จอมนักรบทรงเกียรติยศ – ตอนที่ 297 ลากออกไป

ไม่ใช่แค่เขา แม้แต่จ้าวก่วงและหยางซิงที่อยู่ข้างๆเขา ทั้งสองก็เป็นเหมือนกัน ที่จ้องหลินถงเหมือนหมาที่หิวโหย รอบๆกายของทุกคนล้วนมีผู้หญิงไม่ขาดมือ แต่ผู้หญิงคนนี้มันช่างน่าหลงใหลเสียเหลือเกิน ทำเอาหลายคนนี้เคลิบเคลิ้มหลงใหลไปตามๆกัน

“ใช่ครับใช่ครับ คุณนายถัง ไอ้นี่มันตีเนียนกินฟรี” จ้าวก่วงรีบพูดสมทบ ราวกับการที่ได้พูดกับหลินถงนั้น เป็นความโชคดีในหลายภพชาติของตัวเอง

หลินถงสีหน้าดุดัน แล้วตะคอก “พวกแกหุบปาก! รู้มั้ยว่านี่เป็นใคร? นี่คือเทพหมอฟางแจกวีไอพีที่ฉันเชิญมานะ! ฉันว่า พวกแกต่างหากที่ตีเนียนกินฟรี? ไอ้พวกหมาหัวเน่าไร้การศึกษา ไสหัวออกไปซะ!”

เมื่อเหลียงเจิ้งได้ยินประโยคนี้ ก็งงงวย จ้าวก่วงและหยางซิง ล้วนงงงวยไปตามๆกัน!

เทพหมอฟาง! นี่มันเรื่องตลกใช่มั้ย? ไอ้นี่มันจะเป็นเทพหมอได้อย่างไรกัน!

“เพี้ยะ!” หลังจากที่พูดกับหลายคนเสร็จ หลินถงก็ตบไปที่หน้าของรปภ.หนึ่งฉาด จากนั้นก็กล่าวอย่างโมโหว่า “แกอีกคน แหกตาโง่ๆของแกดูซะ นี่คือแขกวีไอพีของฉัน และก็เป็นคนสำคัญของฉันเช่นกัน! ไอ้หลายคนนี่มันเป็นหมาก็ช่าง แกยังจะตามเป็นหมาไปด้วยหรือไง?”

รปภ.ตกใจจนพยักหน้ารัวๆ แล้วกล่าว “ครับครับครับคุณนาย ผมผิดไปแล้ว ผมผิดไปแล้ว!”

เหลียงเจิ้งหน้ากระตุก แล้วกล่าว “แก แก แกพูดว่าอะไรนะ? แกว่าใครเป็นหมา?”

“เข้ามา!” หลินถงขี้เกียจฟังคำพูดของเหลียงเจิ้ง จึงตะโกนออกมา รปภ.ที่ร่างกำยำเดินเข้ามา หลินถงกล่าว “ลากไอ้ตีเนียนกินฟรีสามคนนี้ออกไป อย่าให้พวกมันเข้ามาในบ้านของฉันแม่แต่ก้าวเดียว”

“ครับ!” คนเหล่านั้นจับมือของทั้งสามไป ลากพวกเขาออกไปอย่างไม่ลังเลใดๆ

ที่ตระกูลถังตำแหน่งของหลินถงค่อนข้างสูง พูดอะไรก็มีคนฟัง

“นี่! อย่าเกินไปนะ ฉันเป็นลูกชายของเหลียงจง ฉันคือเหลียงเจิ้งนะ!” เหลียงเจิ้งกล่าวอย่างเกรี้ยวกราด ยังไงเขาก็คิดไม่ถึงว่าไอ้นั่นจะรู้จักกับหลินถงสาวงามอันดับหนึ่งของเขตซีหนาน แล้วยังเป็นแขกวีไอพีที่หลินถงเชิญมาอีกด้วย

ตนยอมแพ้ไม่ ไม่ไปยุ่งกับไอ้นี่แล้วก็ได้ แต่ก็อย่าทำให้เขาอับอาย ถ้าถูกลากออกไป เขาไม่รู้จะเอาหน้าไปไว้ไหนแล้ว ต่อไปเมื่อพบปะพูดคนแล้วจะคุยโวได้อย่างไรกัน

เขาออกแรงอย่างมากเพื่อสะบัดมือที่รปภ.จับเขาไว้ มองไปที่หลินถง แสดงท่าทางอ่อนข้อให้แล้วกล่าว “คุณหลิน ผมไม่รู้ว่ามันคือแขกวีไอพีของคุณ และก็ไม่รู้ว่าพวกคุณรู้จักกัน ถ้ารู้ ผมก็ไม่ทำแบบนั้นแล้ว ผมก็แค่อยากแก้แค้นให้พี่น้องก็เท่านั้นเอง เมื่อวานมันทำร้ายเหล่าพี่น้องของผมจริงๆ”

“คุณหลิน!” หลินถงจ้องเขาอย่างเยือกเย็น แล้วตะคอก “แกเป็นใคร ที่มีสิทธิ์มาเรียกฉันว่าคุณหลินที่ตระกูลถังแห่งนี้ ที่นี่ใครที่ไม่ใช่คนของตระกูลถังต้องเรียกฉันว่าคุณนายถัง! ลากมันออกไป!”

หลินถงโบกมืออย่างเลือดเย็น รปภ.เหล่านั้นลากทั้งสามคนไปอีกครั้ง พาทั้งสามคนออกไป

ฟางเหยียนหันไปมองหลินถง เห็นแววตาอันเลือดเย็นคู่นั้นมองไปที่ด้านนอกพอดี แต่เมื่อเธอรับรู้ได้ว่าฟางเหยียนกำลังมองเธออยู่ แววตาคู่นั้นก็กลายเป็นอบอุ่นขึ้นมาทันใด

ใบหน้าเคร่งขรึมของหลินถงเปลี่ยนเป็นอ่อนโยนอย่างหาที่เปรียบมิได้ เต็มไปด้วยรอยยิ้มในทันใด

เธอนั่งลงข้างๆฟางเหยียน แล้วถาม “คุณฟาง คุณไม่เป็นไรใช่มั้ยคะ?”

ฟางเหยียนส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่เป็นไรครับ ขอบคุณ!”

ฟางเหยียนที่เดิมทีคิดว่าจะนั่งสักแป๊บ แว็บเดียวก็กลายเป็นเป้าสายตาของผู้คนไปได้ หลินถงนี่ช่างมีออร่าจริงๆ ไม่ว่าจะเป็นคนรวยหรือคนจน เมื่อเห็นเธอแล้วก็หยุดมองไม่ได้ เห็นเธอนั่งลงข้างๆตน ตนจึงได้กลายเป็นเป้าสายตาของทุกคนๆไปโดยปริยาย

หลินถงกล่าว “ไอ้ลูกคนรวยที่หลงตัวเองพวกนั้นคิดว่าครอบครัวมีเงินหน่อยแล้วจะทำอะไรก็ได้ เมื่อมาถึงตระกูลถังของฉันแล้วยังเอาแต่ใจอีก ฉันล่ะไม่ปลื้มจริงๆ พวกมันไม่ได้ทำให้คุณไม่สบายใจใช่มั้ยคะ?”

ฟางเหยียนส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่เป็นไร ก็แค่พวกขยะ ทำอะไรผมไม่ได้หรอก”

“เหอะเหอะ!” หลินถงยิ้มหวาน จากนั้นกล่าว “ฉันก็คิดอย่างนั้นค่ะ คนระดับนั้นจะทำอะไรคุณได้อย่างไรกัน ถ้าพวกมันยังหาเรื่องคุณฟาง บอกหลินถงได้นะคะ เดี๋ยวหลินถงจะจัดการพวกมันให้เองค่ะ”

ฟางเหยียนกล่าว “ไม่ต้อง!”

หลิงถงเงียบไปหลายวินาที แล้วถาม “คุณฟาง ฉันอยากรู้มาก ว่าคุณรู้จักถังยู่ได้ยังไงเหรอคะ?”

ฟางเหยียนเงียบไปสักแป๊บ เขารู้อยู่แล้วว่าหลินถงจะต้องถามคำถามนี้ จึงได้กล่าวไปว่า “ไหลไปตามน้ำ! ถือว่าเป็นพรหมลิขิตมั้ง เหมือนกับที่ผมรู้จักคุณ!”

หลินถงยิ้มออกมาอย่างไม่รู้ตัว แล้วกล่าว “คุณฟางนี่ตลกจังเลยนะคะ พูดแบบนี้ เราก็ถือว่าเป็นพรหมลิขิตล่ะนะ”

“แน่นอน ถ้าไม่มีพรหมลิขิต เราก็ไม่มีทางรู้จักกัน ไม่ใช่เหรอ?” ฟางเหยียนถามย้อน

“ใช่ใช่ใช่!” หลินถงตอบ ในใจมีความสุขจนไม่ไหวแล้ว นี่เป็นครั้งแรกที่ฟางเหยียนพูดแบบนั้นกับเธอ

“คุณนายถัง!” จู่ๆ ชายที่หล่อมากคนหนึ่งเดินเข้ามา ชายคนนั้นอายุราวๆสามสิบกว่าปี สูงร้อยแปดสิบกว่า หุ่นกำลังดี สวมชุดสูท จัดผมเป็นทรง ดูจากรูปลักษณ์ภายนอกของเขาแล้ว ถือได้ว่าเป็นผู้ชายที่ระดับดีเยี่ยม

หลินถงมองเขา แล้วถามอย่างเย็นชาว่า “มีธุระอะไร?”

ผู้ชายท่าทีเกรงใจ แล้วกล่าว “อยากทำความรู้จักกับคุณหน่อยครับ! ผมเป็นดอกเตอร์กลับมาจากเมืองนอก ตอนนี้เป็นผู้จัดการทั่วไปอยู่ที่อสังหาริมทรัพย์ซีหนาน ได้ยินความงามล้ำเลิศของคุณนายถัง สาวสวยอันดับหนึ่งของเขตซีหนานมานานแล้ว วันนี้ได้เห็น ที่แท้ก็สมคำร่ำลือ!” ผู้ชายยกมือขึ้นมาด้านหน้าของหลินถง เพื่อจะจับมือกับหลินถง

หลินถงมองไปที่เขา แล้วกล่าว “คุณรู้จักฉันแล้ว แต่ฉันไม่จำเป็นต้องรู้จักคุณ เชิญค่ะ!”

ประโยคเดียว ทำให้ชายผู้นั้นอับอาย เขาเห็นฟางเหยียนที่นั่งข้างๆหลินถง ไอ้นั่นธรรมดา ทำไมถึงได้นั่งกับหลินถงได้นะ แต่ตัวเองหล่อเหลาขนาดนี้ ทำไมแค่จะพูดด้วยยังไม่ได้เลย

เขามั่นใจในความหล่อของเขาเกินไป จึงถูกตบหน้าเพี้ยะๆ

นี่คือปฏิกิริยาที่หลินถงกระทำต่อผู้ชายทุกคน ไม่ว่าจะหล่อขนาดไหน เมื่ออยู่ต่อหน้าเธอก็เหมือนกันหมด เธอสนใจผู้ชายที่พิเศษเท่านั้น ผู้ชายธรรมดาทั่วไปไม่เข้าตาเธอหรอก

“ทำไม? ยังไม่ไปอีก? ต้องการให้ฉันใช้วิธีที่ใช้กับพวกนั้นไปเมื่อกี๊กับคุณ?” เห็นผู้ชายไม่ไปเสียที น้ำเสียงของเธอจึงเย็นชาขึ้นไปอีก

ผู้ชายสะอึก ทำได้เพียงจากไปอย่างอับอาย

ท่าทีของหลินถงแข็งทื่อจนน่ากลัว ผู้ชายทั่วไปไม่มีทางเอาชนะได้ ชายที่หล่อเหลาหลินถงเห็นมาเยอะมาก แต่อย่างฟางเหยียนที่พิเศษ เธอเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก

“ขอโทษค่ะ คุณฟาง! คนนี้ขัดจังหวะการสนทนาของเรา” หลินถงขอโทษ

ฟางเหยียนไม่ใส่ใจแล้วกล่าว “ไม่เป็นไร! คุณนายถังเสน่ห์ของคุณช่างมากเหลือเกิน ไปไหนก็มีแต่คนรัก”

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

เทพแห่งสงครามกลับเยือนบ้าน เห็นภรรยาตกที่นั่งลำบากถูกคนเย้ยหยัน ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วเมือง! คนที่คิดจะกระตุกหนวดเสือ มันต้องไม่ตายดีแน่! กล้าทำให้เทพแห่งสงครามมีน้ำโห เตรียมเผชิญกับสงครามนองเลือดไว้ได้เลย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset