พวกเขาไม่รู้ว่าทั้งสองคนจะแสดงฉากที่ยอดเยี่ยมยังไง แต่ต้องวิเศษกว่าฉากของการต่อสู้เมื่อกี๊ของเทียนหลังและผู้ปกปักรักษาหมาป่าคู่แน่นอน สรุป ทุกคนล้วนตั้งสติแน่วแน่ จ้องไปที่สองคนอย่างตั้งอกตั้งใจ
หลังจากที่วัยรุ่นเห็นโต๊ะถูกสับพังแล้ว สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย สำหรับเขาแล้ว ความท้าทายที่แท้จริงของตัวเองได้เริ่มขึ้นแล้ว เมื่อนึกถึงจุดนี้ เขาลอยขึ้นอย่างโหดเหี้ยม พุ่งฆ่าไปที่ฟางเหยียนโดยตรง
ตอนที่วัยรุ่นกำลังพุ่งมาที่ฟางเหยียน ด้านหลังของเขาแขวนกระบี่คมกริบมากมายไว้ นี่เป็นสิ่งที่คนธรรมดาไม่สามารถมองด้วยตาเปล่าได้ ฉากอลังการมาก มีเพียงนินจาตัวจริงเท่านั้นจึงจะใช้ใจรับรู้ได้
นี่เป็นสิ่งที่เกิดจากการไหลเวียนของชี่ มีเพียงชี่ถึงจุดๆหนึ่ง จึงจะปล่อยกำลังที่ยิ่งใหญ่แบบนี้ออกมาได้ การก้าวเดินของเขาช้าลง ตามมาด้วย เขาอ้าแขนทั้งสองข้างออก เหมือนกับปูตัวหนึ่ง จากนั้น เขาสั่นไปทั้งตัว กระบี่คมกริบมากมายนั้นพุ่งไปที่ฟางเหยียน เข้าอยากให้ฟางเหยียนได้ลิ้มลองความรู้สึกของการทะลวงหัวใจ！
การกระทำของวัยรุ่นตรงไปตรงมามาก อยากที่จะโจมตีนัดเดียวจอด！
หันกลับมาที่ฟางเหยียน นึกไม่ถึงว่าเขายังคงไว้ซึ่งท่าทีที่ไม่รู้ไม่ชี้ ใบหน้าไม่ตกใจเลยแม้แต่น้อย เขาถึงขึ้นไม่เตรียมตัวแม้แต่จะโต้กลับ นี่มันฝีมือแข็งแกร่ง หรือไม่รู้ว่าตรงหน้าจะทำอะไรกับเขากันนะ？
ในขณะที่ทุกคนกำลังกลั้นหายใจดูสงครามของดาวอังคารชนโลกอยู่นั้น จู่ๆ กระบี่คมกริบมากมายได้แทงเข้าไปที่ร่างกายของฟางเหยียนแล้ว
ได้ยินเพียงเสียงปังดังขึ้น กระบี่คมหยุดลง ทั้งหมดลอยอยู่ตรงหน้าของฟางเหยียน
จากนั้น เสียงเพล้งดัง กระบี่คมแตกกระจายทั้งหมด
วัยรุ่นส่งเสียงอ้าออกมา หน้าถอดสีในทันที จากนั้น เขาโจมตีไปที่ฟางเหยียนอย่างเร็วอีกครั้ง ร่างกายของเขาเหมือนกับฟ้าแลบ ไม่สามารถมองได้ชัดเจนด้วยตาเปล่า ความเร็วแบบนี้ สามารถฆ่าคนได้อย่างมองไม่เห็น
แต่ความเร็วนี้เร็วมากสำหรับคนทั่วไปเท่านั้น ในสายตาของฟางเหยียน ก็ แค่ถูกปล่อยออกมาช้าๆเท่านั้น
ตอนที่วัยรุ่นมาถึงด้านหน้าของฟางเหยียน ฟางเหยียนยกมือข้างหนึ่งขึ้นมาอย่างไม่สนใจ ได้ยินเพียงเสียงเพี่ยะดังขึ้น จากนั้นก็ดังอุดอู้สนั่น เป็นเสียงของร่างกายล้มลงกับพื้นอย่างรุนแรง
วินาทีถัดมา ทุกคนล้วนเห็นเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิดอย่างอ้าปากค้าง วัยรุ่นล้มลงที่เท้าของฟางเหยียน แล้วบนหน้ายังทิ้งรอยมือห้านิ้วชัดเจนอีกด้วย เสียงเพี่ยะที่ดังขึ้นเมื่อกี๊คือฟางเหยียนตบไปที่หน้าของวัยรุ่น แล้วเสียงอุดอู้สนั่นนั้นคือเสียงที่ร่างกายของวัยรุ่นล้มกระแทกกับพื้นอย่างรุนแรง
ผู้ชายเกือบจะสลบไป ในหัวทั้งหัวได้ยินแต่เสียงวิ้งๆดังขึ้น
ฟางเหยียนมองด้านล่างอย่างช้าๆ จากนั้นนั่งยองลงไปอย่างชิลล์ๆ วัยรุ่นส่ายหัวที่กำลังเป็นดาวเป็นเดือน เขาไม่รู้เลยเสียด้วยซ้ำว่าเมื่อกี๊เกิดอะไรขึ้น ในตอนที่เขาคิดว่าจะได้เปรียบ จู่ๆก็มีมือมือหนึ่ง“ชน”เข้าบนใบหน้าของเขา นั่นเป็นฝ่ามือที่มากไปด้วยพลัง ตอนที่ชนเข้าไปใบหน้า ทำให้ในหัวของเขาดังวิ้งๆขึ้นไปหมด
จากนั้น ชี่ทั้งหมดของเขาสลายไปในตอนนั้น ทำได้เพียงปล่อยให้ร่างกายล้มลงกับพื้นอย่างแรงเท่านั้น
รอถึงตอนที่สมองของเขามีสติขึ้นมาหน่อยนึง ฟางเหยียนได้ยื่นมือซ้ายไปจับคอเสื้อของวัยรุ่น จากนั้นยกมือขวาตบไปที่หน้าของวัยรุ่นอย่างแรงอีกครั้ง
วัยรุ่นส่งเสียงอ้าออกมา เขาเพิ่งจะเรียกสติกลับมาได้ ก็ถูกตบหน้า
เสียงดังเพี่ยะดังขึ้นอีกครั้ง วัยรุ่นถูกตบจนตาลอยเป็นดาวสีทอง
ฟางเหยียนจับผู้ชายขึ้นมาจากพื้นอย่างสบายๆ จากนั้นยกมือตบอย่างแรงอีกครั้ง วัยรุ่นเตรียมยกมือขึ้นมาโต้ตอบ แต่ถูกฟางเหยียนตบกลับไป
เดิมทีนี่ควรจะเป็นการต่อสู้ที่สูสีกัน เมื่ออยู่ต่อหน้าฟางเหยียนกลายเป็นเด็กน้อยเล่นพ่อแม่ลูกไปเสียอย่างนั้น ราวกับว่าในสายตาของฟางเหยียนวัยรุ่นก็เป็นแค่เด็กที่ยังไม่โต เขาอยากจะตียังไงก็ได้! แต่อีกฝ่ายไร้ซึ่งพลังโต้ตอบใดๆ
ทุกคนคาดไม่ถึง นี่เป็นคนที่เมื่อโบกมือก็สามารถพัดโต๊ะลอยมาได้นะ ทำไมพออยู่ต่อหน้าฟางเหยียนกลายเป็นอ่อนแอได้ขนาดนี้ เขาเหมือนกับเด็กที่แม้แต่ราคายังต่อรองไม่ได้
โจวปินคางท่าทางนิ่งสงบอย่างสุดๆ ถึงแม้จะประหลาดใจกับความง่ายดายของการต่อสู้ แต่ก็ไม่ได้ตกใจขนาดนั้น เพราะฟางเหยียนคือเทพแห่งสงคราม ตั้งแต่ต้นจนจบ ฟางเหยียนล้วนมีท่าทางหยิ่งยโสอย่างภาคภูมิใจ เขาไม่มีทางแพ้ เพียงแต่สิ่งที่ทำให้โจวปินคางค่อนข้างประหลาดใจคือ นึกไม่ถึงว่าคนนี้เมื่ออยู่ต่อหน้าเขาอ่อนแอได้ถึงเพียงนี้
เขาถึงขั้นไม่ได้ทำอะไรเลยแม้แต่อย่างเดียว เพียงแต่ใช้การตบหน้าก็ตบจนเป็นแบบนี้แล้ว
ฟางเหยียนตบหน้าตบหน้าแบบนี้ ตบจนมุมปากของวัยรุ่นเลือดไหลออกมา ตบจนหน้าของเขาทั้งแดงทั้งบวม
ตลอดการต่อสู้ อารมณ์ของเขาไม่ได้เปลี่ยนไปเลยแม้แต่น้อย และยิ่งไม่ได้พูดออกมาแม้แต่ประโยคเดียว ราวกับทุกสิ่งที่เขาทำเป็นไปตามธรรมชาติเท่านั้น
และแล้ว ความมั่นใจของวัยรุ่นก็ถูกทำลายไปจนสิ้นซาก ต่อให้เขานอนหลับฝันไปก็ไม่คาดคิดว่าวันหนึ่งจะได้เจอกับจอมพลโผ้จวินตัวจริง แล้วยังอยู่ในสถานการณ์แบบนี้อีก
ตอนที่เขาเลียนแบบคนนี้ เขาพอจะเข้าใจคนนี้อยู่บ้าง เขาก็เคยคิดว่าตัวเองใกล้ชิดกับคนนี้เหลือเกิน จนถึงขั้นเคยคิดจะแทนที่ของคนๆนี้มาแล้ว ตอนนี้ เขารู้ว่าตัวเองยังห่างไกลจากเกณฑ์มาก ตรงหน้าคนนี้ เขาก็คือไอ้สวะที่โต้กลับไม่ได้เลยแม้แต่น้อยเท่านั้น
ด้วยฝีมือของเขา จะเทียบกับเทพสงครามของประเทศหวาได้อย่างไรกัน? เขาอ่อนต่อโลกเกินไป ไร้เดียงสาเกินไป
ตอนที่รู้ว่าผู้ปกปักรักษาหมาป่าคู่ตาย เขาหนีไปแต่แรกก็จบ! ถ้าหนีไปตอนนั้น! ไม่แน่อาจจะมีโอกาสอยู่บ้าง บางทีเขาอาจจะมีชีวิตรอด
แต่ตอนนี้พูดอะไรก็สายไปหมดแล้ว ทุกอย่างสายไปแล้ว!
สิ่งที่เหลือไว้ให้เขาไม่ใช่โอกาส แต่เป็นความสิ้นหวัง!
ตอนนี้เขาได้สูญเสียโอกาสที่จะคุกเข่าขอโทษไปแล้ว!
และแล้วจากการตบหน้าอีกครั้ง ฟางเหยียนได้หยุดการกระทำในมือลง ใบหน้าของวัยรุ่นได้กลายเป็นเลือดเนื้อและหนังที่ไม่ชัดเจน แยกแยะประสาทสัมผัสทั้งห้าไม่ออกแล้ว สติของวัยรุ่นค่อยๆฟื้นกลับมาเล็กน้อย เขาอ้าปากอยากจะพูดอะไร แต่ฟางเหยียนไม่ให้โอกาสเขาพูดแล้ว ตอนที่เขาพูดว่าจะสวมรอยเป็นตัวเอง เขาก็ไม่ใช่คนที่มีชีวิตแล้ว
เขาตั้งมือขึ้นอย่างไม่ลังเล แล้วกล่าวอย่างเย็นชาว่า “กระหายเลือด สังเวย!” เพิ่งพูดจบ ฝ่ามือของเขาพาดผ่านคอหอยของวัยรุ่นไป เห็นเพียงเลือดกระฉูดออกมาจากคอหอยของวัยรุ่นเท่านั้น มีหลายหยดที่กระฉูดไปที่ข้างมุมปากของเขาโดยตรง เขาแลบลิ้นออกมาชิมเลือดนั้น จากนั้นโยนร่างกายของผู้ชายลงไปกับพื้น เหมือนกับโยนสุนัขที่ตายแล้วตัวหนึ่ง
สงครามจบแล้ว ฟางเหยียนฆ่าคนนั้นตายในห้องโถงอย่างไม่สนใจแต่อย่างใด
ผู้คนมองเหตุการณ์จนหวาดกลัวมาก เมื่อมองไปที่ฟางเหยียน พวกเขามีความหวาดกลัวลึกๆ เหมือนกับเห็นยมราชในนรก ถึงแม้คนที่นั่งอยู่ล้วนเคยผ่านร้อนผ่านหนาวมา แต่ถ้าการฆ่าคนด้วยวิธีนี้ พวกเขาเพิ่งจะเคยเห็นเป็นครั้งแรก
ฟางเหยียนที่อยู่ตรงหน้าไม่รู้ว่าเป็นคนดีหรือคนเลว ถ้าเขาเป็นคนดี ไม่มีทางตัดหัวคนๆหนึ่งอย่างง่ายดายอย่างนั้น ถ้าเขาเป็นคนเลว งั้นคนที่อยู่ในเหตุการณ์ทุกคนอาจจะตายได้!
เขาแข็งแกร่งเกินไป เมื่อก่อนผู้คนของดินแดนตะวันตกคิดว่าคุณชายของตระกูลโจวแข็งแกร่งที่สุด เขาชนะแชมป์ของประเทศได้อย่างง่ายดาย จนกระทั่งถึงตอนที่วัยรุ่นลงมือเมื่อกี๊ พวกเขาเพิ่งจะรู้ว่าคุณชายของตระกูลโจวไม่ได้แข็งแกร่งที่สุด วัยรุ่นคนนั้นสิถึงจะใช่ แต่ตอนนี้ วัยรุ่นนั่นถูกฆ่าแล้ว จนถึงขั้นแม้แต่ความสามารถในการหลบเลี่ยงยังไม่มีเลย พวกเขาเพิ่งจะรู้ว่าในความแข็งแกร่งยังมีความแข็งแกร่งอยู่อีก
คนที่ถูกขนานนามว่าเทพแห่งสงครามของประเทศหวา จึงจะเป็นผู้แข็งแกร่งที่สมคำร่ำลือ!
และสไตล์ของเขายิ่งทำให้คนตกตะลึงอ้าปากค้างทำอะไรไม่ถูก!
