คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 336 ปราบคนชั่ว จมอยู่กับความทุกข์ไปทั้งชีวิต

บรรดาสื่อย่อมไม่มีทางพลาดโอกาสดีๆ แบบนี้ ถ่ายเจาะหน้าเต็มๆ

ถ่ายสีหน้าของเยี่ยซู่เหอ เจียงมั่วหย่วน ซูเหลียงฮุย และซูหร่วนออกมาอย่างชัดเจน มีทั้งสีหน้าบึ้งตึง หน้าซีด หน้าเขียว เรียกได้ว่ารวมมิตรสารพัดสีหน้า

สื่อเหล่านี้ถูกพวกผู้ถือหุ้นของเจียงซื่อกรุ๊ปเชิญมา เพราะบรรดาผู้ถือหุ้นก็เจตนาทำเรื่องนี้ให้เป็นเรื่องใหญ่

เช้าวันนี้พวกเขาประกาศตามสื่อใหญ่อย่างเว็บไซต์ข่าวชั้นนำของประเทศ หนังสือพิมพ์ รวมถึงทางโทรทัศน์ ออกข่าวว่าเจียงมั่วหย่วนไม่ใช่ซีอีโอของเจียงซื่อกรุ๊ปอีกต่อไปแล้ว

อย่างไรเสียก็ยังมีคนจำนวนมากที่ไม่เล่นเน็ต ไม่ดูข่าว

เพื่อให้แน่ใจว่ามีคนรับรู้จำนวนมาก พวกเขาให้ข่าวทางโทรทัศน์ประกาศถึงห้ารอบ

ในหนังสือพิมพ์ก็พาดหัวตัวโตๆ

แต่นี่ยังไม่พอ เนื่องจากเจียงซื่อกรุ๊ปเสียหายอย่างหนักเพราะเจียงมั่วหย่วน จึงจำเป็นต้องเอาคืนจากเขา

ขอเพียงแต่ปล่อยข่าวออกไปว่าเจียงมั่วหย่วนไม่ใช่คนของตระกูลเจียง ก็จะมีการสันนิษฐานกันอย่างสมเหตุสมผลว่า

เจียงมั่วหย่วนกับเยี่ยซู่เหอจงใจอยากให้เจียงซื่อกรุ๊ปล่มสลาย ถึงได้ทำเรื่องต่างๆ นานา

เมื่อเป็นแบบนี้ความสนใจของผู้คนส่วนใหญ่ก็จะเปลี่ยนไป

ผู้ถือหุ้นอาวุโสไม่มีทางแคร์ว่าเจียงมั่วหย่วนจะถูกด่าขนาดไหนเพราะเรื่องนี้

ตอนนี้ที่เขาไม่เข้าไปตบหน้าเจียงมั่วหย่วนเป็นเพราะเจียงซื่อกรุ๊ปต้องการเครื่องมือแบบนี้

ก่อนมาที่คฤหาสน์ตระกูลเจียง เจียงฮว่าผิงกับเจียงเฉิงจวินได้ไล่คนของเยี่ยซู่เหอกับเจียงมั่วหย่วนออกจากเจียงซื่อกรุ๊ปทั้งหมด

เจียงซื่อกรุ๊ปล้างมลทินได้ครั้งใหญ่ในเวลาไม่กี่ชั่วโมง

ไม่ว่าอย่างไรจะปล่อยให้ความทุ่มเทของบรรพบุรุษตระกูลเจียงถูกทำลายเพราะเจียงมั่วหย่วนไม่ได้

ซูเหลียงฮุยเก็บเอกสารที่ถูกโยนลงพื้นขึ้นมา มองปราดเดียวสีหน้าก็เปลี่ยนไปมาก “เยี่ยซู่เหอ!”

ตระกูลใหญ่ให้ความสำคัญกับเลือดเนื้อเชื้อไข นี่เป็นเรื่องที่ยอมรับกันโดยทั่วไป

เจียงมั่วหย่วนไม่ใช่แม้แต่คนของตระกูลเจียง แล้วจะกลับเข้าไปในเจียงซื่อกรุ๊ปอีกครั้งได้อย่างไร

“เฉิงซานเฉวียน รู้หรือเปล่าว่าพูดอะไรออกมา” เยี่ยซูเหอตั้งสติได้อย่างรวดเร็ว เธอไม่สนใจซูเหลียงฮุย ลูกประคำในมือหมุนเร็วยิ่งขึ้น มองผู้ถือหุ้นอาวุโสด้วยสายตาเย็นชา “ทำแบบนี้เป็นการทำลายชื่อเสียงของท่านผู้เฒ่า!”

“ทำลายชื่อเสียงของท่านผู้เฒ่างั้นเหรอ” เฉิงซานเฉวียนแสยะยิ้ม “เธอแต่งเข้าตระกูลเจียงพร้อมลูกของคนอื่น ยึดครองเจียงซื่อกรุ๊ป ยังจะกล้าพูดถึงท่านผู้เฒ่าอีกเหรอ”

“ก็แค่เอกสารพิสูจน์ ใครบ้างปลอมขึ้นมาไม่ได้” เยี่ยซู่เหอพูดแดกดัน “เจียงเฉิงจวิน เจียงฮว่าผิง ฉันมองพวกเธอออกแล้ว ปกติทำตัวยโสไม่ขอเกี่ยวข้องด้วย”

“พอมั่วหย่วนเกิดเรื่อง พวกเธอสองพี่น้องก็รีบมาเหยียบย่ำเขาทันที พวกเธอช่างเป็นพี่ที่ดีจริงๆ เลยนะ”

เจียงเฉิงจวินหน้าบึ้ง กำลังจะพูด

เจียงฮว่าผิงจับเขาไว้ ยิ้มพลางพูด “คุณเยี่ย ฉันน่ะ ไม่แคร์ตระกูลเจียงหรอก ฉันมีสามีมีลูกชาย ครอบครัวของฉันมีความสุขดี ดีกว่าคุณเสียอีก”

เยี่ยซู่เหอโมโหคำพูดนี้จนหน้าเขียว

เจียงฮว่าผิงหุบยิ้ม “ส่วนเรื่องปลอมแปลงเอกสารหรือเปล่า คุณเยี่ย คุณรู้ดีแก่ใจ อยากให้ฉันตบเตือนสติสักหน่อยไหม”

เยี่ยซู่เหออดถอยหลังไม่ได้

เธอเชื่อว่าเจียงฮว่าผิงทำได้จริงๆ

“คุณฮว่าผิง อย่าเสียเวลาพูดด้วยเลยครับ” เฉิงซานเฉวียนพูดอย่างเย็นชา “ผลพิสูจน์ไม่มีทางเป็นของปลอม มีโรงพยาบาลอันดับหนึ่งรับรอง เร็วหน่อย ถ้าอีกสิบนาทีพวกคุณยังอยู่ที่นี่ พวกคุณจะไม่ได้ออกไปจากตระกูลเจียงง่ายๆ แล้ว”

“แม่…” เจียงมั่วหย่วนที่เงียบมาตลอดเงยหน้าขึ้น เป็นครั้งแรกที่เขารู้สึกเคว้งคว้าง ลำคอแห้งผาด พูดอย่างยากลำบาก “แม่ครับ ผมไม่ใช่คนตระกูลเจียงจริงเหรอ”

“เหลวไหล” เยี่ยซู่เหอยังคงไม่ยอมรับ “ได้ พวกเราจะย้ายออก เดี๋ยวถึงเวลาพวกคุณก็ต้องเชิญพวกเรากลับมา”

เฉิงซานเฉวียนโมโหจนหัวเราะในความหน้าหนาและหลงตัวเองของเยี่ยซู่เหอ “ไม่ส่ง”

เวลาแค่สิบนาทีเก็บอะไรไม่ได้มาก ทั้งสี่คนถูกไล่ออกจากคฤหาสน์ตระกูลเจียง

ซูหร่วนเลิกร้องไห้ สายตาเหม่อลอย

มีเรื่องสะเทือนใจครั้งแล้วครั้งเล่า เธอสติแตกอย่างสิ้นเชิงแล้ว

เธอยังไม่ได้เป็นนายหญิงของตระกูลเศรษฐีแม้แต่วันเดียวก็ต้องมาเจอกับสภาพยากแค้นเร่ร่อนไปตามถนน

ความตกต่ำแบบนี้ใครจะไปรับไหว

ซูเหลียงฮุยโมโหยิ่งกว่า “เยี่ยซู่เหอ เอาสามสิบล้านของผมคืนมา!”

เขาถูกต้ม!

ไม่เพียงแต่ตอนนี้เขาจะไม่ได้อะไรเลย ยังเสียเงินไปสามสิบล้านโดยสูญเปล่าอีก

เดิมทีซูเหลียงฮุยคิดว่า เจียงมั่วหย่วนก็แค่ถูกถอดออกจากตำแหน่งซีอีโอ

ต่อให้กลับเข้าไปในเจียงซื่อกรุ๊ปไม่ได้ แต่ก็ยังมีทรัพย์สินมหาศาลกับส่วนแบ่งจากการถือหุ้น

ใครจะไปรู้ว่าเจียงมั่วหย่วนไม่ใช่แม้แต่คนของตระกูลเจียง

เยี่ยซู่เหอใจเย็นลงมากแล้ว “คุณโอนให้ฉันด้วยความสมัครใจ ทำไม ยังจะมาโทษฉันได้อีกเหรอ”

ซูเหลียงฮุยคิดมาตลอดว่าตัวเองหน้าด้านมากแล้ว แต่พอถูกเยี่ยซู่เหอทำท่าทีแบบนี้ใส่ เขาก็ตะลึงมาก “เยี่ยซู่เหอ!”

“มั่วหย่วน ไป” เยี่ยซู่เหอหันไปมองคฤหาสน์ที่อยู่มาหลายสิบปี “ไปหาที่พักก่อน”

เธอไม่ได้แก้ไขพินัยกรรม ผู้เฒ่าเจียงเป็นคนเขียนเอง

ลำพังแค่ข้อกล่าวหาว่าเธอสวมเขาให้ผู้เฒ่าเจียง เจียงซื่อกรุ๊ปไม่มีทางทำอะไรเธอได้ อย่างมากก็แค่ฟ้องเธอ

ส่วนซูเหลียงฮุยกับซูหร่วนน่ะเหรอ

ใครจะไปสน

แต่พอเยี่ยซู่เหอพาเจียงมั่วหย่วนเดินออกจากประตูรั้วก็ถูกตำรวจที่มารออยู่นานแล้วขวางไว้

“คุณเจียง” ตำรวจที่เป็นหัวหน้าหยิบบัตรออกมาแสดง “คุณก่ออาชญากรรม ทำผิดกฎหมายอาญามาตราที่ยี่สิบสาม ทางเจ้าทุกข์ไม่ยินดียอมความ ช่วยไปกับพวกเราด้วยครับ”

พูดจบก็หยิบกุญแจมือมาใส่ให้เจียงมั่วหย่วน

เวลานี้ในที่สุดสีหน้าของเยี่ยซู่เหอก็ซีดลงอย่างสิ้นเชิง “มั่วหย่วน!”

เจียงมั่วหย่วนเป็นที่พึ่งทั้งหมดของเธอ ถ้าติดคุกไปแล้วเธอจะทำอย่างไร

ตำรวจไม่มีทางสนใจเยี่ยซู่เหอ

มีทั้งพยานบุคคลและพยานวัตถุ ยิ่งไม่ต้องพูดถึงว่าเหยื่อยังเป็นนักเรียนมอปลายของโรงเรียนมัธยมชิงจื้อ

กล้าลงมือกับเด็กสาวที่หน้าตาดีว่านอนสอนง่ายขนาดนั้นได้อย่างไร

ซูหร่วนมองเจียงมั่วหย่วนที่ถูกคุมตัวไป แข้งขาอ่อนแรง ทรุดลงบนพื้น

จบแล้ว จบสิ้นกันแล้ว

ชีวิตนี้ของเธอต้องจมอยู่กับความเสียใจไปตลอด

ในเวลาเพียงแค่สองเดือนเกิดความเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในตระกูลฟู่กับตระกูลเจียงต่อเนื่องกัน ทำให้ทั้งเมืองฮู่เฉิงระส่ำระสาย

ตระกูลน้อยใหญ่ต่างหวาดผวา กลัวว่าตัวเองจะถูกลากเข้าไปเกี่ยวด้วย

ไม่มีใครคาดคิดว่าท่านเจียงสามที่เคยสูงส่ง มีแต่คนอยากปีนขึ้นไปหา ยังถูกตัดสินจำคุกสามเดือนได้

ครั้งนี้คือสูงสุดคืนสู่สามัญอย่างแท้จริง ชวนให้รู้สึกปลดปลง

“ยังดี” จงมั่นหวาอ่านข่าวในหนังสือพิมพ์ รู้สึกโล่งอก “ตอนนั้นที่ไม่เข้าไปยุ่งเรื่องของพวกเขาก็ถูกต้องแล้ว”

ไม่อย่างนั้นตระกูลอิ๋งจะต้องถูกฉุดลงต่ำด้วยแน่นอน

อิ๋งเย่ว์เซวียนกลับดูเหม่อลอย เธอลองโทรหาเบอร์แปลกเบอร์นั้นแล้ว แต่ทางนั้นก็ยังคงไม่รับ

เธอถึงขั้นที่เอาเบอร์นี้ไปตรวจสอบที่ศูนย์ แต่ก็สืบได้แค่ว่าเป็นเบอร์ที่เปิดใช้เมื่อสิบกว่าปีก่อน ตอนนั้นยังซื้อซิมโทรศัพท์แบบไม่ลงทะเบียนได้อยู่

“เสี่ยวเซวียน” จงมั่นหวาอ่านหนังสือพิมพ์เสร็จ “คุณนายหยวนให้ลูกเขียนโค้ดโปรแกรม ลูกเขียนเสร็จหรือยัง”

ตระกูลหยวนก็คือตระกูลที่คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งรู้จักในตี้ตู

ตระกูลหยวนทำเกี่ยวกับเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ช่วงนี้กำลังทำโปรเจ็กต์ใหม่

ถึงแม้คุณนายผู้เฒ่าอิ๋งจะรู้จักกับตระกูลหยวนอยู่บ้าง แต่ถ้าอิ๋งเย่ว์เซวียนไม่พยายามเองก็ไม่มีทางเข้าตาตระกูลหยวน

“เขียนเสร็จแล้วค่ะ” อิ๋งเย่ว์เซวียนได้สติกลับมา เม้มริมฝีปาก “เช้าวันนี้หนูส่งไปให้คุณนายหยวนแล้วค่ะ”

จงมั่นหวาถาม “คุณนายหยวนว่าไงบ้าง”

“คุณนายหยวนบอกว่าไอเดียของหนูดีมาก” อิ๋งเย่ว์เซวียนตอบไปตามตรง “เพียงแต่ความรู้ยังผิวเผิน ตอนปิดเทอมหน้าหนาวจะรับหนูไปฝึกอบรมโดยเฉพาะที่ตี้ตูค่ะ”

จงมั่นหวาตื่นเต้นดีใจมาก “งั้นลูกต้องคว้าโอกาสนี้ไว้ให้ดี แต่ก็จะทิ้งการเรียนไม่ได้นะ”

เธอใส่ใจการเรียนของอิ๋งเย่ว์เซวียนมาตลอด โชคดีที่อิ๋งเย่ว์เซวียนก็ไม่เคยทำให้เธอขายหน้า

ตั้งแต่ขึ้นมอหกมา อิ๋งเย่ว์เซวียนก็คว้าที่หนึ่งจากการจำลองการสอบได้ตลอด

จงมั่นหวารู้สึกภูมิใจมาก

ตระกูลเนี่ยเป็นยักษ์ใหญ่ทางด้านเทคโนโลยีอิเล็กทรอนิกส์ มีกิจการในเครืออยู่ไม่น้อย ก้าวไกลไปสู่ตลาดสากลแล้ว

ขอเพียงแต่โปรเจ็กต์ใหม่นี้สำเร็จ ตระกูลหยวนก็จะบรรลุความร่วมมือกับตระกูลเนี่ย สถานะในตี้ตูก็จะเลื่อนขึ้นไปมาก

อิ๋งเย่ว์เซวียนได้รับคำชมจากคุณนายหยวน ตระกูลอิ๋งย่อมได้อานิสงค์ไปด้วย

นั่นตระกูลเนี่ยเชียวนะ

มีตั้งกี่ตระกูลที่อยากผูกมิตรกับตระกูลเศรษฐีชั้นแนวหน้าของตี้ตู

จงมั่นหวายิ่งคิดก็ยิ่งดีใจ “ตั้งใจอ่านหนังสือนะลูก แม่จะไปต้มซุปปลาให้ กินบำรุงสมอง”

โชคดีที่อิ๋งเย่ว์เซวียนเป็นเด็กรักดี

ถ้าเป็นอิ๋งจื่อจิน คงไม่รู้หรอกว่าอะไรคือภาษาซี

โรงเรียนมัธยมชิงจื้อ

ใกล้สิ้นปี การเรียนของชั้นมอหกก็ยิ่งหนักขึ้น

อิ๋งจื่อจินยังคงสบายๆ ตอนเที่ยงหลังจากเธอไปกินข้าวกับฟู่อวิ๋นเซินเสร็จก็กลับเข้าโรงเรียน

ค่ายติวไอเอสซีรอบสองกำหนดเวลาออกมาแล้ว เป็นช่วงปิดเทอมหน้าหนาว

เธออยากใช้เวลาในช่วงหลายวันนี้ใช้ชีวิตเกษียณสำราญ

ภายในห้องสิบเก้า

เจียงหรานซื้อแฮมเบอร์เกอร์มานั่งกินระหว่างทำโจทย์

ปรากฏว่ารีบกินไปหน่อยเลยสำลัก

เขายืนขึ้น เตรียมไปเอาน้ำ ทันใดนั้นเกิดอาการตัวสั่น

อิ๋งจื่อจินกับซิวอวี่เข้ามาในห้องเห็นภาพเหตุการณ์นี้พอดี

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset