จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 394 เธอมีวาสนากับฉัน

กู้เจี้ยนเจียงถลึงตาใส่หลี่โม่ แค้นใจจนอยากจะต่อยหลี่โม่แรงๆสักสองหมัด ต้อนรับซินแสจางเรื่องใหญ่ขนาดนี้ถึงกับยังดื้อรั้น ถ้าเกิดล่วงเกินซินแสจางเข้าจริงๆ คนเขาทำเรื่องคลุมเครืออะไรสักเล็กน้อย ก็สามารถทำให้ตระกูลกู้บ้านแตกสาแหรกขาดได้

อยู่ห่างจากผีและเทพเจ้า แต่ว่าพอถึงเวลาที่มีส่วนเกี่ยวข้องมาถึงตนเอง ใครก็ต่างรู้สึกยำเกรง กู้เจี้ยนเจียงตอนนี้ก็เป็นเช่นนี้

หลี่โม่ยิ้มเย็นส่ายหน้าเล็กน้อย เอ่ยอย่างดูถูกว่า “ซินแสอะไร ก็แค่พวกดูดวงต้มตุ๋นเท่านั้น ทำไมจะต้องเคารพคนหลอกลวงแบบนี้ด้วย”

เห็นหลี่โม่พูดว่าซินแสจางเป็นนักต้มตุ๋น กู้เจี้ยนเจียงร้อนรนจนเท้าลอย ชี้จมูกของหลี่โม่ตะโกนใส่ว่า “นายอยากตายใช่มั้ย กล้าไม่เคารพซินแสจาง! กู้หยุนหลัน รีบขับไล่สามีไร้ประโยชน์ของเธอออกไป ที่นี่ไม่ใช่ที่ให้เขามาพูดเหลวไหลได้!”

ชายหนุ่มในชุดจีนสี่คนต่างกำลังมองหลี่โม่ด้วยสายตาเย็นชา ค่อยๆเดินไปหาหลี่โม่อย่างช้าๆ แสดงให้เห็นถึงการโอบล้อมกลายๆ

“นายกล้าพูดว่าซินแสจางเป็นนักต้นตุ๋น! ซินแสจางนั้นได้รับวิชามาจากปรมาจารย์ซินแส ตอนนี้เป็นเพียงคนเดียวที่สามารถได้รับตำแหน่งซินแส!”

ชายหนุ่มชุดจีนเอ่ยอย่างเย็นชา “รีบคุกเข่าลงยอมรับผิดกับซินแสจางเดี๋ยวนี้ ไม่เช่นนั้นถ้าซินแสจางโกรธขึ้นมาจะเกิดฟ้าร้องจากสวรรค์!”

“คุยโวก็ไม่รู้จักร่างแผนก่อนเลย วันนี้ท้องฟ้าสดใสดวงอาทิตย์สีขาว ให้ซินแสจางคนนั้นส่งฟ้าร้องลงมาให้ฉันดูหน่อย”

หลี่โม่เอ่ยหยอกล้อ

ชายหนุ่มชุดจีนชะงักไปเล็กน้อย พูดว่าฟ้าร้องจากสวรรค์นั่นเป็นการเปรียบเทียบที่เกินจริง ใครใช้ให้นายคิดเป็นจริงกัน!

“อาจารย์จางเป็นซินแส เชี่ยวชาญเรื่องลักษณะพื้นภูมิฮวงจุ้ย ไม่ใช่เทพสวรรค์!”

ชายหนุ่มชุดจีนถลึงตาจ้องหลี่โม่แล้วเอ่ยตอบ

หลี่โม่ยิ้มกริ่มเอ่ยว่า “ดังนั้น? เมื่อกี้นายก็กำลังคุยโม้น่ะสิ ความสามารถที่ไม่มีจะต้องไม่พูดเรื่อยเปื่อย”

“แกไอ้บ้า เข้าไปทั้งหมด ตีให้มันมีชีวิตอยู่อย่างไม่อาจช่วยเหลือตัวเองได้ ดูซิว่ามันยังจะอวดดีอย่างไร!”

ชายหนุ่มชุดจีนสี่คนต่างก็วางมาดออกมา ตอนที่กำลังเตรียมที่จะลงมือกับหลี่โม่นั้น เสียงทุ้มหนักมีชีวิตชีวาสายหนึ่งก็ดังออกมา

“พวกนายนี่วุ่นวายอะไรกันอยู่ บอกนายตั้งนานแล้วว่าต้องถ่อมตัวเข้าถึงได้ วันทั้งวันอย่าได้แกล้งทำท่าทางวางมาดแต่นำไปใช้จริงไม่ได้พวกนี้ ฉันก็ไม่ใช่เทพเซียนผู้วิเศษ”

คนที่พูดคือชายชราฉันขาวเคราขาวคนหนึ่ง ชายชราสวมเสื้อผ่ากลางแบบสมัยราชวงศ์ถัง มองดูแล้วมีกลิ่นอายเทพเซียนลอยออกมา ค่อนข้างมีบุคลิกสูงส่ง

กู้เจี้ยนกั๋วค้อมตัวลงเล็กน้อยติดตามอยู่ด้านข้างชายชรา มองหลี่โม่อย่างไม่พอใจแวบหนึ่ง ในใจคิดว่าไอ้หนุ่มนี่สร้างเรื่องให้ตนเองอีกแล้ว สมควรที่จะสั่งสอนเขาให้ดีๆ!

“ล้วนเป็นท่าทีของเด็กรุ่นหลังในตระกูลของฉันที่ไม่ดี ขอให้ซินแสจางอย่าได้โกรธเคืองพวกลูกศิษย์เลย ฉันจะต้องสั่งสอนเด็กรุ่นหลังในตระกูลให้ดีๆแน่”

กู้เจี้ยนกั๋วเอ่ยอย่างต่ำต้อยเล็กน้อย

ถึงแม้ว่าซินแสจางจะพูดว่าอย่าได้วางมาดใหญ่โต แต่ว่าใครจะรู้ว่าในใจของซินแสจางจะคิดอย่างไร คนที่ใบหน้ายิ้มละไมด้านหลังแทงมีดอย่าได้มากเกินไปเลย

ถึงแม้ว่าซินแสจางจะปากกับใจตรงกัน รับรองได้ยากว่าลูกศิษย์ที่ถูกตำหนิจะไม่มีความคิดอะไรในใจ กู้เจี้ยนกั๋วคิดว่าคนที่เชี่ยวชาญด้านความคิดปรัชญาเหล่านี้เป็นคนที่ล่วงเกินไม่ได้สักเล็กน้อย

หลังจากพูดอย่างต่ำต้อยกับซินแสจางเสร็จ กู้เจี้ยนกั๋วรีบก้าวเท้าไปทางหลี่โม่ ตำหนิเสียงสูงว่า “แกมันคนไร้ค่าที่ก็ได้แต่สร้างเรื่อง! รีบไปขอโทษต่อซินแสจางและเหล่าลูกศิษย์เร็วเข้า!”

“คุณลุงใหญ่ หลี่โม่นั้นไม่ได้ตั้งใจที่จะพูด”

กู้หยุนหลันเอ่ยเสียงเบา

หลี่โม่ยิ้มเย็นเอ่ยว่า “อาศัยอะไรมาให้ฉันขอโทษ ไม่ต้อนรับเขาก็มีความผิด? พวกเขาให้หยุนหลันไปเปิดประตูรถให้ซินแสจาง ก็นับว่าเป็นการบังคับอิสระผู้อื่น ก็เป็นการทำความผิดแล้ว”

“ไอ้สารเลวปากร้ายนี่! เวลานี้ยังกล้าเถียงอีก!”

กู้เจี้ยนกั๋วโกรธจนพ่นไฟ แค้นใจจนอยากมีมีดในมือไปแทงหลี่โม่ให้ตาย

ประธานหวางและคนอื่นๆเห็นเหตุการณ์วุ่นวาย พากันเข้ามาไกล่เกลี่ย

“น้องชายหลี่ นายอย่าได้ดื้อรั้นเลย รีบไปยอมรับผิดกับซินแสจางเถอะนะ ซินแสจางนั้นมีความสามารถทางเต๋า ไม่อาจไม่เคารพนะ”

“ไม่ใช่เรื่องเกินจริงที่จะบอกว่าซินแสจางเป็นเทพเจ้าที่มีชีวิตก็ไม่เกินไป ไม่เคารพซินแสจากนั้นผิดจริงๆ หากภายหลังต้องการชีวิตที่ราบรื่น ก็ยังต้องก้มหัว คนมากมายที่ยั่วโมโหซินแสจากล้วนมีจุดจบบ้านแตกเสียชีวิต”

“ไม่ใช่แค่ให้ภรรยาของนายไปเปิดประตูรถให้ซินแสจางหรอกหรือ นั่นคือโชควาสนานะ ถ้าเกิดซินแสจางถูกในภรรยาของนายรับมาเป็นศิษย์ในนาม ในอนาคตนายจะต้องได้มีชีวิตที่สุขสบายแน่นอน”

ตอนที่ประธานหวางและคนอื่นๆกำลังเกลี้ยกล่อมอยู่นั้น ชายหนุ่มในชุดจีนกลุ่มหนึ่งก็ตามติดซินแสจางเดินเข้ามา

“อะไรคือสาเหตุของการโต้เถียงกันแน่? ผู้บำเพ็ญตนตามลัทธิเต๋าของฉันควรจะมีน้ำใจต่อผู้อื่นถึงจะถูก หมิงเต๋อ นายพูดสาเหตุออกมาให้ละเอียด”

ซินแสจางมองไปทางลูกศิษย์คนที่อวดดีเมื่อครู่

หมิงเต๋อเหลือบมองหลี่โม่แวบหนึ่ง หมุนกายกลับไปหาซินแสจางโน้มตัวเล็กน้อย “ท่านอาจารย์ ชายหนุ่มคนนี้ไม่เพียงไม่ต้อนรับท่านอาจารย์อย่างเคารพ อีกทั้งยังพูดว่าท่านอาจารย์เป็นนักต้มตุ๋น นี่ก็ทำให้คนไม่อาจทนได้แล้ว”

“หืม?”

กลางจมูกของซินแสจางสะบัดเสียงออกมา ไม่ว่าจะฟังอย่างไรก็ล้วนเผยความหมายของการไม่พอใจเอาไว้

ซินแสที่สูงส่งถูกคนพูดว่าเป็นนักต้มตุ๋น นี่ก็คือต่อมโมโหของซินแสจาง ในอดีตคนมากน้อยแค่ไหนที่เคยพูดว่าซินแสจางเป็นนักต้มตุ๋น ท้ายที่สุดต่างถูกซินแสจางทำเสียจนบ้านแตกสาแหรกขาด

เรื่องบ้านแตกสาแหรกขาดของคนพวกนั้นก็ค่อยๆกลายเป็นเรื่องเล่าต่อกันมา สร้างชื่อเสียงของซินแสจางให้เลื่องลือ

“ซินแสจาง หลี่โม่พูดเหลวไหลไปชั่วขณะ ไม่ได้มีความตั้งใจที่จะพูดว่าคุณเป็นนักต้มตุ๋น ล้วนทำเพื่อปกป้องฉันเท่านั้น”

กู้หยุนหลันเดินขึ้นหน้าก้าวหนึ่งเอ่ยตอบ

สายตาของซินแสจางมองไปทางกู้หยุนหลัน กลางดวงตาปรากฏแสงสว่างเสี้ยวหนึ่ง

สาวงามที่สวยเช่นนี้ ควรที่จะเข้ามาเป็นลูกศิษย์รับใช้ดูแลฉันทั้งวันทั้งคืนถึงจะถูก มาเป็นภรรยาคู่ทุกข์คู่ยากให้คนธรรมดามันน่าเสียดายจริงๆ

“อ้อ เช่นนี้หรือ เช่นนั้นก็เป็นความผูกพันรักใคร่ที่ลึกซึ้งของสามีภรรยาสามารถยกโทษให้ได้ หมิงเต๋อ ต่อไปทำอะไรไม่อาจบุ่มบ่าม ดูเรื่องยุ่งยากที่นายสร้างขึ้นมา”

ซินแสจางตำหนิลูกศิษย์ไปประโยคหนึ่งอย่างไม่ทุกข์ไม่ร้อน หมิงเต๋อโน้มตัวลงเอ่ยว่า “ศิษย์น้อมรับคำสั่งสอนแล้ว”

“อืม เอาเรื่องธุรกิจมาก่อน ไปดูสถานการณ์ฮวงจุ้ยของพวกคุณที่นี่ก่อน”

ซินแสจางพูดจบสายตาก็กวาดสายตามองสีหน้าของกู้เจี้ยนกั๋วและคนอื่นๆ สุดท้ายสายตาหยุดอยู่ที่บนร่างของกู้หยุนหลัน

“หญิงสาวคนนี้มีวาสนากับการสำรวจฮวงจุ้ยครั้งนี้ ก็ให้เธอมาติดตามอยู่ข้างกายฉันเถอะ”

ซินแสจางเอ่ยออกมาอย่างสงบนิ่ง

กู้เจี้ยนกั๋วผลักกู้หยุนหลันเล็กน้อย เอ่ยด้วยใบหน้าแย้มยิ้ม “สถานที่ก่อสร้างนี้เดิมก็เป็นหยุนหลันที่ดูแลรับผิดชอบ เธอติดตามดูแลซินแสจางนั้นก็สมควรแล้ว หยุนหลันรีบเข้าไปติดตามซินแสจางให้ดีๆ”

กู้หยุนหลันลังเลอยู่สักครู่ ยังคงเดินไปทางซินแสจาง

คิ้วของหลี่โม่เลิกขึ้น แล้วก็เดินตามไป

ตอนที่หลี่โม่ก้าวเท้าออกไปข้างหนึ่ง หมิงเต๋อยื่นมือออกมาดึงหลี่โม่เอาไว้ ส่วนกู้เจี้ยนกั๋วก็ดึงเสื้อของหลี่โม่เอาไว้จากข้างหลังเอาไว้

“นายไปไม่ได้”

หมิงเต๋อเอ่ยเสียงเย็น

กู้เจี้ยนกั๋วดึงมุมเสื้อด้านหลังของหลี่โม่ไว้อย่างแน่นหนา “แกไอ้สารเลวยังจะกล้าก่อเรื่อง! อยู่อย่างเชื่อฟังให้ฉัน!”

“ฉันจะไปติดตามหยุนหลัน ถ้าเกิดว่าหยุนหลันเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาฉันยังสามารถดูแลได้”

หลี่โม่จ้องซินแสจางเอ่ยตอบ

ซินแสจางหรี่ตาลง เอ่ยยิ้มๆว่า “ติดตามฉันยังจะมีอะไรให้ไม่วางใจอีก นายไม่จำเป็นต้องคิดมาก ไม่มีทางเกิดเรื่องไม่คาดคิดขึ้น”

“หลี่โม่ นายทำตัวให้ดีอย่าได้วุ่นวาย ฉันก็แค่ติดตามซินแสจางเดินไปทั้งสถานที่ก่อสร้างรอบหนึ่ง ไม่มีทางมีเรื่องหรอก” กู้หยุนหลันเกลี้ยกล่อมหลี่โม่ ไม่อยากให้หลี่โม่เกิดเรื่องยุ่งยาก

Comment

Options

not work with dark mode
Reset