จอมนักรบทรงเกียรติยศ – ตอนที่ 413 หม่าจงหัว แพ้ราบคาบ

หม่าจงหัวไม่อ่อนข้อแม้แต่น้อย กล่าวอย่างเชิดหน้ายืดอก “ฉันไม่เคยพูดมาก่อนว่าจะเข้าร่วมกับพวกแก แล้วจะพูดว่ายอมทิ้งโอกาสได้อย่างไรกัน?อีกอย่าง แกคิดว่าแค่พวกแก มีสิทธิ์ที่จะพูดว่าให้โอกาสฉันงั้น?”

พูดจบ เขาเอาฝ่ามือลง นิ้วทั้งห้ากลายเป็นกรงเล็บไก่ทันใด นิ้วโป้ง นิ้วชี้ นิ้วกลางโค้งลงมา ขณะเดียวกัน กลีบดอกไม้หลายใบที่ร่วงลงที่พื้นค่อยๆแตกเป็นสองข้าง ทันใดนั้นพื้นก็เรียบทันใด

หม่าจงหัวในฐานะที่เป็นผู้นำของตระกูลหม่า ฝีมือก็ไม่ด้อย ด้านกำลัง ฝีมือของเขาแข็งแกร่งกว่าเทียนขุยที่ยังไม่เป็นระดับต้าชี่เสียอีก ถ้าไม่มีฝีมือ โลกภายนอกก็ไม่มีทางให้เกียรติเขาแบบนี้

“ได้ ในเมื่อแกรนหาที่ตาย งั้นฉันก็จะสนองให้!ตัดทางแกทุกทาง รอให้ฉันฆ่าแกก่อน แล้วค่อยไปฆ่าครอบครัวของแก ล้างบางพวกแกทั้งหมด หม่าจงหัว ทุกสิ่งทุกอย่างที่เกิดขึ้นทั้งหมดแกเป็นคนหาเรื่องเองนะ” เมื่อพูด ใบหน้านั้นก็ขยับอย่างนูนเว้าขรุขระ ดูๆแล้วเหมือนกับมีลูกบอลสองลูกขยับอยู่บนผิวหน้าของเขา

“งั้นก็ต้องดูแล้วล่ะว่าแกจะมีปัญญาทำได้มั้ย!” หม่าจงหัวยกมือขึ้นอย่างไม่อ่อนข้อ นัยน์ตาเต็มไปด้วยความอาฆาต

หญิงสาวที่แปลกประหลาดหัวเราะอิๆๆฮ่าๆๆออกมา เงยหน้าขึ้นมา หัวเราะจนทำให้คนขนหัวลุก

ทั้งสองต่อสู้กัน รอบๆเกิดเป็นพายุโหมกระหน่ำ ครึ้มฟ้าครึ้มฝน ราวกับสงครามแห่งยุคกำลังจะเริ่มต้นขึ้น ฝ่ายหนึ่งหนึ่งคือผู้ปกป้องศักดิ์ศรีของตระกูลหม่า อีกฝ่ายเป็นตัวแทนความแข็งแกร่งอย่างที่สุด

และแล้วหม่าจงหัวก็อดกลั้นไว้ไม่อยู่ ไปสังหารหญิงสาวด้วยความเร็ว แล้วยังตะโกนด้วยความเกรี้ยวกราดอีกว่า “แกไอ้น่ารังเกียจ เอาชีวิตมาเดี๋ยวนี้!เลือดต้องล้างด้วยเลือด ”

เมื่อตะโกนเสร็จ หม่าจงหัวก็ขยับตัวเข้าไปสังหารอย่างรวดเร็ว เขาตาแดงก่ำ ร่างกายเหมือนกระบี่คม สังหารไปที่หญิงสาวไร้หน้าอย่างบ้าคลั่ง สาวไร้หน้าไม่ขยับใดๆ ยืนอยู่ที่เดิมด้วยท่าทีชิลๆ รอการโจมตีของหม่าจงหัว

หม่าจงหัวในขณะนี้ไม่ว่าใครเห็นก็ไม่คิดว่าเขาเป็นผู้เฒ่าที่อายุเจ็ดสิบปี กลับกันดุร้ายกว่าวัยรุ่นที่อายุยี่สิบสามสิบปีเสียอีก เพราะคนนี้แตะต้องฟางเส้นสุดท้ายของเขา ท้าทายอำนาจของตระกูลหม่าของเขา

เพื่อปกป้องศักดิ์ศรีของผู้นำตระกูล หม่าจงหัวต้องให้คนนี้ได้ลิ้มลองความร้ายกาจแล้วล่ะ

และแล้ว หม่าจงหัวก็มาถึงตรงหน้าของสาวไร้หน้าตา กรงเล็บแหลมคมของเขาคว้าไปที่หญิงไร้หน้า ใกล้แล้ว อีกนิดเดียวเท่านั้น ต้องการเพียงแค่อีกนิดก็ฆ่าสาวไร้หน้าได้แล้ว

หม่าจงหัวกำลังคำนวณระยะห่างทั้งสอง เขากัดฟัน แกจะต้องชดใช้กับความโอหังของแก ถ้ากรงเล็บเสือของเขาได้ใช้งานเมื่อไหร่ เพียงแค่สามารถจับไปที่คอหอยของอีกฝ่ายได้ อีกฝ่ายต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัยเลย!

กรงเล็บเสือ ก็เหมือนกับกรงเล็บของเสือ สามารถเจาะคอหอยของอีกฝ่ายได้ นี่เป็นหนึ่งในวิชาพลังโจมตีหนัก และเป็นวิชากรงเล็บที่ดุดันที่สุด หมัดแปดทิศแข็งแกร่งดุดัน ชกเข้าที่เนื้อ สามารถต่อยคนจนเจ็บหนักได้ กรงเล็บเสือไม่เหมือนกัน กรงเล็บเสือเต็มไปด้วยความอาฆาต นิดๆหน่อยๆก็ถึงชีวิต

ในตอนที่มือของเขาจะจับโดนคอหอยของสาวไร้หน้า จู่ๆ สาวไร้หน้าก็สร้างหมอกควันขึ้นมา นึกไม่ถึงว่าจะหายตัวไปอย่างไร้ร่องรอยต่อหน้าของหม่าจงหัวได้ กรงเล็บเสือของหม่าจงหัวคว้าอากาศแทน เดิมทีคิดว่าคว้าคอหอยของเธอได้แล้ว ใครจะรู้ว่าจะพลาด

หม่าจงหัวร้อนรนตกใจ นัยน์ตาเต็มไปด้วยเลือด ว้าวุ่นขึ้นทันใด

ทันใดนั้น มีมือหนึ่งวางไว้ที่ด้านหลังของเขา เขายกมือขึ้นไปจับมือนั้นอย่างเร็ว ไม่รอให้เขาจับได้ มือนั้นก็จับข้อมือของเขาอย่างเร็ว เป็นแขนผู้หญิงที่เนียน แต่พลังกลับมีมากจนน่าตกใจ

เขาหน้าถอดสี อยากจะดิ้นรน แต่ดิ้นไม่ไหว

เสียงชายหญิงผสมกันดังขึ้น “หม่าจงหัว ได้ยินมาว่ากรงเล็บเสือของตระกูลหม่าดุดันไร้เทียมทาน เมื่อกี๊นั้นเป็นกรงเล็บเสือของตระกูลหม่าของพวกแกเหรอ? ฉันว่า ก็ไม่เท่าไหร่นะ!”

พูดจบ เธอยกขาขึ้นมาแล้วถีบไปที่ก้นของหม่าจงหัว หม่าจงหัวตัวกระแทกไปข้างหน้า หัวทิ่มลงกับพื้น ด้วยท่าหมากินขี้ ล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง

หม่าจงหัวรีบลุกขึ้นจากพื้น บนใบหน้าเต็มไปด้วยเหงื่อ เขาเขม่นไปที่สาวไร้หน้าคนนั้น ตะคอกอย่างแค้นว่า “หมัดแปดทิศแห่งตระกูลหม่า!”

พูดจบ เขาตั้งท่าหมัดแปดทิศตรงที่ยืน จากนั้นดันมือทั้งสองไปข้างหน้า หญิงไร้หน้าส่งเสียงโอ้ออกมา จากนั้นก็กระโดดอย่างเร็ว

หมัดแปดทิศไม่ได้ต่อยเจ้าไปที่สาวไร้หน้า แต่ต่อยเข้าไปที่ต้นไม้ ต้นไม้ต้นนั้นมีเส้นผ่าสูงกลางประมาณยี่สิบเซ็นติเมตร หลังจากที่ถูกหมัดแปดทิศต่อยเข้าไป ก็ล้มลง กับพื้นทันใด

ไม่รอให้สาวไร้หน้ารู้ตัว หม่าจงหัวก็กระโดดออกมา เหมือนเสือดุร้ายตัวหนึ่ง เขาคำรามออกมา ในตอนนี้กรงเล็บแหลมคมอย่างหาที่เปรียบมิได้ ร่างกายของเขาเหมือนเสือดุร้ายขย้ำเข้าไปที่สาวไร้หน้า

แว็บเดียว สาวไร้หน้าเพิ่งจะหลบการโจมตีของหมัดแปดทิศไป ยังไม่ทันตั้งตัว ก็ถูกหม่าจงหัวพุ่งเข้ามาแล้ว เธอไม่มีโอกาสได้ตั้งตัว เสียงฟิ่วดังขึ้นมา เห็นสองมือตะคุบมาอย่างแรงที่คอหอยของเธอ

เธอรีบหลบ แต่ไม่ทันแล้ว กรงเล็บของหม่าจงหัวจิกไปที่แขนของเธอ ได้ยินเพียงเสียงอ้าดังขึ้น ร่างกายของสาวไร้หน้าก็กลิ้งไปกลิ้งมากับพื้นอย่างเร็ว แขนที่ถูกจิกมีเลือดกระฉูดออกมา

หม่าจงหัวหันกลับมา มองสาวไร้หน้าที่ล้มอยู่บนพื้น แล้วกล่าว “นี่ ก็คือกรงเล็บของตระกูลหม่าของฉัน!”

สาวไร้หน้าหัวเราะอิๆๆฮ่าๆๆออกมา เธอหันไปดูบาดแผลที่แขน ยกมือขึ้นลูบ จากนั้นก็กล่าวด้วยสีหน้าไม่พอใจ “น่าสนใจ! นึกไม่ถึงว่าจะทำให้ฉันบาดเจ็บได้”

“ไม่ใช่แค่นี้ ฉันยังจะเอาชีวิตแกอีกด้วย!” หม่าจงหัวก้าวเท้า เตรียมการโจมตีครั้งใหม่

สาวไร้หน้าค่อยๆยืนขึ้นมา แล้วกล่าว “เหรอ? ดีเลย ฉันก็คิดจะเอาชีวิตแกอยู่เหมือนกัน”

พูดจบ ร่างกายของสาวไร้หน้าเหมือนเสียงชิ่วของควันพุ่งไปที่หม่าจงหัว แววตาของหม่าจงหัวเปลี่ยนไป ไม่เห็นสาวไร้หน้าแล้ว ขณะเดียวกัน บนท้องฟ้ามีเสียงของสาวไร้หน้าดังขึ้น “ข้างบน!”

หม่าจงหัวเงยหน้าขึ้นอย่างเร็ว มีสองมือต่อยลงมาที่หัวของหม่าจงหัว หม่าจงหัวกำหมัดแน่น ยืนให้มั่นแล้วยกมือทั้งสองพยายามต้านทานการโจมตีของหญิงสาว

แต่ สิ่งที่ทำให้เขาคาดไม่ถึงได้เกิดขึ้นแล้ว ทันใดนั้นสาวไร้หน้าได้ชูเข็มสองอันที่ขนาดประมาณนิ้วก้อยออกมา ทิ่มเข้าไปที่ฝ่ามือของหม่าจงหัวอย่างแรง หม่าจงหัวคิดจะเก็บมือกลับไป แต่ไม่ทันแล้ว ทำได้เพียงใช้มือต้านทานอย่างเลือกไม่ได้

ชิ่วๆ เห็นเพียงเข็มสองอันปักทะลุเข้าไปที่ฝ่ามือของเขา จากนั้นก็เป็นเสียงคร่ำครวญอย่างเจ็บปวดรวดร้าว

สาวไร้หน้าเก็บมือ ใช้มือตบหัวของหม่าจงหัวอย่างแรง ตะคอกว่า “ไปตายซะ หม่าจงหัว!”

หลังจากเสียงจงตะคอกดังขึ้น หัวของหม่าจงหัวก็ถูกเธอมือที่ราวกับค้อนทุบลงไป

“ปัง” เสียงดังสนั่น ร่างกายของหม่าจงหัวลอยไปไกล หล่นลงกับพื้นอย่างรุนแรง จากนั้นก็กระอักเลือดออกมา

นาทีนี้โลกได้เงียบสงัดลงอีกครั้ง สาวไร้หน้าค่อยๆลงมาที่พื้น เธอเขย่งเท้า

แล้วกล่าวอย่างหญิงก็ไม่ใช่ชายก็ไม่เชิงว่า “นี่ คือจุดจบของการหักหลังเพลิงเสวน!”

หม่าจงหัวแพ้แล้ว! แพ้ราบคาบ!

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

เทพแห่งสงครามกลับเยือนบ้าน เห็นภรรยาตกที่นั่งลำบากถูกคนเย้ยหยัน ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วเมือง! คนที่คิดจะกระตุกหนวดเสือ มันต้องไม่ตายดีแน่! กล้าทำให้เทพแห่งสงครามมีน้ำโห เตรียมเผชิญกับสงครามนองเลือดไว้ได้เลย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset