จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 107 เจ้านายของสำนักหลงเหมินจะไร้ความสามารถได้อย่างไร

บทที่ 107 เจ้านายของสำนักหลงเหมินจะไร้ความสามารถได้อย่างไร

ฝั่งนี้ หลังจากที่หลี่โม่ออกจากโชว์รูม 4S ก็ได้เดินทางไปที่โรงพยาบาล

ทันใดนั้น

ได้ยินเสียงผู้ชายดังเกรี้ยวกราด มาจากด้านหน้าของหลี่โม่

“เฮ้ คุณคือหลี่โม่ใช่ไหม?”

ด้านหน้าเขามีชายรูปร่างสูงใหญ่กำยำ 4-5คน สวมเสื้อกั๊กที่เผยให้เห็นรอยสัก แต่ละคนสูบบุหรี่อยู่ แสดงให้เห็นถึงความป่าเถื่อนและบ้าอำนาจ

หลี่โม่ที่กำลังสูบบุหรี่อยู่ มองชายรูปร่างสูงใหญ่กำยำ 4-5คนนี้ พยักหน้าแล้วตอบว่า “คือผมเอง มีธุระอะไร?”

ชายที่เป็นผู้นำ สวมเสื้อกั๊กสีเขียว เขาโยนบุหรี่ครึ่งหนึ่งในปากลงบนพื้น กระทืบเท้าไปสองสามทีแล้วยิ้มอย่างเยือกเย็น “มีคนอยากหักขาทั้งสองข้างของแก บังเอิญว่าที่นี่เป็นโรงพยาบาล เมื่อขาแกพิการแล้ว ก็เข้ารักษาที่โรงพยาบาลนี้เลย”

คนที่พูดประโยคนี้ชื่อจ้าวหู่ คนอื่นเรียกเฮียหู่ มีความสามารถพอสมควร รู้จักคนไม่น้อย แล้วก็มีเพื่อนไม่น้อยเช่นกัน

เป็นคนที่ใจเหี้ยมโหด ทำเรื่องชั่วช้ามามากมาย

เมื่อหลี่โม่ได้ยินเช่นนั้น เขาขมวดคิ้ว เตรียมตัวรับมือ แล้วถามกลับไปว่า “ใครจะทำให้ผมพิการ? ”

จ้าวหู่ยิ้มเยือกเย็น แล้วกล่าวว่า “ไม่ต้องถามว่าแม่งเป็นใคร ตนเองไปแหย่คนที่ไม่ควรแหย่ ก็สมควรจะได้รับบทเรียน!”

พูดจบ เขาหยิบกริชยาวที่ซ่อนอยู่ในเสื้อออกมา พุ่งไปที่ต้นขาของหลี่โม่!

ดวงตาของหลี่โม่เย็นชา หมัดของเขาชกไปที่ใบหน้าของจ้าวหู่ ตามด้วยเท้าของเขาเตะไปที่เอวของจ้าวหู่อย่างแรง ทำให้จ้าวหู่คว่ำและล้มลงกับพื้น เสียงดังโครมคราม

“เฮียหู่ เฮียหู่ คุณไม่เป็นไรใช่ไหม?”

ลูกน้อยทั้งหลายรีบเดินไปล้อมจ้าวหู่ไว้ และพยุงเขายืนขึ้นจากพื้น

มันกะทันหันเกินไป!

ตอนนี้ฟันด้านหน้าสองซี่ของจ้าวหู่ถูกชกจนล่วงไปแล้ว เลือดกบปาก จมูกก็ถูกชกจนเลือดไหลเต็ม

“แม่งฉิบ! จะยืนตะลึงกันทำไม เอามันให้ตาย!”

จ้าวหู่จับที่ใบหน้าของตนเอง มันเจ็บปวดจนเขาไม่สามารถยืนตรงได้

เขาคือจ้าวหู่ ไม่เคยอับอายแบบนี้มาก่อน

เสียท่าให้กับหนุ่มธรรมดาคนนี้ มันสมควรตาย!

หลี่โม่หน้าตาเคร่งขรึม สายตาที่โหดเหี้ยมเลือดเย็นทั้งหมดจ้องทำร้ายเขา อยู่ตรงทางเข้าโรงพยาบาลแห่งนี้

“ลงมือทำร้าย มันคือความผิดของพวกแก!”

เสียงดังรุนแรง!

หลี่โม่พุ่งออกไปอย่างรวดเร็ว หยิบเก้าอี้ตัวเล็กที่อยู่ข้างมือของลุงที่จอดรถอยู่ ฟาดลงไปที่ศีรษะของคนหนึ่ง!

เพลี้ยง!

เก้าอี้เล็กแตก ชายคนนั้นร้องด้วยความเจ็บปวด ศีรษะของเขาแตก เลือดไหลอาบแก้ม อาการสาหัสพอสมควร

จากนั้น หลี่โม่ขยับเข้าไปข้างหน้า ตั้งท่าเตรียมพร้อมต่อสู้ ชั่วพริบตาเดียว หมัดของเข้าก็ชกไปที่หน้าของจ้าวหู่อย่างแรง

จ้าวหู่มองไม่เห็นด้วยซ้ำว่าอีกฝ่ายลงมืออย่างไร แค่รู้สึกได้ถึงลมกำปั้นแวบอยู่ตรงหน้า แล้วหมัดที่รุนแรงก็กระแทกเข้าที่ใบหน้าของเขา พริบตาเดียว จมูกก็ถูกกระแทกอย่างแรงอีกครั้ง!

ฟู่ ๆ เลือดพุ่งทะยาน!

จ้าวหู่ร้องด้วยความเจ็บปวด ตัวเขาลอยไปแล้วก็ตกลงที่พื้น!

คนที่เหลืออยู่ในอาการภวังค์ไปชั่วขณะ สับสนไปหมด

ฉันคือใคร ฉันอยู่ไหน ฉันทำอะไรอยู่?

ในใจของพวกเขา น่าจะมีความรู้สึกแบบนี้

แต่ว่า ปัง ๆ ๆ!

ไม่ถึง5นาที คนทั้งหมดก็ถูกหลี่โม่จัดการจนกองกับพื้น ไม่สามารถลุกขึ้นได้

ซ่า!

ญาติของผู้ป่วยไม่น้อยที่มุงดู เมื่อเห็นภาพนี้ พวกเขาทุกคนสูดลมหายใจเข้าลึกๆ และรู้สึกว่าหนังศีรษะชาไปชั่วขณะ!

แกร่ง!

แกร่งจริง ๆ!

นี่ใช่คนธรรมดาเหรอ?

“โอ้แม่เจ้า! นี่…….ผู้ชายคนนั้นลงมือได้เหี้ยมจริง ๆ!”

“คนนั้นคือจ้าวหู่น่ะ ตอนนี้เขาทำให้เกิดเรื่องใหญ่แล้ว”

“จ้าวหู่คือใคร? แม่งฉิบหาย! ผมนึกออกแล้ว! คือจ้าวหู่ที่แทงคนแล้วเพิ่งถูกปล่อยตัวออกมา!”

คนไม่น้อยที่ตกใจ ลูกน้องคนหนึ่งของเขารีบวิ่งออกไปอย่างทุลักทุเล

จ้าวหู่ถูกทำร้าย นี่มันเป็นเรื่องใหญ่ที่ร้ายแรงถึงชีวิตน่ะ

และในขณะนี้ ในกลุ่มคนเหล่านี้ มีหลายคน ที่จ้องมองไปที่หลี่โม่

คือกู้ชิงหลิน วันนี้เธอนัดเพื่อนหลายคนมาฉีดกรดไฮยาลูโรนิคและการทำศัลยกรรม เมื่อเห็นหลี่โม่โกรธ ทำให้เธอรู้สึกตกใจ

“เขาคือคนไร้ประโยชน์จริงเหรอ? ทำไมถึงได้ร้ายกาจเช่นนี้? ”

สีหน้ากู้ชิงหลินดูงงงวย รู้สึกตื่นตระหนกตกใจ

คนไร้ประโยชน์คนนี้ มันพลิกฟ้าจริง ๆ!

ทั้งวันดีสร้างแต่ปัญหา!

“พี่ชิงหลิน นี่ใช่ไอ้ยาจกที่พี่พูดถึงหรือเปล่า?”

“ผู้ชายคนนี้กล้าหาญจริง ๆ แมนมาก ๆ!”

“กล้าหาญแล้วยังไง? คนที่เขาทำร้ายคือจ้าวหู่น่ะ เป็นน้องชายของจ้าวหลง! เขาจบเห่ล่ะ!”

เพื่อนสนิทของกู้ชิงหลินหลายคน ตอนนี้ทั้งหมดมองไปที่หลี่โม่ด้วยความรังเกียจ

“จ้าวหลง? แม่งฉิบ! ไอ้ยาจกคนนี้จบเห่แน่นอน! ชื่อเสียงของพี่น้องสองคนนี้ขึ้นชื่อว่าห้าวหาญมาก!”

กู้ชิงหลินก็ขมวดคิ้วของเธอ แอบเอาโทรศัพท์ออก ถ่ายภาพหลี่โม่ในขณะนี้ไว้

หลี่โม่ในขณะนี้ เขาสะบัดมือ ด้วยใบหน้าที่เย็นชา.

เจ้านายของสำนักหลงเหมิน จะไร้ความสามารถได้อย่างไร.

คนพวกนี้ ถึงแม้ว่าจะมาอีกหนึ่งร้อยคน ก็ไม่สามารถเข้ามาใกล้หลี่โม่ในระยะหนึ่งเมตรได้!

เดิมหลี่โม่ไม่อยากเปิดเผยฝีมือของตนเอง แต่ตอนนี้ เขาต้องการระบายความโกรธเท่านั้น!

ไอ้พวกขยะ ยังจะกล้าหักขาของตนเอง?

หลี่โม่ไม่พูดพร่ำทำเพลงพุ่งไปที่หน้าจ้าวหู่ เขายกขาขึ้น แล้วเหยียบลงไปที่หน้าท้องของจ้าวหู่อย่างแรง จากนั้นเขาก็ชูกำปั้นขึ้น แล้วชกไปที่คางของจ้าวหู่!

เพลี้ยง!

ฟันของเขากระเด็นออกมา และเลือดก็พ่นออกมาจากปากจ้าวหู่จนเต็มพื้น

“ไอ้…….ไอ้หนู! แกกล้าทำร้ายฉัน แกมันกำลังรนหาที่ตาย!”

ขณะนี้จ้าวหู่มองเขาด้วยความหวาดกลัว เขากล่าวอย่างโหดเหี้ยมว่า “พี่ชายของฉันคือจ้าวหลง ผู้จัดการฝ่ายรักษาความปลอดภัยของ ไนท์คลับMoon Bay! และยังเป็นผู้จัดการรักษาความปลอดภัยของสถานที่หลายสิบแห่งในถนนสองสามสายในบริเวณนี้ด้วย! ”

เพลี้ยง!

หลี่โม่เตะไปที่เอวของเขาอย่างแรงอีกครั้ง เขาร้องด้วยความเจ็บปวด ตัวงอเหมือนกุ้ง สีหน้าแดงก่ำ

แรงเตะในครั้งนี้ ทำให้ไตของจ้าวหู่เกือบแตกออกเป็นเสี่ยง ๆ !

“ฉันไม่สนว่าแม่งพี่ชายแกคือใคร ฉันถามแกครั้งเดียว ใครเป็นคนบงการ?”

หลี่โม่สีหน้าเคร่งขรึม ใช้มือดึงผมของจ้าวหู่ แล้วตะโกนถาม

จ้าวหู่ปากแข็ง หัวเราะทั้งที่เลือดกบปากแล้วกล่าวว่า “ฮ่า ๆ แม่งฉิบหาย แกตายแน่นอน! พี่ชายฉันกำลังจะมาถึง!”

เพี๊ยะ!

หลี่โม่ยกมือใหญ่ของเขา ฟาดไปที่ใบหน้าของเขาเต็มแรง ฟาดแรงจนในสมองของจ้าวหู่มีเสียงวึ่ง ๆ

“ใครเป็นคนบงการ?!”

หลี่โม่ถามอีกครั้ง ด้วยแววตาอาฆาต

จ้าวหู่ยังคงปากแข็ง เขาเชิดหน้าหัวเราะอย่างน่าสังเวช “แกตายแน่นอน! ฉันรู้ว่าแกมีเมียแล้ว ฉันจะหาคนไปข่มขืนเมียแก!”

เพี๊ยะ!

ใบหน้าของหลี่โม่เย็นชา เขาใช้กำปั้นชกไปอีกครั้ง ตรงกลางหน้าพอดี

“หยุดก่อน!”

ในขณะนี้ เสียงตะโกนดังเข้ามาจากทางเข้าห้องโถง

ชายอ้วนวัยกลางคน เดินเข้ามาอย่างรีบร้อน พร้อมกับพวกอีกสิบกว่าคน

ลูกน้องที่มากับจ้าวหู่ก่อนหน้านั้น ทุกคนรีบลุกขึ้นจากพื้นอย่างรวดเร็ว ก้มตัวลงด้วยความเคารพ แล้วกล่าวว่า “เฮียหลง!”

จ้าวหลงมาแล้ว!

จ้าวหลงพาลูกน้องพุ่งเข้ามา ตอนนี้เห็นว่าน้องชายของตนเองถูกทำร้ายจนไม่เป็นผู้เป็นคน เขาโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ

“แกเป็นใคร ทำไมถึงทำร้ายน้องชายฉัน?!”

สีหน้าจ้าวหลงเคร่งขรึม เนื้อตรงมุมปากสั่นระริก ข้างหลังเขามีลูกน้องยืนอยู่สิบกว่าคน ชั่วพริบตาเดียว พวกเขาก็ล้อมที่นี่ไว้ คนที่ไม่เกี่ยวข้อง ทั้งหมดถูกปิดกั้นอยู่ภายนอก

หลี่โม่ปล่อยมือจ้าวหู่ที่เกือบจะหมดสติ เขายึดตัวตรง สอดมือเข้าไปในกระเป๋ากางเกง มองไปที่จ้าวหลงอย่างไม่แยแส ยิ้มเยือกเย็นแล้วถามว่า “แกก็คือพี่ชายของเขา?”

จ้าวหลงรู้สึกโมโห และตะโกนตอบ “ใช่ ฉันคือจ้าวหลง! เพื่อน ๆ เรียกฉันว่าเฮียหลง แกมาก่อเรื่องทำร้ายคนในเขตอิทธิพลของฉัน แล้วยังทำร้ายน้องชายของฉันจนบาดเจ็บ แกอยากตายแบบไหน? ”

เขากล่าวด้วยน้ำเสียงเย็นชา เหมือนไม่มีสิทธิ์ต่อรอง

เขาได้ตัดสินใจแล้วว่า จะให้บทเรียนที่โหดเหี้ยมแก่ผู้ชายคนนี้!

มิเช่นนั้น เขาจ้าวหลงจะทำมาหากินที่นี่ได้อย่างไร?

พื้นที่นี้ และอีกหลายสิบแห่งในบริเวณใกล้เคียงได้รับความคุ้มครองจากจ้าวหลงทั้งหมด!

หากเรื่องนี้แพร่กระจายออกไป จะสร้างความเสียหายอย่างมากต่อชื่อเสียงของเขาในฐานะจ้าวหลง!

หลี่โม่หยิบบุหรี่ออกมาหนึ่งมวนอย่างไม่แยแส จุดบุหรี่ แล้วสูบหนึ่งครั้ง มองด้วยสายตาเหยียดหยาม แล้วกล่าวอย่างเรียบ ๆ ว่า “เขตอิทธิพลของแก? ฉันอยากเห็นจริง ๆ ว่าแกจะทำอะไรฉันได้”

ทุกคนตื่นตะลึง

ไม่คาดคิดว่าชายหนุ่มตรงหน้าจะบ้าบิ่นขนาดนี้ ในเมื่อพูดด้วยดีๆไม่ชอบ ก็คงต้องใช้กำลัง

เขาคือจ้าวหลง ที่มีชื่อเสียงโด่งดังในย่านนี้

ในมือมีคน มีเงิน มีอำนาจบารมี

ขณะนี้ ฝูงชนยังพูดคุยเกี่ยวกับเรื่องนี้

“ฉันว่าแล้วเขาต้องจบเห่แน่ เขาไปแหย่จ้าวหลง ถึงเขามีสิบชีวิตก็ไม่เพียงพอที่จะเล่น”

“มันช่างหยิ่งยโส คิดว่าหนึ่งคนจะไปต่อสู้กับพวกเขาสิบกว่าคนได้เหรอ?”

“เพราะจ้าวหลงเป็นหัวโจก ตอนนี้ดีแล้ว เขาต้องพิการแน่ ไอ้คนปัญญาอ่อน!”

กู้เชิงหลินกะพริบตา ถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ และขมวดคิ้วอย่างช่วยไม่ได้

ไอ้หลี่โม่ อยู่ดีไม่ว่าดี กล้าไปท้าทายจ้าวหลง มันเป็นการรนหาที่ตาย

แต่ก็ดี ให้เขาได้รับบทเรียนบ้าง จะได้รู้ว่าตัวเขาเองกับคนอื่นมันต่างกันแค่ไหน

เมื่อคิดไป ดวงตาของกู้ชิงหลินฉายแววเหยียดหยามรังเกียจ และมีความสุขบนความทุกข์ของคนอื่น

เมื่อจ้าวหลงได้ยินประโยคนี้ของหลี่โม่ ก็ตกใจเช่นกัน แล้วกล่าวด้วยเสียงเยาะเย้ยดุร้ายว่า “ดี ๆ ๆ ไอ้หนูนี่มันบ้าบิ่นมาก ฉันจะคอยดูว่า ในร่างกายของแกมีกระดูกมากกว่าคนอื่นหลายข้อเหรอ! ”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset