คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 204 จงจือหว่านบ้าไปแล้ว

วันเวลาคือตีสองของวันนี้

เว็บบอร์ดของชิงจื้อใช้นามแฝงหมด ดังนั้นพวกนักเรียนก็ไม่รู้ว่าใครเป็นคนโพสต์กระทู้

[ห้วข้อ : จงจือหว่านใช้สิทธิพิเศษของหัวหน้าฝ่ายสภานักเรียนหยิบเอาภาพเขียนอักษรของอิ๋งจื่อจินไป]

[รายละเอียด : ทุกคนยังจำเทศกาลศิลปะตอนเดือนมีนาคมกันได้ไหม ที่โรงเรียนเชิญปรมาจารย์เก่งๆ จากหลายวงการมา แม้แต่ประธานเซิ่งก็มาด้วย

ตอนนั้นหลินสี่บอกว่าอิ๋งจื่อจินลอกเลียนแบบผลงานของเว่ยโฮ่ว สุดท้ายก็พิสูจน์ได้ว่าอิ๋งจื่อจินเป็นคนเขียนภาพนั้น

ทุกคนจะต้องสงสัยแน่นอนว่า ทำไมบนภาพเขียนของอิ๋งจื่อจินถึงได้มีตราประทับของเว่ยโฮ่ว

ความจริงก็คือ จงจือหว่านเห็นภาพเขียนของอิ๋งจื่อจินก่อนการตัดสินรางวัล กลัวว่าตัวเองจะถูกแย่งที่หนึ่งไป ก็เลยเอาภาพเขียนที่เข้าร่วมประกวดของอิ๋งจื่อจินไปหาเว่ยโฮ่ว

เว่ยโฮ่วก็เป็นคนที่เคยขโมยผลงานคนอื่น สองโจรร่วมมือกัน น่าขยะแขยงสิ้นดี

ถ้าตอนนั้นไม่มีรูปถ่ายของประธานเซิ่ง พวกเขาก็จะบรรลุเป้าหมาย

ฉันขอรับรองได้ว่าข้อมูลที่เปิดเผยเป็นความจริง นี่เป็นคำบอกเล่าที่มาจากปากของเว่ยโฮ่วกับหลินสี่เอง พวกเขาสองคนเป็นพยานได้]

พอเวยปั๋วโพสต์นี้ปรากฏก็มีกระแสระลอกใหม่ขึ้นมาทันที

[กลัวตัวเองถูกแย่งที่หนึ่ง ก็เลยขโมยผลงานของคนอื่น เป็นคนยังไง]

[เดี๋ยวนะๆ ฉันนึกชื่ออิ๋งจื่อจินออกแล้ว รู้สึกคุ้นหู ดูเหมือนจะเป็นคุณหนูสายนอกที่ตอนนั้นจงซื่อกรุ๊ปพูดถึงหรือเปล่า]

[เข้าใจแล้ว การแก่งแย่งชิงดีของพวกคนรวย แต่ตัวเองเป็นถึงคุณหนูใหญ่จะไปชิงดีกับคุณหนูสายนอกทำไม ไม่ได้ขัดผลประโยชน์กันสักหน่อย ปรองดองเป็นพี่น้องกันไม่ดีกว่าเหรอ]

[ไม่ๆๆ ยังมีอีกปัญหาหนึ่ง คุณหนูสายนอกคนนี้ไม่ใช่ญาติแท้ๆ เป็นลูกเลี้ยงของตระกูลอิ๋ง ก็ยิ่งไม่เกี่ยวข้องกันเข้าไปใหญ่ ทำไมจงจือหว่านต้องทำแบบนั้นด้วย]

ในขณะที่ชาวเน็ตกำลังวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างออกอรรถรส สมาคมศิลปะอักษรพู่กันแห่งประเทศจีนที่ไม่ค่อยโพสต์เวยปั๋วก็ได้แชร์โพสต์นี้

แอทสมาคมศิลปะอักษรพู่กันแห่งประเทศจีน : [เป็นจริงตามนั้น]

เนื่องจากจงจือหว่านถึงกับกล้าคัดลอกผลงานไปส่งประกวดแข่งออกแบบเครื่องแต่งกายในระดับนานาชาติ ชาวเน็ตจึงไม่แปลกใจกับเรื่องนี้เท่าไรแล้ว

แต่เว็บบอร์ดของชิงจื้อกำลังระเบิด

[โอ้โห! ตาสว่างเลยครับท่าน นี่ฉันไปยกย่องคนแบบนี้ว่าเป็นนางฟ้าได้ยังไงเนี่ย ตาถั่วของแท้]

[ปกติมองไม่ออก จิตใจของจงจือหว่านโหดร้ายขนาดนี้เลยเหรอ]

[อยู่ๆ ก็นึกขึ้นมาได้ว่า เมื่อก่อนจงจือหว่านมักพูดถึงอิ๋งจื่อจินว่าอย่างนั้นอย่างนี้ จงใจสินะ]

[อะไรนะ ยัยนี่เอาเทพอิ๋งของฉันไปว่าด้วยเหรอ]

[คารวะเทพอิ๋ง ขอให้สอบได้ 730 ทุกครั้ง!]

[เลิกพูดเรื่องนี้เถอะ มีใครอยากลงขันซื้อกระถางธูปด้วยกันไหม ฉันว่าจะไปห้องสิบเก้าแอบถ่ายรูปเทพอิ๋งมาปริ๊นท์แปะไว้ที่ผนัง ฉันจะโดนไล่เตะออกมาไหม]

[ชัวร์ นายได้ถูกพี่หรานเอากระสอบคุมหัวในคืนเดือนมืดลากไปอัดแน่]

ลูกน้องพิมพ์ตอบเสร็จก็โมโห “จงจือหว่านทำเกินไปจริงๆ โชคดีที่ตอนนั้นมีหลักฐาน”

อิ๋งจื่อจินกำลังพิงหน้าต่างพักสายตา

พอได้ยินแบบนั้นก็ลืมตาขึ้น สายตามองไปที่เจียงหรานกับซิวอวี่ “พวกเธอเหรอ”

“ไม่ใช่อยู่แล้ว” ซิวอวี่รู้ความหมายของเธอ ผายมือออก “ฉันกับเจียงหรานไม่รู้เบื้องลึกเบื้องหลังของเรื่องนี้ด้วยซ้ำ มีเรื่องแบบนี้ด้วยเหรอ”

เจียงหรานดื่มน้ำแล้วกินยาหนึ่งเม็ด ข่มความหงุดหงิด “ถ้ารู้นะ ไม่จับคลุมด้วยกระสอบลากไปอัดนานแล้วเหรอ”

อิ๋งจื่อจินหลุบตาลง ขี้เกียจจะไปตามสืบ

เธอพิงหน้าต่าง ก้มหน้าเล็กน้อยดูโทรศัพท์มือถือ

เนื่องจากไอดีโค้กชานมเฟรนช์ฟรายส์ได้สร้างความวุ่นวายในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคอยู่ไม่น้อย เธอจึงไม่คิดจะใช้แล้ว จึงลงทะเบียนแอ๊กเคานท์ใหม่อีกครั้ง

ไอดี (ID) : คนชี้ทาง

ระดับ : เอ (A)

อิ๋งจื่อจินก็ไม่ได้ปั่นแต้มสะสมการใช้งาน เธอเข้าไปโดยตรง

ไอดีเทพพยากรณ์เป็นหนึ่งในสี่ไอดีแรกเริ่มของเว็บบอร์ดเอ็นโอเค มีสิทธิพิเศษมากมาย จะปล่อยไอดีไหนเข้ามาก็ได้

ในเมื่อเธอกลับมาใช้มันแล้ว ดึงดูดความสนใจของเพื่อนเก่าไปแล้ว งั้นเธอจะใช้มันอีกก็ไม่เป็นอะไร

อิ๋งจื่อจินกดเข้าโซนซื้อขาย

รูปแบบของโซนนี้ไม่เหมือนโซนล่ารางวัล บรรดานักล่าที่อยู่อันดับต้นๆ ของชาร์ตส่วนใหญ่ไม่มีทางมาเปิดดู เว้นเสียแต่มีความจำเป็นพิเศษ

โซนซื้อขายเป็นสถานที่ซื้อขายสินค้าของบรรดาผู้ใช้งาน สมุนไพรที่ไม่ได้หายากมากก็จะอยู่ในนี้

อิ๋งจื่อจินครุ่นคิด จากนั้นก็โพสต์กระทู้

[ซื้อขาย]

ขายสินค้าดังต่อไปนี้

มาร์คหน้าขาวใส 7 วันเห็นผล ครบทุกขั้นตอน 1888 หยวน

ยาสระผมกระตุ้นการเกิดผม 3 วันเห็นผล ขวดละ 199 หยวน

ยารักษาไต 5 วันเห็นผล กล่องละ 6666 หยวน

ไม่ได้กำหนดราคาสูงมาก ผู้ใช้งานที่อยู่ในเว็บบอร์ดเอ็นโอเคก็ไม่ได้ยากจน

อีกทั้งของแบบนี้เป็นของใช้ในชีวิตประจำวัน ไม่นานก็ขายได้หนึ่งพันชุด

เนื่องจากผู้ใช้งานส่วนใหญ่เลือกที่จะซ่อนตัวตน ดังนั้นการซื้อขายในโซนนี้ผู้ขายจะต้องส่งสินค้าไปยังจุดที่สมาพันธ์ลับกำหนดไว้ก่อน จากนั้นสมาพันธ์ลับก็จะนำไปส่งอีกที

ได้ยินว่าบริการขนส่งของสมาพันธ์ลับดีมาก สั่งซื้อตอนเช้า ตอนบ่ายได้ของ แถมยังส่งถึงหน้าบ้าน

ขณะที่อิ๋งจื่อจินกำลังจะล๊อกเอ๊าออก ทันใดนั้นก็มีกล่องข้อความเด้งขึ้นมา

10 : [ทำไมยังสมัครไอดีใหม่อีก]

คนชี้ทาง : [?]

10 : [ขอโทษ ไม่เพียงแต่ฉันจะลบตัวเองออกจากการเป็นเพื่อน ยังตัดมือทิ้งด้วยนะ]

ผ่านไปไม่กี่วินาทีทางนั้นก็ทนไม่ไหวขึ้นมาอีก

10 : [เมื่อไรจะได้เจอกัน]

คนชี้ทาง : [?]

10 : [ขอโทษ ฉันลืมว่าเธอตายไปแล้ว]

ตอนหนึ่งทุ่มจงจือหว่านถึงกลับมาถึงฮู่เฉิง

ตลอดทางเธอแทบไม่กล้าเงยหน้า

ถึงแม้คนทั่วไปส่วนใหญ่จะจำเธอไม่ได้ เธอก็ยังคงรู้สึกว่าพวกเขามองเธอด้วยสายตาแปลกๆ อยู่ดี

ไม่เคยมีความรู้สึกแบบนี้มาก่อน

จนกระทั่งกลับถึงคฤหาสน์ตระกูลจง ในที่สุดเส้นประสาทที่ตึงเครียดมาตลอดก็ผ่อนคลายลง

แต่ยังไม่ทันที่เธอจะได้นั่งลงเธอก็ถูกตบเข้าอีกหนึ่งฉาด

เพียะ เสียงดังสนั่น

คุณนายจงเป็นคนตบ

จงจือหว่านเอามือจับหน้า กัดริมฝีปาก หลั่งน้ำตาเงียบๆ

“แกดูซิ ตอนนี้สภาพแกเป็นแบบไหนแล้ว” คุณนายจงระบายความโกรธที่เก็บไว้ออกมา ใส่อารมณ์สั่งสอนอย่างเต็มที่ “จงจือหว่าน แกมันใช้ไม่ได้รู้ตัวไหม!”

เธอตั้งใจเลี้ยงดูจงจือหว่านเพื่ออะไร

ถ้าไม่ใช่เพื่อให้จงจือหว่านได้เข้าวงการชนชั้นสูงอย่างแท้จริง

แต่ตอนนี้เรื่องที่จงจือหว่านคัดลอกผลงานได้รู้กันในวงกว้างแล้ว แบบนี้จะไปอยู่ตี้ตูได้อย่างไร

“ความทุ่มเทของฉันมันสูญเปล่าแล้ว!” คุณนายจงยิ่งคิดก็ยิ่งโมโห “จงจือหว่าน แกรู้สึกผิดต่อฉันบ้างไหม รู้สึกผิดที่หลายปีมานี้…”

“หุบปากเดี๋ยวนี้!”

เสียงตวาดด้วยความโมโหดังมาจากชั้นบน

คุณนายจงตกใจ รีบเงยหน้าขึ้น

ผู้เฒ่าจงเดินลงมาจากชั้นสอง “เธอยังจะมีหน้ามาพูดอีกเหรอ หว่านหว่านอายุแค่นี้ เธอเอาอะไรใส่หัวหลานสาวของฉันบ้าง”

คุณนายจงพูดไม่ออก

เธอฝืนยิ้ม “ท่านผู้เฒ่า”

“ไห่เหยียนใสซื่อ ตอนนั้นถูกเธอใช้มารยา” ผู้เฒ่าจงมองเธอ “ฉันเห็นแก่หว่านหว่าน ไม่อยากเห็นหลานสาวที่เพิ่งเกิดไม่นานไม่มีแม่ ถึงได้ให้เธออยู่ต่อ”

จงไห่เหยียนเป็นลูกชายคนที่สามของผู้เฒ่าจง และเป็นพ่อของจงจือหว่าน

สมองของคุณนายจงตื้อขึ้นมาทันที

“อย่าคิดว่าตัวเองเสแสร้งได้แนบเนียน คิดว่าฉันไม่รู้อะไรทั้งนั้น” ผู้เฒ่าจงตบโต๊ะ “ฉันรู้หมดทุกอย่าง ตอนนี้ ขอโทษเดี๋ยวนี้”

ใบหน้าของคุณนายจงร้อนผ่าว “แต่เรื่องมาถึงขนาดนี้แล้ว ขอโทษยังจะมีประโยชน์อะไรล่ะคะ”

“ไม่มีประโยชน์ก็ไม่ขอโทษงั้นเหรอ” ผู้เฒ่าจงโมโหจนแสยะยิ้ม “หว่านหว่านเดินมาถึงขั้นนี้ได้ก็เพราะมีแม่ที่ขี้อิจฉาฟุ้งเฟ้ออย่างเธอยังไงล่ะ”

จงจือหว่านยังคงร้องไห้ แต่พอฟังถึงตรงนี้ในใจก็เริ่มมีความหวัง “คุณปู่…”

ใช่ ผู้เฒ่าจงจะต้องมีวิธีแก้ปัญหาแน่นอน!

แต่ทว่าผู้เฒ่าจงกลับไม่พูดอะไรอีก หันหน้าเดินจากไป

พ่อบ้านจงที่อยู่ด้านหลังถอนหายใจ “คุณหนูใหญ่ ตั้งใจสำนึกผิดเถอะครับ ท่านผู้เฒ่าทำอะไรได้ก็ทำให้หมดแล้ว ครั้งนี้ช่วยปกป้องไม่ได้จริงๆ ครับ”

ถึงแม้จะเกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้แล้ว แต่ก็ยังคงต้องไปเรียน

จงจือหว่านรู้ว่าถ้าเธอไม่แม้แต่จะเรียน เธอก็คงไม่เหลืออะไรจริงๆ แล้ว

อย่างน้อยอาศัยเรื่องเรียนเธอก็ยังสามารถเข้ามหาวิทยาลัยตี้ตูได้

รออีกไม่กี่ปีที่ทุกคนลืมเรื่องนี้ ก็จะไม่ส่งผลอะไรต่อเธออีก

ดังนั้นเธอจึงจัดการความรู้สึกอย่างรวดเร็ว วันต่อมาสะพายกระเป๋าไปโรงเรียน

แต่พอเข้าคลาสเด็กอัจฉริยะ จงจือหว่านก็รู้สึกได้ถึงความผิดปกติ

สายตาที่เพื่อนๆ มองมาดูแปลกไป โดยเฉพาะเพื่อนผู้หญิงที่มีความสัมพันธ์ดีกับเธอ ดูรังเกียจแบบที่ไม่ปิดบังแม้แต่น้อย

จงจือหว่านใจคอไม่ดี “พวกเธอ…”

“จงจือหว่าน ฉันล่ะนึกเสียใจที่เคยเล่นกับเธอ” นักเรียนหญิงเพื่อนร่วมโต๊ะได้ย้ายโต๊ะของตัวเองไปนั่งด้านหลังแล้ว “ใครจะรู้ว่าวันหนึ่งเธอจะแทงฉันข้างหลังหรือเปล่า”

“นั่นสิ เรียกน้องอย่างนั้นน้องอย่างนี้ แต่ลับหลังก็ไปขโมยภาพเขียนของเขา”

“คนแบบนี้ฉันไม่ยอมรับเป็นหัวหน้าห้องหรอกนะ”

พอได้ยินเพื่อนพูดแบบนี้ ในที่สุดจงจือหว่านก็เข้าใจแล้วว่าเรื่องอะไร

เรื่องเทศกาลศิลปะในตอนนั้น!

เธอกระชากโทรศัพท์มือถือของนักเรียนชายที่อยู่ข้างๆ เปิดอ่านกระทู้ทั้งที่มือสั่น

เลือดในกายพลุ่งพล่านขึ้นมาทันที เส้นเลือดที่คอปูดจนแทบระเบิด

มันเรื่องอะไรกัน

ทำไมถึงมีคนเปิดโปงเรื่องนี้!

“เธอเอาโทรศัพท์ของคนอื่นไปได้ยังไง” นักเรียนชายโมโห พูดประชด “เมื่อก่อนเธอแสร้งทำทั้งนั้นสินะ”

จงจือหว่านถอยหลังไปหนึ่งก้าว หน้าซีดยิ่งกว่าเดิม

คนที่เคยชื่นชอบเธอถึงกับใช้สายตาแบบนี้มองเธอ

เพื่อนสนิทของเธอก็ถอยห่างจากเธอราวกับเธอเป็นขยะ

จงจือหว่านทนไม่ไหวอีกต่อไป เธอยังจะมีอารมณ์อยู่ในห้องต่อไปได้อย่างไร เธอเก็บของแล้วเดินออกไป

พอเดินออกจากประตูก็เจออิ๋งเย่ว์เซวียนที่เพิ่งไปเติมน้ำเสร็จกลับมา

อิ๋งเย่ว์เซวียนอึ้ง “จือหว่าน ทำไมจะไปแล้วล่ะ ยังไม่เลิกเรียนเลยนะ”

จงจือหว่านกลั้นน้ำตา ไม่สนใจอิ๋งเย่ว์เซวียน เดินต่อไปข้างหน้า

แต่ทันใดนั้นเธอก็หยุดลง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาทั้งที่หันหลังให้อิ๋งเย่ว์เซวียน “เธอเป็นคนโพสต์กระทู้นั้นใช่ไหม”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset