จอมมารแค่อยากเป็นคนดี – ตอนที่81 ไม่มีหนังสือใดที่ดาร์ก เดม่อนไม่เชี่ยวชาญ

บทที่ 81 ไม่มีหนังสือใดที่ดาร์ก เดม่อนไม่เชี่ยวชาญ

โดยไม่จำเป็นต้องรอให้อาจารย์สอน หลังจากที่ดาร์กมีไอเดียแล้ว เขาก็ตรงไปที่ห้องสมุดทันที หลังจากจบคาบวิชาเวทมนตร์พื้นฐานในช่วงบ่าย

ในไม่ช้าดาร์กก็พบหนังสือ ‘ปิแอร์จะอธิบายให้ฟังเอง: วิธีทำน้ำยาวิเศษให้เป็นการ์ดเวทมนตร์’

ปิแอร์เป็นนักปรุงยาที่มีชื่อเสียงมากในประวัติศาสตร์เวทมนตร์ และในมุมมองของเขา หากไม่มีน้ำยาคุณก็ไม่สามารถทำการ์ดเวทมนตร์ได้!

หนังสือเล่มนี้มีความหนาประมาณสามนิ้ว ซึ่งทำให้เหล่าจอมเวทฝึกหัดค่อนข้างหวาดกลัวมัน

อย่าว่าแต่นักเรียนปีหนึ่งเลย แม้แต่นักเรียนรุ่นพี่ก็ยังแทบไม่กล้าจะหยิบมันออกจากชั้นวางเลย

หลังจากที่ดาร์กหยิบมันลงมา เขาก็นึกขึ้นได้ว่าเขายังมีปัญหาที่ต้องจัดการ ดังนั้นเขาจึงวางมันลงบนโต๊ะในห้องอ่านหนังสือชั่วคราว และจองเก้าอี้ด้วยกระเป๋าสะพายไว้ แล้วเดินกลับไปที่ชั้นหนังสือเพื่อค้นหาอะไรบางอย่าง

ในเวลาต่อมา เขาก็พบหนังสือเกี่ยวกับสปิริตประเภทแมลง มือจึงเปิดไปดูคำอธิบายของ ‘ชัคคารุ’ ทันที

คำอธิบายในหนังสือเล่มนี้ค่อนข้างสั้น แต่ครอบคลุมทุกอย่างที่เขาต้องการรู้

‘ชัคคารุ’ เป็นสปิริตหายากที่ไม่มีอยู่ในโลกนี้ และสามารถได้รับจากการขัดเกลาโดยไม่ได้ตั้งใจเท่านั้น

อันที่จริง ‘ชัคคารุ’ ส่วนใหญ่เป็นการ์ดสีขาวและไม่มีสกิล

แม้แต่การ์ดสีน้ำเงินหายากก็มีเพียงสกิลติดตัว [แข็งตัว] เท่านั้น

ไม่มีสกิลอย่าง [ลูกหลอก] เลย

ชื่อการ์ดของ ‘ชัคคารุ’ ในโลกนี้ถูกเรียกว่า [หนอนชัคคารุ] ซึ่งเป็นคำที่แตกต่างจาก [ชัคคารุ] ของดาร์ก

บางทีอาจเป็นความแตกต่างของคำนี้ ทำให้สปิริตทั้งสองประเภทนี้มีลักษณะและค่าพลังเหมือนกันทุกประการ แต่รูปแบบสิ่งมีชีวิตกลับแตกต่างกัน

และบวกกับการที่ดาร์กเปิดใช้งานการ์ดเมจิกหมวดมหาบาป ซึ่งกลายเป็นว่ามันทำให้ [ชัคคารุ] มีความสามารถพิเศษในการหมักผลไม้ให้เป็นน้ำผลไม้ได้

กล่าวอีกนัยหนึ่ง

[ชัคคารุ] ของเขาไม่เหมือนใคร!

หลังจากคลายความสงสัยในใจแล้ว ดาร์กก็กลับไปที่ห้องอ่านหนังสือ แต่ทันใดนั้นเขาก็สังเกตเห็นว่ามีคนกำลังอ่าน ‘ปิแอร์จะอธิบายให้ฟังเอง’ ในที่นั่งที่ของเขาอยู่!

ดาร์กเดินไปเคาะโต๊ะ ‘ก๊อก! ก๊อก!’

เอ็มม่าเงยหน้าขึ้นมองเขา จากนั้นเธอก็ปิดหนังสือลงอย่างเงียบ ๆ และลุกขึ้นหันหลังกลับไปนั่งที่ที่นั่งถัดไป

ดาร์กแกล้งทำเป็นว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น และเริ่มอ่านหนังสือทันที

ช่วงแรกของหนังสือเล่มนี้อธิบายถึงความแตกต่างระหว่างน้ำยาธรรมดากับน้ำยาที่ได้รับการขัดเกลาให้เป็นการ์ดเวทมนตร์แล้ว

น้ำยาธรรมดาหลังจากถูกขัดเกลาเป็นการ์ดเวทมนตร์แล้ว จะแบ่งออกเป็นการ์ดเมจิกและการ์ดไอเทมตามลักษณะที่แตกต่างกัน แต่ให้เอฟเฟกต์ที่ไม่แตกต่างกันมากนัก

น้ำยาที่มีอยู่โดยทั่วไปจะใช้ได้ครั้งเดียว

หลังจากถูกขัดเกลาเป็นการ์ดเวทมนตร์แล้ว มันจะกลายเป็นการ์ด [น้ำยา] ที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้

แต่ข้อเสียของการ์ด [น้ำยา] คือเอฟเฟกต์จะอ่อนลงและอยู่ได้ไม่นาน

ตัวอย่างเช่น น้ำยาที่สามารถฟื้นฟูพลังเวทมนตร์ได้สิบหน่วยต่อวินาที หลังจากถูกขัดเกลาเป็นการ์ด [น้ำยา] แล้ว มีแนวโน้มว่าจะกลายเป็นน้ำยาที่สามารถฟื้นฟูพลังเวทมนตร์ได้เพียงสิบหน่วยต่อการใช้แต่ละครั้งเท่านั้น

ข้อดีของการ์ด [น้ำยา] คือใช้งานง่าย พกพาสะดวก และนำกลับมาใช้ใหม่ได้

แน่นอนว่ายิ่งน้ำยามีค่ามากเท่าไหร่ การขัดเกลาการ์ด [น้ำยา] ก็ยิ่งยากขึ้นเท่านั้น หากมีทักษะไม่เพียงพอ อาจกลายเป็นว่าต้องสูญเสียส่วนผสมทั้งหมดไปเลยก็เป็นได้

สำหรับจอมเวทแล้ว หากพวกเขาต้องการใช้น้ำยาในการแข่งขันการประลอง พวกเขาจะต้องขัดเกลาน้ำยาให้เป็นการ์ด [น้ำยา] ขึ้นมา

การเรียนรู้วิธีขัดเกลาการ์ด [น้ำยา] เป็นสิ่งที่จอมเวททุกคนต้องพบเจอ

ตั้งแต่บ่ายเป็นต้นมา ดาร์กเริ่มอ่านหนังสืออย่างช้า ๆ โดยทิ้งเรื่องอื่น ๆ ไว้ชั่วคราว

อย่างไรก็ตาม ไดแอนนาผู้ค้นพบประโยชน์ของน้ำผลไม้ ได้เริ่มขอน้ำแอปเปิ้ลทุกวันด้วยใบหน้าเขินอาย และโรสก็เริ่มสนใจน้ำผลไม้ลูกแพร์แล้วด้วย

น้ำแอปเปิ้ลทำให้สมองสดชื่น เหมาะเป็นเครื่องดื่มระหว่างการเรียน แถมรสชาติมันก็ดีไม่น้อย

ดาร์กเข้าใจเหตุผลที่ไดแอนนามาขอน้ำแอปเปิ้ล แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมโรสถึงมาขอน้ำลูกแพร์จากเขาด้วย?

อย่างที่รู้ว่าน้ำลูกแพร์สามารถลดร้อนในที่มากเกินไปได้ แต่เธอคงไม่มีร้อนในทุกวันหรอกใช่ไหม?

เขาไม่รู้เลยจนกระทั่งโรสบอกเขาว่าน้ำลูกแพร์สามารถรักษาสิวได้

แต่มันได้จริงเหรอ?

ดาร์กก็ไม่รู้

ขอบเขตความเข้าใจของเขามีขีดจำกัด และเขาก็ไม่ได้คิดตรวจสอบมันด้วย

วันศุกร์มาถึงในพริบตา

หลังจากคาบวิชาประลองในช่วงเช้า เหล่านักเรียนต่างตั้งตารอคอยการไปยังถนนนักเดินทางอีกครั้ง

สุดสัปดาห์นี้เป็นหนึ่งสัปดาห์ก่อนวันฮัลโลวีน เหล่านักเรียนของสถาบันจึงเริ่มสนใจเครื่องแต่งกาย สำหรับงานปาร์ตี้หน้ากากมากขึ้น

นักเรียนรุ่นพี่ก็เริ่มคิดว่าตนควรเชิญใครมาร่วมงานปาร์ตี้ดี

ปาร์ตี้เต้นรำฮัลโลวีนไม่ได้โรแมนติกเหมือนปาร์ตี้เต้นรำในวันคริสต์มาส เพราะในงานนี้จะมีกิจกรรมล่าผีซึ่งเป็นกิจกรรมประจำเทศกาล ทำให้มันไม่ค่อยได้รับความนิยมจากคู่รักมากนัก

แต่ครั้งนี้ย่อมต่างออกไป

กำหนดการมาเยือนของเจ้าหญิงแห่งอาณาจักรได้ยกระดับความคาดหวังของงานเต้นรำแปลก ๆ ไปสู่อีกมิติหนึ่งเลยทีเดียว

นักเรียนคนหนึ่งถึงกับประกาศในทันทีว่า ปาร์ตี้หน้ากากครั้งนี้เขาจะแต่งกายด้วยเครื่องแต่งกายที่เป็นทางการที่สุด และจะกลายเป็นเจ้าชายที่เหมาะสมที่สุดสำหรับเจ้าหญิง เพราะเป้าหมายของเขาคือการเต้นรำกับเจ้าหญิง!

ส่วนเรื่องที่เขาถูกหัวเราะเยาะนั้นก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

กล่าวโดยสรุป เครื่องแต่งกายที่เน้นความตลกขบขันและแปลกประหลาดเหล่านั้นไม่ได้รับความนิยมอย่างปีที่แล้วอีกต่อไป ตรงกันข้ามพวกชุดแวมไพร์ อัศวิน และชุดขุนนางที่สามารถแสดงถึงความงามและอารมณ์ของนักคอสเพลย์ออกมาได้ก็ได้รับความนิยมมากขึ้น

นักเรียนชายหญิงต่างเริ่มมองหาคู่เต้นรำของตัวเอง เนื่องมาจากบรรยากาศที่ค่อย ๆ โรแมนติกขึ้น

นักเรียนชั้นปีหนึ่งไม่มีประสบการณ์เท่านักเรียนรุ่นพี่ ทำให้ต้องใช้เวลาสองสามวันกว่าที่พวกเขาจะคิดออกว่าต้องทำอย่างไร

ดาร์กก็ไปที่ถนนนักเดินทางเช่นกัน แต่เขากำลังมองหาผลไม้ที่เหมาะสมมาทำการ์ด

บนถนนนักเดินทางก็มีร้านค้าที่ขายแต่ลูกแพร์และแอปเปิ้ลเท่านั้นด้วย

แน่นอน เขาจะซื้อแอปเปิ้ลและลูกแพร์กลับไปด้วย แต่ตอนนี้จุดประสงค์หลักคือหาผลไม้ที่มีเอฟเฟกต์พิเศษให้ได้ก่อน

ตัวอย่างเช่น แก้วมังกรในตำนาน!

→ ล้อเล่นนะ

ต่อให้เขาหามันเจอ ดาร์กก็จ่ายไม่ไหวอยู่ดี

เขามาที่ร้านขายวัตถุดิบ ‘นักเดินทางสายลม’ ทันที

แต่ไม่นานเขาก็ออกไปอีกครั้ง

‘นักเดินทางสายลม’ มีวัตถุดิบมากมาย แต่ผลไม้ที่พวกเขาขายมีแต่ผลไม้แห้งเท่านั้น

อย่างที่รู้กันดี…ผลไม้แห้งจะไม่มีน้ำผลไม้

หลังจากออกจาก ‘นักเดินทางสายลม’ แล้วดาร์กก็เดินไปตามถนนสักพัก ก่อนจะเข้าไปใน ‘ร้านดอกไม้และต้นไม้นกกาเหว่า’ ซึ่งเป็นร้านที่เขาเคยซื้อต้นไม้หนอนมาก่อน

การซื้อผลไม้ในร้านขายดอกไม้ฟังดูประหลาดมากเลยใช่มั้ย?

แต่ในฤดูเก็บเกี่ยวใบไม้ร่วง ดอกไม้และต้นไม้มากมายในร้านมันออก ‘ผล’ จริง ๆ!

ป้าอ้วนซึ่งเป็นเจ้าของร้านขายดอกไม้ยังคงจำหน้านักเรียนปีหนึ่งที่ซื้อต้นไม้หนอนของร้านเธอไปได้

เมื่อดาร์กถาม เธอก็ยิ้มและพูดว่า “ขายให้ได้อยู่หรอก แต่ผลไม้เป็นมูลค่าส่วนหนึ่งของต้นไม้ด้วย ถ้าเธอจะซื้อแต่ผลไม้ ฉันก็ต้องลดราคาต้นไม้ลงน่ะสิ”

ดาร์กยังยิ้มและพูดว่า “แต่ผลไม้สุกแล้วนะครับ สุดท้ายพวกมันก็ต้องถูกเด็ดออกมาอยู่ดี ผมอยากซื้อแค่หนึ่งหรือสองผลเท่านั้น เอาเป็นผลที่ร่วงตามธรรมชาติก็ได้ครับ”

ป้าอ้วนตอบ “นั่นก็ให้ได้อยู่หรอก แต่เธออาจไม่เจอผลที่เธอกำลังมองหานะ”

ดาร์กถาม “ขอผมดูหน่อยได้ไหมครับ?”

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี

จอมมารแค่อยากเป็นคนดี
Status: Ongoing Native Language: Chinese
อ่านนิยายเรื่อง จอมมารแค่อยากเป็นคนดีระหว่างทำพิธีคัดสรรเลือกบ้าน ในที่สุด 'ดาร์ก เดม่อน' ก็ได้รับความทรงจำของชีวิตก่อนกลับคืนมา ปรากฏว่าเขามาเกิดใหม่โลกของเกม ทั้งยังเป็นเกมที่ลอกเลียนแบบธีมภาพยนตร์และอนิเมะชื่อดังอีกด้วย! แต่เหมือนพระเจ้ายังไม่พอใจ เพราะบทบาทของ 'เขา' ในเกมนี้คือว่าที่ 'จอมวายร้าย' ที่ร้ายสุดในเกมนี้! ด้วยค่ามหาบาปทั้งเจ็ด [เกียจคร้าน ริษยา ราคะ ตะกละ โลภะ โทสะ และอัตตา] เมื่อค่าหนึ่งในเจ็ดบาปพวกนี้พุ่งทะลุหลอดตัวชี้วัด ดาร์กก็จะกลายร่างเป็น 'จอมมาร' ตลอดไป! หากเป็นยุคแห่งความโกลาหลก็คงไม่เป็นอะไรหรอก แต่ตอนนี้มันใช่ยุคนั้นเสียที่ไหนเล่า! ในยุคสมัยของเซนต์แมเรียนที่สงบสุขเช่นนี้ และจอมมารก็ถูกทำลายอย่างสมบูรณ์ไปนานแล้ว เขาที่กำลังโดนระบบจอมมารปั่นหัวให้กลายวายร้ายจะต้องทำเช่นไรล่ะทีนี้!?

Comment

Options

not work with dark mode
Reset