จอมนักรบทรงเกียรติยศ – ตอนที่ 531 เทียนขุยทำร้ายฟางเหยียนอย่างหนัก

หยางจิ่งเซียนไม่พูดอะไร ได้แต่จ้องตาเสี่ยวหงเขม็ง นี่ก็แค่กลอุบายในการถ่วงเวลาของเธอเท่านั้นเอง!

ฟางเหยียนแค่นเสียงหึ ลงแรงที่มือมากขึ้นและหิ้วตัวเสี่ยวหงสูงขึ้น หิ้วขึ้นรอบนี้ทำสูงเลยหัว

“ในเมื่อคุณอยากตายขนาดนั้น งั้นจะหาว่าผมใจร้ายไส้ระกำไม่ได้นะ!” พูดจบ ฟางเหยียนก็ทำท่าจะโยนตัวเธอออกไป

ยังไม่ทันได้ทำ ในตอนที่ฟางเหยียนไม่ทันระวังตัว จู่ๆเทียนขุยก็ลุกขึ้น เขาเหมือนโดนกระตุ้นประสาทอะไรสักอย่างในตอนที่พุ่งเข้าหาฟางเหยียน เห็นแต่เขายกกำปั้นขึ้นและชกทั้งสองหมัดไปที่ตัวฟางเหยียนอย่างแรง

เวลาเหมือนหยุดชะงักลง สองตาฟางเหยียนเบิกโพลงมองเทียนขุยอย่างไม่เชื่อสายตา นี่เขาทำอะไร? นี่เทียนขุยหรอ? นี่คือเทียนขุยคนนั้นที่เขาเชื่อใจมากที่สุดหรอ?”

แม้แต่ฝันเขาก็ไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า ตนพัฒนาความสามารถของเทียนขุยจนถึงระดับต้าชี่ แล้วเขาจะเอามาใช้ต่อกรกับตน นี่เป็นเรื่องที่ทำให้ฟางเหยียนเสียใจมากที่สุด และเป็นวินาทีที่เขารู้สึกสิ้นหวังมากที่สุด!

“ปึ้ก!” พลังมหาศาลที่แผ่ซ่านออกมาจากกำปั้น ร่างของฟางเหยียนโดนโจมตีจนกระเด็นลอยออกไปสิบกว่าเมตร ร่างของเสี่ยวหงร่วงลงมา เทียนขุยเข้าไปรับร่างเสี่ยวหงประหนึ่งอสูรกายตัวหนึ่ง สุดท้ายเขาใช้ดวงตาแดงก่ำมองใบหน้าซีดเผือดของฟางเหยียน จากนั้นคำรามเสียงดังราวสัตว์ป่าออกมา!

เสียงคำรามนี้แข็งกร้าวหนักหนา เหมือนกำลังเตือนฟางเหยียน! เตือนฟางเหยียนว่าอย่าทำร้ายผู้หญิงของเขา ไม่งั้นตายแน่

เทียนขุนในตอนนี้เหมือนขวังซือของตระกูลฟางแห่งเมืองหลวง เหมือนกับสัตว์ป่าตัวหนึ่ง

ภาพเหตุการณ์ตอนเทียนขุยโจมตีฟางเหยียนทั้งหมดลื่นไหลพลิ้วไหวไม่ติดขัด

เดิมคิดว่าเสี่ยวหงจะกลายเป็นผีภายใต้ฝีมือฟางเหยียน ใครก็ไม่คิดว่าเทียนขุยจะลงมือในเวลานี้! ทุกคนมองข้ามเทียนขุยไปหมด

รอจนพวกเขาได้สติกลับมา เขาก็หนีไปแล้ว ส่วนฟางเหยียนกระอักเลือดออกมาคำหนึ่งในสภาพกึ่งคุกเข่าที่พื้น

นี่เป็นการที่ฟางเหยียนโดนทำร้ายตอนไม่ทันระวัง ดังนั้นเขาเลยไม่ได้กลั้นลมหายใจไว้ ทำให้หมัดนี้โจมตีเขากลางหน้าอกเขาอย่างจัง ทำให้เขาขาดอากาศหายใจชั่วคราว

ยังไงเขาก็คิดไม่ถึงว่าเทียนขุยจะลงมือทำร้ายเขา เพื่อผู้หญิงคนหนึ่ง เทียนขุยกลับกล้าลงมือทำร้ายตน

ตนคือใคร? จอมพลแห่งสำนักเจ็ดพิฆาต โผ้จวินของประเทศหวา เทพสงครามไร้พ่าย

เดิมเทียนขุยเคยเผชิญความเป็นความตายถึงสองครั้ง เป็นฟางเหยียนที่ช่วยเขาไว้ทั้งสองครั้ง เทียนขุยเองก็พูด ชีวิตของเขาเป็นของตน แต่ฟางเหยียนเชื่อมั่นในตัวเองมากเกินไป เขาคิดเอาเองว่าเทียนขุยไม่กล้าทำร้ายตนหรอก แต่เขาลืมคิดไปถึงฐานะผู้หญิงคนนั้นในหัวใจเทียนขุย ในตอนที่ผู้หญิงคนนั้นเผชิญหน้าความเป็นความตาย สมองของเทียนขุยเลยทำปฏิกิริยาสะท้อนกลับได้อย่างเร็วมาก

เลยเกิดฉากนี้ขึ้นมา เทียนขุยทำร้ายตนกับมือ! ลูกน้องที่เขาเชื่อใจมากที่สุดทำร้ายเขา

แต่เขาไม่โทษเทียนขุย เป็นเพราะเจ้าพวกนั้นใช้ประโยชน์จากจุดอ่อนของเทียนขุยมาควบคุมตัวเทียนขุยไว้

ฟางเหยียนกลืนน้ำลายอย่างยากลำบาก ไม่ นี่ไม่ใช่น้ำลาย มันเป็นเลือดที่จะกระอักออกมา

“พรีด!” เลือดสดกระอักออกมาอีก

“ฟางเหยียน!” ฉินเข่อมือปิดปาก รีบวิ่งเข้ามาพยุงเขาลุกขึ้น!

ระหว่างพยุงฟางเหยียน ฉินเข่อก็ถามว่า “ฟางเหยียน คุณไม่เป็นไรใช่ไหม? คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ฟางเหยียนไอสองครั้ง โบกมือบอก “ผมไม่เป็นไร!”

เสียงเขาอ่อนแรงมาก แต่ไม่ยากที่จะดูออกว่าเขาแข็งแกร่งมาก เพราะตัวเขายืนตัวตรงได้แล้ว โดนกำปั้นสองกำปั้นแบบนั้นเข้าไป ทรมานกว่าโดนรถบรรทุกชนเข้าให้ซะอีก แต่อีกฝ่ายคือฟางเหยียน แน่นอนว่าไม่ได้ขยับตัวไม่ได้แบบคนธรรมดาแบบนั้น

ตอนนี้เองหยางซงกำลังจะพุ่งไปทางสองคนนั้น โดนฟางเหยียนรั้งไว้ ฟางเหยียนถาม “คุณจะไปทำอะไร?”

หยางซงมองฟางเหยียนอย่างคับข้องแน่นอก พลางว่า “เขาทำร้ายพี่ชายผม ยังคิดจะฆ่าล้างตระกูลหยางผม ผมต้องไปคิดบัญชีอยู่แล้วสิ! เรื่องนี้จะจบแบบนี้ไม่ได้ ใครจะรู้ว่าเธอจะกลับมาอีกเมื่อไหร่ ต้องจัดการตอนเธอเจ็บอยู่แบบนี้แหละ!”

“คุณสู้เทียนขุยได้ไหม?” จู่ๆฟางเหยียนก็ถามขึ้นมาอีก

คำถามนี้ทำเอาหยางซงอึ้ง หลังจากสีหน้าเขาเปลี่ยนไปไม่หยุดนิ่ง ก็ถามว่า “สู้ไม่ได้แล้วยังไง? ผมพามือปืนหลายร้อยคนไป คุณกลัวเขาจะไม่ตายหรือไง? ผมจะจัดการเขาจนเป็นรูพรุนเลย”

“มือปืน?!” ฟางเหยียนส่ายหัวอย่างเหนื่อยใจพลางว่า “นี่คุณไม่รู้ขนาดไหนเนี่ย เทียนขุยน่ะมีชีวิตรอดฝ่าดงกระสุนปืนนะ ไร้ซึ่งความกลัวต่ออาวุธปืนนานแล้ว คุณคิดว่าอาศัยอาวุธเล็กๆแค่นี้ของคุณก็จะสามารถทำร้ายเขาได้ ลืมเรื่องคุณจะทำร้ายเขาได้ไหมไปก่อน ต่อให้คุณทำได้ คุณทำร้ายเขาได้จริง คุณคิดว่าอำนาจของกองกำลังระดับภูมิภาคจะยอมปล่อยคุณหรอ? ตระกูลหยางของคุณกล้าต่อกรกับอำนาจของกองกำลังระดับภูมิภาค? ถ้ากล้า ก็ไปลองดูเถอะ!”

พอพูดจบ ฟางเหยียนปล่อยมือหยางซงลง และทำสีหน้าประมาณว่าอยากไปก็ลองไปดูเลย

คิ้วหยางซงขมวดขึ้นมาอย่างห้ามไม่อยู่ เขากลืนน้ำลาย ยังไม่ทันพูดอะไร หยางจิ่งเซียนก็รีบบอกว่า “เอาล่ะ เสี่ยวซง พ่อหนุ่มฟางพูดถูก กลับมาเถอะ!”

หยางซงถอนหายใจเฮือก จากนั้นก็เดินเข้าไปด้านหน้าเจ้าสามหยางที่ได้รับการพยุงเข้ามาแล้ว

ตอนนี้เอง หยางจิ่งเซียนเดินมาทางฟางเหยียน พูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นบนใบหน้าแก่ชรานั่น “ขอบคุณพ่อหนุ่มที่ยื่นมือช่วยเหลือ ถ้าไม่ใช่คุณ น่ากลัวตระกูลหยางของเราคงไม่พ้นเคราะห์กรรมครั้งนี้แล้ว! ได้โปรดรับการคารวะจากผมด้วยครับ”

พอพูดจบ หยางจิ่งเซียนโค้งคำนับเก้าสิบองศาต่อหน้าฟางเหยียน ฟางเหยียนรีบยกมือพยุงเขาขึ้นมา พลางว่า “หยางกง ไม่เป็นไรครับ! นี่เป็นเรื่องที่ผมสมควรทำอยู่แล้ว”

หยางจิ่งเซียนเงยหน้าขึ้นมามองฉินเข่อ จากนั้นก็พยักหน้ารัวๆพลางว่า “ดี ดีดีดี!”

ดีสี่ครั้งติด เพียงพอที่จะแสดงออกถึงอารมณ์ตื่นเต้นในใจเขา

ในตอนที่ทั้งสองกำลังพูดกับอยู่ พวกคนแก่เหล่านั้นพากันเดินเข้ามายืนหน้าฟางเหยียน พร้อมโค้งคำนับพูดว่า “ขอบคุณบุญคุณที่ช่วยชีวิตของพ่อหนุ่มมาก เมื่อกี้พวกลุงมีตาหามีแววไม่ ขอพ่อหนุ่มอย่าถือสาเลยนะ”

ฟางเหยียนมองพิจารณ์คนแก่เหล่านี้ ก่อนโบกมือบอกว่า “ไม่เป็นไรครับ!”

เพียงแค่คำสั้นๆ ก็ทำให้พวกคนแก่กระอักกระอ่วนใจอีก แต่ไม่มีใครกล้าพูดอะไรอีก เมื่อกี้ฟางเหยียนแค่แสดงฝีมือเล็กน้อย เดิมทีพวกคนแก่ยังอยากถามอะไรเพิ่ม แต่ฉินเข่อแย้งขึ้นว่า “คุณลุงนะ ให้ฟางเหยียนไปพักผ่อนก่อนเถอะค่ะ!”

หยางจิ่งเซียนพยักหน้าเห็นด้วยพลางรีบพูด “หนูพาฟางเหยียนไปพักผ่อนเถอะ!”

“หยางกง วันนี้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น ทำให้เรารู้สึกโชคร้ายกันมากแล้ว ขอตัวกลับก่อนละกันนะ!” พวกคนแก่เหล่านั้นพึ่งเผชิญเหตุการณ์ระทึกเป็นตายเท่ากันมา เลยไม่อยากเจอเป็นครั้งที่สองอยู่แล้ว

หลังจากพากันมาร่ำลาขอตัวกลับกับตระกูลหยาง คราวนี้ที่เหลือเลยเป็นแค่คนในครอบครัวเท่านั้น

หยางจิ่งเซียนปิดประตูใหญ่ และเดินเข้ามาในห้อง พลางถามขึ้น “พ่อหนุ่มฟาง พวกเขาจะกลับมากันอีกไหม?”

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

เทพแห่งสงครามกลับเยือนบ้าน เห็นภรรยาตกที่นั่งลำบากถูกคนเย้ยหยัน ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วเมือง! คนที่คิดจะกระตุกหนวดเสือ มันต้องไม่ตายดีแน่! กล้าทำให้เทพแห่งสงครามมีน้ำโห เตรียมเผชิญกับสงครามนองเลือดไว้ได้เลย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset