คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 263 ฟ้าครึ้มเฝิงเจ๊ง เทพอิ๋งจะดังแล้ว

ทางตระกูลซิวส่งข่าวนี้มา นายใหญ่ตระกูลเฝิงย่อมไม่มีทางสงสัยเรื่องจริงเท็จ

ตระกูลซิวเป็นตระกูลใหญ่ในตี้ตู ไม่มีความจำเป็นต้องโกหก

เพียงแต่การแข่งขันไอเอสซี นายใหญ่ตระกูลเฝิงกลับไม่รู้เรื่อง และไม่ได้ใส่ใจ อีกทั้งไม่ใช่คนของตระกูลมู่หรือตระกูลเนี่ย ตระกูลเฝิงของเขามีตระกูลซิวหนุนหลัง อยู่ตี้ตูยังจะต้องกลัวใครอีก

“คุณท่านครับ เกรงว่าตอนนี้จะไม่ได้ครับ” พ่อบ้านเฝิงรีบพูดขึ้น “ผมสืบดูแล้ว ไอเอสซีเป็นงานแข่งขันวิทยาศาสตร์ระดับโลก นักเรียนที่อยู่ค่ายติวนั้นมีครึ่งหนึ่งที่อยู่โครงการปกป้องอัจฉริยะครับ”

“โครงการปกป้องอัจฉริยะเหรอ” นายใหญ่ตระกูลเฝิงสีหน้าเปลี่ยน “อิ๋งจื่อจินอะไรนี่ก็อยู่ด้วยเหรอ”

ถ้าอยู่ งั้นตระกูลเฝิงก็คงแตะต้องไม่ได้

อย่าว่าแต่ตระกูลเฝิงเลย ตระกูลซิวก็ไม่กล้า

“เธอไม่ได้อยู่ครับ” พ่อบ้านเฝิงตอบ “เพียงแต่ตอนนี้ทางสถานีโทรทัศน์กลางต้องมาบันทึกภาพภายในค่ายติวเพื่อทำรายการมีนักข่าวกับช่างภาพมากันหลายคน ถ้าตอนนี้ไปลักพาตัวเธอออกมาสายตาหลายคู่จับจ้องเกรงว่าจะไม่ดีครับ”

ตอนนี้กระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเน็ตมีอิทธิพลมาก ถ้าถูกเห็นเข้าถึงแม้พวกเขาจะมีอำนาจไม่เกรงกลัว แต่ก็สู้กระแสวิจารณ์ไม่ไหวเหมือนกัน

โดยเฉพาะมีสถานีโทรทัศน์กลางอยู่ด้วย ที่นั่นมีทั้งสถานีกระจายเสียงและภาพ

“งั้นก็รอตอนเย็น” นายใหญ่ตระกูลเฝิงขมวดคิ้วครุ่นคิด

“พวกเขาไม่มีทางเก็บภาพทั้งวันทั้งคืน รอคนของสถานีโทรทัศน์พักผ่อนก่อนค่อยให้คนเข้าไป”

ช่วงนี้ตระกูลเฝิงกำลังคุยธุรกิจกับบริษัทขนาดกลางของยุโรป อยู่ในช่วงสำคัญ อย่าสร้างความยุ่งยากให้มากจะดีกว่า

“ครับคุณท่าน” พ่อบ้านเฝิงพยักหน้า “เตรียมคนไว้เรียบร้อยแล้วครับ ลักพาตัวเด็กผู้หญิงคนเดียวไม่ใช่ปัญหา”

พวกเขาย่อมไม่มีทางคิดว่าอิ๋งจื่อจินคนเดียวจะทำร้ายเฝิงฮว่ากับพวกคุณชายได้ คิดว่าเธอเรียกคนอื่นมาช่วย นายใหญ่ตระกูลเฝิงมีสีหน้าหนักใจ ขณะที่กำลังจะพูดอะไรต่อก็เห็นพยาบาลคนหนึ่งรีบร้อนเดินออกมาจากห้องไอซียู

“คนไข้ฟื้นแล้วค่ะ ญาติเข้าไปเยี่ยมได้นะคะ”

พอได้ยินแบบนี้นายใหญ่ตระกูลเฝิงก็ทิ้งเรื่องอื่นทันที รีบเข้าไปดูเฝิงฮว่าชนิดที่แทบทนรอไม่ไหว พ่อบ้านก็ย่อมตามเข้าไปติดๆ พอเข้าไปนายใหญ่ตระกูลเฝิงก็ต้องตะลึง ไม่อยากเชื่อสายตาตัวเอง

ภายในห้องไอซียู

เฝิงฮว่านอนอยู่บนเตียงผู้ป่วย สองขาถูกพาดไว้ แขนขาเข้าเฝือกทั้งหมด

เหมือนมัมมี่

ศีรษะของเขาก็ถูกพันผ้าไว้หลายชั้น ทั้งยังมีเลือดซึมออกมาให้เห็น

น่าสงสารจับใจ

“ฮว่าเอ๋อร์” นายใหญ่ตระกูลเฝิงเดินเข้าไปเรียกด้วยเสียงอันสั่นเครือ “เป็นไงบ้างลูกพ่อ ยังพูดได้อยู่ไหม”

คล้ายกับได้ยินเสียงของนายใหญ่ตระกูลเฝิง เฝิงฮว่ากลอกตาไปมา

เขาอยากพูด แต่ก่อนหน้านี้ถูกอิ๋งจื่อจินซ้อมจนหน้าบวมจมูกเขียว เย็บไปหลายสิบเข็ม แม้แต่ลิ้นก็แทบขยับไม่ได้ทำได้เพียงส่งเสียงอู้อี้

นายใหญ่ตระกูลเฝิงรู้ว่าเฝิงฮว่าชอบเที่ยวสนุก

ทว่าแต่ไหนแต่ไรมาเฝิงฮว่าไม่เคยทำให้เขาเดือดร้อน และก็ไม่มีทางไปหาเรื่องคนที่ตระกูลเฝิงจัดการให้ไม่ได้

นี่เป็นครั้งแรกที่เฝิงฮว่าถูกทำร้ายจนเป็นแบบนี้

“ฮว่าเอ๋อร์ อย่าเพิ่งพูดเลยลูก” นายใหญ่ตระกูลเฝิงก็ไม่กล้าให้เฝิงฮว่าพูด “พ่อขอถามอะไรหน่อย ถ้าใช่ลูกก็กะพริบตานะ”

เฝิงฮว่ากะพริบตา

“เด็กสาวที่ชื่ออิ๋งจื่อจินเป็นคนทำร้ายลูกจนมีสภาพนี้ใช่ไหม”

เฝิงฮว่าทำตาโตก่อนแล้วถึงกะพริบตา

อันที่จริงเขาไม่ใช่คนที่ถูกซ้อมนานที่สุด เพราะตอนแรกอิ๋งจื่อจินเอาขวดไวน์ตีหัวเขา เขาก็สลบไปหลายนาที

พวกคุณชายคนอื่นต่างหากที่ถูกอัดไปยี่สิบกว่านาที จนหมดสติไป

ถ้าเขารู้ว่าอิ๋งจื่อจินจะถนัดใช้ความรุนแรงแบบนี้ มีเหรอที่เขาจะอยากยุ่งกับเธอ

ต่อให้มีความกล้าเต็มร้อยก็ไม่กล้าอยู่ดี

“โอเค ฮว่าเอ๋อร์” หลังจากที่นายใหญ่ตระกูลเฝิงแน่ใจ สีหน้าก็เย็นชาลง “วางใจได้ พ่อต้องล้างแค้นให้ลูกแน่นอน พ่อสั่งให้คนไปรออยู่นอกค่ายติวไอเอสซีอะไรนั่นแล้ว พอคนอื่นไปหมดพ่อก็จะลักพาตัวเด็กคนนั้นให้มาคุกเข่าขอโทษลูก”

พอได้ยินแบบนี้ทันใดนั้นเฝิงฮว่าก็เริ่มอารมณ์พลุ่งพล่าน พยายามจะลุกขึ้น แต่เขาเจ็บจนขยับไม่ไหว

เขาทำได้เพียงเบิกตาโพลง แต่ไม่กล้ากะพริบตาแล้ว

“ฮว่าเอ๋อร์ พ่อรู้ว่าลูกโกรธมาก” นายใหญ่ตระกูลเฝิงคิดว่าลูกชายโมโห จึงพูดปลอบ “ลูกก็แค่อยากเล่นสนุกกับเด็กคนนั้นไม่ใช่เหรอ ไว้ลูกหายดีเมื่อไรเล่นให้ตายไปเลยยังได้”

“พักผ่อนเยอะๆ นะลูก พ่อจะช่วยล้างแค้นให้เอง”

พูดจบนายใหญ่ตระกูลเฝิงก็สาวเท้าออกจากห้องผู้ป่วยไป ทิ้งพ่อบ้านเฝิงไว้ดูแลเฝิงฮว่า

“อื๊อๆ!” เฝิงฮว่าอารมณ์พลุ่งพล่านหนักกว่าเก่า “อื๊อๆ!”

ถ้าไม่ติดว่าเขาถูกยึดไว้กับเตียง เขาจะไปขวางพ่อตัวเองแน่นอน

เขาได้ยินชื่อ ‘มู่เฮ่อชิง’ ตอนที่โดนอัด

มู่เฮ่อชิง นั่นคือคนกุมอำนาจของตระกูลมู่เลยนะ!

ตระกูลเฝิงร้อยตระกูลก็ไม่มีทางเทียบตระกูลมู่ได้!

ส่วนอิ๋งจื่อจินก็เป็นคนที่มู่เฮ่อชิงปกป้อง

เขายังจะกล้าล้างแค้นอะไรอีกล่ะ

เดิมทีเฝิงฮว่ากะว่า พอหายดีจะไปคุกเข่าขอขมาลาโทษด้วยซ้ำ

“คุณชายใจเย็นๆ ครับ” พ่อบ้านเฝิงจับเขาไว้

“กระดูกของคุณชายเพิ่งจะเชื่อมต่อกัน ต้องพักผ่อนมากๆ ครับ”

เขาแอบถอนหายใจอยู่ในใจ

ดูท่าครั้งนี้คุณชายของพวกเขาจะโกรธแค้นมากจริงๆ

เฝิงฮว่าทั้งร้อนใจทั้งโมโห จนจะร้องไห้แล้ว

เขากะพริบตาไม่หยุด ถลึงตาไม่หยุด เสียงร้องไห้ก็มีมาอย่างต่อเนื่อง

แต่ท่าทางเหล่านี้ของเขาไม่เพียงแต่จะทำให้พ่อบ้านเข้าใจความหมายไม่ได้ พ่อบ้านกลับลนลาน กดปุ่มเรียกที่หัวเตียง

“หมอครับหมอ เกิดอะไรขึ้นกับคุณชายไม่รู้ครับ รีบมาดูหน่อยเร็ว”

พ่อบ้านเฝิงพยักหน้าต่อเนื่อง “งั้นก็รบกวนด้วยครับ”

ยานอนหลับถูกฉีดเข้าร่างกายของเฝิงฮว่า ขาของเขากระตุกเล็กน้อย หลับตาลงอย่างสิ้นหวัง

จบแล้วคราวนี้จบเห่จริงๆ แล้ว

สำนักงานหน่วยอีจื้อ

หัวหน้าทีมสองวางเอกสารลงบนโต๊ะพลางพูด

“นี่เป็นคดีทั้งหมดของตระกูลเฝิง พวกเดนนี่หลบซ่อนดีมาก ทำอะไรระมัดระวังรอบคอบ แต่ก็เจอเรื่องสีเทาหลายอย่าง น่าจะได้เวลาแล้วล่ะ”

ในเรื่องธุรกิจหรือเรื่องอื่นๆ ตระกูลเฝิงทำได้ใสสะอาดมากจริงๆ หากไม่จับตาดูสืบให้ละเอียดก็จะไม่พบเห็นปัญหาอะไร

หน่วยอีจื้อมีคนไม่มากพอ ถ้าไม่ได้เกี่ยวพันถึงเรื่องใหญ่ พวกเขาก็ไม่มีเวลาสืบเชิงลึก

“นับตั้งแต่รู้จักคุณอิ๋ง พวกเราก็ทำงานมีประสิทธิภาพมากขึ้น” หัวหน้าทีมสามทำเสียงซี้ด

“เล็งเป้าไปที่ใครแม่นทุกราย”

“มีคำพูดหนึ่งพูดไว้ว่าไงนะ” หัวหน้าทีมสองคิด “ฟ้าสว่างแล้ว เอาให้แซ่หวังมันล้มละลาย”

พอเขาพูดจบก็ถูกหัวหน้าทีมสามเหยียบเท้า “แซ่หวังอะไรล่ะ นั่นแซ่เฝิง!”

“อ่อๆ ฟ้าครึ้มเฝิงเจ๊ง!” หัวหน้าทีมสองตบต้นขาหนึ่งฉาด

“ฉันจะไปบอกหัวหน้า พวกเราส่งทีมไปได้ก่อนหกโมงเย็น”

หน่วยอีจื้อบังคับใช้กฎหมายก็ต้องอ้างอิงหลักฐานเช่นเดียวกัน

“แล้วคนที่ตระกูลมู่ส่งมาให้ล่ะ” หัวหน้าทีมสามถาม “หัวหน้าได้บอกไหมให้ทำไง”

“โง่เหรอ” หัวหน้าทีมสองเหยียบเท้าคืน “เรื่องเล็กแบบนี้ยังต้องถึงมือหัวหน้าเหรอ คอยดูเถอะ สอบประเมินปลายปีช้าเร็วนายต้องถูกลดขั้นเพราะระดับไอคิวของตัวเองแน่”

“…”

ค่ายติวไอเอสซี

ตลอดการติวของวันนี้ซิวเหยียนเอาแต่เหม่อลอย

แต่พวกศาสตราจารย์ก็รู้ว่าการที่เธอมาค่ายติวนี้ได้สาเหตุส่วนหนึ่งเป็นเพราะตระกูลซิวออกหน้า จึงไม่ได้ยุ่งด้วยเท่าไร

ระหว่างพักซิวเหยียนมองไปทางเถิงอวิ้นเมิ่งแล้วขมวดคิ้ว จะหมดวันแล้วแต่ตระกูลเฝิงกลับยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไร คงไม่ได้กลัวหรอกนะ และเรื่องที่ทำให้ซิวเหยียนหงุดหงิดที่สุดคือ นักข่าวกับช่างกล้องที่สถานีโทรทัศน์กลางส่งมาทำเหมือนไม่เห็นเธอ เอาแต่ถ่ายอิ๋งจื่อจิน

ซิวเหยียนละสายตา สีหน้าเย็นชา

เถิงอวิ้นเมิ่งกับเฟิงเย่ว์ไม่สนใจซิวเหยียน ไม่ได้มองเธอ

“เทพอิ๋ง เธอจะดังแล้วนะ!” เฟิงเย่ว์หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา

“วันนี้รายการเทปแรกออกอากาศตอนห้าโมง ดูสิเธอมีดีทั้งหน้าตาทั้งสมอง แถมยัง…”

เขากลืนน้ำลาย “แถมยังรวย! แบบนี้มันเพียบพร้อมทุกอย่างเลยนะ!”

อิ๋งจื่อจินใส่หูฟังกำลังฟังเพลงอยู่ พอได้ยินก็ถอดออกหนึ่งข้าง “ไม่ ฉันไม่รวย”

หยุดเล็กน้อย เธอถามต่อ “รายการเหรอ”

“ใช่ รายการจะฉายแล้ว” เถิงอวิ้นเมิ่งพยักหน้า

“เพราะการแข่งขันรอบคัดเลือกวันแรกจะเริ่มวันพรุ่งนี้แล้ว สถานีโทรทัศน์กลางก็เลยเร่งตัดต่อ จะได้รีบปล่อยเทปแรก ตั้งชื่อรายการว่า ฉลาดแบบนี้ยกนิ้วให้เลย!”

อิ๋งจื่อจินจับหัว “ชื่อรายการเหมือนช่ององุ่นซะมากกว่า”

“ช่างเขาเถอะ” เถิงอวิ้นเมิ่งเปิดโทรศัพท์มือถือด้วยความตื่นเต้น “ติวเสร็จพอดี พวกเรามาดูกัน”

ห้าโมงฉายในเน็ต หกโมงเย็นยังมีฉายทางโทรทัศน์

เถิงอวิ้นเมิ่งกดเปิดแอปพลิเคชันของสถานีโทรทัศน์กลางแล้วเปิดรายการ

ตอนนี้เวลา 16.55 น. เริ่มมีคนเข้ามาแล้ว

เนื่องจากครั้งนี้ทำการประชาสัมพันธ์ไปมาก ผู้ชมที่รอดูออนไลน์จึงมีมากถึงห้าล้านคนแล้ว ทั้งยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง

[รอชม อยากสัมผัสความรู้สึกสยบให้คนฉลาด]

[มีเพื่อนในโรงเรียนฉันด้วย จะเล่าให้ฟัง เขาเป็นอัจฉริยะแบบที่ว่าเข้าเรียนเป็นหลับกลับบ้านยังนอน แต่ก็ยังสอบได้ที่หนึ่ง]

แน่นอนว่าผู้ชมที่เยอะที่สุดคือแฟนคลับของซิวเหยียน

พวกเธอยึดพื้นที่คอมเมนต์บนเวยปั๋ว ข้อความเลื่อนบนหน้าจอก็ด้วยเช่นกัน

[เบบี๋เหยียนก็คือเบบี๋เหยียนอยู่วันยังค่ำ สวยสุดในบรรดาคนไอคิวสูง ไอคิวสูงในบรรดาคนหน้าตาดี นอกจากเบบี๋เหยียนแล้วยังจะมีใครที่ทั้งสวยทั้งฉลาดได้แบบนี้อีก]

[นั่นสิ ไม่มีใครเทียบสองอย่างนี้กับเบบี๋เหยียนในเวลาเดียวกันได้อีกแล้ว ไม่คู่ควรๆ]

[นั่งรอ]

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset