คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 200 นี่ต่างหากต้นฉบับ สมองตื้อไปเลย!

เซี่ยมั่นอวี่เคยเป็นดาราเด็ก เริ่มถ่ายละครตั้งแต่แปดขวบ

หากคำนวณอย่างละเอียด ปีนี้เธอเดบิวต์มาเป็นปีที่ยี่สิบสี่แล้ว

เมื่อสามปีก่อนเธอประสบความสำเร็จได้เป็นราชินีภาพยนตร์จากผลงานเรื่องศิลาไร้จารึก

อีกทั้งยังได้รางวัลโกลเด้น ฟลาวเวอร์และรางวัลโกลเด้น รูสเตอร์พร้อมกัน

ได้รับการยกย่อง

ในเรื่องศิลาไร้จารึกเซี่ยมั่นอวี่แสดงเป็นพระนางบูเช็กเทียน

วัยสาว วัยกลางคน และวัยชรา สามช่วงชีวิตที่สำคัญนี้เธอแสดงคนเดียว

ไม่ว่าจะเป็นความเด็ดเดี่ยวในวัยสาว หรือความยิ่งใหญ่หลังจากขึ้นครองราชย์ เซี่ยมั่นอวี่ก็เล่นได้สมบทบาท

บทนี้ครองใจของทุกคนมาก ตอนนี้ยังมีแฟนคลับจำนวนไม่น้อยที่เรียกเธอว่าฝ่าบาท

ลั่วจื่อเย่ว์เองก็รู้ว่าเมื่อชื่อของเธออยู่กับเซี่ยมั่นอวี่นั่นก็เท่ากับความซวยขั้นสูง

ต่อให้เธอจะกล้าเหยียบย่ำใครก็ไม่กล้ายุ่งกับเซี่ยมั่นอวี่

แต่ตอนนี้โอกาสมาแล้ว

เดิมทีเป็นเพราะเรื่องที่โรงถ่ายเหิงเตี้ยนครั้งก่อน ทำให้เธอไม่ได้ทำงานมาเดือนกว่า

เธอพยายามเอาใจคุณชายตี้ตูคนนั้น ช่วงนี้ถึงได้ติดต่อเธอมา บอกให้เธอไปเดินแบบที่ยุโรป

ถึงแม้จะไม่ให้เงินแม้แต่น้อย แต่ลั่วจื่อเย่ว์ก็ยินดี

ใครจะรู้ว่าโชคกลับเข้าข้าง เซี่ยมั่นอวี่สวมชุดราตรีหงส์แดงที่เป็นของลอกเลียนแบบ

“เร็ว รีบโพสต์เรื่องนี้เร็วเข้า “ ลั่วจื่อเย่ว์ตื่นเต้นมาก จับมือผู้จัดการส่วนตัว “โอกาสดี ฉันจะกลับมาดังอีกแล้ว”

ดาราใหญ่ข่มดารารุ่นน้องเป็นเรื่องที่ชาวเน็ตชอบที่สุด

ขอเพียงแต่เอามาใช้ประโยชน์ให้ดี เธอก็สามารถเหยียบเซี่ยมั่นอวี่ให้จมดินได้

“ใจเย็นก่อน” ผู้จัดการส่วนตัวขมวดคิ้ว “เซี่ยมั่นอวี่อยู่ในวงการมากี่ปีแล้ว มีเหรอจะไม่รู้ว่าการลอกเลียนแบบผลงานร้ายแรงแค่ไหน และนี่ก็ไม่ใช่เหตุการณ์ชุดซ้ำแบบทั่วไปด้วย”

เมื่อเทียบกับรูปของเซี่ยมั่นอวี่ รูปที่ลั่วจื่อเย่ว์โพสต์เมื่อห้าวันก่อนต่อให้จะแต่งรูปสวยขนาดไหนก็ดูเหมือนคนใช้

“เพราะว่าชื่อเสียงของฉันไม่ดัง เซี่ยมั่นอวี่ถึงได้รู้ว่าถ้าเลียนแบบแล้วฉันก็ทำอะไรไม่ได้” ลั่วจื่อเย่ว์ไม่คิดแบบนั้น “โชคดีที่ครั้งนี้พวกเราโพสต์เร็ว ไม่อย่างนั้นฉันถูกขังลืมแน่นอน”

ขณะที่ผู้จัดการส่วนตัวกำลังจะพูดอะไรต่อ ลั่วจื่อเย่ว์ก็ยิ้ม “อีกทั้งคุณชายเคอก็บอกแล้วว่านี่เป็นฝีมือการออกแบบของบริษัทบ้านเขา”

“ต่อให้สถานะของเซี่ยมั่นอวี่จะสูงขนาดไหน ก็อยู่แค่ในวงการบันเทิงเท่านั้น ถ้าพวกลูกหลานเศรษฐีกวักมือเรียก ไม่ว่าเซี่ยมั่นอวี่จะยโสแค่ไหนก็ต้องก้มหัวให้”

คุณชายเคอก็คือหลานชายของเคอฮุ่ยจู ชอบรับเลี้ยงดาราสาวๆ ลั่วจื่อเย่ว์ไม่ใช่แค่คนเดียว

ลั่วจื่อเย่ว์เห็นผู้จัดการส่วนตัวยังคงลังเลก็เริ่มหงุดหงิด “งั้นฉันทำเอง”

เธอใช้แอ๊กเคานท์เชิงพาณิชย์โพสต์เวยปั๋วว่าเซี่ยมั่นอวี่รังแกเธอ จากนั้นก็ใช้เวยปั๋วของตัวเองโพสต์บ้าง

แอทลั่วจื่อเย่ว์ : [นึกไม่ถึงว่าเด็กหน้าใหม่อย่างฉันจะมีรุ่นพี่ให้ความสำคัญขนาดนี้ แต่รุ่นพี่ทำแบบนี้เกินไปหรือเปล่าคะ ฉันเป็นเด็กใหม่ยังไงก็ขวางเส้นทางของรุ่นพี่ไม่ได้อยู่แล้ว (น้อยใจ)]

พอโพสต์นี้ออกไป บรรดาแฟนคลับของลั่วจื่อเย่ว์ก็โกรธมาก

แฟนคลับเหล่านี้ส่วนใหญ่อายุยังน้อย โดยเฉพาะพอเห็นแอ๊กเคานท์เชิงพาณิชย์ก็โพสต์ด้วย จึงแห่กันไปรุมที่เวยปั๋วของเซี่ยมั่นอวี่

“ลั่วอะไรเนี่ยผมไม่เห็นเคยได้ยินชื่อ” ผู้จัดการส่วนตัวของเซี่ยมั่นอวี่โมโหจนหัวเราะ “กล้าดีมาจากไหนถึงพูดแบบนี้”

“ไม่เป็นไร” เซี่ยมั่นอวี่ยักไหล่ “เมื่อก่อนฉันเคยเจอมากกว่านี้ด้วยซ้ำ”

“ไอดอลที่เลอะเลือนถึงขั้นนี้ก็กล้ามาเหยียบคุณเพื่อขึ้นตำแหน่งได้เนอะ” ผู้จัดการส่วนตัวโมโห “ผมจะไปจัดการเรื่องแผนรับมือก่อน”

เขาลุกขึ้นเดินออกไป ไม่กี่นาทีก็วกกลับมา “มั่นอวี่ บริษัทบอกว่าบอสต้องการให้คุณตอบ คุณลองดูนะจะตอบเอง หรือจะยังไง”

“ให้บริษัทตอบ” เซี่ยมั่นอวี่ไม่ลังเลเลยสักนิด “เรื่องที่บริษัทช่วยได้ ฉันขอไม่ทำแล้วกัน”

ผู้จัดการส่วนตัวพยักหน้าแล้วตอบเลขาสาว

หลังจากเลขาสาวได้ข้อความก็พูดขึ้น “บอสคะ ราชินีภาพยนตร์เซี่ยบอกว่ายกสิทธิ์จัดการทั้งหมดให้บอสค่ะ”

อิ๋งจื่อจินมองดูแล้วแชร์โพสต์เวยปั๋วของลั่วจื่อเย่ว์ พร้อมใส่ข้อความ

แอทชูกวงมีเดีย : [หลบไปนอนข้างๆ เธอไม่คู่ควรแม้กระทั่งเป็นหินรองส้นเท้า]

ผู้จัดการส่วนตัวกับเซี่ยมั่นอวี่ที่เห็นโพสต์นี้ “?”

บอสของพวกเขาออกจะโหดและออกจะปกป้องลูกน้องมากไปหน่อย

เซี่ยมั่นอวี่ปิดโทรศัพท์เงียบๆ แล้วหันไปพูด “จะว่าไปฉันเพิ่งเสร็จงานจากต่างประเทศ ยังไม่เคยเจอบอสคนใหม่ เสี่ยวซัง นายเคยเจอแล้วนี่ ผู้หญิงหรือผู้ชายเหรอ”

ซังเย่าจือจนปัญญา “เพศเดียวกับรุ่นพี่ครับ”

ไม่เพียงแต่เซี่ยมั่นอวี่จะมีสถานะที่สูงมากในวงการ คนที่ตามจีบเธอก็มีไม่น้อยด้วยเช่นกัน

แต่ราชินีภาพยนตร์เซี่ยเป็นผู้หญิงเก่ง มาตรฐานสูง จึงเป็นโสดมาจนถึงตอนนี้

“น่าเสียดายจัง” เซี่ยมั่นอวี่ถอนหายใจหนักหน่วง แววตาหม่นลง ท่าทางห่อเหี่ยว “อุตส่าห์เกิดความคิดอยากจะแต่งงาน”

เธอเงยหน้าพูดพึมพำ “เด็กสาวสมัยนี้เท่ได้ขนาดนี้เลยเหรอ…”

เวลาหนึ่งทุ่ม

ภายในหอประชุมใหญ่ของชิงจื้อ

จอฉายภาพยนตร์เลื่อนลงตรงกลางเวที

เครื่องฉายโปรเจ็คเตอร์ที่อยู่ด้านบนถูกเปิด ฉายบรรยากาศงานถ่ายทอดสดการเดินแบบรอบตัดสินครั้งนี้

นี่เป็นเรื่องที่คุณนายจงไปขอทางโรงเรียนโดยเฉพาะ หลังจากที่ทราบว่าจงจือหว่านถูกคุณนายมู่เชิญไปยุโรป

จงจือหว่านสร้างหน้าให้เธอ ก็ย่อมต้องป่าวประกาศออกไปให้มากหน่อย

ขอเพียงแต่ไม่ส่งผลต่อการใช้ชีวิตและการเรียนของนักเรียน ทางชิงจื้อก็จะทำตามความต้องการของนักเรียนและผู้ปกครองเสมอ

นักเรียนคลาสเด็กอัจฉริยะมากันหมดแล้ว นักเรียนคลาสอื่นๆ ก็มากันอยู่ไม่น้อย

เพื่อนนักเรียนไปรับรางวัลในงานประกวดออกแบบเครื่องแต่งกายครั้งใหญ่ที่เป็นงานระดับแนวหน้าแบบนี้ พวกเขาก็รู้สึกภาคภูมิใจด้วย

กลับกลายเป็นว่าการมาของห้องสิบเก้าทำให้นักเรียนคนอื่นๆ ต่างตะลึง

เจียงหรานยืดขายาวๆ ออกไปขวางทางไว้เต็มที่

ซิวอวี่เหยียบเท้าของเขา “หลบให้เจ๊กับพ่อของนาย รวมถึงตูตูเดี๋ยวนี้”

เจียงหราน “…”

หึ เขาไม่มีที่ยืนในครอบครัวแล้ว

“พ่ออิ๋ง นั่งกัน” ซิวอวี่ตบที่นั่งข้างๆ “ในที่สุดเธอก็ถูกฉันป้ายยาลูกจ๋าสำเร็จ”

ครั้งก่อนหลังจากที่ซังเย่าจือฟื้นจากความตาย เธอยังได้ไปส่งเขากลับบ้าน

หลังจากที่เห็นสภาพครอบครัวของเขาที่แท้จริง ความรักของคนเป็นแม่ (ยก) อย่างเธอก็ยิ่งเอ่อล้นมากขึ้น

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า มองจอที่อยู่ข้างหน้า

การถ่ายทอดสดเริ่มแล้ว กล้องถ่ายไปที่คณะกรรมการและแขกที่เชิญมาก่อน

“ดูสิ! รีบดูนั่น!” เพื่อนร่วมโต๊ะเรียนของจงจือหว่านตะโกนด้วยความดีใจ “นั่นไงจือหว่าน!”

วันนี้จงจือหว่านสวมชุดกระโปรงสีขาว ดูเข้ากับวัยของเธอพอดี

เธอนั่งอยู่ตรงตำแหน่งของนักออกแบบ ตอนที่กล้องไล่ถ่ายไป เธอนั่งหลังตรงขึ้นมาทันที

จงจือหว่านจับมือแน่น ตื่นเต้นจนเหงื่อออก

แต่อารมณ์ของเธอกลับพลุ่งพล่านอย่างยากจะหาใดเปรียบ พอคิดว่าอีกเดี๋ยวเธอก็จะได้เข้าวงการไฮโซของตี้ตูแล้ว เธอก็ไม่สามารถควบคุมรอยยิ้มบนใบหน้าได้

“ลำดับถัดไปเป็นของหวาซิ่วที่มาจากประเทศจีน มาในชุดสไตล์ตะวันออก….” พิธีกรบนเวทีถือข้อมูลอยู่ในมือพลางประกาศ “ชุดหงส์แดงครับ!”

“เชิญครับ”

เสียงดนตรีดังขึ้น เสียงปรบมือเกรียวกราว

ลั่วจื่อเย่ว์ค่อยๆ เดินออกมาจากหลังม่าน ย่างก้าวกรุยกราย

ใบหน้าของเธอถูกแต่งอย่างประณีต เขียนขอบตาลึก ก็ถือว่าเอาชุดนี้อยู่เช่นกัน

“อาครับ ผมตาถึงใช่ไหมล่ะ” เด็กหนุ่มที่นั่งข้างเคอฮุ่ยจูภูมิใจมาก “แค่กวักมือเรียกก็มีแรงงานฟรีๆ ให้ใช้”

“ก็ดี” พอได้ยินเสียงฮือฮาของผู้ชม เคอฮุ่ยจูก็พอใจ แต่ก็พูดเตือน “แต่หลานอย่าได้พาดาราเล็กๆ พวกนี้มาที่บ้านเชียวนะ พ่อของหลานไม่มีทางอนุญาตหรอก”

เด็กหนุ่มตอบส่งเดช “รู้แล้วครับ ผมก็แค่เล่นๆ”

เดินโชว์พร้อมนำเสนอชุดใช้เวลาแค่หนึ่งนาทีกว่า บรรดาผู้ชมยังคงตะลึงชุดที่สะดุดตาหรูหราชุดนี้

มาช่าที่อยู่ตรงที่นั่งกรรมการหยิบไมโครโฟนขึ้นมา “ตอนนี้ขอเชิญนักออกแบบของหวาซิ่ว คุณจงจือหว่าน ตอบคำถามของฉันหน่อยนะคะ”

นี่เป็นขั้นตอนปกติ

จะมีการให้คะแนนเป็นการเฉพาะตามที่นักออกแบบเข้าใจเรื่องการออกแบบ

คุณนายจงสังเกตเห็นว่าจงจือหว่านดูตื่นเต้น จึงส่งสายตาปลอบให้ลูกสาว

จงจือหว่านเอามือจับที่หน้าอกแล้วยืนขึ้น ผุดรอยยิ้มที่สง่างาม “ฉันคือจงจือหว่านค่ะ เชิญถามค่ะ”

“ชุดแนวนี้พบเห็นได้บ่อยมาก แต่การออกแบบของคุณกลับแปลกใหม่และใจกล้า” มาช่ามองเธอ “ตอนที่คุณออกแบบชุดนี้มีแรงบันดาลใจและแนวคิดมาจากอะไรคะ”

“เป็นที่ทราบกันดีว่าหงส์แดงเป็นหนึ่งในสัตว์เทพของตำนานเทพทางตะวันออก” จงจือหว่านโล่งอก เธออธิบาย “และธาตุไฟก็เป็นหนึ่งในห้าธาตุ ฉันจึงใช้สีแดงที่เข้มอ่อนแตกต่างกันไปค่ะ”

“ส่วนลวดลายตรงคอ…”

จงจือหว่านอธิบายรวดเดียวห้านาที หลังจากพูดจบกลับพบว่ามาช่าไม่ได้มีสีหน้าตื่นเต้นหรือยินดีใดๆ

ยังคงมองเธออยู่แบบนั้น ราวกับรู้ทุกอย่าง

จงจือหว่านใจหายวาบ

“สุดยอดๆ” แขกรับเชิญที่อยู่ด้านล่างเวทีไม่รู้ความจริง มีแต่คำชื่นชม “อายุน้อยขนาดนี้ก็มีพรสวรรค์ในการออกแบบสูงขนาดนี้ ต่อไปเรียนจบยินดีต้อนรับเข้ามาทำงานในบริษัทของเราครับ”

คุณนายจงจำได้ตั้งแต่แวบแรกว่าคนที่พูดคือผู้อำนวยการฝ่ายออกแบบของหนึ่งในห้าร้อยบริษัทที่แข็งแกร่งระดับโลก เธอพอใจมาก

เธอรู้ว่าลูกสาวที่เธออบรมสั่งสอนมาโดดเด่นที่สุดในบรรดาเด็กรุ่นเดียวกัน

จงจือหว่านตะลึง “ขอบคุณค่ะ”

“คำถามที่สอง ปกติสี่สัตว์เทพจะต้องมาพร้อมกัน” มาช่าพูดขึ้นอีกครั้ง “ทำไมคุณถึงออกแบบแค่หงส์แดงล่ะคะ”

“เพราะฉันยังเป็นนักเรียนอยู่ มีเวลาไม่มากค่ะ” จงจือหว่านยิ้ม “ออกแบบทันแค่ชุดเดียว ต่อไปถ้ามีเวลาฉันจะออกแบบอีกสามชุดค่ะ”

“คำถามสุดท้าย” สายตาของมาช่าทอประกายเฉียบคม “คุณแน่ใจนะคะว่าคุณเป็นคนออกแบบชุดนี้”

หัวใจของจงจือหว่านเต้นแรงกว่าเดิม เธอเม้มริมฝีปาก พูดอย่างแน่วแน่ “ค่ะ!”

“ดีค่ะ” ทันใดนั้นมาช่าก็ยิ้มออกมา “ฉันหมดคำถามแล้วค่ะ”

จงจือหว่านนั่งลงอีกครั้ง ในที่สุดก็ไม่ได้กังวลขนาดนั้นแล้ว

แต่หลังของเธอเหงื่อออกท่วม เธอเตรียมออกไปเข้าห้องน้ำ

แต่ทันใดนั้นเองพิธีกรก็เริ่มประกาศผลงานชุดถัดไป

“บังเอิญมากครับ เป็นบริษัทที่มาจากประเทศจีนเช่นกัน แต่ทุกท่านน่าจะคุ้นหูกันดีอยู่แล้ว” เขามองโพยในมือแล้วยิ้มอย่างมีเลศนัย “ชูกวงมีเดีย นักออกแบบของพวกเขาส่งผลงานเข้ามาเร็วที่สุด แต่ทางคณะกรรมการตะลึงมากที่สุดหลังจากได้เห็น ก็เลยเอามาไว้เป็นชุดสุดท้ายครับ”

“ขอเชิญชุดที่นักออกแบบจากชูกวงมีเดียตั้งใจรังสรรค์ สี่สัตว์เทพในตำนานครับ”

ชื่อคุ้นจนทำให้เท้าของจงจือหว่านหยุดชะงัก

ขณะเดียวกันผู้ชมทั้งหมดก็ส่งเสียงฮือฮายิ่งกว่าเดิม

จงจือหว่านเงยหน้าขึ้น มองไปยังเวทีรูปตัวที

วี้ สมองของเธอตื้อไปหมด

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset