จอมบงการเทพยุทธ์ – บทที่ 13 ปีศาจผู้พิทักษ์เผ่าพันธุ์มนุษย์

“ท่านอาจารย์ ดูเหมือนว่านี่จะเป็นคัมภีร์โบราณที่ถูกเขียนไว้โดยจอมจักรพรรดิเผ่าพันธุ์มนุษย์❗️”

เย่หลิงเสวี่ยพูดด้วยน้ำเสียงสั่นเครือ

ถ้านี่เป็นคัมภีร์โบราณนี้เป็นของจริง คุณค่าของมันนั้นจะประเมินมิได้❗️

“ใจเย็นๆ มาดูกันก่อน”

เสวี่ยหรูเยียนเองก็ตกใจ แต่นางเก็บอาการไว้ในใจและทอดสายตาไปยังม้วนคัมภีร์โบราณในมือของเย่หลิงเสวี่ย

เมื่อมองไป นางก็ไม่อาจละสายตาได้

ตัวอักษรที่เขียนอยู่ในม้วนคัมภีร์โบราณแต่ละตัวนั้นส่องสว่างประดุจดวงดาว ราวกับมันมีพลังอันหาสิ่งใดเปรียบไม่ได้ มันดึงดูดความสนใจของเสวี่ยหรูเยียน

ทุกคำในม้วนคัมภีร์โบราณเหมือนว่าจะอธิบายความจริงแห่งฟ้าดิน

เหมือนเสียงท่วงทำนองดังก้องอยู่ในหู ให้ความรู้สึกตื่นและเบิกบาน

ผ่านไปครู่หนึ่ง เสวี่ยหรูเยียนจึงสามารถละสายตาจากม้วนคัมภีร์โบราณนี้ได้

นางสูดหายใจเข้าลึกๆ แววตาเปี่ยมไปด้วยความตกใจ พร้องส่งเสียงออกมาอย่างเก็บอาการไว้ไม่อยู่

“หลิงเสวี่ย นี่คือมรดกของจอมจักรพรรดินีอย่างแน่นอน❗️”

แม้เสวี่ยหรูเยียนยังไม่ได้อ่านม้วนคัมภีร์โบราณทั้งหมด

แต่เพียงอ่านแค่บางส่วน นางก็รู้ได้ว่าม้วนคัมภีร์โบราณนี้ถูกทิ้งไว้โดยจอมจักรพรรดินีแน่นอน

เพราะม้วนคัมภีร์โบราณที่ล้ำลึกและลึกลับเช่นนี้จะไม่มีทางถูกสร้างขึ้นได้หากไม่ได้อยู่จุดสูงสุดในวิถีแห่งยุทธ์

“สมบัติ มหาสมบัติ…”

เสวี่ยหรูเยียนส่งเสียงพึมพำ

นี่คือมรดกตกทอดจากจักรพรรดินี❗️

สำหรับผู้ฝึกยุทธ์ อะไรคือสิ่งสำคัญที่สุดน่ะรึ❓

แน่นอนว่าสมบัติวิเศษนั้นมีความสำคัญ

แต่สิ่งที่สำคัญที่สุด ย่อมเป็นคัมภีร์โบราณที่สามารถฝึกฝนและศึกษาได้❗️

“ท่านอาจารย์ คัมภีร์โบราณนี้เหมาะสมกับท่าน หากได้ฝึกฝนแล้วจะทำให้ระดับพลังยุทธ์ของท่านสูงขึ้นไปอีก อย่างน้อยสำนักหิมะน้ำแข็งเราก็จะไม่ถูกรังแกจากตำหนักไร้ความหวังนั่น❗️”

เย่หลิงเสวี่ยยื่นม้วนคัมภีร์ให้เสวี่ยหรูเยียนอย่างแน่วแน่

แต่ทว่าเสวี่ยหรูเยียนกลับส่ายหน้าไม่ยอมรับม้วนคัมภีร์โบราณ และมองดูศิษย์ด้วยความภูมิใจและพูดว่า

“หลิงเสวี่ย สิ่งนี้ไม่ได้เหมาะสมกับข้าแต่เป็นเจ้า”

“อาจารย์…❓”

เย่หลิงเสวี่ยรู้สึกสับสน ไม่เข้าใจว่าอาจารย์ของนางหมายถึงอะไร

“ข้าเพิ่งได้อ่านม้วนคัมภีร์โบราณเล่มนี้ มันเป็นคัมภีร์โบราณที่ใช้สำหรับการฝึกวิชาซึ่งบันทึกแนวทางการฝึกฝนจากเขตแดนเสริมโลหิตไปจนถึงเขตแดนสวรรค์นิมิต”

“ระดับพลังยุทธ์ของอาจารย์นั้นสูงกว่าเขตแดนสวรรค์นิมิตแล้ว แม้ว่าการศึกษาคัมภีร์โบราณนี้จะเป็นประโยชน์ แต่มันเกิดประโยชน์สูงสุดเมื่ออยู่ในมือเจ้า”

เสวี่ยหรูเยียนพูดด้วยรอยยิ้ม

“อีกอย่าง หลิงเสวี่ย ม้วนคัมภีร์โบราณนี้เหมาะสมกับเจ้าจริงๆ เจ้าเป็นคนขาดพรสวรรค์ไม่ใช่รึ❓”

“หากเจ้าฝึกวิชาในคัมภีร์ของจอมจักรพรรดินีนี้ได้ ไม่แน่ว่าในอนาคตเจ้าอาจสามารถเดิมตามรอยเท้าจอมจักรพรรดินีนี้ได้❗️”

น้ำเสียงของเสวี่ยหรูเยียนแสดงความตื้นตันออกมาเล็กน้อย

ม้วนคัมภีร์โบราณเล่มนี้เหมาะสมกับเย่หลิงเสวี่ยจริงๆ

เย่หลิงเสวี่ยนั้นไร้พรสวรรค์ การฝึกฝนคัมภีร์โบราณนี้ ถือเป็นทางเลือกที่ดีที่สุดอย่างแน่นอน❗️

“ข้าน่ะรึ…❓”

เย่หลิงเสวี่ยมองไปที่ม้วนคัมภีร์ในมือพร้อมพึมพำกับตนเอง

“หลิงเสวี่ย ม้วนคัมภีร์โบราณเล่มนี้เหมาะกับเจ้าก็จริง แต่หากเลือกฝึกมัน ต้องเข้าใจไว้ด้วยว่ามันจะพาเจ้าเข้าสู่เส้นทางที่จะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลก❗️”

สีหน้าของเสวี่ยหรูเยียนดูจริงจังขณะที่กล่าวอย่างเคร่งขรึม

จอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญนี้จะนำพาไปสู่เส้นทางเช่นไรน่ะรึ❓

บนจิตรกรรมฝาผนังที่โถงทางเดินก่อนหน้านี้ ได้แสดงให้เห็นอย่างชัดเจน

มันเป็นเส้นทางที่ยากลำบากที่ต้องต่อสู้กับสวรรค์ชั้นฟ้า โลกทั้งใบ เผ่าพันธุ์นับหมื่น และแม้แต่ตัวเอง❗️

มันไม่ต่างจากทางตัน❗️

หากบ่มเพาะวิชาโบราณนี้ จะต้องเลี้ยงดูด้วยเลือดของเผ่าพันธุ์นับหมื่นจึงจะเกิดผลที่งอกงาม

หากเลือกเส้นทางนี้ ก็มีตัวเลือกแค่ไปจนสุดทางและขึ้นไปอยู่จุดสูงสุดเช่นเดียวกับจอมจักรพรรดิผู้เหี้ยมหาญ

หรือตายอยู่กลางทางอย่างน่าเวทนา

มีแค่สองตัวเลือกเท่านั้นไม่มีอื่น❗️

“เส้นทางที่จะเป็นศัตรูกับคนทั้งโลกงั้นรึ❓”

เย่หลิงเสวี่ยกระซิบกับตัวเอง แววตาของนางก็สว่างขึ้นพร้อมด้วยสีหน้าที่แน่วแน่

“ถึงจะเป็นเช่นนั้น ข้าก็ไม่หวั่น❗️”

“แม้ว่าข้า เย่หลิงเสวี่ย จะไร้ซึ่งพรสวรรค์ แต่ตั้งแต่เริ่มฝึกฝนข้าก็อุตสาหะและเพียรพยายามอยู่เสมอ❗️”

“ข้าฝืนทนเช่นนี้❗️ นั่นก็เพราะว่าข้าต้องการเปลี่ยนสถานะของเผ่าพันธุ์มนุษย์❗️”

“แม้ข้าจะรู้ดีว่ามันเป็นแค่เศษเสี้ยวของความหวัง แต่ข้าไม่อยากยอมแพ้❗️”

“ข้าอยากแข็งแกร่งขึ้น”

“เพื่อป้องกันตัวเอง”

“ปกป้องญาติมิตร”

“ปกป้องคนที่ข้ารัก”

“ปกป้องศิษย์พี่น้องร่วมสำนักหิมะน้ำแข็ง”

“ปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์นับล้านทั่วทั้งโลก❗️”

“ข้าต้องการโลกที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ทุกคนสามารถเดินได้อย่างภาคภูมิใต้ฟ้าดินอันกว้างใหญ่นี้❗️”

“ข้าต้องการโลกที่เผ่าพันธุ์มนุษย์ทุกคนเป็นเหมือนมังกร อยู่เหนือเผ่าพันธุ์อื่นๆนับหมื่น ปกครองทั่วหล้า❗️”

“เพื่อเป้าหมายนี้ ถึงจะเป็นศัตรูกับทุกเผ่าพันธุ์ ข้าก็ไม่กลัว❗️”

“ถึงมันไม่สำเร็จ แล้วต้องตายอยู่กลางทาง ข้าก็จะไม่เสียใจ❗️”

เสียงเย่หลิงเสวี่ยนั้นไม่ได้ดัง กลับค่อนข้างสงบเสียด้วย

แต่น้ำเสียงนั้นหนักแน่นมาก

แข็งแกร่งขึ้น และแข็งแกร่งขึ้นต่อไปเรื่อยๆ เพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์รอบๆตัว จากนั้นก็ปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั่วโลก นี่คือปนิธานที่เย่หลิงเสวี่ยตั้งไว้เมื่อฝึกยุทธ์❗️

ด้วยเหตุนี้ แม้ว่านางจะเป็นศัตรูกับทุกเผ่าพันธุ์โลก นางก็ไม่สนใจ❗️

นี่คือวิถีของนาง❗️

คำพูดเร่าร้อนนั้นดูเหมือนจะสะท้อนกับม้วนคัมภีร์โบราณในมือของนาง

ตัวอักษรที่ประดุจดวงดาว กระโจนออกมาจากม้วนคัมภีร์โบราณและจารึกเข้าไปในจิตใจของเย่หลิงเสวี่ย

ในตอนนี้

ดูเหมือนว่าเย่หลิงเสวี่ยจะได้รับการยอมรับบางอย่าง

นางมีคุณสมบัติที่จะฝึกฝนคัมภีร์มหายุทธ์กลืนสวรรค์จริงๆ❗️

คัมภีร์มหายุทธ์กลืนสวรรค์❓

มันเป็นพลังที่วิเศษจริงๆ

เย่หลิงเสวี่ยเผยรอยยิ้มอยู่มุมปาก ดูเหมือนว่านางจะเข้าใจแล้วว่าทำไมจอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญ ผู้เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์มนุษย์จึงได้ตั้งชื่อเช่นนี้กับคัมภีร์ที่นางสร้างขึ้น

จอมจักรพรรดินีผู้เหี้ยมหาญขึ้นมาถึงจุดสูงสุดเพียงเพื่อรอการกลับมาของคนๆหนึ่ง

แต่ระหว่างนั้น นางก็ได้บรรลุภารกิจในการปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์ทั่วโลกด้วย

หากข้าเป็นปีศาจ ก็จะเป็นปีศาจผู้พิทักษ์เผ่าพันธุ์มนุษย์❗️

เพื่อปกป้องเผ่าพันธุ์มนุษย์ ถึงจะเป็นปีศาจแล้วยังไง

จอมบงการเทพยุทธ์

จอมบงการเทพยุทธ์

Status: Ongoing
อ่านนิยายเรื่อง จอมบงการเทพยุทธ์‘ระบบจอมบงการเปิดใช้งานแล้ว❗️’ “ในที่สุดระบบนี้ก็ถูกเปิดใช้งาน” เสียงที่ดังในหัวของฉินมู่ช่างไพเราะเหลือเกินในตอนนี้ เกือบครึ่งเดือนแล้วนับตั้งแต่เขาเดินทางมายังโลกแฟนตาซีในตำนานแห่งนี้

Comment

Options

not work with dark mode
Reset