จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 444 หมดกันสี่สิบล้าน

เพื่อให้เลี้ยวโค้งได้อย่างราบรื่น พี่คางตัดสินใจที่จะลดความเร็ว ความเร็วลดลงมาเล็กน้อย รถเบนซ์ครอสคันทรี่วิ่งผ่านหน้า

รถBugatti Veyron ไปอย่างดุดัน

พี่คางยิ้มมุมปากด้วยท่าทีสะใจ “ไปตายเสียเถอะ เชี่ย ยังกล้าใช้ความเร็วขนาดนี้พุ่งเสียบโค้ง ไม่ตายตอนนี้จะตายตอนไหน!”

“พี่คาง พี่พูดว่าอะไรนะ? เกิดอะไรขึ้น?”

มีคนสอบถามมาทางวิทยุสื่อสาร

“ ฉันห่างจากโค้งเสือกระโจนไม่ถึงเจ็ดร้อยเมตร ตัดสินใจลดความเร็วเพื่อที่จะเสียบเข้าโค้ง รถเบนซ์คันนั้นยังคงรักษาความเร็วพุ่งไปข้างหน้าที่สามร้อยหกสิบเจ็ดสิบไมล์ คาดว่าอีกเดี๋ยวก็คงจะเห็นสภาพรถพลิกคว่ำกับตา” พี่คางหัวเราะด้วยความดีใจ

เสียงในวิทยุสื่อสารเงียบไปครู่ใหญ่ จากนั้นก็มีเสียงตอบกลับดังขึ้นกันเซ็งแซ่

“เชี่ย! คนขับรถไอ้โง่นี่มันต้องเมาแน่ ๆ ไม่งั้นไม่มีทางขับรถในสภาพอย่างนี้ได้”

“ทุกคนเร่งความเร็วหน่อย จะรีบไปดูจุดจบของไอ้หน้าโง่นี้ พวกเราจะได้ไปยืนฉี่รดหน้าสมน้ำหน้ามัน”

“พูดได้ดี ถ้าหาก รถมันพลิกคว่ำ ถังน้ำมันก็จะถูกกระแทกระเบิดซึ่งเป็นเรื่องปกติ พวกเราจะได้ไปฉี่รดเพื่อดับไฟให้สะใจ!”

เศรษฐีหนุ่มต่างก็รีบขับรถพุ่งติดตามไป พี่คางใช้ความเร็วจนมาถึงสองร้อยไมล์ สามารถมองเห็นไฟท้ายรถเบนซ์ได้อย่างพอดิบพอดี

มองดูรถเบนซ์ใช้ความเร็วทั้งหมดเพื่อเสียบเข้าโค้ง จากนั้นเห็นไฟท้ายรถเบนซ์เสียบเข้าโค้งด้วยลักษณะประหลาด ผ่านเข้าโค้งเสือกระโจนไปได้ภายใต้แสงไฟสลัว ๆสีเหลืองบนถนน

พี่คางรู้สึกว่าคืนวันนี้ตนเองจะต้องเจอกับผีอย่างแน่นอน เข้าโค้งเสือกระโจนด้วยความเร็วสามร้อยกว่าไมล์ จะเป็นเทพเซียนยังไงก็ไม่มีทางทำได้แน่นอน!

หากมีทักษะการขับรถจริง ๆ ไปแข่งรถ F1เพื่อเป็นราชานักแข่งระดับโลก เข้าแข่งในสนามแข่งย่อยต่าง ๆเพื่อให้ได้แชมป์มาอย่างง่ายดาย จากนั้นก็ได้แชมป์คะแนนสะสมประจำปีอีก สุดท้ายก็จะได้เป็นแชมป์ผู้ยิ่งใหญ่ระดับโลก เงินทอง ชื่อเสียง หญิงสาว มีอย่างพร้อมสรรพ

“แม่งเอ้ย คืนนี้ฉันคงจะไม่ใช่แข่งกับรถแดร็กเรซซิ่งปลอมนะ พวกแกบอกฉันมาหน่อยสิ ฉันกำลังฝันไปหรือเปล่า?” พี่คางแผดเสียงดังด้วยความบ้าคลั่ง

“พี่คาง พี่เป็นบ้าอะไรไป เกิดเรื่องอะไรขึ้น นี่มันไม่ใช่ความฝัน พวกเราทางนี้ก็ปกติดี”

“ใช่ จะเป็นความฝันได้ยังไง สาวสวยที่เส้นชัยกำลังรอพี่อยู่นะ อีกเดี๋ยวคุณก็จะได้พาตัวเธอไปนอนกกอยู่บนเตียง”

“บ้าฉิบ! พี่คาง คงจะไม่ใช่เกิดเรื่องอะไรที่ทำให้พี่ต้องประหลาดใจ”

พี่คางพยักหน้ายังกับเครื่องจักร จิตใจฟุ้งซ่านพูดออกไปว่า “รถเบนซ์คันนั้นเข้าโค้งด้วยความเร็วคงที่ ฉะนั้นออกจากโค้ง โดยไม่ลดความเร็วเลยสักนิด โดยไม่ได้เสียการควบคุมแต่อย่างใดอีกด้วย!”

พี่คางเพิ่งจะพูดจบความ ดวงตาทั้งสองหดเล็กลง มองไปที่รั้วกั้นแบริเออร์ ที่เข้าใกล้ขึ้นทุกทีด้วยความตกใจกลัว

ฉิบหายแล้ว! มัวแต่พูดมาก ลืมหมุนพวงมาลัย สวรรค์จะฆ่าฉันให้ตายเลยเหรอ!

พี่คาง ตะโกนอย่างบ้าคลั่งอยู่ในใจ มือทั้งสองหักหลบพวงมาลัยอย่างแรง

แม้ว่าความเร็วจะลดลงเหลือสองร้อยไมล์ แต่ในเมื่อหักพวงมาลัยหลบอย่างกะทันหัน ก็ทำให้รถBugatti Veyron เสียการควบคุมไปในทันที จนทำให้รถBugatti Veyronหมุนรุนแรงเหมือนกับลูกข่างพุ่งเข้าชนแนวกั้นทางแบริเออร์

ตึ่ง โครม โครม!

หลังพุ่งเข้าชนอย่างจัง รถBugatti Veyron สวยงามคันหนึ่งได้กลายเป็นเศษเหล็ก

พี่คาง โดนแอร์แบคกระแทกเข้าอย่างจังจนสลบไป

หลังจากนั้นไม่นาน รถสปอร์ตจำนวนหนึ่งก็จอดตรงจุดที่เกิดอุบัติเหตุ บรรดาเศรษฐีหนุ่มต่างก็ใช้พลังที่มีอยู่ พยายามเปิดประตูรถ เพื่อดึงตัวพี่คางออกมา

“ยังมีลมหายใจอยู่ บ้าฉิบหาย รถBugatti ของพี่คาง ราคาสี่สิบล้านไม่เหลือชิ้นดีเลย”

“คนยังมีชีวิตรอดก็โอเคแล้ว ไม่รู้ว่าคนขับรถเบนซ์คันนั้น เป็นปีศาจมาจากที่ไหน สามารถขับรถเบนซ์รุ่นG ได้เร็วกว่ารถBugatti ฉันสงสัยว่าคงจะเป็นนักแข่งรถมืออาชีพ หรืออาจจะเป็นนักแข่งรถ F1 เสียด้วยซ้ำ”

“อย่ามัวพูดไร้สาระอยู่ รีบช่วยชีวิตพี่คางก่อน ดูสิว่าสามารถปลุกให้ตื่นไหม ถ้ายังไม่ตื่นก็รีบพาไปส่งโรงพยาบาล บางทีอาจจะเกิดเลือดคั่งในสมอง พวกเราอาจจะซวยกันไปใหญ่”

บรรดาเศรษฐีหนุ่มช่วยกันปลุก เปลือกตาของพี่คางเริ่มขยับ จากนั้นก็ค่อย ๆลืมตาขึ้น

สายตาที่ฝ้ามัวมองไปรอบ พี่คางนึกย้อนไปถึงเหตุการณ์ที่ผ่านมาเมื่อครู่ “ฉัน ฉันไม่เป็นอะไรใช่ไหม ขาของฉันยังอยู่ไหม!”

“แขนขาของพี่ยังอยู่ครบ ดูท่าอาการของพี่คางไม่เป็นอะไรมาก ความปลอดภัยของรถBugatti เจ๋งเหมือนกันนะ”

“งั้นฉันก็วางใจ รีบพยุงฉันขึ้นรถ พวกเราไปตามหารถเบนซ์ จะต้องตามตัวคนขับรถคันนั้นมาให้ได้!” พูดไปด้วยน้ำเสียงไม่ยอมลดราวาศอก

บรรดาเศรษฐีหนุ่มต่างมองหน้ากัน คิดเห็นร่วมกันว่าสมควรตามหารถเบนซ์คันนั้น ควรจะรู้ว่าครั้งนี้แพ้ให้กับผู้ใด

“พี่คาง พี่มานั่งรถผม ถ้าหากรู้สึกไม่สบายอะไรตรงไหนพี่รีบบอกกับผม เรื่องตามหารถเบนซ์คันนั้น เรามีพี่น้องมากมาย ให้พวกเขาไปตามหาก็พอแล้ว”

เศรษฐีหนุ่มคนหนึ่งพยุงพี่คางพาไปนั่งรถของตน จากนั้นรถสปอร์ตแต่ละคันก็สตาร์ทเครื่อง มุ่งหน้าไปทางที่รถเบนซ์วิ่งไป

……

รถเบนซ์จอดนิ่งอยู่ด้านหน้าบ้านหลังหนึ่ง ใบหน้าของหลงเทาซีดเผือด เสื้อผ้าเปียกชื้นด้วยเหงื่อ ดูไปแล้วเปียกปอนเหมือนกับเพิ่งขึ้นมาจากน้ำ

“โอ้แม้เจ้า พี่ใหญ่ พี่ขับรถจนผมตกใจแทบตาย มันน่ากลัวยิ่งกว่าหนังสยองขวัญเสียอีก เมื่อครู่ที่ทางโค้งตรงจุดนั้น ตับไตไส้พุงของผมแทบจะทะลักออกมาทางปาก”

หลงเทาพูดออกมาด้วยความตื่นตระหนก ในใจยังหวาดกลัวสิ่งที่ผ่านมาเมื่อครู่นี้ ยิ่งไปกว่านั้นช่วงที่มองทางกระจกหลังเห็นรถBugatti Veyron เสียการควบคุมในช่วงโค้ง หลงเทายิ่งรู้สึกว่า วิญญาณของตนเองได้ลอยหายไปจากร่าง

หลี่โม่ยิ้มเล็กน้อย ตบไปที่หัวไหล่ของหลงเทาพูดว่า “นายเป็นถึงลูกพี่ใหญ่ ทำไมถึงได้ขวัญอ่อนถึงเพียงนี้”

“ไม่ใช่ว่าผมขวัญอ่อน มันเป็นเหตุการณ์ที่น่าหวาดเสียวมากจริง ๆ ลูกพี่ใหญ่ก็เป็นคน ก็มีช่วงเวลาที่หวาดกลัวเหมือนกัน”

ขณะที่หลงเทากำลังระบายความโศกเศร้าออกมานั้น ประตูบ้านก็เปิดออกมา ชายรูปร่างกำยำมองไปข้างนอกด้วยท่าทีระมัดระวัง

“มีคนมาเปิดประตูแล้ว นำทางไปเถอะ”

หลี่โม่หรี่ตามองแล้วพูด

หลงเทาเช็ดคราบเหงื่อที่อยู่บนหน้า ปลดสายเข็มขัดนิรภัยลงจากรถไปก่อน

ขณะที่ขาทั้งสองข้างของตนเองยืนขึ้น หลงเทารู้สึกว่าขาของตนไม่มีเรี่ยวแรง ตัวเซไปมาเกือบจะล้มลงบนพื้น

หลี่โม่ลงจากรถเดินเข้าไปหาหลงเทา ยื่นมือเข้าพยุงตัวของหลงเทาไว้

“พี่เทา คุณระวังหน่อย ก็บอกแล้วว่าดื่มเหล้ามากเกินไปอย่ามาเลย พี่ก็ยืนกรานที่จะมาให้ได้ ดูสภาพของพี่ตอนนี้สิ พบคุณชายสาม อาจจะดูไม่เป็นการเคารพเขาได้นะ”

หลี่โม่แสร้งทำตัวเป็นลูกสมุนของหลงเทา พูดบ่นพึมพำไป

หลงเทายิ้มเจื่อน ๆ หลี่โม่คอยพยุงตัว เข้าไปด้านในบ้าน

“คุณชายสามมีคำสั่งไม่ใช่เหรอ ถ้าหากถึงเวลาค่ำ ก็จะหมดโอกาสเข้าพบคุณชายสาม ผมจึงรีบขับรถมาอย่างไม่คิดชีวิต”

ประตูใหญ่ของบ้านเปิดออก ชายรูปร่างกำยำที่เปิดประตูหัวเราะและพูดว่า “พวกคุณทั้งสอง เก่งเหมือนกันนะ ไม่ถึงยี่สิบนาที วิ่งมาถึงที่นี่จนได้ ดูแล้วพวกคุณ อยู่ห่างจากที่นี่ไม่ไกลนัก?”

“ห่างกันไกลมาก เจ็ดสิบกว่ากิโลเมตรเชียว หากไม่ใช่ลูกน้องของผมขับรถอย่างกับพายุ พวกเราคงจะมาไม่ทัน วิ่งตามทางโยกเยกไปมาแทบจะอ้วกแตก

หลงเทาแสดงละครได้ดีเยี่ยม หลังจากพูดจบใช้มือพิงกำแพงอาเจียนแห้ง ๆออกมาสองครั้ง เสียงอาเจียนฟังดูแล้วเหมือนกับไส้จะฉีกออกมา

ชายร่างกำยำเดิมทีจะซักถามให้ละเอียด เผยสีหน้าสะอิดสะเอียน จึงพูดด้วยท่าทีโกรธเคืองว่า “รีบจัดแจงตัวเองให้ดีก่อน ห้ามเข้าพบ คุณชายสามด้วยสภาพเช่นนี้”