ในห้องตรวจสอบ สีหน้าของทอมป์สันและแคลตี้แข็งทื่อในทันที รอยยิ้มและความตื่นเต้นทั้งหมดหยุดนิ่งอยู่บนใบหน้า
“Fuck! ใช้คำพูดของพวกเขา เป็นเชี่ยอะไร แมร่งมัน! คางเฝยเอ่อทำไมถึงสวะได้ขนาดนี้! หลี่โม่ทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้!”
ทอมป์สันสบถด่าเสียงดังสองครั้ง ยกเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้างกระแทกใส่หน้าจอมอนิเตอร์อย่างรุนแรง
โครม!
แรงกระแทกทำให้หน้าจอมอนิเตอร์แตกละเอียด ทอมป์สันยังคงรู้สึกไม่สบอารมณ์ ขว้างเก้าอี้ไปที่เครื่องกดน้ำด้านข้างอีก ทำให้เครื่องกดน้ำพังกระจัดกระจาย
“ฉันไม่เข้าใจว่าเรื่องมันเป็นอย่างนี้ได้ยังไง หลี่โม่แข็งแกร่งเกินความคาดหมายจริง ๆ ฉันว่าภาระกิจที่Boss มอบหมายให้พวกเรา คงทำไม่สำเร็จแล้วล่ะ”
แคลตี้พูดด้วยสีหน้าหดหู่
“จำเป็นต้องทำให้สำเร็จ หากทำไม่สำเร็จ พวกเรายังกลับไม่ได้ ไม่เพียงแต่พวกเราไม่ต้องกลับ หากครบกำหนดตามเวลา ครอบครัวของคุณ! ครอบครัวของผม! แมร่งต้องตายกันทั้งหมด!”
ทอมป์สันยิ่งพูดยิ่งหงุดหงิด สองมือดึงไปที่เส้นผม เหมือนกับว่าหากดึงเส้นผมตนเองจนหัวโล้นแล้ว จะสามารถแก้ไขปัญหาที่อยู่ตรงหน้าได้
“นายท่าน ฉันรู้สึกว่าพวกเราควรจะรายงานให้กับเบื้องบนทราบ เหตุการณ์ตรงหน้าเป็นเหตุการณ์ที่พวกเราไม่สามารถจัดการได้ ฉันคิดว่า ไม่ว่าBoss จะส่งใครมาทำภารกิจ ไม่มีใครสามารถทำสำเร็จได้หรอก”
“ไม่! ฉันรู้สึกว่าพวกเราต้องลองอีกสักครั้ง ถ้าครั้งนี้รายงานไปแล้ว จะส่งผลกระทบต่ออนาคตของพวกเรา อนาคต!คุณเข้าใจไหม?”
แคลตี้แบะปากเล็กน้อย แม้จะรู้สึกว่าอนาคตสำคัญ แต่ครั้งนี้เห็นได้ชัดว่าหลี่โม่เป็นตัวอันตราย สามารถเอาชีวิตพวกเขาได้ตลอดเวลา
เมื่อเทียบกับชีวิตน้อย ๆ แล้ว อนาคตก็เป็นแค่ลมตด !
“โอเคนายท่าน ทุกอย่างล้วนฟังคำสั่งท่าน”
แคลตี้ไม่คิดโต้แย้งอีก
ทอมป์สันหลับตาแล้วพูดด้วยน้ำเสียงขึงขังว่า: “ตรวจสอบคนที่วางเงินเดิมพันสองพันล้านคนนั้น มีความสัมพันธ์กับหลี่โม่หรือเปล่า?”
“ยืนยันแล้วว่า พวกเขามาด้วยกัน “
“ดีมาก รอจนถึงตอนที่มารับเงินเดิมพัน สมรู้ร่วมคิดสร้างความวุ่นวาย เตรียมคนใช้อุปกรณ์เก็บตัวอย่างเลือดแบบเร่งด่วน ดูว่าจะสามารถใช้โอกาสนี้เก็บเลือดของหลี่โม่ได้ไหม”
แคลตี้ลังเลอยู่พักหนึ่ง จากนั้นก็ยังตัดสินใจทำตามที่ทอมป์สันวางแผนไว้
“Ok นายท่าน ฉันก็จะไปเตรียมการ แต่ว่าทำอย่างนี้พวกเราอาจจะถูกเปิดเผยตัวตนได้”
“เปิดเผยบ้าอะไร คุณไปเตรียมให้พร้อม พวกเราก็ถอนกำลังออกจากที่นี่ก่อน ยังไงการแข่งมวยดำได้สิ้นสุดแล้ว ไม่จำเป็นต้องใช้อุปกรณ์ไร้ประโยชน์พวกนี้”
แคลตี้พยักหน้าเล็กน้อย ลุกขึ้นออกจากห้องตรวจสอบ
……
ในขณะนั้นบรรดาผู้ชมที่อยู่ด้านล่างเวทีประลอง ต่างก็ตกตะลึงมองคางเฝยเอ่อที่นอนแน่นิ่งอยู่บนเวที
เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงอย่างกะทันหัน เมื่อครู่บรรดาผู้ชมยังส่งเสียงเชียร์เฉลิมฉลองในชัยชนะที่กำลังจะได้รับ แต่ในตอนนี้ทั้งหมด เป็นเหมือนถูกฟ้าผ่าลงมาที่กลางหัว สมองเปลี่ยนเป็นความว่างเปล่า
ในบรรดาผู้ชมทั้งหมด เฉินเสี่ยวถงดึงสติกลับมาได้เป็นคนแรก เฉินเสี่ยวถงส่งเสียงด้วยความตื่นเต้นว่า: “ชนะแล้ว !พี่หลี่โม่ชนะแล้ว!”
หลังจากส่งเสียงเชียร์ออกไป เฉินเสี่ยวถงลุกขึ้นยืนและออกแรงผลักคางเหวินซิงที่ยังคงตะลึง
“ยังยืนตะลึงทำอะไรอยู่? รีบไปแลกเงินสิ! จากนั้นก็ไปหาพี่หลี่โม่”
“อ๋อ อ๋อ ใช่ ใช่!”
คางเหวินซิงดึงสติกลับมา มองชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุที่อยู่ข้างๆ อย่างอารมณ์ดี
“ฮ่า ฮ่า จำคำพูดที่คุณพูดเมื่อครู่นี้ได้ไหม รู้สึกว่าใบหน้าปวดแสบปวดร้อนบ้างหรือเปล่า? คุณเป็นพวกกบในกะลา ไม่รู้ถึงความร้ายกาจของอาจารย์ผม!”
ชายวัยกลางคนร่างอ้วนฉุซึ่งมีท่าทางหงุดหงิดใจ พูดด้วยท่าทีหดหู่เศร้าสร้อยว่า: “ทำไมเขาถึงร้ายกาจขนาดนั้น! ฉันเอาเงินเก็บของภรรยาทั้งหมดไปเดิมพัน เดิมพันฝ่ายคางเฝยเอ่อชนะด้วย! หลี่โม่ชนะได้ยังไง!”
คางเหวินซิงหัวเราะด้วยความสะใจ เดินตามเฉินเสี่ยวถงไปที่โต๊ะแลกเงิน เพื่อแลกเงินเดิมพันเมื่อครู่นี้
ผู้ชมส่วนที่เหลือต่างก็ฟื้นคืนสติ แต่ละคนต่างก็ถอนหายใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งบางคนที่ลงเงินเดิมพันไปหนัก ทุบหัวของตัวเองไม่หยุด
“ทำไมฉันจึงโง่อย่างนี้! น่าจะเดิมพันมวยรอง! ถ้าเดิมพันฝ่ายหลี่โม่ชนะก็จะดี! นั้นอัตราเดิมพัน 1ต่อ16 เชียวนะ!”
“ลงเดิมพันฝ่ายหลี่โม่ชนะจริง ๆ ต้องร่ำรวยมั่งคั่งกันคราวนี้ล่ะ! น่าเสียดาย พลาดโอกาสดี ๆที่สวรรค์ประทานให้!”
“หากสวรรค์ให้โอกาสฉันอีกครั้งก็ดีสิ ฉันจะต้องเดิมพันฝ่ายหลี่โม่ชนะแน่ ๆ! จะขายบ้านภรรยาแล้วเอาเงินมาลงเดิมพันฝ่ายหลี่โม่ชนะให้หมดเลย!”
ขณะที่บรรดาผู้ชมกำลังเสียใจอยู่นั้น ผู้ดำเนินรายการขึ้นไปบนเวทีประลอง
“การประลองที่น่าตื่นเต้นได้ปิดฉากลงแล้ว เดิมทีควรถึงช่วงเวลาการมอบเข็มขัดทองคำ แต่ว่าผู้ชนะการประลองครั้งนี้ของพวกเราหลี่โม่ ปฏิเสธที่จะรับเข็มขัดทองคำ ด้วยเหตุนี้เราขอแสดงความเสียใจกับทุกท่าน งานแข่งมวยดำสากลครั้งนี้ได้สิ้นสุดอย่างเป็นทางการเพียงเท่านี้!”
เสียงของผู้ดำเนินรายการจบลง งานแข่งมวยดำสากลครั้งนี้ได้ประกาศเสร็จสิ้นอย่างสมบูรณ์
หลี่โม่กำลังเปลี่ยนเสื้ออยู่ในห้องแต่งตัว ขณะที่กำลังเดินออกจากประตู ฉู่จงเทียนได้ยืนรออยู่ที่หน้าประตูแล้ว
“คุณหลี่ การประลองของคนดุเดือดเหลือเกิน ในวินาทีสุดท้ายสุดยอดจริง ๆ ผมไม่คาดคิดเลย ตอนนั้นผมคิดว่าคุณแพ้ไปแล้ว”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า คุณฉู่ ขอบใจมากที่คุณเป็นห่วงผม เอาล่ะ การประลองสิ้นสุดแล้ว ผมต้องกลับแล้วล่ะ”
“ผมไปส่งคุณ “
ฉู่จงเทียนเดินตามหลังหลี่โม่ราวกับสุนัขเชื่อง ๆ
ทั้งสองคนเดินตามกันออกประตูด้านข้างโรงฝึกการต่อสู้ ขณะที่หลี่โม่กำลังจะเดินไปทางรถเบนซ์ของคางเหวินซิง ก็มีเสียงโทรศัพท์มือถือดังขึ้น
“ฮัลโหล เสี่ยวถง เกิดอะไรขึ้น?”
“พี่หลี่โม่ พวกเขารังแกคน พวกเราต้องการแลกเงินเดิมพัน แต่พวกเขาทำให้เป็นเรื่องยุ่งยาก ก็คือไม่อยากให้เงินเดิมพันผมตอนนี้” เฉินเสี่ยวถงพูดด้วยความโกรธ
คิ้วหลี่โม่กระตุก คิดไม่ถึงว่าเจ้ามือการพนันของงานแข่งมวยดำสากลจะทำเรื่องที่ไร้ยางอายแบบนี้
“พวกคุณรอเดี๋ยว ผมกำลังจะไปหา”
“ตกลง พวกเราจะรอคุณ คุณจะต้องสั่งสอนพวกเขานะ!”
หลี่โม่ยิ้มแล้วตัดสายโทรศัพท์ พูดกับฉู่จงเทียนว่า: “เจ้ามือการพนันของงานแข่งมวยดำสากล ขี้โกงหรือเปล่า?”
“คงไม่มีหรอก ตามหลักการแล้วเจ้ามือการพนันของงานแข่งมวยดำสากลประเภทนี้รักษาสัญญาน่าเชื่อถือ ไม่โกงเงินเดิมพันหรอก? งั้นผมไปกับคุณด้วย เพื่อนของคุณลงเงินเดิมพันไปเท่าไหร่ล่ะ”
ฉู่จงเทียนถามอย่างไม่ตั้งใจ
“ไม่มากสักเท่าไหร่หรอก น่าจะสองพันล้าน”
สีหน้าหลี่โม่สงบนิ่ง
ตาฉู่จงเทียนกระตุกอย่างรุนแรง แก้มยิ่งกระตุกรุนแรงถึงสองครั้ง
“สอง สองพันล้าน? พระเจ้าของฉัน มิน่าถึงได้เกิดเรื่องแบบนี้ อัตราการต่อรอง 1ต่อ16 เท่า แทงสองพันล้านก็ต้องจ่ายค่าตอบแทน สามแสนสองหมื่นล้าน ครั้งนี้เจ้ามือการพนันคงต้องกระอักเป็นเลือดสามลิตรแน่ ๆ”
ฉู่จงเทียนรู้สึกว่าหลี่โม่ทำครั้งนี้โหดเกินไปหน่อย หากตนเองเป็นเจ้ามือการพนัน เป็นไปได้สูงที่จะต้องบ่ายเบี่ยงจ่ายเงินเดิมพันแน่
“การประลองเวทีนี้ เงินพนันในสนามประลองบวกกับเงินพนันออนไลน์ ประเมินว่าเจ้ามือการพนันคงจะได้เงินสดไปประมาณสามแสนสี่หมื่นหนึ่งพันล้าน คุณทำครั้งนี้นับได้ว่าตัดส่วนแบ่งของเจ้ามือการพนันมากเลยนะ”
“ฮ่า ฮ่า ฮ่า รายได้ต้องแบ่งกันไม่ใช่เหรอ กล้าใช้ตัวผมเพื่อเปิดวงเดิมพัน นั้นก็ต้องเตรียมตัวเตรียมใจที่จะถูกเก็บเกี่ยวผลประโยชน์” หลี่โม่พูดด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยความขบขัน
