จอมมารแค่อยากเป็นคนดี – ตอนที่ 66 ดาร์ก เดม่อนดำดิ่งสู่ราตรี

บทที่ 66 ดาร์ก เดม่อนดำดิ่งสู่ราตรี

ทินกรคล้อยต่ำลงและความมืดก็เริ่มมาเยือน จันทราปรากฏตัวออกมาทางทิศตะวันตก

ดาร์กหยุดพักจากการทดลองแล้วมาลูบหญ้าแมวเล่น หลังจากที่ทานอาหารเย็นที่รุกกี้เดวิมอนเอามาให้เสร็จ เขาก็เริ่มการทดลองรอบที่สองต่อ

ครั้งนี้ ดาร์กใช้วิธีขัดเกลาขั้นพื้นฐาน [ประเภทพืช – ธาตุแสง]

ผลที่ได้คือ ไม่ดีอย่างที่คิด

ด้วยประสบการณ์การผลิต [สไลม์ขยะ] เดิมทีดาร์กคิดว่าการจัด ‘ประเภทพืช’ ของเขานั้นน่าจะถูกต้อง

แต่ดูเหมือนว่าจะไม่เป็นเช่นนั้น

บางทีเหตุผลที่ขัดเกลา [สไลม์ขยะ] ออกมาได้ อาจเป็นเพราะเล็บของเขาน่าจะเป็นวัตถุดิบหลักที่แท้จริง

ตรงกันข้าม หลังจากที่ใช้วิธีขัดเกลาพื้นฐานของ [ประเภทนกและสัตว์ – คุณสมบัติแสง] มันกลับราบรื่นมาก

เพียงแต่ในขั้นตอนสุดท้ายของการเติมวัตถุดิบหลักนั้นมีขนแมวไม่เพียงพอ!

ไม่ว่าจะใส่ขนแมวกี่เส้นในวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์หมายเลข 1 แสงของวงแหวนขัดเกลาเวทมนตร์ก็ยังคงสลัว

ปรากฏการณ์นี้อธิบายไว้ในหนังสือเรียน และมันเกิดจาก ‘คุณภาพ’ ของวัตถุดิบหลักนั้นไม่เพียงพอ!

ดาร์กสรุปว่า [ประเภทนกและสัตว์ – คุณสมบัติแสง] น่าจะเป็นวิธีที่ถูกต้อง แต่ขนแมวที่ดูดซับ [อัตตา] เพียงเล็กน้อยนั้นไม่เพียงพอที่จะทำให้การ์ดเวทมนตร์ใบนี้สำเร็จ

มันต้องการวัตถุดิบหลักที่คุณภาพสูงกว่านี้!

นั่นคือผลจากหญ้าแมวและ [อัตตา]!

“สุดท้าย ฉันก็ยืนยันการใช้ผลได้”

ดาร์กอดดีใจไม่ได้

เขามีขนแมวเยอะมาก แต่กลับมีผลเพียงลูกเดียว

อาจเรียกว่า ความล้มเหลวก่อนหน้านี้ทั้งหมดมีไว้สำหรับความสำเร็จในท้ายที่สุด

เขาหยิบปากกาขึ้นมาเขียนในสมุดจดว่า

1. ประเภทนกและสัตว์

2. คุณสมบัติแสง

3. [อัตตา]

การทดลองสิ้นสุดลงแล้ว

สิ่งที่ดาร์กต้องทำตอนนี้คือรอให้เดือนหน้ามาถึง

เด็กชายวางเก้าอี้นั่งเล่นบนระเบียง มือกอดหญ้าแมว และอ่านหนังสือ ‘เจ้าแห่งการแต่งตัว’ ซึ่งเป็นหนังสือบันเทิง

เขาไม่ได้สนใจเกี่ยวกับการ์ดแต่งตัว แต่สามารถอ่านมันเป็นกิจกรรมยามว่างได้

เนื้อหาส่วนแรกของ ‘เจ้าแห่งการแต่งตัว’ เป็นเพียงการแนะนำวิธีง่าย ๆ สำหรับทำการ์ดแต่งตัว และส่วนที่เหลือก็เป็นการออกแบบเครื่องแต่งกายแปลก ๆ ทุกประเภท

ดาร์กเห็นเครื่องแต่งกายที่นำหน้าด้วยอักษร D และตามด้วยอักษร C

โดยรวมแล้วมันน่าสนใจมาก

เวลาผ่านไปอย่างช้า ๆ

แสงจันทร์กลับมาส่องแสงทอประกายอีกครา

ในตอนที่ดาร์กใกล้เคลิ้มหลับ พลันมีผีเสื้อสีม่วงลากหางเรืองแสงยาวบินโฉบใบหน้าของเขาอย่างแผ่วเบา

หลังจากผ่านไปหลายวินาที

ดาร์กถึงลุกขึ้นจากเก้าอี้

“เมี้ยว!”

หญ้าแมวส่งเสียง

ดาร์กเบิกตากว้างและมองดูผีเสื้อสีม่วงชมพูบินออกจากห้อง หางยาวของพวกมันก่อตัวเป็นกาแล็กซีที่ส่องแสง ปรากฏร่องรอยความลึกลับและความงดงามให้เห็น

“เกิดอะไรขึ้น?”

ดาร์กจับหญ้าแมวลงมาวางไว้บนเก้าอี้ เขาเดินเข้าไปในห้องนอน และหยิบการ์ดกล้วยไม้ผีเสื้อออกจากซองใส่การ์ดที่วางอยู่บนโต๊ะ

แม้จะไม่มีการใส่พลังเวทมนตร์เข้าไป แต่การ์ดดอกไม้ก็จะเปิดใช้งานเอง

ผีเสื้อบินออกจากการ์ดอย่างต่อเนื่องและเริงระบำไปรอบ ๆ

ดาร์กมองดูนาฬิกาที่ผนัง มันเป็นเวลาสามทุ่มเกือบสี่ทุ่มแล้ว

ภายใต้สถานการณ์ปกติ เขาควรจะเตรียมตัวเข้านอนได้แล้ว

แต่เนื่องจากวันนี้เขาทุ่มเทพลังงานมากเกินไปในการทดลอง ทำให้เสียการรับรู้เวลาไปกับการอ่านหนังสือตั้งแต่ตอนนั้น

แต่นี่ไม่ใช่ปัญหาใหญ่

อันที่จริง หลังจากงีบสั้น ๆ ดาร์กก็กลับมาสดชื่นและเต็มเปี่ยมไปด้วยพลังอีกครั้ง

คิ้วเข้มขมวดเข้าหากันยุ่ง ก่อนจะหันมาสวมชุดคลุมนักเรียนที่แขวนไว้บนไม้แขวนเสื้อ

เขาตรวจสอบการ์ดดอกไม้และใส่มันไว้ในซองใส่การ์ดตามเดิม

อันที่จริง รากฐานของการ์ดดอกไม้นั้นเกี่ยวข้องกับเรื่องการลดค่า [ราคะ] ซึ่งสำคัญมากสำหรับเขา

‘มันทำให้รู้สึกแปลก ๆ ว่าถ้าไม่ลงมือทำตอนนี้ก็จะสายเกินไปแล้ว’

‘เห็นชัด ๆ ว่ากระทำของศาสตราจารย์เคเซอร์คือ ต้องการให้ฉันออกตามหาต้นตอที่แท้จริง’

‘แต่มันดูเหมือนเขาจะยังลังเลอยู่ สภาวะจิตใจของเขาค่อนข้างคลุมเครือเสียจริง’

‘มีเหตุผลอะไรที่ทำให้เขาตัดสินใจได้ยากกัน?’

‘ฉันควรเชื่อเขาดีไหม?’

ดาร์กเดินไปที่ประตู แต่เมื่อกำลังจะเปิดมัน เขาก็นึกถึงบางสิ่งบางอย่างขึ้นมา เด็กชายหันกลับมาหยิบการ์ด [หน้ากากทักซิโด้] ออกจากลิ้นชักแล้วใส่ลงในซองใส่การ์ด

“ไม่คิดเลยว่าฉันจะมีการ์ดเก้าใบแล้ว”

ห้องนั่งเล่นส่วนกลางของบ้านขุนนางในเวลานี้ว่างเปล่า ไร้ผู้คน

ดาร์กเดินลงบันไดและแสงไฟเวทมนตร์ที่แขวนอยู่บนผนังก็ลุกพรึบขึ้นโดยอัตโนมัติ

เขาไม่ได้อยู่ในห้องนั่งเล่นนาน แต่เดินผ่านไปถึงประตูทางเข้าหอพัก

อสรพิษขนนกที่เฝ้าหอคอยยังขดตัวและหลับตา ไร้ท่าทีและปฏิกิริยาใด ๆ

ดาร์กเดินข้ามสะพานและเข้าไปในภายในปราสาท

ปราสาทเซนต์แมเรียนมีทางเชื่อมต่อกันเป็นอย่างดี และมีโกเลมคอยตรวจตราอยู่ทุกคืน

อย่างไรก็ตาม โกเลมจะอยู่ในโหมดตักเตือนก่อนเวลาเที่ยงคืนและจะเข้าสู่โหมดเฝ้ายามหลังเที่ยงคืน หากมันพบนักเรียน พวกเขาจะถูกจับทันที

ดังนั้น ปราสาทในยามเที่ยงคืนของทุกวันจะเป็นจุดเริ่มต้นของเคอร์ฟิว

ดาร์กหยิบการ์ดคัดสรรออกมา และอัญเชิญรุกกี้เดวิมอนออกมา

รุกกี้เดวิมอนสัมผัสได้ถึงความคิดของดาร์ก มันจึงอดไม่ได้ที่จะแสดงความตื่นเต้นออกมา

ชีวิตในสถาบันอันน่าเบื่อได้ปกปิดธรรมชาติดั้งเดิมของมันไป

มันคือรุกกี้เดวิมอน รุกกี้เดวิมอนที่ถูกลิขิตให้โผทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้า!

ราตรีเป็นดินแดนของมัน

เหนือท้องนภายามค่ำคืน มันคือผู้ปกครอง!

“มานี่เลย”

“วู้ วู้!”

ใบหน้าของดาร์กมืดครึ้มลง เมื่อมองไปยังรุกกี้เดวิมอนที่กำลังบินอยู่ตรงทางเดิน เขาพูดอย่างช่วยไม่ได้ “จำได้ไหมว่าครั้งล่าสุดฉันตามเวอร์เธอร์ไปถึงที่ไหน พาฉันไปที่นั่นที”

รุกกี้เดวิมอนสงบลงทันทีและพูดอย่างเย่อหยิ่งว่า “แน่นอน ข้าจำได้!”

ดาร์กยิ้ม “งั้นก็รีบไปสิ ”

ค่ำคืนอันแสนมืดมิดเป็นสภาพแวดล้อมที่ดีอย่างแท้จริง

เขารู้สึกว่าอารมณ์ที่ถูกระงับจนถึงตอนนี้ดูเหมือนจะหาทางออกได้แล้ว และมันก็ค่อย ๆ หลั่งไหลออกมาทีละน้อย

ดาร์กสะบัดมือ และผีเสื้อก็บินตามมือของเขามา โดยทิ้งร่องรอยเรืองแสงในอากาศราวกับริบบิ้น

ศาสตราจารย์เคเซอร์กล่าวว่า การ์ดดอกไม้ใบนี้จะนำพาเขาไปยังต้นตอของเรื่องราว แต่ตอนนี้พวกมันยังบินไปรอบ ๆ การ์ดอย่างไร้จุดหมาย

ดาร์กเดาว่าเป็นเพราะระยะทางไกลเกินไป

โชคดีที่เขาเคยตามเวอร์เธอร์ไปได้ระยะหนึ่งมาก่อน ดังนั้นจึงสามารถย่นระยะทางและเวลาให้มันสั้นลงได้

เด็กชายเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วไปพร้อมกับรุกกี้เดวิมอนที่บินนำไป มันเริ่มจากหน้าต่างบานนั้น ที่ซึ่งเขาเคยดูดวงจันทร์มาก่อน จากนั้นไปที่ชั้นถัดไป ข้ามสะพาน และเข้าสู่พื้นที่ส่วนอื่นของปราสาท

ดาร์กยังคงเคลื่อนไหวในขณะที่หลีกเลี่ยงโกเลมไปด้วย

ผ่านไปราวสิบนาที ในที่สุดดาร์กก็พบเข้ากับรูปปั้นนักบวชตัวใหญ่ที่เขาเคยใช้ซ่อนตัวเมื่อครั้งล่าสุด

และเป็นที่นี่เช่นกันที่ผีเสื้อเริ่มตอบสนอง มันบินไปทิศทางหนึ่งอย่างเฉพาะเจาะจง

“ที่นี่สินะ”

ดาร์กตระหนักว่าเขาอยู่ในระยะดังกล่าวแล้ว

ครั้งที่แล้วรุกกี้เดวิมอนคลาดกับเวอร์เธอร์ไม่ไกลจากที่นี่

เมื่อจำได้ว่าโลกของเกมนี้มีแม่แบบจาก <ภาพยนตร์แนวโรงเรียนเวทมนตร์> จึงเป็นไปไม่ได้ที่ปราสาทจะไม่มีทางเดินลับ

ดังนั้นเวอร์เธอร์อาจหลีกเลี่ยงการสะกดรอยตามจากรุกกี้เดวิมอนด้วยอุโมงค์ลับ

ดาร์กเดินตามผีเสื้อจนมันบินไปเกาะกับผนัง ตอนนั้นเองที่มันหยุดบินไปรอบ ๆ

เขาตระหนักว่าตนมาถึงจุดหมายแล้ว และมันควรอยู่ที่ไหนสักแห่งในกำแพงนี้

“ทางนี้เหรอ?”

ดาร์กหรี่ตาและเริ่มสำรวจผนังอย่างรวดเร็ว

ด้วยร่องรอยของพลังเวทมนตร์ที่ใส่เข้าไป จู่ ๆ นิ้วมือของดาร์กก็ทะลุผ่านเข้าไปในกำแพง!

หลังจากตกใจอยู่ครู่หนึ่ง ดาร์กก็ออกคำสั่งให้รุกกี้เดวิมอนเป็นผู้นำทางและเข้าไปข้างในทันที

แต่แล้วฝูงผีเสื้อกลับเข้าไปก่อนที่รุกกี้เดวิมอนจะออกนำ!

ทันใดนั้นเองก็มีเสียงฝีเท้าแว่วมาจากด้านหลัง

สีหน้าของดาร์กเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาคว้ารุกกี้เดวิมอนแล้วเดินผ่านกำแพงไป

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง จอมมารแค่อยากเป็นคนดีระหว่างทำพิธีคัดสรรเลือกบ้าน ในที่สุด 'ดาร์ก เดม่อน' ก็ได้รับความทรงจำของชีวิตก่อนกลับคืนมา ปรากฏว่าเขามาเกิดใหม่โลกของเกม ทั้งยังเป็นเกมที่ลอกเลียนแบบธีมภาพยนตร์และอนิเมะชื่อดังอีกด้วย! แต่เหมือนพระเจ้ายังไม่พอใจ เพราะบทบาทของ 'เขา' ในเกมนี้คือว่าที่ 'จอมวายร้าย' ที่ร้ายสุดในเกมนี้! ด้วยค่ามหาบาปทั้งเจ็ด [เกียจคร้าน ริษยา ราคะ ตะกละ โลภะ โทสะ และอัตตา] เมื่อค่าหนึ่งในเจ็ดบาปพวกนี้พุ่งทะลุหลอดตัวชี้วัด ดาร์กก็จะกลายร่างเป็น 'จอมมาร' ตลอดไป! หากเป็นยุคแห่งความโกลาหลก็คงไม่เป็นอะไรหรอก แต่ตอนนี้มันใช่ยุคนั้นเสียที่ไหนเล่า! ในยุคสมัยของเซนต์แมเรียนที่สงบสุขเช่นนี้ และจอมมารก็ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ไปนานแล้ว เขาที่กำลังโดนระบบจอมมารปั่นหัวให้กลายวายร้ายจะต้องทำเช่นไรล่ะทีนี้!?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset