คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 310 ตบซูหร่วนต่อเนื่องต่อหน้าคนทั้งหมด

คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งไม่พิจารณาเลยสักนิด

เธอไม่มีความรู้สึกดีๆ ให้อิ๋งจื่อจินแม้แต่น้อย

ช่วยตระกูลอิ๋งเข้าหาทางตี้ตูไม่ได้ อีกทั้งยังรู้จักคนเยอะไม่เท่าอิ๋งเย่ว์เซวียน แถมยังดีแต่ก่อความวุ่นวาย คนแบบนี้จะไปทำอะไรได้

หลังจากที่รู้ว่าอิ๋งจื่อจินออกจากบ้านตระกูลอิ๋งไปแล้ว คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งก็ดีใจมาก ถึงกับอยากเฉลิมฉลอง

เพียงแต่สุขภาพของเธอไม่ค่อยดี เธอคิดไว้ว่าปีหน้าวันที่ยี่สิบสี่มีนาคมจะจัดงานฉลองที่อิ๋งเย่ว์เซวียนบรรลุนิติภาวะให้อย่างใหญ่โต เชิญบรรดาเศรษฐีในฮู่เฉิงกับแขกส่วนหนึ่งจากตี้ตูมาร่วมงาน

“แขกสำคัญเหรอคะ” อิ๋งเย่ว์เซวียนสงสัย “ใครเหรอคะ”

“พรุ่งนี้ก็มาแล้ว” คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งตบมือหลานสาวเบาๆ ยิ้มอ่อนโยน “วานวาน คุณอาของหลานไม่อยู่แล้ว ย่าจะปูทางให้หนูเอง”

“ย่ารู้ว่าหลานอยู่ยุโรปก็รู้จักไฮโซหลายคน แต่ก็สู้คนชาติเดียวกันไม่ได้ ต่อไปนะ ตระกูลอิ๋งของพวกเราจะเจาะเข้าตี้ตูได้ไหมก็ต้องพึ่งหลานแล้วนะ”

อิ๋งเย่ว์เซวียนรู้ว่าคุณนายผู้เฒ่าอิ๋งแต่งออกมาจากตี้ตู

เดิมทีครอบครัวของคุณนายผู้เฒ่าอิ๋งถือเป็นตระกูลขนาดกลางในตี้ตู ใหญ่กว่าตระกูลซูหน่อย แต่ความสามารถโดยรวมก็แข็งแกร่งกว่าตระกูลอิ๋ง

เพียงแต่ยังห่างชั้นกับตระกูลมู่ ตระกูลเนี่ยที่เป็นตระกูลชั้นแนวหน้าอยู่มาก

คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งเป็นคนทะนงตน ยอมเป็นหัวไก่ดีกว่าเป็นหางหงส์ จึงแต่งงานมาอยู่ฮู่เฉิง

ในบรรดาสี่ตระกูลเศรษฐีก็มีแค่ตระกูลฟู่ที่รู้จักกับตระกูลชั้นแนวหน้าอย่างตระกูลมู่ อีกสามตระกูลไม่เคยได้เข้าไปคลุกคลีด้วยแม้แต่น้อย

ไม่ว่าจะตระกูลอิ๋งหรือตระกูลจงต่างก็อยากเข้าไปคลุกคลีในแวดวงไฮโซของตี้ตูทั้งนั้น

“คุณย่า หนูไม่ไหวหรอกค่ะ” อิ๋งเย่ว์เซวียนเม้มริมฝีปาก “ต้องพึ่งพี่ใหญ่”

พอพูดถึงอิ๋งเทียนลี่ว์ คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งก็รู้สึกดีขึ้นมาหน่อย “นั่นสินะ เทียนลี่ว์เก่งมาก เก่งกว่าปู่ของหลานเสียอีก แต่หลานสองคนไม่เหมือนกัน พี่ใหญ่ของหลานเป็นนักธุรกิจ หลานเป็นนักวิจัย”

ระหว่างพูด ทันใดนั้นร่างกายของคุณนายผู้เฒ่าอิ๋งก็โงนเงน

อิ๋งเย่ว์เซวียนสีหน้าเปลี่ยน รีบเข้าไปประคอง “คุณย่า”

“ย่าไม่เป็นไร” คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งส่ายมือ “ปวดหัว โรคเดิมๆ”

คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งถือไม้เท้ายืนขึ้น “ย่าไปพักผ่อนก่อน หลานให้แม่พาไปเลือกชุดออกงานนะ พรุ่งนี้จะได้สร้างความประทับใจให้แขกที่ไปเจอ”

ก็ไม่รู้ว่าโรคนี้ของเธอเมื่อไรถึงจะหาย

คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งถอนหายใจแล้วขึ้นชั้นบน

ตระกูลฟู่หลังจากที่ถูกฟู่อวิ๋นเซินจัดระเบียบก็เกิดความโกลาหลครั้งใหญ่อยู่ระยะหนึ่ง

ทางสายฟู่หมิงเฉิงเหลือฟู่อี้หันอยู่แค่คนเดียว

พอฟู่อี้หันรับช่วงต่อฟู่ซื่อกรุ๊ปมาก็ยุ่งเรื่องที่บริษัทตลอด ไม่ทันได้ยุ่งเรื่องซูหร่วน

นับตั้งแต่วันนั้นที่ถูกโยนออกจากวีนัสกรุ๊ป ซูหร่วนก็ขังตัวเองอยู่ในห้อง แทบจะใช้น้ำตาล้างหน้าแทน

ซูเหลียงฮุยเห็นลูกสาวไม่ตอบกลับสักทีก็ร้อนใจหนัก

สุดท้ายก็ทนไม่ไหว ไปหาที่บ้านตระกูลฟู่

“พ่อให้แกไปหาฟู่อวิ๋นเซิน ทำไมแกไม่ไป” พอซูเหลียงฮุยเจอซูหร่วนก็ใส่อารมณ์ทันที “แกไม่รู้เหรอว่าลุงรองกับอาสี่ของแกเริ่มโจมตีพวกเราแล้ว”

เมื่อก่อนคนอื่นๆ ในตระกูลซูยังรู้จักเกรงกลัว เพราะเขากับฟู่หมิงเฉิงเกี่ยวดองกัน มีตระกูลฟู่สนับสนุน

แต่ตอนนี้ไม่เหมือนกันแล้ว ฟู่หมิงเฉิงล้มลง คนอื่นๆ ย่อมพยายามที่จะโค่นซูเหลียงฮุยอย่างไม่หยุดหย่อน

“หนูไปมาแล้ว!” ซูเหลียงฮุยพูดเสียงสะอื้น “พ่อไม่รู้เหรอว่าหนูถูกโยนออกมา พวกเขาหัวเราะเยาะหนู พ่อรู้หรือเปล่า”

ซูเหลียงฮุยได้ฟังก็ขมวดคิ้ว

เขานึกไม่ถึงว่าฟู่อวิ๋นเซินจะทำถึงขั้นนี้ ไม่ไว้หน้าซูหร่วนเลยสักนิด

เรื่องทำลายงานแต่งผ่านมานานขนาดนี้แล้ว ไม่ควรแค้นจนถึงตอนนี้หรือเปล่า

“งั้นแกก็อย่าไปหาเขาที่บริษัท” ซูเหลียงฮุยพูด “แกต้องหาทางเจอเขาให้ได้ก่อน ไม่อย่างนั้นพวกเราได้พังกันจริงๆ แน่”

ซูหร่วนค่อยๆ สงบสติอารมณ์ เริ่มคิดว่าทำอย่างไรถึงจะได้เจอฟู่อวิ๋นเซิน

ซูเหลียงฮุยนึกถึงคำพูดของฟู่หมิงเฉิงในตอนนั้น อาศัยกระแสวิพากษ์วิจารณ์ในเน็ตช่วยให้ได้ผลประโยชน์ที่มากกว่า

เขาขมวดคิ้วครุ่นคิดอยู่นาน ในที่สุดก็ตัดสินใจได้

อย่างไรเสียก็ถอยไม่ได้แล้ว ไม่สู้ลองดูสักตั้ง ไม่แน่อาจพลิกฟื้นขึ้นมาได้

ผลลัพธ์คงไม่แย่ไปกว่าตอนนี้

ซูเหลียงฮุยไม่สนซูหร่วนอีก เขารีบร้อนออกไป

เขายังมีเรื่องที่สำคัญกว่าต้องทำ เอาแต่คาดหวังในตัวซูหร่วนก็ไม่มีประโยชน์

วันต่อมา

โรงเรียนมัธยมชิงจื้อ

ห้องสิบเก้า

อิ๋งจื่อจินพิงอยู่ตรงริมหน้าต่าง ดวงตาหงส์ปิดลงพักสายตา

“พ่ออิ๋ง”

มีคนเรียกเธอ

เธอหันไป

เป็นเจียงหราน

เจียงหรานลีลาอยู่นานกว่าจะเงยหน้าจากโต๊ะอย่างไม่ยินยอมเท่าไร “แม่ฉันอยากเจอเธอ เธอพอจะมีเวลาไหม”

เดิมทีเขาคิดว่าแม่คิดได้แล้วถึงปลดบล็อกเขาออกจากบัญชีดำ

ที่ไหนได้ เขาเป็นแค่เครื่องมือ

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ได้”

“แม่ฉันอยู่นอกโรงเรียน” เจียงหรานสะบัดหน้าอย่างไม่สบอารมณ์ “พ่ออิ๋ง ตอนไปเจอแม่ฉันฝากบอกด้วยนะว่าฉันไม่คิดถึงแม่เลยสักนิด ไม่คิดถึงเลยจริงๆ บอกแม่ว่าอย่าคิดจะมาง้อฉัน ฉันไม่มีทางยกโทษให้”

“…”

เป็นเด็กบื้อติงต๊องจริงด้วย

เหมือนซีซาร์ ลอเรนท์ในตอนนั้นเปี๊ยบ

อิ๋งจื่อจินลุกเดินออกจากห้อง

เธอดูพิกัดที่เจียงหรานส่งให้แล้วเดินไปทางประตูโรงเรียน

ด้านนอกโรงเรียน

ซูหร่วนที่รออยู่นานพอเห็นเด็กสาวในชุดนักเรียนเดินออกมา แววตาก็เปลี่ยนไป รีบเดินตรงไปขวางทางไว้ทันที

“ฉันรู้ว่าเธอสนิทกับฟู่อวิ๋นเซิน” ซูหร่วนคิดออกแค่วิธีนี้ “ฉันต้องการเจอฟู่อวิ๋นเซิน เธอรู้อดีตของพวกเราใช่ไหม”

อิ๋งจื่อจินสวยก็จริง แต่เธอไม่คิดว่าฟู่อวิ๋นเซินจะถูกใจเด็กมอปลาย

ก็แค่เล่นๆ ไม่ใช่เหรอ

อิ๋งจื่อจินหยุดเดิน

ซูหร่วนเชิดคางขึ้น “ฉันให้เวลาสามนาที หัดฉลาดหน่อย นัดเขาออกมา ไม่อย่างนั้นอย่ามาโทษที่ฉันจะเอาเรื่องที่เธอยั่วยวนเขาป่าวประกาศให้รู้กันไปทั่ว”

อิ๋งจื่อจินหันหน้ามา กำมือลองกะแรงดู

แต่ยังไม่ทันที่เธอจะลงมือ

มีเสียงหัวเราะลอยมา “หัดฉลาดหน่อยงั้นเหรอ เธอนี่ก็ช่างกล้านะ”

ซูหร่วนอึ้ง หันไปมอง

ท่ามกลางสายลมเย็น เจียงฮว่าผิงยังคงอยู่ในชุดกี่เพ้าสีเขียวเข้ม มีเสื้อคลุมตัวใหญ่ เห็นได้ชัดว่าเพิ่งออกมาจากในที่ร่ม

ซูหร่วนไม่เคยเจอเจียงฮว่าผิง แต่เคยเห็นในรูปถ่าย

ใบหน้าที่สวยแบบนี้ซูหร่วนย่อมจำได้

เจียงฮว่าผิงอายุสี่สิบกว่าปีแล้ว แต่กลับดูเด็กกว่าเธอ

“เกี่ยวอะไรกับคุณด้วย” ซูหร่วนหงุดหงิด “ฉันไม่ได้พูดกับคุณเสียหน่อย”

“ไม่เกี่ยวกับฉันจริงๆ นั่นแหละ” เจียงฮว่าผิงยกมือขึ้น ตบเข้าไปที่หน้าของซูหร่วน “แต่ฉันแค่อยากตบเธอ”

ซูหร่วนเอามือจับหน้า รู้สึกเหลือเชื่อ “เจียงฮว่าผิง คุณ…”

ยังไม่ทันพูดจบแก้มซ้ายก็โดนตบอีกฉาด

เจียงฮว่าผิงพูด “เรียกชื่อคนที่อายุมากกว่า ไร้มารยาทจริงๆ”

นี่ยังไม่จบ

ต่อมาเธอง้างมือขึ้นอีกเป็นครั้งที่สาม

เสียง เพียะ ดังอีกครั้ง ซูหร่วนถูกตบจนเซ

เจียงฮว่าผิงยิ้ม “ทำให้ฉันอารมณ์เสีย รอยเหี่ยวย่นขึ้นได้ง่าย สมควรโดนตบ”

ซูหร่วนไม่เคยเจอคนป่าเถื่อนไร้เหตุผลอย่างเจียงฮว่าผิงมาก่อน “คุณ คุณ…”

“ฉันไม่เหมือนหลิวอิ๋งหรอกนะ ฉันไม่ใช่คุณหนูไฮโซอะไร เธออาจไม่รู้ว่าเมื่อก่อนพวกเขาพูดว่าฉันร้ายกาจขนาดไหน” เจียงฮว่าผิงยิ้ม “ฉันเจอคนน่าขยะแขยงฉันก็ตบ ไม่เคยสงสารด้วย”

เธอมองด้วยสายตาเย็นชา “ดังนั้นจำไว้ ต่อไปอยู่ห่างๆ ฉันไว้ อย่าให้ฉันเห็นว่าเธอรังแกเด็กผู้หญิงอีก ฉันทนเห็นเรื่องแบบนี้ไม่ได้มากที่สุด”

เจียงฮว่าผิงไปตั้งรกรากที่ตี้ตูแล้ว จะกลับมาอยู่ฮู่เฉิงบ้างเป็นครั้งคราว

แต่เพราะเรื่องฟู่หลิวอิ๋ง ทำให้รูปถ่ายของเธอถูกขุดออกมาด้วย คนที่รู้จักเธอก็เลยมีมากขึ้น

สองสาวสวยแห่งฮู่เฉิง ความงดงามที่เหนือใคร

ช่วงไม่กี่วันมานี้โดนหยามศักดิ์ศรีครั้งแล้วครั้งเล่า อีกทั้งยังถูกคนโตกว่าตบหน้าสั่งสอน ซูหร่วนสติแตกแล้วจริงๆ

เธอวิ่งหนีไปในสภาพดูไม่ได้อีกครั้ง

“ไม่เป็นไรใช่ไหม” เจียงฮว่าผิงเป็นห่วงมาก มองสำรวจอิ๋งจื่อจินตั้งแต่หัวจรดเท้า “เจอคนบ้าแบบนี้อย่าไปเกรงใจ”

“ดูฉันสิ โมโหจนลืมไปเลย” ยังไม่ทันที่อิ๋งจื่อจินจะตอบ เจียงฮว่าผิงก็เขกหน้าผากตัวเอง ถอนหายใจ “ขนาดไอ้ลูกตัวแสบของฉันเธอยังอัดได้ ต้องรับมือกับยัยนั่นสบายอยู่แล้ว”

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วครู่ “ค่ะ กำลังกะแรงที่จะใช้อยู่”

ไม่อย่างนั้นแค่เธอเตะทีเดียวอาจถึงตายได้

เธอเป็นคนรักษากฎหมาย

“ช่างยัยนั่นเถอะ” เจียงฮว่าผิงส่ายมือ ยิ้มออกมาอีกครั้ง จับมืออิ๋งจื่อจิน “ไป ฉันจองโต๊ะไว้แล้ว เดี๋ยวฉันเลี้ยงข้าว”

ทั้งสองคนไปร้านหม้อไฟที่อยู่ข้างชิงจื้อ

เจียงฮว่าผิงนั่งลง ถอนหายใจเบาๆ “นึกไม่ถึงว่าในเวลาแค่ครึ่งเดือนจะเกิดเรื่องมากมายขนาดนี้”

เรียกได้ว่าฮู่เฉิงโกลาหลครั้งใหญ่

ตระกูลฟู่ไม่ล้ม แต่ก็ไม่ต่างจากเปลี่ยนราชวงศ์

“ที่ฉันมาเพราะอยากคุยเรื่องหลิวอิ๋งกับเธอ” เจียงฮว่าผิงหุบยิ้ม “ในเมื่ออวิ๋นเซินตัดสินใจเปิดเผยแล้ว ก็พูดเรื่องเมื่อก่อนได้แล้ว”

แววตาของอิ๋งจื่อจินชะงักเล็กน้อย “พูดมาได้ค่ะ”

ขณะที่เจียงฮว่าผิงกำลังจะเล่า ทันใดนั้นโทรศัพท์มือถือก็ดังขึ้น

เธอเหลือบมอง พอเห็นว่าส่งมาจากเวยปั๋วก็ไม่อยากสนใจ แต่เธอกลับเห็นว่าเอ่ยถึงฟู่อวิ๋นเซิน

“รอเดี๋ยวนะ” เจียงฮว่าผิงหยิบโทรศัพท์ขึ้นมาปลดล็อก พออ่านดูก็เข้าใจแล้ว “จึ๊ คนอัปลักษณ์นี่ชอบเรียกร้องความสนใจจริงๆ ต้องโทษฉัน ไม่ควรตบหน้ายัยนั่น เดิมทีก็หน้าใหญ่อยู่แล้ว ตบไปแบบนี้ไม่ใหญ่กว่าเดิมเลยเหรอ”

อิ๋งจื่อจินขมวดคิ้ว มองไป

เป็นโพสต์เวยปั๋วของแอ๊กเคานท์เชิงพาณิชย์

แอท818เรื่องนอกวงการ : [#เรื่องน้ำเน่าสุดสะพรึงในตระกูลเศรษฐี# ผู้รู้เหตุการณ์เปิดเผยว่า ประธานโซนเอเชียแปซิฟิกของวีนัสกรุ๊ปที่เพิ่งรับตำแหน่งยังหนุ่มมาก แต่ก็มีสาวในดวงใจแล้ว แต่สาวคนนี้กลับเป็นพี่สะใภ้ใหญ่ของตัวเอง รักต้องห้ามหรือเปล่า]

ด้านล่างแนบรูปถ่ายหลายรูป

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset