดเอาที่เด่นๆ มาแล้วกัน]

ด้านล่างมีสามภาพ มีทั้งหลักฐานที่เป็นลายลักษณ์อักษรและภาพถ่าย

ภาพแรก อิ๋งลู่เวยอาศัยโครงการให้ทุนการศึกษาของเจียงมั่วหย่วนหาคลังเลือดมีชีวิตให้ตัวเองอย่างไร

ภาพที่สอง อิ๋งลู่เวยจ้างคนขับรถชนอิ๋งจื่อจิน รวมถึงสารพัดเรื่องที่เคยแอบทำร้ายอิ๋งจื่อจินตอนอยู่ในตระกูลอิ๋ง

ภาพที่สาม เมื่อสิบหกปีก่อน ตอนอิ๋งลู่เวยแปดขวบเคยขโมยหลานสาวตัวเองออกจากบ้านไปโยนทิ้งข้างทาง ทั้งยังขายให้พวกค้ามนุษย์

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset