ชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุตกตะลึงในเงินเดิมพันของคางเหวินซิงจริง ๆ นั่นเงินสองพันล้านเชียวนะ! ไม่ใช่สองล้าน สองพันล้านนะ!
สถานการณ์ในตอนนี้ เดิมพันฝ่ายหลี่โม่ชนะด้วยเงินสองพันล้าน ต้องเป็นคนบ้าแน่นอนที่ทำเรื่องอย่างนี้ได้
แต่คนที่อยู่ตรงหน้าท่านนี้ กลับพูดออกมาว่าจะเดิมพันสองพันล้าน ใช้เงินเป็นเบี้ยจริง ๆ
คางเหวินซิงชายตาดูชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุ แล้วพูดว่า: “ผมจะเดิมพันเท่าไหร่ เกี่ยวอะไรกับคุณล่ะ ?”
“ฮ่า ฮ่า ผมทนไม่ได้ที่จะเห็นเงินของคุณสูญเปล่า หากคุณมีเงินมาก มิสู้เอาเงินเดิมพันสองพันล้านแทงกับผมก็ได้นะ ยังไงเสียคุณก็ไม่ชนะอยู่แล้ว แทนที่จะให้เจ้ามือการพนันได้ผลประโยชน์ มิสู้ให้ผมได้ผลประโยชน์ไม่ดีกว่าเหรอ”
ชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุคิดว่าเป็นเรื่องที่ไม่เลว
“ให้คุณได้ผลประโยชน์เหรอ? ถือสิทธิ์อะไร? ผมวางเงินเดิมพันสองพันล้านกับคุณ อัตราการต่อรอง 1ต่อ16 คุณจ่ายไหวเหรอ?”
“แน่นอนว่าผมไม่สามารถจ่ายสามแสนสองพันล้านได้ แต่หลี่โม่เขาไม่มีทางจะชนะได้หรอก”
ชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุพูดอย่างมั่นใจ
“อาจารย์ผมต้องชนะแน่นอน ไม่เชื่อคุณคอยดูให้ดีแล้วกัน”
คางเหวินซิงพูดจบก็หยิบบัตรธนาคารออกมา เพื่อให้พนักงานรูดเงินเดิมพัน
ชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุตกตะลึงไปพักใหญ่ รอจนคางเหวินซิงจ่ายเงินเดิมพันเสร็จ ชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุเขยิบเข้าไปนั่งข้าง ๆคางเหวินซิง
“เฮ้ หลี่โม่เป็นอาจารย์คุณเหรอ? ในสนามประลองครั้งก่อนเดิมพันหลี่โม่ชนะ แล้วได้เงินเดิมพันไปพันล้านเป็นคุณใช่ไหม!”
มองเห็นแววตาแปลกใจของชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุ ในใจของคางเหวินซิงเต็มเปี่ยมไปด้วยความภาคภูมิใจ
“ฮ่า ฮ่า เป็นผมเอง ครั้งนี้ก็ชนะเหมือนเดิม คุณคอยดูให้ดีเถอะ”
ชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุ หัวเราะคำโตถึงสองครั้ง: “ฮ่า ฮ่า พ่อหนุ่ม มักเชื่อมั่นอะไรง่าย ๆ เดินอยู่ริมแม่น้ำรองเท้าจะไม่เปียกได้เหรอ? คราวที่แล้วนับว่าหลี่โม่โชคดี แต่ครั้งนี้ไม่เหมือนกัน คางเฝยเอ่อลงสนามอย่างเหนือชั้น คุณไม่เห็นเหรอ?”
“เห็นแล้ว แต่ว่าเขายังคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของอาจารย์ผมอยู่ดี”
คางเหวินซิงพูดย้ำอย่างหนักแน่น
“งั้นคอยดูเถอะ คุณไม่มีทางชนะเงินพนันสามแสนสองพันล้านแน่นอน ไม่เชื่อก็คอยดูแล้วกัน”
ชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุเก็บความอิจฉาริษยาไว้ในใจ สาปแช่งให้หลี่โม่พ่ายแพ้อยู่ในใจ
คางเหวินซิงยิ้มมุมปาก เก็บความสงบนิ่งในใจ มองไปบนเวทีประลอง
บนเวทีประลอง ผู้ดำเนินรายการลงจากเวทีอย่างรวดเร็ว เหลือเพียงหลี่โม่และคางเฝยเอ่อสองคน
คางเฝยเอ่อวอร์มอัพร่างกายเล็กน้อย เสียงกระดูกส่วนคอดังกร๊อบแกรบ ดังสนั่นราวกับเสียงฟ้าร้อง ทำให้คนทั่งทั้งสนามต่างได้ยินอย่างชัดเจน
“พ่อหนุ่ม ได้ยินว่าสองวันมานี้แกหยิ่งผยองมากนะ วันนี้เป็นวันตายของแกแล้ว “
คางเฝยเอ่อพูดด้วยสีหน้าถมึงทึงดุดัน
“คนที่ตายเป็นแกมากกว่า เข้ามาสิ “
หลี่โม่กวักมือเรียกให้เข้ามา
“รนหาที่ตาย!”
คางเฝยเอ่อเดือดดาลอย่างมาก แผดเสียงพุ่งเข้าใส่หลี่โม่ทันที
หลี่โม่หรี่ตาเล็กน้อย ความเร็วที่พุ่งเข้ามาของคางเฝยเอ่อ ทำให้หลี่โม่ประหลาดใจอยู่บ้าง
คางเฝยเอ่อไม่ควรมีความเร็วขนาดนี้ หรือจะพูดว่าความเร็วนี้ไม่ใช่ความเร็วของคางเฝยเอ่อก่อนหน้านี้แน่นอน
ชั่วพริบตาหลี่โม่ก็เข้าใจในทันที คางเฝยเอ่อต้องใช้ยาประเภทที่เสริมความแข็งแกร่ง ไม่งั้นเขาคงไม่เปลี่ยนไปเหมือนเช่นตอนนี้
คางเฝยเอ่อมองหลี่โม่ด้วยแววตาเหยียดหยาม รู้สึกว่าหลี่โม่กำลังตกตะลึงในความเร็วของตนเอง
“ฮ่า ฮ่า ฉันใช้ความเร็วเพียงแค่สามส่วน แกตกใจมากใช่มั้ย หนุ่มน้อย!”
ขณะที่กำลังพูด คางเฝยเอ่อซัดแขนขวาอย่างรวดเร็ว กำปั้นมีเสียงลมดังวี้ด ความเร็วยิ่งเร็วขึ้นเหมือนดั่งภูตผีปีศาจ เพียงพริบตาเดียว กำปั้นกำลังพุ่งไปที่แก้มของหลี่โม่
หลี่โม่บิดเอวเอี้ยวตัวไปด้านหลัง หลบหลีกจากการโจมตีอย่างรวดเร็วของคางเฝยเอ่อ จนผ่านช่วงวิกฤติมาได้
จากนั้นขาซ้ายของคางเฝยเอ่อซัดไปที่ส่วนล่างของหลี่โม่ เป็นการโจมตีแบบต่อเนื่อง
หลี่โม่ที่เอี้ยวตัวหลบฉาก สูดหายใจลึก ๆ ออกแรงที่เอวอย่างดุดัน ตามด้วยการใช้วิชาตัวเบาเหินขึ้นไป
ร่างของหลี่โม่ลอยขึ้นกลางอากาศโดย โดยใช้กำลังขาทั้งสองข้าง ตามด้วยเตะไปที่หน้าอกของคางเฝยเอ่อ
คางเฝยเอ่อประหลาดใจที่หลี่โม่ใช้กระบวนท่าแบบนี้ตอบโต้ จนทำให้เสียสมาธิ เท้าของหลี่โม่ก็ได้เตะเข้ามาถึงแล้ว ซึ่งความเร็วอยู่ในระดับที่ใกล้เคียงกับคางเฝยเอ่อ
คางเฝยเอ่อ ขมวดคิ้วเล็กน้อย ใช้แขนทั้งคู่ไขว้ที่ด้านหน้าเพื่อป้องกัน คิดจะใช้กระบวนท่านี้รับแรงปะทะของหลี่โม่ เพื่อทดสอบดูว่าหลี่โม่มีฝีมือถึงขั้นไหน
เพียะ เพียะ!
หลังจากขาทั้งคู่ของหลี่โม่เตะอย่างต่อเนื่อง จากนั้นหมุนตัว 720องศากลางอากาศ ลงมายืนบนพื้นอย่างมั่นคง
และคางเฝยเอ่อที่รับแรงเตะของหลี่โม่สองครั้งติด ๆ กัน โดนพลังที่แข็งแกร่ง ผลักให้ถอยหลังไปสามก้าวอย่างต่อเนื่อง
ทั้งสองคนใครเก่งกว่าใคร ตัดสินได้ในตอนนี้ หลี่โม่ที่ลอยอยู่กลางอากาศไม่สามารถใช้พลังจากที่ใด ๆได้ ทั้งหมดล้วนมาจากพละกำลังของตัวเองทั้งสิ้น และสามารถทำให้ คางเฝยเอ่อถอยหลังอย่างต่อเนื่อง พละกำลังและความแข็งแกร่งย่อมเหนือกว่าคางเฝยเอ่ออยู่หนึ่งขั้น
คางเฝยเอ่อกลับมายืนอย่างมั่นคง มีสีหน้าเจ็บใจเล็กน้อย รู้สึกอัปยศใจที่ตนเองถูกหลี่โม่เตะจนถอยหลัง
“สารเลว! ฉันยังไม่ได้ใช้พลังทั้งหมด แกรับกระบวนท่าของฉันหน่อยเถอะ!”
คางเฝยเอ่อแผดเสียงคำราม ขยับร่างกายพุ่งเข้าไปหาหลี่โม่อีกครั้ง
ผู้ชมด้านล่างเวทีต่างเงียบกริบ พวกเขาส่วนใหญ่เดิมพันฝ่ายคางเฝยเอ่อเกือบทั้งหมด นี่ถ้าคางเฝยเอ่อแพ้ พวกเขาต้องเสียเงินไปมากแน่ ๆ
แต่นี่คือการปะทะกันครั้งแรก ระหว่างหลี่โม่กับคางเฝยเอ่อ ทำให้บรรดาผู้ชมยังคงเฝ้าดูอย่างใจเย็น
เดิมทีรู้สึกว่าคางเฝยเอ่อสามารถบดขยี้หลี่โม่ได้ในทันที แต่ตอนนี้ หลี่โม่ไม่เพียงแต่เทียบชั้นกับคางเฝยเอ่อได้ อีกทั้งยังเหนือกว่าอีกเล็กน้อย
“สมควรตาย! หลี่โม่คนนี้เป็นตัวอะไรเนี่ย? เขามาจากไหนกันแน่วะ!”
“ทำไมฉันกังวลใจจัง คางเฝยเอ่อโม้ว่าตนเองเก่งกาจเสียขนาดนั้น ทำไมตอนนี้ดูเหมือนของปลอมล่ะ!”
“เชี่ย! คงไม่ใช่พวกเจ้ามือการพนัน เห็นพวกเราเป็นแมงเม่า ฉันรู้สึกว่าทั้งหมดนี้พวกเขาวางแผนไว้แล้ว!”
บรรดาผู้ชมต่างก็เริ่มตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับข้อเท็จจริงในการแข่งขัน มองยังไงหลี่โม่ก็ไม่น่าจะเหนือกว่า
คางเหวินซิงดีใจจนออกนอกหน้า เงยหน้าขึ้นมองชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุ แล้วพูดว่า: “เมื่อครู่คุณพูดอะไรนะ?ตอนนี้พูดให้ผมฟังอีกครั้งซิ”
หน้าผากชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุ มีเส้นเลือดปูดขึ้น ใบหน้าแดงก่ำ พูดด้วยน้ำเสียงโกรธเคืองว่า: “จะรีบร้อนอะไร การแข่งขันเพิ่งจะเริ่มต้น คางเฝยเอ่อแค่ทดสอบการโจมตีเท่านั้น ผมมองออกว่า อาจารย์ของคุณได้ใช้พลังฟ้าดินขั้นสุดไปแล้ว อีกเดี๋ยวจะต้องแพ้แน่นอน!”
“ฮ่า ฮ่า ก็ได้ งั้นผมจะรอดู แล้วจะให้คุณพูดอีกครั้ง”
คางเหวินซิงพูดอย่างร่าเริง
ชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุ เริ่มท่องคาถาเพื่อสาปแช่งหลี่โม่ให้แพ้อยู่เงียบ ๆ
หลี่โม่สมควรไปตาย รีบแพ้เสียเถอะ! หากคุณไม่แพ้ในการแข่งขันครั้งนี้ ต้องถูกโจมตีจากห้าอสนีบาต!
น่าเสียดายที่คำพูดของชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุ ไม่มีเทวดาองค์ไหนได้ยิน
บนเวทีประลอง คางเฝยเอ่อเริ่มการโจมตีครั้งที่สอง ในครั้งนี้คางเฝยเอ่อไม่คิดออมมือ โจมตีหลี่โม่ด้วยพลังทั้งหมดอย่างสุดกำลัง
“ตายเสียเถอะ!”
คางเฝยเอ่อรัวหมัดทั้งสองอย่างรวดเร็ว ปรากฏเป็นเงามือที่ซัดออกไปกลางอากาศ ชั่วพริบตาเดียวโจมตีหลี่โม่ไปกว่าร้อยหมัด
เห็นคางเฝยเอ่อกลับมาเหมือนดั่งราชาดาวเด่น ใช้กระบวนท่าระเบิดพลังนี้ออกมา บรรดาผู้ชมที่สงสัยในตัวของคางเฝยเอ่อเมื่อครู่ ต่างก็ส่งเสียงเชียร์ขึ้นมาในทันที
