จอมนักรบทรงเกียรติยศ – ตอนที่ 507 เจอฉินเข่ออีกครั้ง

พูดพลาง ฟางเหยียนก้าวไปข้างหน้าหลายก้าว จากนั้นกล่าวว่า “คนของฉัน จะไม่ถูกคนอื่นบังคับให้ทำในสิ่งที่ตนไม่ชอบ ถ้าคุณไม่อยากแต่งกับเขา ก็พูดออกมา ผมจะให้คุณเป็นผู้รับผิดชอบของฟางซื่อกรุ๊ปต่อ!”

แววตาของฟางเหยียนอบอุ่นมาก มั่นใจมาก ดูๆแล้วสามารถให้ความปลอดภัยอย่างไม่มีตัวตนกับคนได้

จิตใจของหวังชิงชิงเริ่มสั่นคลอน โจวเจิ้งเกรี้ยวกราด เขาตะคอกใส่ฟางเหยียน “แกอยากตายมากจริงๆใช่มั้ย?”

ฟางเหยียนไม่ได้มองเขา เพียงแต่เงยหน้าชี้เขา พูดออกมาสองคำอย่างเย็นชา “หุบปาก!”

สองคำนี้เยือกเย็นมาก เผด็จการมาก มาพร้อมกับความเมินเฉยที่ได้เปรียบ นี่เป็นความรุนแรงที่หาไม่ได้ในตัวคนอื่นอย่างหนึ่ง เพราะยิ่งใหญ่ จึงเผด็จการ ดังนั้นจึงไร้เทียมทาน ดังนั้นจึงปลิดชีพทุกอย่างอย่างรวดเร็ว

โจวเจิ้ง ในสายตาของเขาถือว่าเป็นคนแปลกๆ!

สิ่งที่แปลกคือ นึกไม่ถึงว่าโจวเจิ้งจะขี้ขลาดแล้ว เดิมเขาควรที่จะมาจัดการคนนี้อย่างโกรธมาก แต่ไม่รู้ทำไม เขากลืนน้ำลาย อดกลั้นอยู่ตั้งนานแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกมาสักคำ และไม่ขยับแม้แต่น้อย

แรงอาฆาตที่ฟางเหยียนปล่อยออกมาก็แค่แรงอาฆาตของตัวเองเพียงหนึ่งในสิบเท่านั้น ใช้เพียงหนึ่งในสิบก็สามารถล็อกคอของไอ้สวะโจวเจิ้งนี่ได้โดยสิ้นเชิงแล้ว ไอ้สวะนี่ช่างอ่อนแอจริงๆ!

ฟางเหยียนจ้องหวังชิงชิง แล้วกล่าวต่อว่า “คุณถูกบังคับ ใช่มั้ย?”

ตอนที่ถาม เขาได้เดินไปข้างหน้าอีกสองก้าว เขาอยู่ใกล้ๆกับโจวเจิ้งมากแล้ว

หวังชิงชิงกลืนน้ำลาย สายตาทั้งสองมองไปที่ฟางเหยียน ในเวลานี้ เธออยากจะเผชิญหน้ากับความในใจของตัวเอง บอกว่าตัวเองไม่ชอบโจวเจิ้ง คนที่ชอบคือคุณ คุณพาฉันไปได้มั้ย? แต่เธอก็ไม่สามารถทำแบบนั้นได้ ถ้าทำแบบนั้นทำร้ายคุณชาย ถึงแม้คุณชายไม่สนใจทุกสิ่งทุกอย่าง แต่อีกฝ่ายคือตระกูลโจวที่ลี้ลับนะ!

ตระกูลโจวคือตระกูลนินจา จุดนี้ทุกคนต่างรู้กันหมด เรื่องราวนั้นในวัยเด็กของหวังชิงชิงยังคงติดอยู่ในความทรงจำ บางทีคุณชายแข็งแกร่งมาก สามารถฆ่าโจวเจิ้งได้ สามารถฆ่าบางคนของตระกูลโจวได้ แต่คนที่ทั้งลี้ลับทั้งน่ากลัวนั่น ใครจะไปรู้ว่าเขาแข็งแกร่งขนาดไหนกัน จากที่แม่ของตนทบทวนอดีต ไม่รู้ว่ามีชีวิตมากี่ปีแล้ว ใครก็ต่างไม่รู้ว่าเขาเป็นคนหรือว่าผี! ไม่ใช่เป็นคนที่คุณชายสามารถต่อกรได้แน่นอน

ไม่ว่าคุณชายจะแข็งแกร่งขนาดไหน ก็เป็นแค่คนธรรมดา แต่สัตว์ประหลาดที่น่ากลัวนั่นราวกับไม่ใช่คนแล้ว

หลังจากที่ลังเลไปสักพักแล้ว หวังชิงชิงแสยะยิ้มออกมาอย่างฝืนมาก ส่ายหน้าแล้วกล่าว “ไม่ค่ะ ไม่มีใครบังคับฉัน!ฉันยินยอมเอง ฉันกับโจวเจิ้งหมั้นหมายกันไว้ตั้งแต่ยังเด็ก ที่ฉันกลับบ้านกลับมาแต่งงานด้วยความเต็มใจค่ะ”

“โจวเจิ้ง เราไปกันเถอะ!” พูดจบ หวังชิงชิงยกมือขึ้นมาจับแขนของโจวเจิ้ง หันหลังไปอย่างเด็ดเดี่ยว เธอทำได้เพียงพูดอย่างแอบน้ำตาคลอว่า “ขอโทษนะคะคุณชาย!”

เพื่อปกป้องฟางเหยียน เธอต้องทำแบบนั้น ถึงแม้ฟางเหยียนไม่กลัวอะไร แต่หวังชิงชิงมองว่าเป็นเพียงความโอหังของคุณชายเท่านั้น ตั้งแต่ต้นจนจบ ฟางเหยียนไม่เชื่อว่าพลังของฟางเหยียนจะสามารถชนะตระกูลโจวที่ยิ่งใหญ่ได้

โจวเจิ้งจ้องแววตาของฟางเหยียน สุดท้ายได้กล่าวอย่างคิดว่าตัวเองถูกเสมอว่า “ฝากไว้ก่อนนะมึง!”

ฟางเหยียนไม่พูดอะไรตลอดเหตุการณ์ เพียงแต่มองตามหลังของหวังชิงชิงที่จากไปอย่างช้าๆ

หลังจากที่หวังชิงชิงคนอื่นๆจากไปแล้วนั้น หยางซงเดินเข้ามา ยกมือขึ้นมาวางไว้บนไหล่ของฟางเหยียน แล้วกล่าว “สหาย เค้าไปแล้วนะ”

ฟางเหยียนหันมามอง แล้วพูดกับคุณชายเจ็ดว่า “ขอบคุณการแก้ปัญหาของคุณชายเจ็ดครับ!”

หยางซงแสยะปากยิ้มออกมา แล้วกล่าว “ไม่เป็นไรครับ นี่เป็นสิ่งที่ผมควรทำอยู่แล้วครับ คุณมาพักโรงแรมของเรา ก็คือแขกของเรา เป็นแขกของตระกูลหยางของเรา ผมเห็นคุณไม่เหมือนคนทั่วไป คิดว่าน่าจะเป็นคนที่ไม่ธรรมดาเหมือนกันนะครับ!”

จากการพูดและการกระทำของฟางเหยียน สไตล์การจัดการก็สามารถดูออกว่าเขาไม่เหมือนกับคนธรรมดาสักเท่าไหร่ ถ้าเขาเป็นเพียงคนธรรมดาจะไม่มีทางยั่วโจวเจิ้ง แล้วก็ เมื่อกี๊หยางซงสังเกตคนๆนี้ ปืนหลายสิบกระบอกจ่อเขา เขายังคงรักษาท่าทางที่อยู่ในอันตรายแล้วไม่หวาดกลัวใดๆไว้ ราวกับเคยชินกับเหตุการณ์แบบนั้นนานแล้ว ไม่รู้สึกแปลกใจอะไร

ฟางเหยียนพยักหน้าเบาๆ “คุณชายเจ็ดตระกูลหยางก็พูดเกินไปครับ ได้ยินมานานแล้วว่าลูกชายทั้งเจ็ดแต่ล่ะคนต่างโดดเด่นเหนือคนทั่วไป วันนี้ได้เห็นที่แท้ก็จริงสมคำร่ำลือ” นี่เป็นหนึ่งในไม่กี่ครั้งที่ฟางเหยียนพูดดีชมเชยคนอื่น

หยางซงส่ายหน้าหัวเราะอิๆ คำชมแบบนี้เขาฟังชนเลี่ยนแล้วไปนานแล้ว เขาเอามือลงมาจากไหล่ของฟางเหยียน จากนั้นกล่าวว่า “คุณระวังตัวหน่อยก็แล้วกันครับ คุณชายคนนี้ของตระกูลโจวไม่มีทางยอมวางมือง่ายๆแบบนั้น”

“อืม!ผมทราบครับ” ฟางเหยียนตอบกลับอย่างชิลล์ๆ

หลังจากที่ทั้งสองพูดคุยกัน ฟางเหยียนพบว่าหยางซงนี้ก็เป็นคนดีที่ชอบสร้างสัมพันธไมตรี ที่แท้ได้รับการอบรมสั่งสอนตั้งแต่เล็กๆไม่เหมือนกับคุณชายตระกูลเศรษฐีเหล่านั้น ดูๆแล้วการอบรมสั่งสอนของหยางจิ่งเซียนนี้เหมือนดั่งที่ภายนอกพูดไว้

คุยไปคุยมา หยางซงพาไปที่ห้องประชุม พลางดื่มชาพลางพูดคุย

หลังจากที่พูดคุยไปพอสมควรแล้ว หยางซงถามว่า “อ้อ น้องฟางต่อไปคิดไว้ว่าจะทำยังไง?ถ้าคุณไม่รังเกียจล่ะก็ พรุ่งนี้ผมพาคุณไปจากดินแดนตะวันตก!จะได้ไม่ถูกคุณชายใหญ่ที่อวดดีคนนี้ของตระกูลโจวรังควาน”

ฟางเหยียนยกมือขึ้นมาปฏิเสธ “ไม่จำเป็น!”

พูดจบ เขากล่าวอย่างตรงไปตรงมาว่า “ความจริงที่ผมมาคือมาหาคนของตระกูลหยางของพวกคุณ!”

“อ๋อ?” หยางซงมองฟางเหยียนอย่างค่อนข้างระมัดระวัง แล้วถาม “น้องฟางมาหาใคร?”

“ผม…” คำพูดของฟางเหยียนยยังไม่ทันพูดจบ จู่ๆที่ประตูมีเสียงของผู้หญิงคนหนึ่งดังขึ้นมา “พี่ชาย พี่ชาย!”

หลังจากที่ตะโกนพี่ชายเสร็จ ประตูถูกผลักออก ผู้หญิงที่สวมเอี๊ยมยีน ผูกผมหางม้าคนหนึ่งเดินเข้ามาจากประตู พูดหญิงคนนี้ดูๆแล้วสดใส และหน้าตาไม่ประสา มีความรู้สึกแบบเด็กที่ถูกปกป้องตั้งแต่เด็กจนโต

“พี่ชาย ฉันได้ยินว่าที่นี่เกิดเรื่อง พี่ไม่เป็นไรใช่มั้ย?” ฉินเข่อมองหยางซงแล้วถาม ตอนที่รู้ว่าโรงแรมของหยางซงเกิดเรื่อง หลังจากที่เขามาจัดการฉินเข่อก็รีบมาโดยเร็ว

ทั้งสองเป็นลูกพี่ลูกน้อง ฉินเข่อเล็กที่สุด ถูกคนมากมายสปอย พี่ชายทั้งเจ็ดปกป้อง หนึ่งในนั้นหยางซงอายุใกล้เคียงกับฉินเข่อ ทั้งสองเติบโตมาด้วยกัน ดังนั้นสนิทกันมาก ไม่เพียงแค่หยางซงปกป้องฉินเข่อเท่านั้น แม้แต่ฉินเข่อก็เป็นห่วงพี่ชายคนนี้ของตัวเองเช่นกัน

หยางซงหัวเราะอย่างสบายๆ แล้วกล่าว “ไม่เป็นไร พี่จะเป็นอะไรได้เล่า”

หลังจากพูดจบ เขานึกถึงฟางเหยียน ด้วยเหตุนี้เองจึงได้กล่าวว่า “เอ้อ ใช่ แนะนำคนๆหนึ่งให้แกรู้จัก เพื่อนคนนี้คือ…”

เขายังไม่ทันได้พูดชื่อของฟางเหยียน ฉินเข่อก็เห็นฟางเหยียน แว็บนั้นที่เห็นร่างนี้ ร่างกายของเธอแข็งทื่อไป หลังจากที่เธอขยี้ตาของตัวเองแล้ว จึงได้ส่งเสียงออกมาสองคำว่า “คือคุณ!”

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

เทพแห่งสงครามกลับเยือนบ้าน เห็นภรรยาตกที่นั่งลำบากถูกคนเย้ยหยัน ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วเมือง! คนที่คิดจะกระตุกหนวดเสือ มันต้องไม่ตายดีแน่! กล้าทำให้เทพแห่งสงครามมีน้ำโห เตรียมเผชิญกับสงครามนองเลือดไว้ได้เลย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset