คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 360 ตบหน้าสักที ถูกเห็นจนได้

ประโยคสั้นๆ ปรากฏในสายตาของเธอ

เยี่ยซี หน้าเธอยังดีอยู่ไหม

สีหน้าของเยี่ยซีเปลี่ยนไปทันที

เธอมีแอนตี้แฟนก็จริง แต่ว่าแฟนคลับเยอะกว่า

และเธอยังมีทีมประชาสัมพันธ์โดยเฉพาะ ทีมประชาสัมพันธ์เลี้ยงแฟนคลับอาชีพอยู่ไม่น้อย

แฟนคลับอาชีพพวกนี้มีหน้าที่รับผิดชอบพาพวกแฟนคลับของเธอสร้างกระแส เหยียบย่ำดาราคนอื่น

ภายใต้การทำงานของทีมประชาสัมพันธ์ คำค้นในด้านลบของเธอไม่มีทางขึ้นถึงสิบอันดับแรก

แล้วนี่มันเรื่องอะไรกัน

เยี่ยซีจะแย่งโทรศัพท์จากมือของเฉินหลีมาดูให้ชัด แต่เฉินหลีกลับกำไว้แน่น เลื่อนดูไม่หยุด

ยิ่งดู ร่างกายของเฉินหลีก็ยิ่งสั่นรุนแรง

โพสต์ที่เธอให้พวกแอ๊กเคานท์เชิงพาณิชย์หลายร้อยแอ๊กเคานท์โพสต์ว่าอวิ๋นเหอเย่ว์จงใจทำร้ายเยี่ยซีก็ถูกดันลงล่างหมดเพราะความร้อนแรงของฉินหลิงอวี๋กับเซี่ยมั่นอวี่

การเตรียมการทั้งหมดกลายเป็นเรื่องสูญเปล่าอย่างสิ้นเชิง

เยี่ยซีรีบควานหาโทรศัพท์มือถือของตัวเอง

พอเปิดออกก็มีเสียง ‘ติ๊งๆๆ’ ดังไม่หยุด

หลังจากที่ผู้กำกับเอาตัวปิดกั้นสัญญาณออก อินเตอร์เน็ตกลับมา ข้อความแจ้งเตือนเวยปั๋วของเยี่ยซีก็แทบระเบิด เต็มไปด้วย 99+

โพสต์ที่เธอถอนตัวออกจากรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ได้ถูกชาวเน็ตเข้ามากระแนะกระแหน

ข้างใต้มีแต่ข้อความว่า

‘เยี่ยซี หน้ายังดีอยู่ไหม’

พวกแฟนคลับของเธอก็ถูกเยาะเย้ยจนไม่เหลือสภาพ

[ขำเป็นบ้า ยังรอให้ทีมงานมาคำนับเชิญเยี่ยซีกลับไปเหรอ เยี่ยซีคู่ควรเหรอ]

[ทีมงานเซด บทจะเชิญก็เชิญมาได้อย่างนี้แหละ ตบหน้าพวกเธออย่างจัง]

[อันที่จริงเยี่ยซีจงใจเล่นตัวสินะ อยากได้ผลประโยชน์จากทีมงานมากกว่านี้ล่ะสิ ปรากฏว่าไม่ได้อะไร แถมทีมงานไปหาคนใหม่แล้วด้วย]

[รบกวนเยี่ยซี่เล่นตัวเยอะๆ ไม่แน่ต่อไปพวกเบอร์ใหญ่ในวงการที่ไม่ทำงานแล้ว อาจถูกเธอทำให้เปลี่ยนใจกลับมาก็ได้ ฉันล่ะตั้งตารอเลยนะ]

ระหว่างที่อ่านๆ อยู่นั้น สีหน้าของเยี่ยซีก็ซีดลงทีละนิด เหงื่อเริ่มออกเต็มหลัง ร่างกายอ่อนยวบ

เธอกำโทรศัพท์มือถือแน่น เงยหน้า “พี่หลี…”

เธอกับเฉินหลีมั่นใจมากว่าทีมงานรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 จะต้องไปหาตัวเลือกที่ดีกว่าเธอไม่ได้แล้วแน่นอน

แต่ตอนนี้ทีมงานเชิญมาได้ทั้งเซี่ยมั่นอวี่กับฉินหลิงอวี๋!

ต่อหน้าโปรดิวเซอร์วงบอยแบนด์สองคนนี้เธอก็เป็นแค่ตัวตลกที่ไม่มีค่า

แม้แต่คุณสมบัติที่จะสู้ฉินหลิงอวี๋ก็ยังไม่มี ยิ่งไม่ต้องพูดถึงเซี่ยมั่นอวี่เลย

“พี่หลี ทำไงดีคะ” เยี่ยซีลนลานมาก “พวกเราควรทำไงดี”

เฉินหลีผ่านร้อนผ่านหนาวมามากกว่าเยี่ยซีเยอะ ตอนนี้เริ่มใจเย็นลงบ้างแล้ว “ออกไปจากที่นี่ก่อน กลับบริษัท”

เฉินหลีเปิดประตู พอออกไปก็เจอโปรดิวเซอร์หลี่ ผู้กำกับ รวมถึงเซี่ยมั่นอวี่กับฉินหลิงอวี๋ที่เพิ่งออกมาจากห้องประชุม

เซี่ยมั่นอวี่มองเห็นเยี่ยซีตั้งแต่แวบแรก เธอเดินเข้าไปขอบคุณจากใจจริง

“ขอบคุณมากๆ ที่ทำให้ฉันมีโอกาสได้คลุกคลีกับเด็กหนุ่มพวกนี้อย่างใกล้ชิด” เซี่ยมั่นอวี่ยิ้มตาหยี “หลายปีแล้วที่ฉันไม่มีแม้แต่ข่าวฉาวเรื่องความรัก แฟนคลับของฉันพากันร้อนใจหมดแล้ว”

เซี่ยมั่นอวี่แจ้งเกิดจากภาพยนตร์ ไม่เคยคลุกคลีวงการละคร ใบหน้าก็เหมาะกับถ่ายภาพยนตร์มากกว่า

บุคลิกน่าเกรงขามเกินไป เยี่ยซีไม่มีทางข่มได้

ริมฝีปากของเธอสั่น ฝืนยิ้มออกมา “อะ อาจารย์เซี่ย…”

“ชิ”

เสียงหัวเราะสั้นๆ แต่เจือไปด้วยความเย้ยหยัน

เป็นของฉินหลิงอวี๋

เธอสวมหมวกเบสบอล ผมย้อมสีน้ำเงินเข้มสยายประบ่า ชุดหนังสีดำรัดรูปช่วยกระชับรูปร่างที่สมบูรณ์แบบ

ฉายานางมารบนโลกมนุษย์ไม่ได้ลือกันเล่นๆ

เธอกอดอก เหลือบมองเยี่ยซีด้วยสายตาเรียบเฉย

แต่เยี่ยซีกลับรู้สึกเย็นวาบ เธอรู้สึกได้ถึงแรงอาฆาตจากสายตาของฉินหลิงอวี๋อย่างบอกไม่ถูก

เยี่ยซีเคยเล่นสะครสายลับ เคยเรียนรู้วิธีใช้ปืน แต่เธอยังไม่เคยสัมผัสกับความรู้สึกแบบนี้มาก่อน

ฉินหลิงอวี๋ละสายตา ล้วงหมากฝรั่งในกระเป๋าเสื้อโยนเข้าปากหนึ่งเม็ด “น่าเบื่อ”

ตอนนี้วงการบันเทิงนิยมดาราแบบไหนกัน นับวันจะยิ่งหน้าตาแย่ลงเรื่อยๆ

ยังสู้เธอที่เป็นนักฆ่าไม่ได้เลย

นักฆ่าอาชีพหลัก ดาราอาชีพรอง

ฉินหลิงอวี๋ไม่ได้เกิดความสนใจในตัวเยี่ยซี เธอกลับเข้าห้องประชุมอีกครั้ง ไปหาอิ๋งจื่อจินแล้ว

“ผู้กำกับ โปรดิวเซอร์หลี่” เฉินหลีกัดฟัน ยังคงไม่ยอม “พวกคุณหมายความว่าไงคะ”

ช่วงหลายวันมานี้โปรดิวเซอร์หลี่โมโหแทบตาย กว่าจะเอาคืนได้ไม่ใช่เรื่องง่าย ย่อมไม่มีทางปล่อยโอกาสที่จะได้ตบหน้าแบบนี้

“หมายความว่าไงน่ะเหรอ” เขาแสยะยิ้ม “ตอนที่คุณบีบให้ทีมงานจนมุม ผมถามคุณหรือยัง ใช่ ผมจงใจให้พวกคุณรอ มีความสุขไหมล่ะ”

เฉินหลีโมโหจนสมองตื้อ

“แล้วก็ พวกคุณผิดสัญญา” โปรดิวเซอร์หลี่สะใจมาก “ตอนนี้เชิญเก็บของทั้งหมดออกไปจากกองถ่ายแล้วชดใช้ค่าผิดสัญญาด้วย”

พูดประโยคนี้จบเขายังรู้สึกว่าไม่พอ พูดเสริมอีกหน่อย “อวิ๋นเหอเย่ว์จะได้เดบิวต์หรือเปล่าก็ขึ้นอยู่กับตัวเขา แต่เฉินหลี ผมจะบอกคุณให้ เด็กฝึกที่อยู่ในสังกัดของคุณอย่าหวังว่าจะได้เดบิวต์เลย”

โปรดิวเซอร์หลี่ขี้เกียจเสียเวลาคุยกับเฉินหลีและเยี่ยซีอีก ให้สตาฟไล่สองคนนี้ออกไป

เวลาหนึ่งทุ่มในฤดูหนาวฟ้ามืดสนิทนานแล้ว

บริเวณพื้นที่ที่ทางทีมงานสร้างเป็นค่ายฝึกนี้อยู่ชานเมือง โดยรอบมีรถสัญจรไปมาอยู่ไม่เท่าไร

หนาวเข้ากระดูก เย็นยะเยือกสุดใจ

เฉินหลีนึกเสียใจแล้วจริงๆ

ถ้าก่อนหน้านี้เธอไม่ถ่วงเวลาทีมงานไว้นานขนาดนั้น เหตุการณ์คงไม่พลิกไปมากขนาดนี้

แต่ตอนนี้เธอก็ยังคงไม่เข้าใจว่า ทีมงานเชิญเซี่ยมั่นอวี่กับฉินหลิงอวี๋มาได้อย่างไร

พอเข้าใจได้ว่าเซี่ยมั่นอวี่มาเพราะชูกวงมีเดียลงทุนให้รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 แต่ฉินหลิงอวี๋ล่ะ

“พี่หลี” เยี่ยซีดวงตาแดงก่ำ “ฉันควรทำไงดีคะ”

“ไม่ต้องกลัวนะ” เฉินหลีกัดฟัน “เรื่องนี้อย่างมากเธอก็จะถูกแซะไประยะหนึ่ง กลับบริษัท พี่จะติดต่อทีมประชาสัมพันธ์ ดูว่าจะช่วยเธอเรียกคะแนนสงสารยังไงได้บ้าง”

การเรียกคะแนนสงสารเป็นอีกหนึ่งวิธีที่ใช้บ่อยในวงการบันเทิง เฉินหลีเองก็เคยใช้หลายครั้ง

เธอเตรียมสร้างภาพให้เยี่ยซีเป็นเหยื่อ ทำให้แฟนคลับของเยี่ยซีรู้สึกว่าเยี่ยซีน่าสงสารมาก แบบนี้พวกแฟนคลับก็จะเห็นใจเยี่ยซี และจะยิ่งจงรักภักดีมากขึ้น

นี่เป็นวิธีทางจิตวิทยา แต่ดาราที่ขายความสามารถที่แท้จริงอย่างฉินหลิงอวี๋กับซังเย่าจือไม่มีทางทำ

เยี่ยซีกัดปากพยักหน้า

แต่เธอเดินไปได้ไม่กี่ก้าวก็หยุดลงอีกครั้ง สายตาลังเล

เมื่อครู่ดูเหมือนเธอจะเห็นผู้ช่วยของอวิ๋นเหอเย่ว์อยู่ในห้องประชุมหรือเปล่า

เฉินหลีเห็นเธอไม่ขยับก็โมโห “รออะไรอีก”

“พี่หลี” เยี่ยซีพูดในสิ่งที่ตัวเองสงสัย

“จะเป็นไปได้ยังไง” เฉินหลีไม่สนใจ “แค่อวิ๋นเหอเย่ว์ ชูกวงมีเดียจะส่งผู้ช่วยมาให้เลยเหรอ ครั้งนี้กดดันทีมงานให้จนมุม เกี่ยวอะไรกับอวิ๋นเหอเย่ว์ด้วย”

“เธอคอยดูนะ พี่จะตามรังความอวิ๋นเหอเย่ว์ไปเรื่อยๆ ต่อให้เขาได้เดบิวต์ สักวันพี่ก็จะทำให้เขาได้รู้ว่าวงการบันเทิงมันอันตรายขนาดไหน”

พอเฉินหลีพูดแบบนี้ เยี่ยซีก็รู้สึกว่าตัวเองมองผิดแล้ว

อวิ๋นเหอเย่ว์เป็นเด็กฝึกไร้สังกัด ถ้าเขาเป็นเด็กฝึกของชูกวงมีเดีย พวกเธอไม่มีทางไม่รู้

เฉินหลีเรียกรถแล้วรีบพาเยี่ยซีออกไปจากที่นั่น

สามสิบนาทีต่อมา รถปอร์เช่สีดำคันหนึ่งก็มาจอดที่หน้าอาคารใหญ่

ฟู่อวิ๋นเซินเปิดประตูลงจากรถ

เขาเหลือบดูเวลาแล้วส่งข้อความวีแชทหาอิ๋งจื่อจิน

รออยู่ห้านาทีเธอถึงลงบันไดมา

เธอสวมเสื้อโค้ทขนสัตว์ ใส่หมวกและมีผ้าพันคอ

เป็นการแต่งตัวที่ดูหนามาก แต่ก็ยังคงมองออกว่าหุ่นดี

สายตาของฟู่อวิ๋นเซินค้างอยู่ที่ตัวอิ๋งจื่อจินชั่วขณะแล้วถึงค่อยๆ ละออก

เนี่ยเฉาบอกเขาเลี้ยงมาหนึ่งปี อีกทั้งยิ่งเลี้ยงก็ยิ่งเติบโตได้ดี

ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้า รับกระเป๋าสะพายหลังมาจากอิ๋งจื่อจิน “มือหนาวหรือเปล่า”

“ไม่…”

อิ๋งจื่อจินยังไม่ทันพูดจบก็ถูกกุมมือไว้

ความอบอุ่นที่ปลายนิ้วค่อยๆ แผ่ขยายไปทั้งร่างกาย

นิ้วของเธอขยับ

“ดูท่าจะหนาวนะ มือสั่นเชียว” ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว “เยาเยา ช่วงนี้เลือดเธอไม่ไหลเวียนหรือเปล่า”

“…”

มีคนอยู่ประเภทหนึ่งที่มีความสามารถพูดโกหกได้โดยไม่กะพริบตา แถมยังจริงจัง

“ยังดีที่พี่ชายสุขภาพแข็งแรง ความร้อนในกายก็เยอะเป็นพิเศษ” ฟู่อวิ๋นเซินจับมือเธอแบบนั้น กระชับแน่นเล็กน้อย “ให้ความอบอุ่นที่มือเธอฟรีๆ ไม่คิดเงิน”

อิ๋งจื่อจินเหลือบมองเขา สุดท้ายก็ไม่แฉ

อย่าว่าแต่เธอเลย ต่อให้เป็นจอมยุทธ์ที่เพิ่งฝึกวิทยายุทธ์จนมีกำลังภายใน สภาพร่างกายก็จะดีขึ้นมาก

สภาพอากาศที่ติดลบหลายองศาแบบนี้ ไม่มีทางส่งผลอะไร

ต่อให้เธอสวมชุดนอนอยู่ในสภาพอากาศที่ติดลบห้าสิบองศาก็ยังคงดูละครได้อย่างสบายใจ

ฟู่อวิ๋นเซินพาเธอเดินไปทางรถ

พอขึ้นรถแล้วมีแอร์อุ่นเขาก็ปล่อยมือเธอ

ราวกับทำเพื่อให้ไออุ่นจริงๆ ไม่ได้มีความหมายอื่น

ความอุ่นหายไปในทันที แต่บางสิ่งบางอย่างกลับหลงเหลืออยู่

อิ๋งจื่อจินมองมือตัวเอง เข้าสู่ห้วงความเงียบ

ต้องยอมรับเลยว่า เธอแอบชอบความรู้สึกนี้อยู่บ้าง

ราวกับว่าการได้จับมือเขาแน่นๆ เธอจะสามารถสัมผัสได้ว่าโลกนี้เป็นของจริง

มุมปากของฟู่อวิ๋นเซินถูกยกขึ้น เห็นเธอนั่งเหม่อจึงเอามือจับผมเธอ พูดเสียงเรื่อยเปื่อย “เด็กน้อย ลืมเรื่องอะไรไปหรือเปล่า”

“หืม?” อิ๋งจื่อจินนั่งพิงเบาะข้างคนขับ รัดเข็มขัดนิรภัย “อะไรเหรอ”

“วันนี้เป็นวันครบรอบหนึ่งปีของพวกเรานะ”

มือของอิ๋งจื่อจินชะงัก เหลือบตาขึ้น “ครบรอบ หนึ่งปีเหรอ”

“ลืมแล้วเหรอ” ฟู่อวิ๋นเซินหันหน้ามา สีหน้าไม่จริงจัง “ปีที่แล้วเวลานี้ พวกเราเจอกันครั้งแรก พี่ชายยังเลี้ยงตับหมูเธอมื้อใหญ่ด้วยนะ”

“…”

พอพูดถึงตับหมูเธอก็จำได้แล้ว

นั่นไม่ใช่ความทรงจำที่ดีอะไร

“พูดตามตรง” อิ๋งจื่อจินพูด “ตอนนั้นฉันอยากอัดคุณมาก”

ฟู่อวิ๋นเซินเลิกคิ้ว ค่อยๆ พูดขึ้น “งั้นพี่ชายต้องขอบคุณที่เยาเยาเมตตาไว้ชีวิตพี่ชายแล้ว”

อิ๋งจื่อจินมองไปนอกหน้าต่าง

หิมะเริ่มตกในเวลานี้ ระลอกแล้วระลอกเล่า

หิมะเม็ดใหญ่ ไม่นานก็ทำให้พื้นขาวโพลน

เธอละสายตา หันหน้าไปก็พบว่าฟู่อวิ๋นเซินยังมองเธออยู่

การจ้องของเขาร้อนแรงเหลือเกิน ชวนให้ยากที่จะต้านทาน

ครั้งนี้เป็นอิ๋งจื่อจินที่ละสายตาก่อน “มีอะไรเหรอ”

“เปล่า ก็แค่อยู่ๆ นึกได้ว่า…” ฟู่อวิ๋นเซินหลุบตาลง ขนตาขยับเล็กน้อย แสยะยิ้ม “ครั้งแรกที่เจอเธอหิมะก็ตกเหมือนกัน”

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วขณะ “เวลาผ่านไปเร็วมาก”

เพียงชั่วพริบตาเธอก็กลับมาได้หนึ่งปีแล้ว

“เร็วจริงๆ” ฟู่อวิ๋นเซินออกรถ “เธอใกล้สิบแปดแล้ว”

“อืม” อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “ใกล้สิบแปดแล้วยังไง”

ดวงตาดอกท้อของฟู่อวิ๋นเซินขรึมลง สีหน้าจริงจังแบบที่เห็นได้ยาก “จัดพิธีบรรลุนิติภาวะได้แล้ว”

“อ่อ” อิ๋งจื่อจินไม่สนใจพิธีพวกนี้

เธอพิงหน้าต่างแล้วค่อยๆ ผล็อยหลับไป

หลายวันต่อมา

รายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ที่เซ็นสัญญากับฉินหลิงอวี๋และเซี่ยมั่นอวี่ก็เริ่มถ่ายทำแล้ว

พอถ่ายทำเสร็จก็มีการตัดต่อ จากนั้นได้เอาลงฉายทางช่ององุ่นในวันที่หนึ่งกุมภาพันธ์

ยอดรับชมในวันนั้นทะลุห้าสิบล้าน

อันดับค้นหาในเวยปั๋วถูกรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ยึดครองทุกพื้นที่ ร้อนแรงแบบที่ไม่เคยมีมาก่อน

[อ๊าก ฉันจะขิตแล้ว ฉินหลิงอวี๋ทำไมสวยกินขาดแบบนี้!]

[เดี๋ยวนะเดี๋ยว เมื่อกี้กล้องถ่ายผ่านตรงผู้ชม ทำไมฉันเหมือนเห็นเทพอิ๋งเลยล่ะ!]

[คอมเมนต์บน เลิกฝันเถอะ เทพอิ๋งไม่มาเข้าวงการนี้หรอก]

[ก็ไม่แน่นะ เกิดวันไหนทางสถานีโทรทัศน์กลางร่วมมือกับช่ององุ่นขึ้นมา จากนั้นเยี่ยซีทำเล่นตัวขึ้นมาอีก เทพอิ๋งยอมมาเข้าวงการจะเป็นไง]

โปรดิวเซอร์หลี่เห็นคอมเมนต์นี้ “เทพอิ๋งคือใครเหรอ”

ผู้กำกับครุ่นคิดเล็กน้อยแล้วตอบ “พี่หลี่ เป็นเทพด้านการเรียน ผมปลื้มมาก สวยกว่าฉินหลิงอวี๋อีกนะ!”

ชื่อของฉินหลิงอวี๋แต่ไหนแต่ไรเป็นการแสดงถึงความงามที่สวยติดเพดานของวงการบันเทิง

ตอนนี้มีคนที่สวยกว่าฉินหลิงอวี๋แล้ว

แถมหุ่นแบบนี้

ตอนทั้งสองคนไปห้องทำงาน อิ๋งจื่อจินสวมผ้าปิดปาก หน้าที่คุยงานเป็นของเลขาสาว ด้วยเหตุนี้จึงไม่มีใครเห็นใบหน้าเธอ

“มีคนแบบนี้อยู่ด้วยเหรอ” โปรดิวเซอร์หลี่ก็ตกใจมาก ชะโงกหน้าไปดูแล้วส่ายหน้า น่าเสียดาย “ความร่วมมือแบบนี้เป็นได้แค่ฝัน เด็กของสถานีโทรทัศน์กลางจะเอามาโผล่ส่งเดชได้ยังไง”

ทีมงานรายการวัยรุ่นสร้างฝันวุ่นจนหัวหมุน มองยอดรับชมที่พุ่งไม่หยุด ดีใจจนอ้าปากค้าง

ส่วนทางด้านเฉินหลี ในที่สุดก็ลงมือแล้ว

เธออาศัยความนิยมของรายการวัยรุ่นสร้างฝัน 202 ให้แอ๊กเคาท์เชิงพาณิชย์กับแฟนคลับอาชีพออกโรงอีกครั้ง

แอทเป็นของเยี่ยซี : [ทีมงานรายการโปรดอย่านิ่งเฉย แฟนคลับทางการต้องการรู้ว่าทำไมซีซีถึงได้รับบาดเจ็บในห้องแต่งหน้าที่ทางทีมงานเตรียมให้ และทำไมหลังจากที่ผู้ช่วยของอวิ๋นเหอเย่ว์เข้าไปในห้องแต่งหน้านั้นแล้วก็เกิดเรื่องขึ้นที่ใบหน้าของซีซี

ทีมงานเชิญโปรดิวเซอร์อีกคนไว้ก่อนแล้วใช่ไหม ถึงได้จงใจรังแกซีซีของพวกเราแบบนี้

ทีมงานช่วยมาอธิบายด้วย!]

ด้านล่างมีหนึ่งรูป เป็นภาพอิ๋งจื่อจินที่สวมผ้าปิดปาก แต่เป็นใบหน้าด้านข้าง

แต่ก็ยากที่จะปิดบังขนตางอนยาว ผิวขาวผ่อง บุคลิกโดดเด่น

แฟนคลับอาชีพก็ปั่นกระแสภายใต้การควบคุมของเฉินหลี

[ทีมงานอย่ามาแกล้งตาย! คนแบบอวิ๋นเหอเย่ว์ทำไมถึงเข้าร่วมรายการได้]

[สงสัยจริงๆ ว่าซีซีถูกวางแผนเล่นงาน]

[พวกเราจะเอาเรื่องผู้ช่วยคนนี้! ผู้หญิงเล่นงานกันเองมันร้ายที่สุด อิจฉาที่ซีซีสวยกว่า ถึงได้อยากทำซีซีเสียโฉมใช่ไหม]

ทันใดนั้นได้มีคอมเมนต์หนึ่งโพล่งขึ้นมา

[เดี๋ยวนะ นี่มัน…เทพอิ๋งของฉันไม่ใช่เหรอ]

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset