จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 174 รังแกลูกสาวที่น่ารักของฉัน

บทที่ 174 รังแกลูกสาวที่น่ารักของฉัน

ท่านไป๋ถูกจับและควบคุมตัวไป เขาสาปแช่งหลี่โม่ตลอดทาง เมื่อกี้อินกับการแสดงมากเกินไป ทำให้ท่านไป๋คิดว่าถ้าเขาเรียกหลี่โม่ว่าพ่อ แสดงความภักดีแล้วจะไม่เป็นอะไร

ดังนั้นในช่วงเวลานี้ที่ท่านไป๋ถูกจับกุม สภาพจิตใจของเขาก็ทรุดลงทันที เขาจึงใช้การสาปแช่งหลี่โม่เป็นเครื่องบรรเทาความเศร้าและความกลัวในใจของเขา

ฉู่จงเทียนเฝ้าดูท่านไป๋ถูกจับกุมไป รู้สึกว่าเขาเข้าใจหลี่โม่เป็นอย่างดี

หลี่โม่หยิบโทรศัพท์มือถือของเขาออกมา และโทรออกไปยังหมายเลขของกู้หยุนหลัน”ที่รัก คนที่อยู่เบื้องหลังถูกจัดการแล้ว ช่วงนี้คงไม่มีใครกล้าไปก่อความวุ่นวายที่โรงงานวัตถุดิบแล้วล่ะ”

“หือ?”

กู้หยุนหลันรู้สึกประหลาดใจ จากนั้นก็นึกถึงการต่อสู้ที่น่าทึ่งของหลี่โม่ จึงเข้าใจขึ้นมาทันที

“คุณ… คุณไม่ถูกทำร้ายใช่ไหม?”

กู้หยุนหลันถามอย่างประหม่า

“ไม่เป็นไร ก็แค่ไอ้อ้วน แค่ตีลวกๆ แล้วก็ส่งมันให้หน่วยลาดตระเวนแล้ว”

หลี่โม่พูดอย่างสบายๆ

“อ๋ออ๋อ อย่างนั้นก็ดีแล้ว ไหนๆ ก็เป็นแบบนี้แล้วฉันก็ไม่ต้องไปคอยคุมโรงงานวัตถุดิบละ บ่ายนี้เราไปเยี่ยมซีซีที่โรงพยาบาลเถอะ”

“ได้ ผมก็คิดถึงซีซีแล้วเหมือนกัน ถ้าอย่างนั้นเดี๋ยวไปเจอกันที่โรงพยาบาล”

หลี่โม่วางสายโทรศัพท์ ฉู่จงเทียนโค้งคำนับและพูดว่า “คุณหลี่ ผมไปส่งท่านที่โรงพยาบาล”

“ได้”

หลี่โม่ยืนขึ้นและเดินออกไป ฉู่จงเทียนเป็นเหมือนผู้ดูแลบ้าน เดินตามหลังหลี่โม่

……

หวังหลิงสวมเสื้อกันลมสีแดงตัวใหญ่ พาเหิงเหิงลูกชายวัย 4 ขวบเข้าโรงพยาบาล

ที่ทางเดินของโรงพยาบาล เหิงเหิงเห็นซีซีเล่นอยู่คนเดียว เลยรีบปล่อยมือจากหวังหลิงทันที

“เหิงเหิง ลูกจะไปไหน”

“ผมจะไปเล่นกับน้อง”

หวังหลิงมองไปที่ซีซี และเม้มริมฝีปากอย่างเหยียดหยาม”จะไปเล่นกับนังเด็กนั่นทำไม ระวังจะติดโรคล่ะ”

เมื่อซีซีได้ยินคำพูดของหวังหลิง เธอโกรธจนหน้ากลมเป็นซาลาเปา

“เธอเป็นโรคติดต่อเหรอ”

เหิงเหิงยืนอยู่ตรงหน้าซีซี เงยหัวขึ้น และพูดอย่างหยิ่งทะนง

“ฉันไม่ได้เป็น”

ซีซีหันกลับมาและไม่สนใจเหิงเหิง

เหิงเหิงจ้องไปที่หลังของซีซี ยื่นสองมือออกไปและชกไปที่หลังของซีซี ซีซีถูกชกจนเซพิงกับผนังทางเดิน

ซีซีเจ็บจนน้ำตาไหล”นายตีฉันทำไม”

“เธอมีโรคติดต่อ คือหายนะ ฉันกำลังตีหายนะ ถ้าเธอตายก็จะไม่แพร่เชื้อให้กับคนอื่น”

เหิงเหิงด่า และถ่มน้ำลายใส่ซีซี

“นายต่างหากที่เป็นหายนะ นายเป็นหายนะ”

ซีซีโบกมือของเธอ และข่วนไปที่หน้าของเหิงเหิง

เหิงเหิงถอยหลังด้วยความไม่มั่นคง จึงล้มลงกับพื้น

เมื่อหวังหลิงเห็นลูกชายล้มลง ก็รีบวิ่งเข้าไป และตะโกนใส่ซีซีว่า”แกเป็นลูกของใคร ทำไมแกถึงป่าเถื่อนขนาดนี้ กล้าลงไม้ลงมือกับลูกของฉันเหรอ ตอนเด็กก็ขนาดนี้แล้ว โตมาจะเป็นขนาดไหน “

ซีซีหดคอและมองไปที่หวังหลิง เธอร้องไห้ออกมาด้วยความตกใจกับท่าทางที่ดุร้ายของหวังหลิง

“เด็กเขาเล่นกัน ก็เป็นธรรมดาที่จะเกิดเรื่อง ปกติแล้วพ่อแม่ของเด็กคนนี้ก็ไม่อยู่ และเธอก็เป็นเด็กดี คุณก็อย่าตะคอกใส่เธอแบบนี้เลย”

คนที่อยู่ห้องผู้ป่วยข้างๆ ช่วยเกลี้ยกล่อม

“เสือก ลูกชายของฉันถูกนังเด็กนี่ผลักล้ม ถ้าหากถูกผลักจนเป็นอะไรขึ้นมาจะทำไง แกจะรับผิดชอบเหรอ? แกรู้ไหมว่าฉันเป็นใคร แกรู้ไหมว่าพ่อของลูกฉันเป็นใคร แกรู้ไหมว่าพี่ชายฉันเป็นใคร! ถ้ามามีเรื่องกับครอบครัวฉัน อย่าคิดว่าชีวิตนี้จะได้มาหาหมออีก!”

หวังหลิงตะโกนด้วยความโกรธ ทำให้ทุกคนที่มาเกลี้ยกล่อมตกใจกลัว ผู้คนต่างกลับเข้าห้องผู้ป่วย ไม่กล้าพูดอะไรอีก

พอหันกลับมา หวังหลิงคว้าคอเสื้อของซีซี เขย่าซีซีอย่างแรงแล้วตะโกน

“แกมันเด็กดื้อที่มีพ่อแม่ให้กำเนิด แต่ไม่มีพ่อแม่คอยสั่งสอน ลูกชายฉันอุตส่าห์ใจดีเล่นกับแก แต่แกกลับกล้าทำร้ายลูกฉัน วันนี้กูจะสั่งสอนมึง เหิงเหิงมานี่ มาตีเธอให้แรงแรง! “

” จำสิ่งที่แม่สอนนะลูก ครอบครัวเราไม่ว่าจะไปไหนก็ไม่ต้องกลัว หากใครทำร้ายลูก ก็ตีให้มันตายไปเลย มีแม่อยู่ ถึงจะเกิดเรื่องแต่บ้านเราก็เอาอยู่ อย่าให้ใครมารังแกเด็ดขาด! “

ซีซีร้องไห้และดิ้นรน แต่เธอก็ไม่สามารถหลุดจากแรงดึงของหวังหลิงได้

“ปล่อยหนูนะ หนูมีพ่อแม่คอยสั่งสอนนะ เขาต่างหากที่หกล้มเอง แล้วก่อนหน้านั้นเขาก็ตีหนูด้วย หนูไม่ได้ทำอะไรเขาเลย คุณเป็นคนไม่ดี พวกคุณเป็นคนไม่ดี”

ซีซีร้องไห้ ดวงตาเต็มไปด้วยน้ำตา ช่างน่าสงสารเหลือเกิน

“นังเด็กขี้โกหก ยังกล้าว่ากูเป็นคนไม่ดี! มึงมันเด็กไม่ได้รับการเลี้ยงดู วันนี้กูจะฉีกปากมึง มึงจะได้รู้ว่าอะไรคือการเลี้ยงดู!”

หวังหลิงยื่นมือออกมาด้วยความโกรธ หวังจะตบไปที่หน้าซีซี แต่ทันทีที่เธอยกมือขึ้น เธอก็รู้สึกได้ว่ามีใครจับข้อมือของเธอ

“ใครกันที่กล้าหยุดกู!”

หวังหลิงหันกลับมา และมองไปที่หลี่โม่ที่จับข้อมือของเธอ ตะโกนด้วยความโกรธว่า”ปล่อยมือเดี๋ยวนี้ ไอ้ยาจกกล้าดียังไงมายุ่งเรื่องของกู! ถ้ามึงยังไม่ปล่อยมือ กูก็จะทำลายครอบครัวมึงให้ราบคาบ!”

หลี่โม่ไม่พูดอะไร ดวงตาของเขาเย็นชาและมืดมน!

เพี๊ยะ!

เขายกมือขึ้น ตบหน้าของหวังหลิง แรงตบทำให้หวังหลิงล้มลงไปกับพื้น

กู้หยุนหลันรีบวิ่งมาจากด้านหลัง และกอดซีซีไว้

“ซีซี แม่มาแล้ว ลูกไม่เป็นไรใช่ไหม”

กู้หยุนหลันถามอย่างกังวล

ซีซีมองไปที่หลี่โม่ด้วยดวงตากลมโต และดวงตาของเธอก็ส่องแสงเป็นประกาย”พ่อเก่งจังเลย”

“ซีซีเด็กดี ที่รักคุณพาซีซีไปนั่งที่อื่นเถอะ ผมจะคุยกับยัยโฉดคนนี้หน่อย”

หลี่โม่พูดด้วยรอยยิ้มอ่อนโยน จากนั้น สายตาเย็นชาก็จ้องไปที่หวังหลิง

“พูดคุย? พูดกับแม่งมึงสิ! กล้าตบกู วันนี้กูจะต้องสั่งสอนคนจนป่าเถื่อนอย่างมึง ลูกสาวป่าเถื่อน พ่อแม่ก็ป่าเถื่อนเช่นกัน พวกมึงมันก็แค่ครอบครัวคนจน รีบไสหัวกลับบ้านนอกซะ ที่นี่ไม่ใช่สถานที่สำหรับคนที่ไร้อารยะอย่างมึง!”

หวังหลิงคำราม จับแก้มที่ร้อนผ่าวของเธอ

หลี่โม่ยิ้มจางๆ “แกต่างหากที่ไร้อารยะ แกกับลูกชายของแกขอโทษลูกสาวฉันซะ”

“ขอโทษบ้าอะไร! ลูกสาวของแกผลักลูกชายฉันล้ม แกก็ตบหน้าฉัน ควรจะเป็นครอบครัวแกที่ต้องคุกเข่าขอโทษฉัน! ถ้าวันนี้แกไม่ขอโทษฉันล่ะก็ ฉันจะทำให้พวกแกไสหัวออกจากโรงพยาบาลทันที และจะทำให้พวกแกไม่สามารถไปหาหมอในเมืองฮั่นได้อีก! “

หวังหลิงรู้สึกโกรธมาก หลายปีที่ผ่านมานี้ไม่มีใครกล้าที่จะตบหน้าเธอ

น่ารังเกียจ!

แค้นนัก!

“ให้โอกาสแกครั้งสุดท้าย ถ้าแกและลูกชายของแกไม่ขอโทษล่ะก็ ฉันยังป่าเถื่อนได้มากกว่านี้”

หลี่โม่พูดอย่างเย็นชา

“น่าขำ ให้โอกาสฉันครั้งสุดท้ายอย่างนั้นเหรอ แกมันไม่คู่ควร! ฉันไม่มีทางขอโทษลูกสาวบ้าของแกหรอก!”

หวังหลิงเงยหน้าขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความโกรธ

เพี๊ยะ!

เสียงฝ่ามือดังขึ้น หลี่โม่ตบหน้าของหวังหลิงอีกข้างหนึ่ง หวังหลิงตกตะลึงอย่างสิ้นเชิง

“แก! แกมัน แกป่าเถื่อนแบบนี้อย่ามาว่าฉันไม่มีเหตุผลล่ะ! แกรอก่อน การตบครั้งนี้ จะทำให้แกต้องคุกเข่าขอร้องฉัน!”

หลังจากที่พูดคำพูดที่รุนแรงใส่หลี่โม่ หวังหลิงก็หันไปมองผู้ป่วยในห้องผู้ป่วย พูดด้วยน้ำตาที่คลอเบ้า”ทุกคนเห็นแล้วใช่ไหม ชายร่างใหญ่คนนี้ตบฉันที่เป็นเพียงผู้หญิงอ่อนแอ รังแกครอบครัวของฉัน พวกคุณต้องเป็นพยานให้ฉัน”

คนไข้ทั้งหมดหันกลับไป ไม่มีใครสนใจหวังหลิง

หวังหลิงเห็นแล้วยิ่งโกรธเข้าไปใหญ่ หยิบโทรศัพท์มือถือออกมา ชี้ไปที่หลี่โม่แล้วตะโกนว่า “ไอ้พวกขยะ คอยดูเถอะ! พวกแกซวยแน่!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset