คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ – ตอนที่ 81 คุกเข่าให้พ่ออิ๋ง

พ่อของเขาเพิ่งพ้นจากความตายมาได้ เกิดเป็นอะไรไปอีกจะทำยังไง

ชายวัยกลางคนไม่มองเด็กสาวอีกต่อไป ขมวดคิ้วพูด

“พ่อ อย่าเอะอะก็เอาของที่คนอื่นให้ใส่ปากได้ไหม”

เซิ่งชิงถังไม่ตอบ เขามองยาที่ตกอยู่บนพื้น นิ่งไปชั่วขณะ

ไม่กี่วินาทีต่อมาในที่สุดเขาก็ได้สติ โมโหจนตบกบาลลูกชายวัยกลางคนไปหนึ่งที

“ไอ้โง่! รู้หรือเปล่าว่านี่มันยาอายุวัฒนะที่คุณอิ๋งให้พ่อแก”

“เพราะฉันใช้ชีวิตไม่นอนดึกกินแต่ผักมันดีกว่าแกใช่ไหม แกกลัวฉันจะอายุยืนจนต้องเป็นคนส่งวิญญาณแกแทนหรือไง”

ชายวัยกลางคนถูกตบจนงง “ยาอายุวัฒนะอะไร พ่อ ผมบอกแล้วว่าดู…”

“หุบปาก!” เซิ่งชิงถังหวดไปอีกหนึ่งที “นี่คือคุณอิ๋งหมอเทวดา ถ้าไม่ได้เธอ พ่อแกไปเฝ้ายมบาลเรียบร้อยแล้ว”

ชายวัยกลางคนงงอีกรอบ “พ่อ พ่อบอกว่าเด็กสาวคนนี้คือคุณอิ๋งหมอเทวดา หลอกผมหรือเปล่า”

“ไร้สาระ” เซิ่งชิงถังพูดอย่างไม่สบอารมณ์ “รีบเก็บยาเม็ดนั้นขึ้นมาให้ฉัน”

พอพูดจบก็ได้ยินเสียง ‘ตึก’ ชายวัยกลางคนลงไปคุกเข่าแล้ว

“หมอเทวดา…” บทจะร้องไห้ก็ร้องไห้ ฟูมฟายอย่างหนัก “คุณหมอเป็นพ่อแม่ที่มาเกิดอีกครั้งของผม ถ้าไม่มีคุณหมอผมก็ไม่รู้จริงๆ ว่าจะทำยังไงแล้ว”

ผู้เฒ่าเซิ่ง “…”

ดูเหมือนพ่อแท้ๆ ของแกก็ยังอยู่ตรงนี้นะ

“พ่อผมถูกหลอกขายพวกวิตามินบำรุงทุกวัน ยิ่งหลอกได้ก็ยิ่งกล้า ผมก็เลยคิดว่าคุณหมอเป็นแบบนั้น” ชายวัยกลางคนปาดน้ำตา “ขอโทษจริงๆ ครับ ผมขอโทษ”

เดิมทีเขาคิดว่าพ่อของเขาคงไม่รอดแน่แล้ว นึกไม่ถึงว่าจะมีปาฏิหาริย์เกิดขึ้น

อย่าว่าแต่คุกเข่าเลย เอาชีวิตเขาไปก็ยังได้

อิ๋งจื่อจินรับอะไรแบบนี้ไม่ไหว เธอถอยหลังหนึ่งก้าว “ไม่เป็นไรค่ะ คุณลุกขึ้นก่อน”

เซิ่งชิงถังเก็บยาของตัวเองเอามาเช็ดอย่างทะนุถนอมแล้วกินเข้าไป ยังคงโกรธไม่หาย “ปล่อยให้คุกเข่าไปนั่นแหละ”

“หมออิ๋ง ไม่ได้เจอคุณหมอเลย เป็นเพราะผมไม่เอาใจใส่เอง” ชายวัยกลางคนรู้สึกผิดมาก “นี่ก็ใกล้เย็นแล้ว ไม่งั้นอยู่กินข้าวด้วยกันสิครับ”

“ไม่ดีกว่าค่ะ” อิ๋งจื่อจินส่ายหน้าเล็กน้อย “ฉันยังต้องกลับโรงเรียน”

“งั้นก็ได้ครับ” ชายวัยกลางคนรีบลุกขึ้น “ผมจะไปส่งคุณอิ๋งนะครับ”

อิ๋งจื่อจินหยิบม้วนภาพเขียนที่วางอยู่บนโต๊ะรับแขก กำลังจะเดินออก

เซิ่งชิงถังตาไว ตะโกนขึ้นทันที “คุณอิ๋ง เดี๋ยวก่อนครับ!”

อิ๋งจื่อจินหันกลับไป

“ผมได้กลิ่นหอมของน้ำหมึก” เซิ่งชิงถังถูมือ “ไม่ทราบว่าในมือคุณอิ๋งเป็นภาพเขียนชั้นดีอะไรเหรอครับ”

อิ๋งจื่อจินพยักหน้า “แค่เขียนเล่นน่ะค่ะ”

“ขอผมดูหน่อยได้ไหมครับ” เซิ่งชิงถังกระแอม “ไอ้ลูกอกตัญญูคนนี้ไม่ให้ผมแตะพู่กันนานแล้ว”

ชายวัยกลางคนหมดคำจะพูด “พ่อ รู้จักอายบ้าง เห็นๆ อยู่ว่าตัวเองวันๆ ปีนต้นไม้เก็บผลไม้ ไม่ก็ไปจับปลา”

เซิ่งชิงถังไม่สนใจเขา รับม้วนภาพเขียนมาจากมือของเด็กสาวด้วยความระมัดระวังแล้วกางออก

จากนั้นก็ตกอยู่ในห้วงความเงียบ

ชายวัยกลางคนแปลกใจ ชะโงกหน้าเข้าไปดูแล้วก็ต้องตกใจ “พ่อ อักษรนี้…”

“ไสหัวไป” เซิ่งชิงถังเงยหน้า สีหน้าหนักใจขึ้นมาทันที “คุณอิ๋งครับ ผมขอซื้อภาพเขียนของคุณในราคาหนึ่งล้านได้ไหมครับ”

“…”

อิ๋งจื่อจินเงียบไปชั่วขณะ “เท่าไรนะคะ”

เซิ่งชิงถังกลับคิดว่าเธอรู้สึกว่ามันน้อยไป “สองล้านก็ได้ครับ”

ชายวัยกลางคนชักไม่พอใจ “พ่อ ทำไมแก่แล้วกลายเป็นคนขี้งกล่ะ ผมว่าภาพที่คุณอิ๋งเขียนมันดีกว่าที่พ่อเขียนสมัยหนุ่มๆ อีกนะ ภาพอักษรไก่เขี่ยของพ่อตอนนั้นยังขายตั้งแปดล้าน”

“พ่อดูสิ อักษรพลิ้วไหวดุจสายน้ำ ลงน้ำหนักกำลังดี คล้ายยุคสมัยเว่ยจิ้น ต่อให้เป็นคนที่มีประสบการณ์สามสิบปีขึ้นไปก็ใช่ว่าจะเขียนออกมาได้”

ผู้เฒ่าเซิ่ง “…”

ไอ้ลูกเนรคุณ!

“คุณอิ๋งครับ อย่าไปถือสาพ่อผมเลยนะครับ ผมขอซื้อภาพเขียนของคุณ” ชายวัยกลางคนใจป้ำ “สิบล้าน รับรองไม่ให้คุณขาดทุนแน่นอนครับ”

อิ๋งจื่อจินเงียบไปสักพัก “ขอโทษด้วยค่ะ ภาพเขียนนี้ฉันจะเอาไปประกวดในงานเทศกาลศิลปะของโรงเรียน ถ้าพวกคุณอยากได้จริงๆ เดี๋ยวฉันเขียนให้ใหม่”

“เอาไปประกวดเทศกาลศิลปะเหรอ” เซิ่งชิงถังรู้สึกปวดใจ “เสียของหมด เสียของหมด!”

จบกัน เขารู้สึกเสียดาย “งั้นรบกวนคุณอิ๋งช่วยเขียนให้อีกภาพ ผมขอถ่ายกับภาพนี้ได้ไหมครับ”

สุดท้าย ตอนที่อิ๋งจื่อจินออกไปพร้อมเงินสิบล้าน เธอก็ยังรู้สึกแปลกๆ ตรงไหนพิกล

เธอถอนหายใจออกมาเบาๆ นวดศีรษะ

เขียนภาพอักษรทำเงินได้ขนาดนี้ แล้วเธอยังจะปรุงยาไปทำไม

สามวันต่อมา

เวลาเที่ยง

อิ๋งจื่อจินรับสายของผู้เฒ่าจง

“จื่อจิน พรุ่งนี้เป็นวันเกิดของหลาน ตาเตรียมจัดงานฉลองวันเกิดให้ เดี๋ยวหลานมีเวลาไปดูชุดใส่ในงานไหม”

พอได้ยินแบบนี้อิ๋งจื่อจินถึงนึกได้ว่าวันเกิดของเธอคือวันที่ยี่สิบสี่มีนาคม

เมื่อก่อนตอนอยู่อำเภอชิงสุ่ย ถึงแม้ครอบครัวเวินจะยากจน แต่เวินเฟิงเหมียนก็ไม่มีทางไม่เอาใจใส่เธอกับเวินทิงหลาน

ดังนั้นทุกปีจะฉลองวันเกิดให้พวกเธอสองพี่น้อง

เพียงแต่ไม่มีเงินซื้อเค้ก มีแค่แป้งอบหนึ่งชิ้น

แต่ก็มีความสุขดี

เมื่อหนึ่งปีก่อนเธอถูกรับกลับตระกูลอิ๋งก็ไม่ได้มีการฉลองวันเกิดอีกเลย

เพราะตระกูลอิ๋งไม่มีใครนึกถึงเธอเลย และตอนนั้นผู้เฒ่าจงก็ไม่ได้อยู่เมืองฮู่เฉิง เขาเลยไม่รู้

“คุณตาไม่ต้องยุ่งยากขนาดนั้นหรอกค่ะ” อิ๋งจื่อจินยิ้ม “คุณตามาบ้านครอบครัวเวินกินข้าวกับพ่อหนูสิคะ หนูไม่ชอบจัดงานเอิกเกริก”

ผู้เฒ่าจงเงียบไปนาน ผ่านไปสักพักถึงตอบ “ก็ได้ๆ ครอบครัวอยู่กันพร้อมหน้าก็พอแล้ว”

“พรุ่งนี้ตาจะไปรับหลานที่โรงเรียน จากนั้นก็ไปที่บ้านครอบครัวเวินด้วยกัน”

หลังวางสายอิ๋งจื่อจินก็ครุ่นคิดแล้วโทรหาฟู่อวิ๋นเซิน

ฟู่อวิ๋นเซินกำลังอยู่กับผู้เฒ่าฟู่ที่บ้าน หลังจากรับสายเสร็จเขาก็ค่อนข้างแปลกใจ

“ว่าไงๆ” ผู้เฒ่าฟู่จับจ้อง “หลานสะใภ้ฉันพูดกับแกว่าไง”

“ข้อแรก ไม่ใช่หลานสะใภ้ ปู่อย่าคิดจับคู่ให้ผม ผมไม่แต่งงาน”

“…”

“ข้อสอง ไม่ได้พูดกับผม แต่พูดกับปู่” ฟู่อวิ๋นเซินท่าทางเหนื่อยหน่าย “เยาเยาเชิญปู่ไปกินเค้กวันเกิดของเธอ”

“จริงเหรอ” ผู้เฒ่าฟู่รู้สึกเซอร์ไพรส์ “จื่อจินชวนฉันไปฉลองวันเกิดด้วยเหรอ”

ฟู่อวิ๋นเซินเงยหน้า “ปู่จะไม่ไปก็ได้”

“ไปๆๆ ไปแน่นอน” ผู้เฒ่าฟู่ตอบจริงจัง “ไม่ได้กินเค้กนานแล้ว ฉันอยากกินมาก”

ฟู่อวิ๋นเซินขมวดคิ้ว

“เอ๊ะ เดี๋ยวนะ” ทันใดนั้นผู้เฒ่าจงก็นึกอะไรขึ้นมาได้ “ตาแก่จงก็ไปด้วยหรือเปล่า”

ฟู่อวิ๋นเซินยังไม่ทันตอบเขาก็ตอบเสียเอง

“งั้นฉันเอากระดานเดินหมากไปด้วย เล่นกับตาแก่นั่นสักสองตา”

พูดอย่างภูมิใจ “ชนะแน่”

“…”

วันที่ยี่สิบสี่มีนาคม

สายลมในฤดูใบไม้ผลิเพิ่งพัดมา ค่ำคืนยังคงยาวนาน

เวลาหนึ่งทุ่มฟ้าก็มืดสนิทแล้ว

ไฟริมถนนค่อยๆ สว่างขึ้น เกิดเงาไปถ้วนทั่ว

คอนโดที่บ้านครอบครัวเวินอยู่ไม่ได้ใหญ่มาก แต่ดีที่มีความสงบ

อิ๋งจื่อจินก็ชอบในจุดนี้ถึงได้ซื้อคอนโดที่นี่ให้เวินเฟิงเหมียน

เวลานี้บนยอดตึกสูงชั้นสิบแปดที่อยู่ไม่ไกลออกไป

มีเงาของใครคนหนึ่งหมอบอยู่ที่พื้น กำลังมองมาทางนี้

ปากกระบอกปืนสีดำค่อยๆ ยกขึ้น เล็งมาที่แผ่นหลังของชายหนุ่มตรงประตูทางเข้าตึก

“ล็อกเป้าหมาย”

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ

Status: Ongoing
อ่านนิยาย คุณหนูไฮโซยอดอัจฉริยะ‘จื่อจิน ถึงเธอจะเป็นลูกสาวของพวกเรา แต่พวกเราเลี้ยงเสี่ยวเซวียนมาสิบห้าปี ผูกพันกับเสี่ยวเซวียนมาก เสี่ยวเซวียนถูกเลี้ยงมาอย่างคุณหนู ไม่เหมือนเธอที่ทนความลำบากที่บ้านนอกมาตลอด ดังนั้นคุณหนูใหญ่ของตระกูลอิ๋งก็ยังคงเป็นเสี่ยวเซวียน’ ‘เธอคงจะน้อยใจ แต่เธอจิตใจดีขนาดนี้ แม่รู้ว่าเธอไม่มีทางถือสาแน่นอน วางใจนะ อะไรที่เธอควรได้ก็จะไม่มีทางน้อยหน้า’ ‘อะไรนะ เธอเองก็อยากไปด้วยล้อเล่นหรือเปล่า ทางนั้นเขาต้องการคุณหนูไฮโซ เธอน่ะ แม้แต่เล่นเปียโนสักเพลงก็ยังไม่เป็น จะไปเล่าอะไรให้เขาฟังมีแต่จะทำขายหน้า’ ภายในความฝันเป็นเงาคนเต็มไปหมดกับคำพูดที่ตีกันยุ่งเหยิง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset