จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 434 เต่าหัวหด

“สร้างความน่าเกรงขามเหรอครับ”

ฉู่จงเทียนเกาหัวแกรกๆ “คุณใช้การแข่งมวยดำสร้างความน่าเกรงขาม หวังสูงไปหรือเปล่าครับ อย่าว่าแต่ในประเทศเลย ระดับนานาชาติก็ยังไม่กล้าทำแบบนี้”

“ไม่มีทางเลือกนิ เรื่องมันค่อนข้างซับซ้อน มีหลายเรื่องที่ไม่สามารถเล่าให้นายฟังอย่างละเอียด ฉันต้องแสดงความสามารถของตัวเองออกมา ไม่งั้นจะมีคนคิดไม่เหมือนกัน”

หลี่โม่ต้องแสดงความสามารถของตัวเองออกมา ไม่เพียงแค่ให้ราชินีของสำนักหลงเหมินเห็น ต้องให้แปดราชามังกรเห็นด้วย ขอแค่ได้โชว์ฝีมือ ก็จะทำให้คนที่ไม่พอใจในตัวเขาหวาดกลัวได้ และอาจทำให้คนที่เป็นกลางเอนเอียงมาฝั่งเขา

ตอนนี้แปดราชามังกรในสำนักหลงเหมินอ่อนข้อลงมาก รวมถึงท่านแปดที่แกล้งทำเป็นอ่อนข้อเพราะมีแผนในใจ

ระหว่างที่ราชินีของสำนักหลงเหมินกับหลี่โม่ยังไม่รู้ว่าชัยชนะจะตกไปอยู่ในมือของใคร สงสัยท่านแปดจะยังไม่แสดงท่าทีที่ชัดเจนออกมา

หลี่โม่ต้องเรียกความสนใจจากพวกเขา ยังไงก็ต้องทำให้พวกเขาหวาดกลัว มีเพียงวิธีนี้เท่านั้นที่จะทำให้หลี่โม่มีเวลาไกล่เกลี่ยกับราชินีของสำนักหลงเหมินได้มากขึ้น

ฉู่จงเทียนไม่รู้สถานการณ์ของหลี่โม่ในตอนนี้ แต่ในเมื่อพูดออกมาขนาดนี้ ฉู่จงเทียนพอจะเดาอะไรได้แล้ว

“งั้นก็โอเคครับ ขั้นตอนการแข่งขันมวยดำในรอบไวด์การ์ดออกมาแล้ว ผมจับตาดูคู่ต่อสู้ของคุณ เขาเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดในรอบไวด์การ์ด เพราะฉะนั้นคุณต้องเตรียมตัวให้ดี ไอ้หมอนั่นชอบฆ่าคนมาก ช่วงซ้อมสองสามวันที่ผ่านมา คู่ซ้อมของมันตายทุกคน”

ฉู่จงเทียนพูดจบจึงควักมือถือออกมา เขาเปิดวิดีโอและยื่นให้หลี่โม่ดู

หลี่โม่รับมือถือมาดู หลังจากที่พอเดาได้ในใจ เขาก็พอเข้าใจคู่ต่อสู้

“คุณหลี่ห้ามประมาทมันนะครับ ตอนซ้อมมันไม่ได้ใช้แรงทั้งหมด อีกอย่างผมจะเล่าเรื่องเกี่ยวกับมันให้คุณฟัง มันชื่อนู่หลั่ง มันออกมาจากเขาป่าดำ ดินแดนศักดิ์สิทธิ์ของนักรบผิวดำ มันเป็นคนเดียวที่รอดชีวิตในป่าดำในปีนี้”

“ก่อนหน้านี้ผมไม่รู้ว่าป่าดำคืออะไร ผมเลยถามแคลตี้ มันคือคณะกรรมการที่เป็นผู้บริหารที่แข่งมวยดำนานาชาติส่งมา แคลตี้บอกว่าเป็นสนามทดสอบคนผิวดำที่แข็งแกร่งที่สุด คนที่รอดออกมาจากป่าดำคือนักสู้สุดแข็งแกร่ง”

“ก่อนหน้านี้คนผิวดำสามคนที่เป็นแชมป์โด่งดังในการแข่งมวยดำนานาชาติ ล้วนมาจากป่าดำทั้งนั้น แคลตี้บอกว่าจากการวิเคราะห์นู่หลั่งเก่งกว่ารุ่นพี่ทั้งสามคนมาก บางทีมันอาจจะชนะการแข่งมวยกำครั้งนี้ด้วย”

ฉู่จงเทียนอธิบายสถานการณ์อย่างตึงเครียด เพราะกลัวว่าหลี่โม่จะชะล่าใจและจะประมาทคู่ต่อสู้บนเวทีมวย

ถึงหลี่โม่จะไม่ประมาท ฉู่จงเทียนก็กังวลว่าหลี่โม่จะสู้นู่หลั่งไม่ได้

เพราะนู่หลั่งแข็งแกร่งจริงๆ ถึงฉู่จงเทียนเคยเห็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดมาแล้ว แน่นอนว่าหลี่โม่ยังไม่โชว์ความแข็งแกร่งของตัวเองออกมา

หลี่โม่ยิ้มแล้วพูดว่า “โอเค ฉันเข้าใจสิ่งที่นายต้องการบอก ตอนที่เข้าร่วมฉันจะจริงจัง อ้อ ไม่มีอะไรผิดปกติกับพวกต่างชาติที่จัดแข่งใช่ไหม”

“ไม่มีครับ สองสามวันนี้นอกจากนอน เวลาที่เหลือผมก็อยู่กับพวกเขา พวกเขายุ่งอยู่กับการจัดแข่งขัน ไม่ได้ไปทำเรื่องอื่นเลยครับ”

“อืม งั้นก็ดี”

หลี่โม่นึกถึงเรื่องการหายไปอย่างประหลาดของศพเฉินฟู่ น่าจะเกี่ยวข้องกับพวกแคลตี้ แต่เมื่อได้ยินสิ่งที่ฉู่จงเทียนพูด หลี่โม่เริ่มสงสัยขึ้นมาอีก

ขณะที่ฉู่จงเทียนจะพูดออกมา มีเสียงกรีดร้องของพนักงานดังขึ้นข้างนอก “คุณผู้ชายจะทำแบบนี้ไม่ได้นะคะ พวกคุณจะบุกเข้าไปไม่ได้!”

“หลีกไป ถ้ายังมาขวางฉันจะชกเธอนะ ผู้หญิงฉันก็ชกนะโว้ย!”

น้ำเสียงของผู้ชายฟังดูประหลาด เหมือนน้ำเสียงของเขาดูเน้นแบบแปลกๆ มันเหมือนกับสำเนียงที่มาจากหลายพื้นที่

“คุณหลี่นั่งก่อนครับ เดี๋ยวผมจะไปดูว่าเกิดอะไรขึ้น”

ฉู่จงเทียนขมวดคิ้ว เขาไม่พอใจที่มีคนมาสร้างความวุ่นวายในร้านน้ำชา

“ไปสิ ระวังตัวด้วย”

หลี่โม่เอ่ยกำชับ

ฉู่จงเทียนเพิ่งจะเดินออกมาหน้าประตู ประตูห้องก็โดนถีบเข้ามาจากข้างนอก ชายร่างกำยำในชุดเสื้อคอจีนยืนอยู่นอกประตู

“พวกแกจะทำอะไร!”

ฉู่จงเทียนพูดออกมาอย่างโมโห

“อย่ามาขวางทาง พวกข้ามาตามหาคน!”

ชายร่างกายกำยำที่เป็นหัวหน้ามองหลี่โม่ จากนั้นเขาเอามือซ้ายไปไว้ข้างหลังและส่งสัญญาณมือ

ชายร่างกายกำยำที่อยู่ข้างหลังตาเป็นประกาย พวกมันสูดหายใจและเตรียมพร้อมสู้

“ทั้งเมืองฮ่านเป็นถิ่นของข้า มาอวดเก่งในถิ่นของข้า พวกแกอยากตายหรือไง”

ฉู่จงเทียนทำท่าน่าเกรงขาม เขาจะใช้อำนาจข่มเหงชายร่างกายกำยำพวกนี้

“ไสหัวไปซะไอ้แก่ ไม่งั้นข้าจะฆ่าแก”

ชายร่างกายกำยำที่เป็นหัวหน้าผลักฉู่จงเทียน

ฉู่จงเทียนถึงจ้องเขม็ง เขาสัมผัสได้ว่าแรงผลักของอีกฝ่ายไม่ธรรมดา ดังนั้นฉู่จงเทียนจึงเอี้ยวตัวหลบการผลักของอีกฝ่าย

“โอ้ แกมีความสามารถนี่ รู้จักหลบด้วย ถ้าไม่พอใจก็มาสู้กับข้าสิ ข้าเป็นนักสู้สุดแข็งแกร่งในไชน่าทาวน์เซียงซานนะโว้ย บรรพบุรุษของฉันเป็นตำนานของศิลปะการต่อสู้หงฉวน”

ฉู่จงเทียนหรี่ตาลง เขาทำท่ามวยคู่ลักษณ์พยัคฆ์กระเรียน “ฉู่จงเทียนฝ่ามือห้ากระบวนท่า โปรดชี้แนะด้วย!”

“เฉินเจียโต๋ประธานมวยหงฉวนสาขาเซียงซาน เข้ามาสิ!”

เมื่อเฉินเจียโต๋พูดจบก็พุ่งเข้าไปหาฉู่จงเทียน หมัดทั้งสองต่อยไปที่จุดอ่อนบนตัวของฉู่จงเทียน ฉู่จงเทียนเปลี่ยนหมัดเป็นกรงเล็บ เขาจับหมัดของเฉินเจียโต๋เอาไว้

ทั้งคู่เป็นนักสู้ที่ต่อสู้กันด้วยความเร็ว ขยับและเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว แค่ชั่วพริบตาก็ผ่านไปห้าหกกระบวนท่าแล้ว

เมื่อปะทะกันฉู่จงเทียนดูเสียเปรียบเล็กน้อย บวกกับอายุที่มาก ทำให้เขาเคลื่อนไหวไม่คล่องเท่าเฉินเจียโต๋

เมื่อผ่านมาถึงกระบวนท่าที่สิบ เฉินเจียโต๋ใช้ท่าไม้ตาย เขาใช้หมัดชกทะลุผ่านมือทั้งสองของฉู่จงเทียนที่ยกขึ้นมาป้องกัน ทำให้ฉู่จงเทียนถอยหลังกรูด สุดท้ายเขาจึงเซและหงายหลังล้มลงไป

“เหอๆ มีปัญญาแค่นี้จะมาขวางข้าเหรอ ไม่เจียมตัวเอาซะเลย”

เฉินเจียโต๋พูดอย่างได้ใจ

ฉู่จงเทียนโดนหมัดนั้น ทำให้เขาหน้าซีดเผือด เขาพยายามสูดหายใจ แต่เขารู้สึกอึดอัดที่หน้าอกจนรู้สึกหายใจไม่ออก

หลี่โม่ประคองฉู่จงเทียนขึ้นมา ฉู่จงเทียนพูดอย่างรู้สึกผิดว่า “คุณหลี่ ผมไร้ความสามารถ ขอ……”

“นายจะไร้ความสามารถได้ยังไง นายอายุเยอะ เป็นปกติที่จะสู้คนหนุ่มไม่ได้ นั่งดูฉันสั่งสอนมันแทนนายแล้วกัน”

หลี่โม่กดฉู่จงเทียนลงนั่งบนเก้าอี้ เขามองเฉินเจียโต๋ด้วยสีหน้ายิ้มแย้ม “แกไม่อยู่ในไชน่าทาวน์ดีๆ มาที่เมืองฮ่านทำไม หรือแกเป็นสุนัขรับใช้ที่ขายชีวิตให้คนอื่นไปแล้ว”

“ไอ้เวร ทำไมแกพูดกับประธานเฉินแบบนี้ แกนั่นแหละเป็นสุนัขรับใช้ ครอบครัวของแกเป็นสุนัขรับใช้!”

“วันนี้ประธานเฉินจะมาหาเรื่องแก ถ้าแกมีปัญญาก็รับมือกับประธานเฉินให้ได้สิ อย่าทำตัวเป็นเต่าหัวหด”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset