จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 123 นาฬิกาหรูนี่นา

บทที่ 123 นาฬิกาหรูนี่นา

ได้ฟังคำพูดของญาติพี่น้องตระกูลกู้ ฮั่วเจี้ยนเฟิงอดไม่ได้ที่จะอวดดีขึ้นมา จนอยากจะตะโกนดังๆ เสียงหนึ่ง นี่คือห้องชั้นพิเศษที่ฉันจองมาได้ ค่าใช้จ่ายทั้งหมดล้วนเป็นฉันที่จ่าย!

ถึงแม้ว่าด้วยรายรับของฮั่วเจี้ยนเฟิง ห้องชั้นพิเศษระดับสูงรับรองแขกค่าใช้จ่ายขั้นต่ำที่สุดของที่นี่ยังสูงถึงล้าน ทว่าก็ยังเจ็บปวดใจอย่างมาก

แต่เพื่อที่จะได้อุ้มคนงามกลับบ้าน ฮั่วเจี้ยนเฟิงเทหมดหน้าตักถึงที่สุดแล้ว ฮั่วเจี้ยนเฟิงที่เรียนการเงินเข้าใจดี เพียงแค่มีการลงทุนที่สูงถึงจะมีผลผลิตที่สูง

กู้ชิงหลินมองความหล่อเหลาภายนอกของฮั่วเจี้ยนเฟิง แล้วมองห้องชั้นพิเศษค่าใช้จ่ายขั้นต่ำสุดล้านกว่า อิจฉาจนพูดไม่ออกแล้ว

ถ้าไม่มีเรื่องหอไห่เยี่ยนนั้น กู้ชิงหลินก็ยังคงดูถูกฮั่วเจี้ยนเฟิงอยู่

แต่ว่าช่วงนี้ทายาทเศรษฐีพวกนั้นล้วนไม่สนใจกู้ชิงหลิน ฉับพลันทำให้กู้ชิงหลินไม่มีชีวิตที่ใช้จ่ายอย่างฟุ่มเฟือยแล้ว

หรี่ตามองฮั่วเจี้ยนเฟิงที่จบการศึกษาจากต่างประเทศอย่างโดดเด่นกลับมา ก็ไม่รังเกียจกู้หยุนหลันที่แต่งงานมีลูกแล้ว ยังตามจีบไม่หยุด กู้ชิงหลินเกิดความหดหู่ใจขึ้นมา

ถ้าหอไห่เยี่ยนคืนนั้นสามารถเกาะนายน้อยได้สำเร็จก็ดีสิ เช่นนั้นฉันกู้ชิงหลินก็จะกลายเป็นหญิงสาวที่มีความสุขที่สุดในเมืองฮ่านแล้ว!

กู้ชิงหลินกำลังคิดจนใจลอย ประตูห้องชั้นพิเศษถูกผลักเปิดออก หลี่โม่และกู้หยุนหลันเดินเข้ามาในห้องส่วนตัว

ทุกคนต่างใช้สายตาดูถูกมองไปที่หลี่โม่ ราวกับว่าการมาถึงของหลี่โม่ ทำลายบรรยากาศในห้องชั้นพิเศษนี้ไป

“หลี่โม่นายดูสิ นี่คือห้องชั้นพิเศษที่ค่าใช้จ่ายต่ำที่สุดสูงถึงล้านกว่า นายมีเงินจัดงานเลี้ยงวันเกิดให้พ่อตาของนายที่นี่ไหม? เกรงว่าขายไตทั้งสองข้างของนายไปก็ยังไม่พอ”

“นี่เป็นห้องชั้นพิเศษที่พี่เจี้ยนเฟิงจองไว้ เงินเดือนเล็กน้อยของคนจนแบบนาย ทำได้เพียงไปจัดงานเลี้ยงวันเกิดที่กวนเหรินถังที่ธรรมดาๆ นั่นแล้ว”

“กวนเหลินกังและกวนเหรินถังฟังดูแล้วคล้ายกัน ระดับค่าใช้จ่ายนั้นต่างกันราวฟ้าดิน ที่หนึ่งเป็นระดับงานเลี้ยงรับรองของประเทศ ที่หนึ่งเป็นระดับแผงลอยข้างถนน จะเทียบอย่างไรเล่า? นี่ก็เหมือนนายไม่มีทางเทียบกับพี่เจี้ยนเฟิงได้”

ญาติพี่น้องในตระกูลกู้ต่างคิดจะเล่นหุ้นตามฮั่วเจี้ยนเฟิง เป็นธรรมดาที่จะเอาความกระตือรือร้นทั้งหมดให้กับฮั่วเจี้ยนเฟิง ด้านหนึ่งประจบประแจงฮั่วเจี้ยนเฟิง ถือโอกาสพยายามเหยียบย่ำหลี่โม่

ฮั่วเจี้ยนเฟิงมีความสุขอย่างอิ่มอกอิ่มใจแล้ว ทั้งยังเพิ่มสายตาชื่นชมของกู้เจี้ยนหมินสองสามีภรรยา อีกทั้งยังมีความช่วยเหลือของญาติตระกูลกู้ ราวกับว่าการคว้ากู้หยุนหลันมาเป็นเรื่องที่พูดว่าทำได้ก็ทำได้แล้ว

“เรื่องเล็กน้อย ล้วนเป็นเรื่องเล็กน้อย บังเอิญมีความสัมพันธ์เล็กน้อยกับกวนเหลินกังทางด้านนี้ ดังนั้นจึงจองห้องชั้นพิเศษได้อย่างราบรื่น วันเกิดของคุณลุงกู้ เป็นธรรมดาว่าต้องจัดอย่างใส่ใจหน่อย”

ฮั่วเจี้ยนเฟิงพูดอย่างถ่อมตัว สายตากลับลอยไปทางหลี่โม่ มองหลี่โม่ที่สีหน้าไร้ความรู้สึก ฮั่วเจี้ยนเฟิงรู้สึกว่าตนเองเป็นเด็กคนนั้นที่สายตาแวววาวที่สุดในห้องชั้นพิเศษนี้ จะต้องเหยียบหลี่โม่ไว้ใต้เท้าได้แน่นอน

“ฟังสิ พี่เจี้ยนเฟิงพูดเสียถ่อมตัว เงินล้านกว่ายังไม่กะพริบตาจ่ายออกไป หลี่โม่นายทำอะไรสักเล็กน้อยหรือยัง? ยังมีหน้ามาใส่เสื้อผ้าเลียนแบบมาอวดดีอีก นายจริงจังหน่อยสิ”

ญาติไม่กี่คน ต่อว่าเป็นชุดอีกครั้ง

ราวกับว่า การต่อว่าหลี่โม่ เป็นหน้าที่ที่ต้องรับผิดชอบโดยธรรมชาติของพวกเขา

ฮั่วเจี้ยนเฟิงโบกมืออย่างใจกว้าง หยิบยกท่าทางของผู้ชนะมาเอ่ยว่า “อย่าพูดว่าหลี่โม่เลย เขาก็ไม่ง่ายดายเลย อย่างไรเสียคนจนก็มีศักดิ์ศรี ทุกคนว่าใช่หรือไม่”

“เจี้ยนเฟิงใจกว้างจริงๆ เลย แบบนี้ถึงจะเป็นคนที่ทำงานใหญ่สำเร็จได้ ล้วนพูดกันว่าท้องของมหาเสนาบดีสามารถบรรจุเรือ ต่อไปเจี้ยนเฟิงจะต้องเป็นคนที่มีความสามารถมากอย่างแน่นอน”

กู้ซิงเว๋ยออกแรงช่วยโอ้อวด

หลี่โม่ไม่พูดจา และก็ไม่มีท่าทีผันแปรใด เพียงแค่นั่งลงอย่างเงียบๆ ราวกับว่าทุกสิ่งทุกอย่างในห้องชั้นพิเศษนี้ไม่เกี่ยวอะไรกับตนเอง

กู้หยุนหลันหน้ามืดครึ้มนั่งลงไป หลี่โม่ถูกเยาะหยัน ในใจเธอก็ไม่มีความสุข แต่ว่าตัวของหลี่โม่เองก็ดึงไม่ขึ้น ไม่โต้แย้งความข้องใจนั้น กู้หยุนหลันยังจะทำอะไรได้

ฮั่วเจี้ยนเฟิงเห็นเช่นนี้ พลันรู้สึกว่าไม่สนุกแล้ว ยังเยาะเย้ยหลี่โม่ต่อไป ก็ไม่แน่ว่าจะทำให้กู้หยุนหลันรังเกียจแล้ว

ฮั่วเจี้ยนเฟิงที่สามารถโอ้อวดตนได้ตรงใจผู้คน ยิ้มแย้มหยิบเอากระเป๋าด้านข้างขึ้นมา บนกระเป๋ามีโลโก้LVขนาดใหญ่เปล่งประกายระยิบระยับละลานตา

กู้ซิงเว๋ยเห็นโลโก้LVนั้น น้ำลายแทบจะไหลออกมาแล้ว!

นั่นมันเป็นกระเป๋าLVหนังจระเข้สยาม ราคานั้นกว่าหลานแสน

กู้ซิงเว๋ยอยากซื้อกระเป๋าหนังจระเข้สยามสักใบมาตลอด แต่ว่าเห็นราคาหลายแสนนั้น แต่เขากลับได้แต่หวังไม่กล้าซื้อ

“คุณลุงกู้ ฉันมาอย่างรีบร้อน ก็ไม่เตรียมของขวัญที่ดีอะไร ดังนั้นจึงทำได้เพียงเตรียมของขวัญเล็กๆน้อยๆ ขอให้คุณลุงกู้ให้อภัยด้วย”

ฮั่วเจี้ยนเฟิงเอ่ยอย่างสุภาพจบ ก็เอากล่องสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินเข้มขนาดไม่ใหญ่นัก วางไว้ที่ด้านหน้าของกู้เจี้ยนหมิน

กล่องสี่เหลี่ยมสีน้ำเงินเข้มเห็นแล้วเรียบๆ ไม่มีความหรูหราแม้แต่น้อย

กู้ชิงหลินและคนอื่นๆมองไปที่กล่องนั้นต่างรู้สึกสงสัยเล็กน้อย รู้สึกว่าเงินล้านฮั่วเจี้ยนเฟิงก็ควักออกมาแล้ว ทำไมพอถึงช่วงสำคัญในการมอบของขวัญให้กู้เจี้ยนหมิน คาดไม่ถึงว่าจะควักกล่องเรียบๆออกมากล่องหนึ่ง ไม่ค่อยคล้อยกับภาพบรรยากาศในตอนนี้เลย

หวังฟางขมวดหัวคิ้ว หันหน้ากลับไปมองฮั่วเจี้ยนเฟิงที่ยิ้มแย้ม

ฮั่วเจี้ยนเฟิงหัวเราะกล่าวว่า “คุณลุงกู้เชิญเปิดออกดูสักหน่อย ดูว่าพอใจหรือไม่”

กู้เจี้ยนหมินพยักหน้าน้อยๆ ใจคิดว่าฮั่วเจี้ยนเฟิงสามารถจองห้องชั้นพิเศษชั้นหนึ่งของกวนเหลินกังมาได้ ก็ทำให้ตนเองมีหน้ามีตาได้แล้ว ของขวัญธรรมดาไปสักหน่อย ก็ไม่ใช่ว่าจะรับไม่ได้

รับกล่องมาค่อยๆเปิดออก กู้เจี้ยนหมินเห็นของในกล่องก็ตกตะลึงไปเล็กน้อย จากนั้นสีหน้าดีใจจนรอยย่นบนใบหน้ารวมเข้าด้วยกัน เหมือนกับดอกเบญจมาศที่เบ่งบานอย่างไรอย่างนั้น

หวังฟางเอนกายเข้าไปอย่างอึดอัดใจ หลังจากมองไปรอบหนึ่ง เอ่ยอย่างตกใจว่า “โอ้โห นาฬิกาเรือนนี้แปลกใหม่จริงๆ เกรงว่าราคาคงไม่น้อยเลย”

กู้เจี้ยนหมินสบายใจจนรูขุมขนบานออกแล้ว วางกล่องบนโต๊ะอย่างง่ายๆ วางมาดเอ่ยว่า “เจี้ยนเฟิง นี่มันไม่ใช่ของขวัญเล็กน้อยนะ พวกเธอดูสิมีใครรู้จักไหม ถ้าไม่มีใครรู้จัก ก็ให้เจี้ยนเฟิงมาอธิบายหน่อย เปิดหูเปิดตาให้พวกเธอ”

ฮั่วเจี้ยนเฟิงเผยรอยยิ้มสำรวม ใจคิดว่าของขวัญที่ตนเองเตรียมมา มีเพียงชิ้นเดียว จะต้องทำให้กู้เจี้ยนหมินได้หน้าแน่นอน

หลี่โม่นั่งอย่างมั่นคงดุจภูเขาไท่ซาน ไม่พูดอะไร ถึงขนาดที่ไม่มองกล่องสี่เหลี่ยมนั้นสักนิด

กู้หยุนหลันแตะหลี่โม่เบาๆ พูดเสียงต่ำ “นายได้เตรียมของขวัญอะไรไหม? อีกสักครู่อย่าได้ขายหน้าเกินไปเล่า”

“เตรียมแล้ว น่าจะพอได้นะ”

หลี่โม่ยิ้มอย่างขมขื่นเอ่ยตอบ

เห็นรอยยิ้มขมขื่นของหลี่โม่ ในใจกู้หยุนหลันสิ้นหวังแล้ว

ไม่ต้องพูด ของขวัญที่หลี่โม่เตรียมคงจะไม่เท่าไหร่แน่

ในใจถอนหายใจเสียงหนึ่ง กู้หยุนหลันหลับตาลง มือทั้งสองข้างบิดเข้าด้วยกันอย่างรุนแรง เพราะว่าใช้แรงมากเกินไป ข้อนิ้วจึงไร้สีเลือด

กู้ชิงหลิน กู้ซิงเว๋ยและคนอื่นๆ ต่างยืนขึ้นยืดคอยาว มองไปทางกล่องนั้นด้วยกัน

ในกล่องมีนาฬิกาข้อมือเรือนหนึ่งวางไว้

นาฬิกาข้อมือไม่มีอะไรแปลกประหลาด

แต่นาฬิกาข้อมือนี้แตกต่างออกไปจริงๆ หน้าปัดของนาฬิกาข้อมือทำมาจากเหรียญทอง อีกทั้งดูแล้วยังเป็นเหรียญทองของอเมริกา

“นาฬิกาข้อมือนี้ดูไปแล้วไม่เหมือนใครจริงๆ แม้ฉันจะดูนาฬิกามามากมายนับไม่ถ้วน แต่ว่าไม่เคยเห็นนาฬิกาแบบนี้มาก่อน ดูเหมือนว่าความเป็นมาของนาฬิกาเรือนนี้จะไม่เล็กเลย”

“ฉันได้ยินมาว่าที่ต่างประเทศมีนาฬิกาข้อมือเหรียญทองประเภทหนึ่ง เป็นสินค้าหรูหราหายากอะไรสักอย่าง”

“นี่มันนาฬิกาอะไรกันแน่ล่ะ เจี้ยนเฟิงเอ๊ย นายรีบพูดมาเถอะ พวกเราล้วนเป็นคนธรรมดา ไม่เคยเห็นโลกภายนอก”

เห็นญาติพี่น้องตระกูลกู้พูดคุยถึงขั้นใกล้ประเด็น แต่ไม่อาจพูดถึงที่มาของนาฬิกาข้อมือเหรียญทองได้ รอยยิ้มบนใบหน้าของฮั่วเจี้ยนเฟิงยิ่งลำพองใจมากขึ้นไปอีก

หลี่โม่ในขณะนี้ ก็ชำเลืองมองรอบหนึ่ง ก็จำนาฬิกาเรือนนั้นได้……

Comment

Options

not work with dark mode
Reset