จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 474 นายเหมาะกับการเป็นลูกกะจ๊อก

เมื่อเห็นลูกน้องยิงกระสุนระเบิดออกไป หลินเจิ้งหนานรีบถามว่า “ระเบิดโดนไอ้เวรหลี่โม่ไหม!”

“ผู้นำตระกูลครับ ดูเหมือนระเบิดจะไม่โดนหลี่โม่ เขาเคลื่อนไหวรวดเร็วเหมือนซูเปอร์แมน เขาเคลื่อนตัวไปหลบหลังกองไม้”

ลูกน้องพูดอย่างอกสั่นขวัญแขวน

เขาเคยเห็นความเร็วที่เร็วกว่ากระต่าย แต่การเคลื่อนไหวของหลี่โม่เมื่อกี้ กลับเร็วยิ่งกว่ากระต่ายมาก เรียกได้ว่าเร็วยิ่งกว่าเสือชีต้า

หลินเจิ้งหนานขมวดคิ้วเป็นปม เขาตวาดออกมาด้วยความโมโห “แล้วพวกแกจะอึ้งอะไรอยู่อีก ยิงไปอีกสิ! บุกเข้าไปเลย พวกแกคนเยอะขนาดนี้ ไม่ได้เรื่องเลยหรือไง! เข้าไปฆ่ามัน!”

พวกลูกน้องลังเลเล็กน้อย ถึงจะต้องเผชิญกับคนที่โกรธจนเลือดขึ้นหน้าอย่างหลินเจิ้งหนาน พวกเขาก็ยังไม่กล้าบุกเข้าไป

เมื่อกี้พวกเขาเห็นได้อย่างชัดเจนว่าหน่วยสืบราชการลับตายยังไง

หน่วยสืบราชการลับโดยปืนไรเฟิลสองกระบอกในมือหลี่โม่กดจนโงหัวไม่ขึ้น พวกเขาไม่มีทางโต้กลับได้เลย

ทุกคนเป็นคนที่ผ่านความโหดเหี้ยมมา รู้ดีว่าหน่วยสืบราชการลับแข็งแกร่งแค่ไหน ถ้าพวกเขาบุกเข้าไปจริงๆ คงจะตายเร็วกว่าพวกหน่วยสืบราชการลับด้วยซ้ำ

“ผู้นำตระกูลครับ ไม่ใช่ว่าพวกเรากลัวตาย แต่ไอ้หมอนั่นไม่ใช่คนที่เราจะรับมือได้ หน่วยสืบราชการลับเก่งขนาดนั้นยังสู้มันไม่ได้เลย พวกเราเข้าไปก็เปล่าประโยชน์”

“ใช่ครับผู้นำตระกูล ผมว่าพวกเราสู้หลี่โม่ไม่ได้เลย สู้เราถอยก่อนดีกว่า ให้คนมีฝีมือจัดการหลี่โม่ ถึงเราจะเป็นตัวรับกระสุน แต่ก็ห้ามเป็นตัวรับกระสุนที่ไร้ความหวาดกลัวนะครับ!”

หลินเจิ้งหนานมองพวกลูกน้องที่จะล่าถอย เขาแค้นจนแทบจะฟันพวกมันทิ้ง

ขณะที่หลินเจิ้งหนานกำลังจะดุด่า เสียงปืนดังขึ้นมาเป็นจังหวะ ตามมาด้วยเสียงร้องโอดครวญ

“ปกป้องผู้นำตระกูล รีบถอย หลี่โม่โจมตีเข้ามาแล้ว!”

“พวกเราจะระวังหลังให้ พวกนายรีบพาผู้นำตระกูลออกไป!”

ลูกน้องที่อยู่ด้านหน้าสุดหาที่หลบ เพื่อที่จะขัดขวางการโจมตีของหลี่โม่

สีหน้าของหลินเจิ้งหนานเต็มไปด้วยความโกรธ ขณะที่เขากำลังจะสั่งให้ลูกน้องโอบล้อมทั้งสี่ด้าน เหล่าลูกน้องแบกหลินเจิ้งหนานขึ้นมาและวิ่งออกไป

“พวกแกจะกบฏเหรอ! ปล่อยฉันลงไป พวกแกไม่กลัวฉันใช้กฎของบ้าน จัดการพวกแกหรือไง!”

หลินเจิ้งหนานตวาดออกมาอย่างไม่พอใจ

“ผู้นำตระกูล กลับไปคุณจะลงโทษผมยังไงก็ได้ แต่ตอนนี้จำเป็นต้องหนี! ไม่งั้นคุณได้ตายในนี้แน่ เมื่อถึงตอนนั้นคุณจะจัดการพวกเรายังไงล่ะครับ!”

“ใช่ครับผู้นำตระกูล คุณอย่าขัดขืนเลย รีบไปกับพวกเราเถอะ เราสู้หลี่โม่ไม่ได้เลย เขาเป็นสุดยอดฝีมือเชียวนะครับ”

เหล่าลูกน้องไม่ฟังคำสั่งของหลินเจิ้งหนาน พวกเขาพาหลินเจิ้งหนานหนีเอาตัวรอด พวกเขาไม่กล้าอยู่ที่นี่แล้ว กลัวว่าถ้าหยุดวิ่งหลี่โม่จะตามทัน

ตอนนี้สำหรับพวกเขา หลี่โม่เหมือนปีศาจในนรก แค่กระดิกนิ้วก็สามารถเอาชีวิตของพวกเขาได้

เหมือนหลี่โม่กำลังเดินเล่นแก้เบื่อในป่า หลังจากที่จัดการกับพวกลูกน้องที่คอยระวังให้หลินเจิ้งหนานเรียบร้อย หลี่โม่ก็เดินตามพวกหลินเจิ้งหนานที่กำลังวิ่งหนีเอาชีวิตรอด

ไม่ว่าหลินเจิ้งหนานจะอยู่หรือตาย มันไม่สำคัญกับหลี่โม่ สิ่งที่สำคัญคือคนที่คอยบงการหน่วยสืบราชการลับ

หลี่โม่กำลังหาร่องรอยของผีรอง คนที่สามารถบงการหน่วยสืบราชการลับของสำนักหลงเหมินได้ น่าจะมีตำแหน่งในสำนักหลงเหมิน หลี่โม่อยากรู้ว่าคนในสำนักหลงเหมินที่ต้องการฆ่าเขาคือใคร

จะเป็นราชินีของสำนักหลงเหมิน

หรือจางเต๋ออู่

หรืออาจจะเป็นหนึ่งในแปดราชาของสำนักหลงเหมิน

ภายในรถสั่งการ หลงหานกวางหนังตากระตุกยิกๆ เสียงปืนข้างนอกหยุดลงแล้ว แต่ไม่มีข่าวดีอะไรเลย สิ่งที่รายงานกลับมา ล้วนทำให้หลงหานกวางรู้สึกว่าท่าจะไม่ดีแล้ว

“ไอผีรอง หน่วยสืบราชการลับของแกทำแผนอะไรกัน นายบอกมาสิว่าจะชนะหลี่โม่ได้ไหม ฉันว่านายพาพวกเรา มาตายชัดๆ!”

“หลงหานกวาง นายขี้ขลาดขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไร เรามีคนตั้งเยอะแยะอยู่ที่นี่ พวกเราร่วมมือกันจะสู้หลี่โม่ไม่ได้เหรอ”

ผีรองหรี่ตาลงแล้วพูดขึ้น

“เหอะๆ นายเชื่อคำพูดของตัวเองไหม”

“ไม่เถียงกับนายแล้ว ก็แค่หลี่โม่คนเดียว รอดูละกันว่าฉันพาพวกหานหัวแข็งไปจัดการหลี่โม่ยังไง”

ผีรองไม่อยากเถียงกับหลงหานกวาง เขาหยิบเครื่องมือสื่อสารขึ้นมาติดต่อหานหัวแข็งและคนอื่น เขาสั่งให้หานหัวแข็งและคนอื่นๆ ล้อมหลี่โม่เอาไว้ทุกทิศ

ถึงหานหัวแข็งกับคนอื่นไม่เต็มใจ แต่ผลประโยชน์จำนวนมากที่ผีรองสัญญาเอาไว้ พวกเขาจึงยอมทำตามคำสั่ง

หานหัวแข็งพาคนมีฝีมือเข้าไปใกล้หลี่โม่ และขวางทางหลี่โม่เอาไว้

“ไอ้หนุ่ม วางปืนลงแล้วเราจะไม่ฆ่าแก”

หานหัวแข็งเอามือเท้าเอวแล้วพูดขึ้น

หลี่โม่หัวเราะแล้วโยนปืนทิ้ง “ฉันวางปืนแล้ว ดูสิว่าพวกแกจะไม่ฆ่าไหม”

“ฮ่าๆๆๆ ไอ้หมอนี่มันบ้าไปแล้วหรือไง คิดไม่ถึงว่าจะวางปืนจริงๆ ฉันเพิ่งเคยเห็นคนโง่แบบนี้เป็นครั้งแรก”

“นี่เรียกว่าผู้รู้สถานการณ์ คือผู้มีสติปัญญาเป็นเลิศ สงสัยไอ้หมอนี่คงรู้ว่าสู้พวกเราไม่ได้ มันเลยทำตัวว่าง่าย อย่างนี้ก็ดี เราจะได้ไม่เหนื่อย”

“ถึงแม้วางปืนแล้วจะไม่ฆ่า ยังไงก็ไม่เอาถึงตาย แต่ก็ต้องได้รับโทษ แกคุกเข่าลงให้พวกเราจัดการซะดีๆ”

หานหัวแข็งและคนอื่นพูดด้วยสีหน้าเยาะเย้ย พวกเขาคิดว่าตอนที่หลี่โม่วางปืน มันน่าขำมาก

หลี่โม่พูดด้วยสีหน้าราบเรียบ “จะต่อยฉันเหรอ งั้นพวกแกก็ต้องพึ่งความสามารถของตัวเอง ถ้าพวกแกมีความสามารถไม่พอ ไม่แน่ฉันอาจจะเป็นฝ่ายต่อยพวกแกก็ได้”

“กล้ามาก! ใกล้ตายแล้วยังจะกล้าปากแข็ง เข้าไปจัดการไอ้เวรนั่นเดี๋ยวนี้”

หานหัวแข็งสะบัดมือแล้วพูดออกมา

ผู้มีฝีมือทำตามสัญญาณของหานหัวแข็ง พวกเขาสะบัดอาวุธไปมาเพื่อทักทายหลี่โม่

แส้เก้าส่วน กระบองสองท่อน มีดสั้น มีดล่าสั้นและอาวุธอื่นๆ ต่างพุ่งเข้าไปหาหลี่โม่

หลี่โม่แสยะยิ้ม เขายื่นมือขวาออกมาจับแส้เก้าส่วนที่พุ่งเข้ามาก่อนเพื่อน จากนั้นเขาใช้แรงสะบัดคนมีฝีมือที่จับแส้เก้าส่วนจนลอยขึ้นมา

“อ๊าก! แกปล่อยนะ!”

ผู้มีฝีมือที่จับแส้เก้าส่วนร้องออกมาอย่างหวาดกลัว เขาโดนหลี่โม่เหวี่ยงในอากาศ เขามองไปรอบๆ อย่างไม่รู้จะทำยังไงดี

“ถ้าแกบอกให้ฉันปล่อยมือ งั้นแกก็ตายซะ!”

หลี่โม่ยิ้มและเหวี่ยงแส้เก้าส่วนในมือหนึ่งรอบ เขาใช้คนมีฝีมือที่ถือแส้เก้าส่วนอยู่ในมือเป็นอาวุธ ในการจัดการพวกคนที่กำลังโอบล้อมเข้ามาจู่โจม

มีหรือที่พวกเขาจะกล้าบุกเข้ามา พวกเขาต่างพากันล่าถอย จู่ๆ การโอบล้อมโจมตีก็โดนทำลาย

หลี่โม่ปล่อยมือ คนที่ถือแส้เก้าส่วนอยู่ในมือกระเด็นออกไป จากนั้นหลี่โม่จึงพุ่งเข้าไปหาหานหัวแข็ง

หานหัวแข็งทำได้เพียงรับมือด้วยความตื่นตระหนก เขาสะบัดมือที่ใหญ่ราวกับพัดใบปาล์มไปหาหลี่โม่ “อย่าอวดเก่ง ข้าจะจัดการแกเอง!”

“เหอะๆ แกเป็นลูกกะจ๊อกน่าจะดีกว่า มันเหมาะกับพละกำลังของแก”

หลี่โม่พูดอย่างไม่เกรงใจ เขาเคลื่อนไหวมืออย่างรวดเร็ว หมัดขวากระแทกไปบนฝ่ามือของหานหัวแข็ง จากนั้นก็ต่อยไปที่หัวของหานหัวแข็งจนเซถอยหลัง

Comment

Options

not work with dark mode
Reset