จอมนักรบทรงเกียรติยศ – ตอนที่ 671 ฟางเหยียนที่ไม่เป็นการเป็นงาน

เจิ้งอู่จิ้นชะงักไป เพิ่งจะหันหน้ากลับไป เมื่อมองไปใจก็ผิดหวัง สูดลมหายใจเข้า สั่นไปทั้งตัว ตากระตุกรัวๆ กลืนน้ำลายเฮือกใหญ่ อ้าปากกลับพบว่าพูดอะไรไม่ออกแม้แต่นิดเดียว

เจิ้งชงจะมีลักษณะของความเป็นผู้เป็นคนที่ไหนกัน ขณะนี้ทั้งตัวเขาเต็มไปด้วยเลือด มันช่างแผลอุจฉกรรจ์เหลือเกิน ภายใต้ค่ำคืนที่มืดสนิท ดูเหมือนยิ่งน่ากลัวผิดปกติเข้าไปอีก เขาในตอนนี้ที่มีจุดที่สมบูรณ์แม้แต่น้อย เนื้อหนังทั้งหมดล้วนฉีกขาด เหมือนกับเลือดกระฉอกออกมา ทำให้คนขนหัวลุก

แต่ตอนนี้ จู่ๆเจิ้งอู่จิ้นก็นึกถึงคำที่น่ากลัวคำหนึ่ง!

มีความชำนาญ!

น่ากลัวยิ่งนัก!

ไม่ว่ายังไง อย่างน้อยเจิ้งชงก็รักษาชีวิตไว้ได้ นี่ก็เพียงพอแล้ว

“ขอบคุณจอมพลที่ออมมือครับ”

ฟางเหยียนมองเจิ้งอู่จิ้น กล่าวอย่างสงบว่า “ฉันไม่อยากไร้สาระเยอะ จากนี้ไปไม่ต้องให้ฉันพูดอะไรมากแล้วนะ?”

“ครับๆๆ” เจิ้งอู่จิ้นแสดงท่าทางโค้งเก้าสิบองศาอย่างเคารพ เพิ่งจะพบว่าที่หน้าผากได้มีเหงื่อไหลออกมาแล้ว

กลับมาที่รถ ใบหน้าฟางเหยียนยังคงเป็นปกติ กล่าวอย่างสงบว่า “ออกรถ”

คนขับรถสตาร์ทรถอย่างเร็ว เหยียบคันเร่งในทันที

เมื่อรถเก๋งออกไปจากที่นี่ ทุกคนก็โล่งอกโดยสิ้นเชิง ตอนที่ฟางเหยียนยังอยู่ เหมือนกับภูเขาใหญ่ที่สูงตระหง่าน กดทุกคนที่อยู่ในสถานที่ให้หายใจไม่ออก โดยเฉพาะวิธีที่ยอดเยี่ยมที่สุดนั่น ทำให้ทุกคนช็อกจนหาที่เปรียบไม่ได้

เขาแข็งแกร่งขนาดไหน ไม่มีใครรู้ ทุกคนรู้เพียง คืนนี้เอาชีวิตกลับมาได้

เจิ้งชงถือว่าไร้สมรรถภาพโดยสิ้นเชิงแล้ว แต่ความวุ่นวายยังคงต้องจัดการอยู่ แว็บนั้นตอนที่ฟางเหยียนจากไป คนเป็นร้อยจากไปอย่างรวดเร็วทันใด กลัวจะโดนไปด้วย

มาเร็ว ก็ไปเร็ว ท้องถนนกลายเป็นว่างเปล่าในทันที เหลือเพียงเจิ้งอู่จิ้นและคนอื่นอีกทั้งคนที่พี่เปียวพามา

เหมือนพี่เปียวเหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้มกล่าว “ประธานเจิ้งครับ ดีที่ยังไว้ชีวิต พวกคุณอยู่ที่เจียงตูไม่ได้อีกแล้วครับ รีบไปให้เร็วเถอะครับ”

เจิ้งอู่จิ้นส่ายหน้าอย่างยิ้มแหยๆ แว็บเดียว ราวกับแก่ไปมาก เดินโวซัดดซ เดินไปยังรถเก๋งเบนท์ลีย์อย่างยากลำบาก แผ่นหลังที่ค่อม ดูเหมือนเปล่าเปลี่ยวหมดหนทางอย่างมากมาย

ชีวิตคนสั้นๆไม่กี่สิบปี ขึ้นๆลงๆแต่ก็หายไป ตระกูลเจิ้งที่ดังสุดๆกลับเพราะสาเหตุของเจิ้งชง ทำให้กิจการครอบครัวที่ใหญ่โตพังทลายลงในแว็บเดียว ช่างน่าสลดใจจริงๆ

ฟางฟังและเวินหลานลงจากรถที่ประตูคณะพาณิชย์ เวินหลานไม่อยากลงจากรถ แต่สุดท้ายก็ลงจากรถอย่างจำใจ รถเก๋งหงฉีขับอยู่บนถนนของเจียงตูอย่างเรื่อยเปื่อย แต่จักรพรรดิชิงตี้เหมือนกับเด็กที่อ่อนต่อโลก ไม่เคยเห็นโลกมาก่อน หันมองไปไกลๆรวดเดียว เมื่อเห็นของแปลกใหม่ยังลากฟางเหยียนให้อธิบายให้เขาฟังรวดเดียวอีกด้วย

“จักรพรรดิชิงตี้ ไม่ต้องไปเรื่อยๆแล้ว เลือกมาเลยดีกว่า”

ราวกับว่าจักรพรรดิชิงตี้ไม่ได้ยินอย่างไรอย่างนั้น ใบหน้ายังคงแปลกใจกับเรื่องที่อยู่นอกหน้าต่าง ดูเหมือนไม่เคยเห็นวิวยามราตรีอย่างนั้น ยังคงจมปลักอยู่กับวิวยามราตรี

แค่สายตาเดียวของฟางเหยียน คนขับรถก็เข้าใจอย่างชัดเจน หยุดรถข้างถนนทันใด

“เป็นผู้ชายที่ไม่รู้อะไรเลยจริงๆ” จักรพรรดิชิงตี้มองบนฟางเหยียน กล่าวตำหนิ

ฟางเหยียนสายตาแหลมคม ราวกับตาอินทรีย์ เพ่งมองจักรพรรดิชิงตี้ กล่าวอย่างสงบว่า “ผมไม่มีเวลามาไร้สาระกับคุณหรอกนะ คุณรู้จักเทียนขุยได้อย่างไรกัน?”

“เทียนขุยคือใคร?” จักรพรรดิชิงตี้สงสัย

จากท่าทางของจักรพรรดิชิงตี้ดูออกไม่ยาก ว่าผู้หญิงคนนี้จงใจ แม้จะปกปิดดีมาก แต่การขยับเบาๆของคิ้ว ส่งสัญญาณลับๆว่าผู้หญิงคนนี้กำลังพูดปลด รวมๆแล้วเธอเอ่ยเทียนขุยสองคำนี้ออกมา ยิ่งมั่นใจข้อเท็จจริงจากคำพูดของหญิงสาวได้มากขึ้น ให้อธิบายอย่างสมเหตุสมผลให้กับเธอ ก็คือเธอไม่สบายใจที่ฟางเหยียนไม่สนใจเธอ

ที่แท้ จักรพรรดิชิงตี้เห็นฟางเหยียนไม่พูดไม่จามาโดยตลอด ก็หัวเราะคิกคิก ยิ้มออกมาอย่างมีเสน่ห์ “สามีคะ ฉันบอกคุณไปแล้วไม่ใช่เหรอ?มีเพียงให้พวกเราอยู่กันตามลำพังเท่านั้น ฉันจึงจะบอกคุณได้”

“คุณเป็นคนของเพลิงเสวน?” ราวกับฟางเหยียนนึกถึงอะไรออกมา กล่าวอย่างตรงไปตรงมา

จักรพรรดิชิงตี้ยังคงยิ้มอย่างสวยงาม ราวกับไม่ได้ยิน จากจุดนี้ ฟางเหยียนที่ประสบการณ์มากมายเริ่มไม่มั่นใจแล้ว ราวกับจักรพรรดิชิงตี้ไม่รู้จักเพลิงเสวิน แต่ถ้าไม่ใช่คนของเพลิงเสวน จะสนใจสิ่งล้ำค่าของสำนักฉิวหลงได้อย่างไร?

“ออกรถ!”

คิดไม่ออกถึงเหตุที่เป็นเช่นนี้ ฟางเหยียนไม่คิด เรียกให้คนขับรถขับรถต่อ

เขารู้ว่าจักรพรรดิชิงตี้ไม่ได้เป็นหญิงโง่ ไม่จำเป็นต้องเอาชีวิตของตัวเองเข้ามาแลก

สตาร์ทรถอีกครั้ง จักรพรรดิชิงตี้ได้ตื่นเต้นอย่างเมื่อก่อนอีกครั้งชื่นชมวิวยามราตรีของเจียงตูอย่างผ่านๆ ดวงตาขยับเล็กน้อย กลัวว่าแว็บเดียวที่พลาดวิวสวยงาม ดูจนฟางเหยียนหมดคำพูด ทำได้เพียงปิดตางีบไป

คนขับรถอยู่เป็น ขับรถไปที่โรงแรมนานาชาติเจียงตูโดยตรง

“จอมพลครับ ทรมานมาทั้งวัน พักผ่อนเยอะๆนะครับ”

ฟางเหยียนยังไม่ทันเอ่ยปาก จักรพรรดิชิงตี้ก็เปิดประตูพลางกล่าวอย่างรอไม่ไหวว่า “ว้าว โรงแรมนี้หรูหรามากเลย สามีคะ พวกเรารีบไปพักผ่อนกัน ฉันมีเรื่องมากมายที่จะบอกคุณ”

ฟางเหยียนทำท่าลงรถ จักรพรรดิชิงตี้ยินดีจนแสดงผ่านสีหน้าออกมา แว็บเดียวก็เปิดประตูออก เบียดออกไป

ในแว็บนั้นที่เธอลงจากรถไป ฟางเหยียนผิดประตูอย่างเร็ว รถเก๋งหงฉีเหมือนกับสัตว์ป่า พุ่งออกไป เลี้ยวโค้ง หายไปในความมืดของเจียงตูทันใด

หญิงสาวทอดกายให้ จิตใจไม่เอนเอียง จิตใจระดับนี้ ทำให้คนขับรถเลื่อมใสนับถือสุดๆ ในฐานะที่เป็นจอมพล นอกจากพลังการต่อสู้น่าสะพรึงแล้ว เกรงว่าความไม่โลเลกับสิ่งเร้าภายนอกมีหลายคนที่เทียบไม่ติด อะไรคือวีรบุรุษยากที่จะชนะต่อสาวสวยได้ คำพูดนี้ต่อหน้าจอมพลก็เป็นแค่คำพูดเท่านั้น เห็นเขาจัดการปัญหาอย่างสง่างาม แล้วจะความสวยงามของหญิงสาวจะทำอะไรได้อย่างไร?

ต้องเลียนแบบ นำมาเป็นไอดอลจริงๆ!

คนขับรถเพิ่งจะตระหนักได้ จอมพลที่ดูเหมือน‘ชื่อเสียงไม่ตรงสภาพจริง’ ยอดเยี่ยมกว่าคนอื่นจริงๆ

“นี่……ฟางเหยียน คุณ……คุณไม่ค่อยเป็นงานเป็นการเลยนะ!” จักรพรรดิชิงตี้หัวเราะทั้งโมโห มือทั้งสองกอดหน้าอกไว้แล้วกล่าว “เจ้านี่มันใช้ได้จริงๆ สมแล้วที่เป็นคนที่กูชอบ แต่อย่าคิดว่าฉันจะปล่อยไปง่ายๆอย่างนั้นนะ”

เมื่อรถเก๋งหงฉีหายไปในความมืด จักรพรรดิชิงตี้ก็เก็บอาการ แทนที่ด้วยความเย็นชาที่ไม่สิ้นสุด จู่ๆก็กลายเป็นใบหน้าเลือดเย็นที่ตัดรอนใจคนที่อยู่ไกล

หญิงสาวหลายคน……… เหมือนกับร่างกายเหวี่ยงไปเหวี่ยงมา หล่นด้านหลังของจักรพรรดิชิงตี้อย่างตัวลอย ดีที่ตอนนี้การ์ดของโรงแรมนานาชาติเจียงตูยังหลับอยู่ ไม่งั้นความง่วงทั้งหมดต้องตกใจ ให้กับฉากที่เว่อร์วังแน่นอน

“จักรพรรดิชิงตี้ คุณไม่เป็นไรใช่มั้ย?”

“ฉันไม่เป็นไร!” หลังจากพูดจบ สายตาของเธอมองไปไกลๆ ราวกับเพื่อจับภาพจินตนาการเล็กน้อยสุดท้ายของฟางเหยียนไว้

“จักรพรรดิชิงตี้ คุณมาจากเมืองจินโจวไล่ตามจนมาถึงเจียงตู เพื่อเจ้านั่นคุ้มค่ามั้ยคะ?”

จักรพรรดิชิงตี้หน้าเคร่งเครียด กล่าวอย่างเยือกเย็นว่า “แกกำลังสอนฉัน?”

“ดิฉันไม่กล้าค่ะ” หญิงสาวตัวสั่นทันใด ก้มหน้าลงอย่างเร็ว ร่างกายค่อยๆสั่น

“ถ้ายังมีครั้งหน้าอีก จะไม่ให้อภัยแน่นอน”

พูดถึงฟางเหยียน หลังจากที่ออกจากโรงแรมนานาชาติเจียงตูแล้ว ก็เริ่มครุ่นคิด

การปรากฏตัวของจักรพรรดิชิงตี้ผู้หญิงคนนี้เป็นเรื่องที่เขาไม่คิดมาก่อน แน่นอน จักรพรรดิชิงตี้จะต้องศึกษาเขาแน่นอน โดยเฉพาะเธอรู้จักเทียนขุย เพียงพอที่จะเห็นว่าหลังไปจากจินโจวแล้ว ต้องมีการสืบเกี่ยวกับฟางเหยียน

ขลุ่ยวิเศษของล้ำค่าของสำนักฉิวหลงเป็นสิ่งที่จักรพรรดิชิงตี้ต้องได้มาให้ได้ นอกจากนี้ ที่เธอมีเป้าหมายอะไรกันแน่ ที่เข้าใกล้ฟางเหยียน? รู้อยู่แก่ใจว่าตัวตนของเขาไม่ธรรมดา ยังจะจงใจเข้าใกล้อีก เป้าหมายช่างน่าสนใจยิ่งนัก

โดยเฉพาะเมื่อกี๊ที่ถามเธอว่าเป็นคนของเพลิงเสวนมั้ย เธอแสดงท่าทีนิ่งสงบ นี่เสแสร้งไม่ได้ ไม่ใช่คนของเพลิงเสวน แล้วยังอยากได้ขลุ่ยวิเศษเป็นเจ้าสำนักของสำนักฉิวหลงอีก จุดนี้มันขัดแย้งกันจริงๆ ฟางเหยียนจำที่จักรพรรดิชิงตี้กล่าวไว้ได้ ว่าเจ้าสำนักของสำนักฉิวหลงไปเที่ยว ได้ขลุ่ยวิเศษมาก็ออกคำสั่งต่อสำนักฉิวหลงได้เป็นธรรมดา

หรือจักรพรรดิชิงตี้กับคนที่บุกเข้าตระกูลฟางเหมือนกัน? เพียงแค่อยากเป็นเจ้าสำนักของสำนักฉิวหลงอย่างเดียวเท่านั้นงั้นเหรอ? หรือว่า เธอยังไม่ได้เจอกับองค์กรที่ลี้ลับอย่างเพลิงเสวนนี้เลยเสียด้วยซ้ำ?

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

จอมนักรบทรงเกียรติยศ

เทพแห่งสงครามกลับเยือนบ้าน เห็นภรรยาตกที่นั่งลำบากถูกคนเย้ยหยัน ความโกรธแผ่ซ่านไปทั่วเมือง! คนที่คิดจะกระตุกหนวดเสือ มันต้องไม่ตายดีแน่! กล้าทำให้เทพแห่งสงครามมีน้ำโห เตรียมเผชิญกับสงครามนองเลือดไว้ได้เลย!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset