จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 399 มีฉันปรมาจารย์ฟ้าดินอยู่ทั้งคน

ยอดฝีมือทั้งห้าคนต่างไม่ใช่คู่ต่อสู้ของหลี่โม่ ไม่นานนักพวกเขาก็กลายเป็นเพียงร่างที่ไร้วิญญาณนอนกองอยู่บนพื้น หากรวมคนที่ถูกหลี่โม่เตะก้อนหินใส่จนตายไปด้วย ยอดฝีมือทั้งหกคนที่หมิงเต๋อจัดเตรียมไว้ตายไปหมดแล้ว

ส่วนหมิงเต๋อนั้นได้ย่องเข้าไปสถานที่ก่อสร้างก่อสร้างแล้วสร้างสถานการณ์ผีหลอกอยู่นอกโรงเก็บของ พวกคนงานที่อยู่เวรต่างหวาดกลัวกันจนหัวหด เมื่อเห็นว่าสร้างความหวาดกลัวไปได้ไม่น้อย เขาก็หยิบโทรศัพท์ขึ้นมาดูพบว่าเวลาผ่านมาร่วมสิบห้านาทีแล้วนับตั้งแต่หลี่โม่เข้าไปที่ศูนย์กลางสถานที่ก่อสร้าง หมิงเต๋อคิดว่ายอดฝีมือที่เขาจัดหาไว้คงจัดการหลี่โม่ได้แล้ว เขาจึงกำจัดสิ่งของที่ทำให้คนตกใจกลัวออกไปและรีบตรงไปทางศูนย์กลางสถานที่ก่อสร้างเพื่อจัดฉากการตายของหลี่โม่

อย่างไรก็ตามเมื่อหมิงเต๋อไปถึงที่หมายเขาก็ต้องตกตะลึง เขาพบว่าทั้งหกคนนอนกระจัดกระจายกลายเป็นศพ ภาพที่เห็นเกือบเท่าวิญญาณของหมิงเต๋อออกจากร่าง

“เวรแล้ว!”

หมิงเต๋อสบถออกมาอย่างหยาบคาย เขาตกใจจนเข่าอ่อน เมื่อหมุนตัวกลับเตรียมจะหนีกลับพบว่าหลี่โม่ยืนมองเขาด้วยสายตาเย็นชา หมิงเต๋อขนลุกไปทั่วร่างและรีบถอยหลังทันที ทว่าเขากลับสะดุดกับศพที่พื้นจนเสียหลักล้มไปนอนอยู่บนกองศพ เมื่อหันไปเห็นใบหน้าซีดเซียวของร่างคนตาย หมิงเต๋อก็ตกใจจนร้องเสียงดัง

“อ๊ากกกกก!”

หลี่โม่หัวเราะพลางเดินไปเหยียบหน้าอกของหมิงเต๋อจนอีกฝ่ายต้องกลืนเสียงร้องลงท้อง

“ทั้งหมดนี่แกเป็นคนทำหรือ”

“ผะ ฉัน ปะ เปล่า ไม่ใช่ฉันนะ ไม่ใช่ฉันจริง ๆ ทั้งหมดเป็นแผนของซินแสจางฉันแค่รับคำสั่งจากเขาเท่านั้น”

หมิงเต๋อพูดอย่างตื่นตระหนก ปราศจากท่าทางเย่อหยิ่งในช่วงกลางวันโดยสิ้นเชิง

ในตอนนี้เมื่อคิดย้อนกลับไปถึงท่าทางหยิ่งผยองเมื่อกลางวันของตนเอง หัวใจของเขาอัดแน่นไปด้วยความเสียใจ เขารู้สึกว่าตนเองโง่มากที่มองไม่ออกว่าหลี่โม่เป็นถึงยอดฝีมือ

“ซินแสจาง? แล้วไอ้แก่จอมหลอกลวงนั่นมันคิดจะทำอะไรอีกล่ะ”

“ขะ เขาชอบภรรยาของคุณ คิดจะวางยาเพื่อหลอกเธอขึ้นเตียง ต่อไปก็จะหาโอกาสใส่ยาลงไปในน้ำ” เมื่อตกอยู่ภายใต้ความหวาดกลัว หมิงเต๋อพูดทุกสิ่งที่เขารู้ออกมาอย่างไม่ปิดบัง

นัยน์ตาหลี่โม่ฉายแววสังหารออกมาอย่างชัดเจน เมื่อมองตาหมิงเต๋อความเย็นชาก็แผ่ออกมามากขึ้น “แกอยู่ข้างเขามาตลอด น่าจะรู้ดีว่าเขาหลอกลวงคนอื่นอย่างไร”

“นะ นี่.. ฉันรู้ไม่มาก รู้แค่นิดเดียวเท่านั้น คุณต้องการทำลายเขาเหรอ? ฉันมีหลักฐานที่จะส่งให้คุณได้นะ ขอแค่คุณไว้ชีวิตฉันก็พอ”

ยอดฝีมือทั้งหกคนตายไปแล้ว หมิงเต๋อเองก็ไม่กล้าพนันว่าหลี่โม่จะไว้ชีวิตเขารึไม่ จึงพยายามคิดหาข้อเสนอที่จะทำให้หลี่โม่พึงพอใจมากที่สุด บางที่มันอาจจะทำให้เขามีโอกาสรอดมากขึ้นอีกนิด

“ถ้าแกยอมกลับตัวมาเป็นพยานเพื่อชี้ตัวซินแสจางว่าเป็นจอมลวงโลกล่ะก็ ฉันก็จะไว้ชีวิตแก”

หลี่โม่พูดด้วยน้ำเสียงเรียบนิ่ง

หมิงเต๋อตกอยู่ในความเงียบ

กลับตัวเป็นพยานนั้นพูดง่าย ทว่าปัญหาใหญ่คือหลังจากเป็นพยานแล้วนี่สิ อยู่ในวงการเดิมนี้ไม่ได้ต่อไปแล้ว ต่อไปภายหลังจะจะถูกพวกคนที่เคารพนับถือในตัวซินแสจางไล่ฆ่า จะมองมุมใดก็ล้วนแต่ต้องตายอยู่ดี ขึ้นอยู่กับเวลาว่าช้าหรือเร็วเท่านั้น

“ยังคิดไม่ออกอีกเหรอ ความอดทนฉันมีจำกัดนะ” หลี่โม่พูดเสียงเย็นเยียบ

หมิงเต๋อตื่นตระหนกทันที เขาพยักหน้าตอบรับ “ได้ ทุกอย่างเป็นไปตามแผนของคุณ ฉันจะทำตามที่คุณสั่งทุกอย่าง”

“ลุกขึ้นแล้วกลับไปกับฉัน รอจนถึงห้องจัดเลี้ยง เห็นฉันขยิบตาเมื่อไรก็ลงมือทันที”

“ได้ ฉันจะรอจนว่าคุณจะขยิบตาแล้วจัดการทันที”

หลี่โม่พาหมิงเต๋อออกจากสถานที่ก่อสร้างก่อสร้างและขับรถไปที่โรงแรมทันที

เมื่อหลี่โม่เดินทางกลับ พนักงานที่อยู่เวรก็เริ่มเรียกรายงานเหตุการณ์ไม่ปกติด้วยความตื่นตระหนก

โทรศัพท์ถูกส่งต่อกันเป็นทอด ๆ ในที่สุดประธานหวังก็โทรหากู้เจี้ยนกั๋วและอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้น การแสดงออกของกู้เจี้ยนกั๋วเปลี่ยนเป็นจริงจังหลังจากได้ยินเรื่องราวจากปลายสาย

เมื่อซินแสจางเห็นว่าอารมณ์ของกู้เจี้ยนกั๋วเปลี่ยนไป เขาก็แอบดีใจในใจโดยเดาว่าด้านหมิงเต๋อทำงานไปได้ด้วยดี

“น้องกู้เป็นอะไรรึ ทำไมรับโทรศัพท์แล้วดูอารมณ์ไม่ดีเลย”

ซินแสจางถามด้วยใบหน้าเคร่งขรึมและน้ำเสียงที่ไม่ค่อยพอใจนัก

กู้เจี้ยนกั๋วยิ้มทันที เขาหยิบแก้วเหล้าขึ้นมา “ฉันต้องขอดื่มแก้วนี้ให้คุณแล้ว คุณเป็นผู้เชี่ยวชาญท่ามกลางผู้เชี่ยวชาญจริง ๆ เกิดเรื่องที่ไซต์ก่อสร้างไม่ผิดไปจากที่ท่านพูดไว้สักนิด “

“หืม เกิดอะไรขึ้น ไหนเล่าให้ฉันฟังสิ”

ซินแสจางพูดด้วยท่าทีสงบนิ่ง

“คนงานที่อยู่ในไซต์ก่อสร้างเพิ่งรายงานว่าถูกผีหลอก พวกเขาทั้งหมดซ่อนตัวอยู่ในโรงเก็บของ ไม่กล้าออกไปไหน ได้ยินแค่เสียงผีร้องไห้อยู่ข้างนอก ดูเหมือนว่าผีบอกว่าต้องการเอาชีวิตรอด ฟังแล้วน่ากลัวมาก”

เมื่อกู้หยุนหลันได้ฟังที่กู้เจี้ยนกั๋วเล่า ใจเธอเริ่มเป็นกังวลถึงหลี่โม่ทันที

“หลี่โม่ไปที่ไซต์ก่อสร้างเมื่อกี้ ไม่รู้ว่ามีเรื่องอะไรเกิดขึ้นรึเปล่า ฉันขอตัวไปดูที่ไซต์ก่อสร้างสักเดี๋ยว”

กู้หยุนหลันตื่นตระหนก เธอลุกขึ้นยื่นแล้วต้องการจะออกไปจากที่นี่

ซินแสจางหรี่ตามองพร้อมกับพูดห้าม “อย่ากังวลไป รอฉันทำนายสักครู่แล้วจะส่งลูกศิษย์ออกไปจัดการ คุณกู้อย่าเอาตัวเองไปเสี่ยงอันตรายเลย กลางค่ำกลางคืนพลังหยินยิ่งแรง คุณเป็นผู้หญิงออกไปที่นั่นมันจะยิ่งเกิดปัญหา”

“หยุนหลันฟังซินแสจางเถอะ อย่าไปกังวลกับหลี่โม่เลย เจ้าหนุ่มนี่พลังหยางแข็งแกร่ง เขาไม่เป็นไรหรอก”

กู้เจี้ยนเจียงก็ช่วยพูดกล่อม

กู้หยุนหลันลังเล เธอหันไปมองซินแสจางด้วยแววตาขอร้อง “รบกวนท่านรีบส่งลูกศิษย์ไปดูหน่อยเถอะ ช่วยชีวิตคนได้บุญยิ่งกว่าสร้างเจดีย์เจ็ดชั้นอีกเสียอีก”

“ไม่ต้องตกใจ ฉันจะจัดการทุกอย่างเอง”

ซินแสจางเหยียดมือขวาออก นิ้วหัวแม่มือเริ่มขยับอีกครั้ง ผ่านไปครู่หนึ่งสีหน้าของเขาก็เปลี่ยนเป็นตกใจ “โธ่เอ๋ย! ไม่ดีแล้ว ปีนี้หลี่โม่ดวงชง มิหนำซ้ำช่วงนี้ยังมีชะตาถึงฆาต เกรงว่าอาจจะเคราะห์หายนะในวันนี้คงผ่านพ้นไปไม่ได้แล้ว ตอนนี้คงกลายเป็นศพไปแล้วล่ะ”

หลังจากที่ซินแสจางพูดจบ ก็เกิดความเงียบขึ้นในห้องจัดเลี้ยง

กู้หยุนหลันรู้สึกว่าร่างกายของเธออ่อนยวบจนทรุดตัวนั่งลงบนเก้าอี้ ในหัวคิดอะไรไม่ออก

“ปะ…เป็นไปไม่ได้ หลี่โม่จะตายได้อย่างไร คุณอย่ามาพูดมั่ว ๆ นะ”

ซินแสจางส่ายหน้าและพูดอย่างเคร่งขรึม: “ฉันเปล่า ถ้าคุณไม่เชื่อ ฉันจะส่งลูกศิษย์ไปตรวจสอบที่จุดเกิดเหตุ หรือไม่พวกคุณก็ให้คนงานเฝ้ายามไปตรวจดูก็ได้ ตรงศูนย์กลางสถานที่ก่อสร้างต้องมีศพของหลี่โม่อยู่แน่นอน”

กู้เจี้ยนกั๋วเลิกคิ้วพลางหยิบโทรศัพท์มือถือขึ้นมา “ฉันจะสั่งให้คนงานไปดู ถ้ายังหายใจอยู่ อย่างน้อยจะได้ส่งกู้ภัยไปช่วยได้ทัน”

จากนั้นกู้เจี้ยนกั๋วก็โทรศัพท์ไปที่สถานที่ก่อสร้างก่อสร้างและสั่งให้คนงานเฝ้ายามตรวจสอบที่ศูนย์กลางสถานที่ก่อสร้าง

แม้ว่าคนงานหลายคนจะไม่เต็มใจ แต่เพราะรางวัลราคาดีที่กู้เจี้ยนกั๋วให้สัญญาไว้ พวกเขาจึงกัดฟันเกาะกลุ่มเข้าไปตรวจสอบ ไม่นานโทรศัพท์มือถือของกู้เจี้ยนกั๋วก็ดังขึ้น เขารับโทรศัพท์พร้อมรอยยิ้มและกดเปิดลำโพง

“ยะ แย่แล้วครับ! มะ มีคนตายตั้งหกคน!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset