คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 269 ฮือฮาไปทั้งโลก! จับมือกันแล้ว

ในชั่วขณะนี้ ไม่ว่าจะเป็นนักเรียนที่กำลังทำโจทย์ หรือพวกอาจารย์ที่จดบันทึกอันดับคะแนน ต่างก็เห็นชาร์ตคะแนนรวมที่เพิ่งอัปเดตอย่างชัดเจน

โดยเฉพาะอันดับหนึ่ง แถมยังทำตัวหนาเน้นสีแดงเป็นพิเศษ

อันดับที่หนึ่ง : ชื่อผู้ใช้งานถูกซ่อน จีน สี่ร้อยห้าสิบหก คะแนน

อันดับที่สอง : อแมนด้า สหรัฐอเมริกา สามร้อนห้าสิบสอง คะแนน

อันดับหนึ่งกับอันดับสองห่างกันถึง หนึ่งร้อยสี่ คะแนน!

ทั้งๆ ที่เมื่อสิบนาทีก่อนอันดับหนึ่งยังเป็นอแมนด้า

เหลือเชื่อเกินเบอร์ไปมาก

“นี่ใครกัน” อาจารย์สองคนของโรงเรียนเอลานมองหน้ากัน ตะลึงขั้นสุด “โผล่มาจากไหน”

พวกเขาไม่เห็นอันดับหนึ่งเปลี่ยนแปลงมาตั้งแต่เวลาห้าทุ่มสิบห้านาที

ต่อให้อัจฉริยะขนาดไหนก็ไม่มีทางทำโจทย์ได้มากขนาดนี้ภายในเวลาสิบนาที

“ประเทศจีน” อาจารย์คนหนึ่งมองสัญชาติบรรทัดที่สอง คิ้วเริ่มขมวดเข้าหากัน

“พวกเด็กหัวกะทิทั้งหมดของประเทศจีนได้โควตาเข้ารอบนานาชาติ แล้วคนนี้เป็นใครกันแน่”

ชื่อผู้ใช้งานถูกซ่อน ก็แสดงว่าคนที่ทำโจทย์ไม่อยากให้ชื่อจริงปรากฏ

ยิ่งทำให้พวกเขาฟันธงไม่ได้ว่าอันดับที่หนึ่งเป็นใคร

ก็เหมือนกับที่จั่วหลีเอาข้อมูลของไอริน่าให้อิ๋งจื่อจินดู ข้อมูลของเถิงอวิ้นเมิ่ง เฟิงเย่ว์ และนักเรียนคนอื่นๆ ก็ถูกส่งไปให้แต่ละประเทศเช่นกัน

“ไม่สมเหตุสมผล” อาจารย์อีกคนก็คิ้วขมวด “คะแนนนี่มันพิลึกมาก ลองถามทางคณะกรรมการดูว่ามันเกิดอะไรขึ้นกันแน่”

ถึงแม้จะเป็นเวลาเช้ามืด แต่อาจารย์ทั้งสองคนก็ยังคงส่งข้อความไปถามกลุ่มศาสตราจารย์ประเทศอังกฤษ ทางด้านประเทศอังกฤษก็มีค่ายติวเหมือนกัน รับผิดชอบโดยเหล่าศาสตราจารย์ของมหาวิทยาลัยเฮลก้า

มหาวิทยาลัยเฮลก้าเป็นมหาวิทยาลัยอันดับสองของโลก สถานะในระดับนานาชาติและงานค้นคว้าวิชาการย่อมมีมากกว่ามหาวิทยาลัยตี้ตูไม่รู้ตั้งเท่าไร

แต่อันที่จริงมหาวิทยาลัยเฮลก้าก็มีคุณสมบัติเพียงพอที่จะถูกเรียกเป็นอันดับหนึ่งของโลกได้

แน่นอนว่านี่เป็นระหว่างมหาวิทยาลัยปกติทั่วไปด้วยกัน

อย่างไรเสียคณะสาขาที่แท้จริงของมหาวิทยาลัยนอร์ตันก็ไม่ใช่คณะที่คนปกติเรียนกัน

เห็นได้ชัดว่าทางด้านกลุ่มศาสตราจารย์ก็ให้ความสนใจอันดับหนึ่งคนใหม่เหมือนกัน ตอบกลับอย่างรวดเร็ว

[พวกคุณกดที่ชื่อผู้ใช้งานก็จะเห็นเวลาที่ผู้สมัครใช้ทำโจทย์กับจำนวนข้อที่ทำไป ทางเราดูแล้วพบว่าผู้สมัครคนนี้เริ่มทำโจทย์ตอนสี่ทุ่มครึ่งจนถึงเที่ยงคืน เธอไม่ได้ทำโจทย์ปกติ แต่ตอบโจทย์เสริมไปหนึ่งร้อยสิบสี่ข้อ]

[โจทย์เสริมหนึ่งร้อยสิบสี่ข้อนี้เธอตอบถูกหมด กติกาข้อสุดท้ายของการทำโจทย์ได้เขียนว่า หากตอบโจทย์เสริมถูกติดต่อกันหนึ่งร้อยข้อขึ้นไป คะแนนจะเพิ่มอีกหนึ่งเท่าตัว]

[แต่เธอใช้เวลาทำโจทย์เร็วมาก ในกลุ่มศาสตราจารย์ก็กำลังพิจารณากันอยู่ว่าเป็นเรื่องจริงหรือเปล่า]

บอกว่าเป็นโจทย์เสริม แต่อันที่จริงก็ใช่ว่าจะยากไปกว่าโจทย์ปกติมากเท่าไร หลักๆ คือขอบเขตเนื้อหาที่ทดสอบจะกว้าง และดูไม่ค่อยเข้าประเด็น

มีโจทย์เสริมอยู่ข้อหนึ่งถึงขั้นที่ถามว่า ยานอวกาศที่อยู่ในสมุดบันทึกของไซมอน แบรนด์ คือลำไหน

โจทย์เสริมคล้ายกับเป็นการรวมเอาความรู้ของแต่ละสาขาทั้งในอดีต และปัจจุบันมาทดสอบ

นี่ยังจะมีคนตอบถูกต่อเนื่องร้อยกว่าข้อด้วยเหรอ อาจารย์ทั้งสองคนอดหยุดหายใจไปชั่วขณะไม่ได้

คราวนี้แวดวงวิชาการต้องฮือฮาแน่

ทางด้านตี้ตู

อิ๋งจื่อจินทำโจทย์ไปแค่หนึ่งร้อยสิบสี่ข้อ

ทำเสร็จเธอก็ไม่ได้ดูชาร์ตอันดับ เก็บโทรศัพท์เข้ากระเป๋าแล้วบิดขี้เกียจ

แต่ละคนจะได้โจทย์ไม่เหมือนกันในแต่ละวัน ทั้งนี้ก็เพื่อป้องกันความเป็นไปได้ที่จะทุจริต

แน่นอนว่าถ้าอยากกำจัดการทุจริตอย่างถอนรากถอนโคนย่อมเป็นไปไม่ได้

เพียงแต่ต่อให้อาศัยการทุจริตผ่านเข้ารอบสองได้ หากไม่มีความสามารถที่แท้จริง ไม่นานก็ต้องตกรอบ

เก้าสิบเปอร์เซ็นต์ของโจทย์เสริมเป็นแบบมีตัวเลือก เวลาทำก็รวดเร็ว และความบังเอิญคือ โจทย์ส่วนใหญ่เป็นประวัติศาสตร์ที่เธอเคยผ่านมา

“หนึ่งชั่วโมงครึ่ง” อิ๋งจื่อจินทำโจทย์ไปนานเท่าไร ฟู่อวิ๋นเซินก็รอเธออยู่ข้างๆ นานเท่านั้น เขาพูดเสียงเนือย “เยาเยา ปกติมองไม่ออกเลยจริงๆ นะว่าเธอรักการเรียนขนาดนี้”

อิ๋งจื่อจินหาวออกมา “เพราะเงินเป็นแรงขับเคลื่อนอันดับแรก”

“เอาเถอะ คนคลั่งเงิน” ฟู่อวิ๋นเซินลูบศีรษะของเธอ

“ดึกมากแล้ว รีบกลับไปพักผ่อน พี่ชายจะขับรถไปส่ง”

อิ๋งจื่อจินยืนอยู่ที่เดิม ขมวดคิ้วเล็กน้อย “ดูเหมือนฉัน…”

ฟู่อวิ๋นเซินหันมาก็เห็นแก้มของเธอเป็นสีชมพูระเรื่อ เพราะความสูงที่แตกต่าง เขาจึงก้มตัวเล็กน้อย

“ดูเหมือนอะไรเหรอ”

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วขณะ “ดูเหมือนเมื่อกี้ฉันจะกินเหล้าเข้าไปแล้ว”

นี่เป็นครั้งแรกที่เธอกินของมึนเมานับตั้งแต่กลับมาโลกมนุษย์

เธอดื่มเบียร์กับไวน์แดงไม่เป็นไร แต่ที่เป็นคือเหล้าขาว

เธอแตะเหล้าขาวแค่ไม่กี่หยดก็จะรู้สึกเมา นี่เป็นปัญหาของยีนพันธุกรรมในร่างกาย เว้นเสียแต่เธอจะไปผ่าตัดตัดแต่งยีน

“เธอไม่ได้ดื่มเหล้า” ฟู่อวิ๋นเซินนึก “น่าจะเพราะขนมที่กินเมื่อกี้มีส่วนผสมของเหล้า ชิมไม่รู้รสเหรอ”

อิ๋งจื่อจินจับเสาไฟข้างทาง ดวงตาหงส์เหม่อลอยเล็กน้อย “กินหลากหลายไปหน่อยเลยไม่ได้ระวัง”

ปกติเธอกินอะไรจะวางใจกับคนที่ไปด้วยทำให้รู้สึกไว้วางใจ

“ยังเดินไหวไหม” ฟู่อวิ๋นเซินลองวัดอุณหภูมิที่หน้าผากของเธอ “ขึ้นหลังไหม”

“พอไหว” อิ๋งจื่อจินสะบัดหน้า “ไปเถอะ”

เธอเดินไปไม่กี่ก้าวก็หยุดลงอีก ฟู่อวิ๋นเซินก็หยุดตามสุดท้ายเลยจับมือเธอไว้

ทั้งสองคนเดินเคียงข้างกันไปที่ลานจอดรถ

เช้าตรู่วันต่อมา เวลาแปดโมงเวยปั๋วก็แทบระเบิด

[โอ้โห! เทพองค์ไหนเนี่ย ไม่ได้ดูแค่คืนเดียวประเทศเราได้ที่หนึ่งแล้วเหรอ แถมยังได้คะแนนสูงขนาดนั้นเลย]

[เซี่ยงซุ่น เซี่ยงซุ่นก็อันดับแปดแล้ว! กรี๊ด เขาคงไม่ได้นั่งทำโจทย์ทั้งคืนไม่หลับไม่นอนนะ]

[มีอีกๆ! อันดับสิบสองจะขึ้นมาอันดับสิบแล้ว อีกเดี๋ยวประเทศจีนของพวกเราก็จะมีสามคนติดสิบอันดับแรกแล้ว!]

ชาวเน็ตครึกครื้นขึ้นมาทันที แต่ละคนมุดวีพีเอ็นไปท่องเว็บนอก

เอารูปอันดับรวมที่เพิ่งออกมาสดๆ ร้อนๆ นี้ฟาดหน้าพวกคนที่ก่อนหน้านี้เยาะเย้ย

[อึ้งไปเลยอะดิ บอกแล้วว่าไม่เกินสามวัน อันดับหนึ่งจะต้องเปลี่ยนคนแน่นอน ตอนนี้ยังไม่ถึงสามวันเลยด้วยซ้ำ]

[ว้ายๆ อันดับหนึ่งของพวกยูทำไมห่างกับเพื่อนร่วมชาติของไอร้อยกว่าคะแนนเลยล่ะ น่าสงสัยจริงๆ เลยนะว่าถ้าทางคณะกรรมการไม่ให้โควตา พวกยูจะมีคนเข้ารอบตัดสินของไอเอสซีเหรอ ได้แค่นี้เหรอ]

[ประเทศจีนไม่มีอะไรมากหรอกมีแค่จิตวิญญาณรักชาติ พวกเราไม่เคยยอมแพ้ แซงขึ้นมาตอนที่พวกยูประมาทไงล่ะ โกรธอะดิ (อีโมชันยิ้ม)]

ชาวเน็ตของประเทศจีนผ่านสมรภูมิรบในเวยปั๋วมานานแล้ว ฝีปากฉะฉาน คนเดียวสู้กับสิบคนสบาย

ไม่นานคำวิจารณ์เยาะเย้ยบนเว็บบอร์ดต่างๆ ทั่วโลกก็หายไปจนเกลี้ยง

ก่อนหน้านี้พวกเขายังพูดจาอวดดี แต่ตอนนี้ถูกตบหน้ากันหมด

เวลานี้ภายในห้องทำงานของพวกศาสตราจารย์

จั่วหลีเปิดคอมพิวเตอร์ตามปกติ เข้าไปดูชาร์ตอันดับของไอเอสซี

พอมองไป น้ำที่อยู่ในปากก็พรวดใส่หน้าจอ

จั่วหลีที่แต่ไหนแต่ไรมาเป็นคนสุขุมถึงกับมาดหลุด “โอ้โห!”

ดวงตาเบิกโพลง ไม่อยากจะเชื่อในสิ่งที่เห็น

สี่ร้อยห้าสิบหก คะแนน!

นี่มันใช่มนุษย์เหรอวะเนี่ย!

พวกเก่งถึงขั้นพิสดารมีอยู่ทุกปี แต่ปีนี้ทำไมถึงมีมากขนาดนี้

“นักเรียนอิ๋ง อาจารย์ขอถอนคำพูดเมื่อวาน” จั่วหลีเรียกอิ๋งจื่อจินมาอีกครั้ง สีหน้าของเขาเคร่งเครียด

“คู่แข่งของเธอไม่น่ามีแค่ไอริน่าแล้ว ยังมีเจ้าสติเฟื่องคนนี้ด้วย แต่พวกเธอสองคนอยู่ประเทศเดียวกัน ใครได้ที่หนึ่งใครได้ที่สองก็เหมือนกันแหละ”

อิ๋งจื่อจิน “…”

เธอแข่งกับตัวเอง

โอเค…รู้เรื่อง…ก็ใช่ว่าจะไม่ได้

จั่วหลียังคงตื่นเต้น “เดิมทีอาจารย์คิดว่าครั้งนี้มีเธอที่ฉลาดล้ำเข้าร่วมคนเดียวก็เพียงพอแล้ว นึกไม่ถึงว่าจะมีโผล่มาอีกคน พอดี คราวนี้อาจารย์วางใจแล้ว ต่อให้รอบนานาชาติพวกเราไม่ได้ที่หนึ่ง แต่สามอันดับแรกน่าจะได้ถึงสอง”

พูดจบเขาก็พึมพำต่อ “แต่ก็น่าแปลก ทำไมนักเรียนคนนี้ไม่ทำโจทย์สองวันแรก กลับทำเอาวันที่สามตอนดึก”

อิ๋งจื่อจินคิด ตอบด้วยความเอาใจใส่ “เธอลืมค่ะ”

“เพ้อเจ้อ” จั่วหลีถลึงตา “เรื่องสำคัญแบบนี้ลืมได้เหรอ แต่อาจารย์สงสัยจริงๆ นะว่าทำไมนักเรียนคนนี้ถึงมาเข้าร่วมรอบคัดเลือก หากว่ากันตามเหตุผลต้องได้โควตารอบนานาชาติแล้วสิ”

อิ๋งจื่อจินตอบด้วยความเอาใจใส่อีกครั้ง “เพื่อเงินค่ะ”

จั่วหลีมองบน “หึหึ เธอคิดว่าคนอื่นเขาจะเหมือนเธอเหรอ”

อย่างเขาน่ะ เขาไม่สนเรื่องเงิน

อิ๋งจื่อจิน “…”

ยุคนี้นี่มันยังไง พูดความจริงก็ไม่มีใครเชื่อ

“จริงสินักเรียนอิ๋ง” จั่วหลีพูดต่อ

“นอกจากยาสระผมผมดกแล้วเธอยังมีอย่างอื่นอีกไหม ผลลัพธ์มันว้าวมาก!”

“มีค่ะ” อิ๋งจื่อจินเลิกคิ้ว “มาร์คหน้าขาวใส อยากใช้ไหมคะ”

“เอาๆ เอามาสิบกล่อง” จั่วหลีก็แค่ถามส่งเดช นึกไม่ถึงว่าจะเซอร์ไพร์ส “อาจารย์จะเอาไปให้แฟน”

เนื่องจากอันดับมีการเปลี่ยนแปลง จึงเป็นที่ฮือฮาทั้งในเว็บนอก และบนเวยปั๋ว

โดยเฉพาะบนเวยปั๋ว เฉลิมฉลองกันใหญ่

ในตอนบ่าย บนแอปโซเชียลขนาดใหญ่ที่ใช้กันทั่วโลกได้มีไอดีหนึ่งโพสต์ข้อความ

แอทซันชาย : [หนึ่งชั่วโมงครึ่งไม่มีทางทำได้คะแนนสูงแบบนั้น อัจฉริยะก็เป็นไปไม่ได้ ถ้าบอกว่าไม่ได้ใช้ช่องโหว่ของแอป ใครจะเชื่อ ส่งอีเมลไปหาทางคณะกรรมการแล้ว ขอให้ตรวจสอบอย่างเข้มงวด รอดู เดี๋ยวผลก็ออกมา งานแข่งขันวิชาการที่รัดกุมแบบนี้ยังจะกล้าหาช่องโหว่ พอถึงเวลาคนที่ขายหน้าก็คือประเทศจีนของพวกเธอ (อีโมชันยิ้ม)]

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset