จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 52 นายมีเรื่องปิดบังฉัน

บทที่ 52 นายมีเรื่องปิดบังฉัน

เสียงดุนี้ทำให้ลูกค้าในกวนเหลินกังและพนักงานหันมามองกันหมด

เห็นเพียงอู๋เต้าเหวินนั้นลงมาจากชั้นบนอย่างร้อนรน เห็นว่ากู้ชิงหลินพาพรรคพวกใช้คำพูดที่แย่แบบนั้นขู่หลี่โม่ ในใจนั้นโมโหมาก

นี่เป็นแขกพิเศษของเถ้าแก่เชียวนะ!

ต้องดูแลบริการและใส่ใจอย่างดี

คนพวกนี้ ทำไมถึงกล้าทำอย่างนี้?!

“ผู้…..ผู้จัดการอู๋”พนักงานทั้งหลายรีบยืนอย่างสงบอยู่ด้านข้าง

อีกด้าน

อู๋เต้าเหวินก็เดินมาด้วยใบหน้าเย็นชา ใช้สายตามองขึ้นลงไปที่คนอวดดีอย่างกู้ชิงหลิน แล้วหันไปพูดอย่างเคารพกับหลี่โม่ “คุณหลี่ คุณไม่ได้บาดเจ็บอะไรใช่มั้ย?”

คุณหลี่?

ภาพที่อู๋เต้าเหวินนั้นเคารพหลี่โม่เป็นอย่างมาก แน่นอนว่าทำให้ห้องโถงนั้นเกิดความโกลาหลไม่น้อย!

กู้ชิงหลินตอนนี้เหมือนกับแมวที่ขนชี้ฟู ใบหน้าเต็มไปด้วยคำว่าไม่น่าเชื่อ

มันเนี่ยนะ?คุณหลี่?

เล่นตลกอะไรอยู่!

“เฮ้ย แกเป็นใคร ฉันคุยกับลูกเขยไร้ประโยชน์ในตระกูลของฉันยังไงแล้วจะทำไม?แกนับว่าเป็นตัวอะไรถึงได้กล้ามาดุฉัน?”

นิสัยคุณหนูของกู้ชิงหลินเผยออกมา ไม่พอใจอย่างมาก ชายวัยกลางคนตรงหน้านี้เป็นคนโง่รึไง?

ถึงได้เคารพหลี่โม่ที่ไร้ประโยชน์แบบนี้ ตลก!

แต่ว่า เมื่อเธอเพิ่งพูดจบ คนรอบตัวตกใจมองเธอ และยังมองเธอด้วยความเกรงกลัว

เกิดอะไรขึ้น?

กู้ชิงหลินเองก็มึนงง?หน้าตาของตัวเธอน่ากลัวมากเลย?

ในตอนนี้ มีสาวสวยลูกคนรวยคนหนึ่งที่อยู่ข้างหลังเธอรีบกระโดดขึ้นมา ดึงแขนของเธอแล้วพูดเสียงเบาว่า “ชิงหลิน เธอบ้าไปแล้วหรอ เขาเป็นผู้จัดการใหญ่ของกวนเหลินกัง อู๋เต้าเหวิน!”

อู๋เต้าเหวิน?

กู้ชิงหลินตัวสั่น สายตามองไปที่ตัวอู๋เต้าเหวิน แล้วก็รู้สึกถึงสถานการณ์ไม่ดีขึ้นมาทันที

ที่แท้ก็เป็นผู้จัดการใหญ่ของกวนเหลินกัง!

อู๋เต้าเหวิน ในนามนั้นเป็นผู้จัดการใหญ่ของกวนเหลินกัง มีชื่อเสียงในวงการแห่งการดื่มของเมืองฮ่าน

แต่ว่าอีกตัวตนหนึ่งของเขา นั้นมีคนรู้ไม่มากนั่นคือหนึ่งในสี่ของบุคคลใหญ่ในเมืองฮ่าน เฮียอู๋!

คนแบบนี้ ทำธุรกิจบริสุทธิ์ ทำงานอย่างถ่อมตน ปรากฏตัวต่อหน้าผู้คนน้อยมาก ถ้าไม่ใช่งานสำคัญ ปกติก็จะไม่ไปเอง

ดังนั้น อีกตัวตนหนึ่งของอู๋เต้าเหวินนั้นมีคนรู้ไม่มาก แต่คนที่รู้ ส่วนมากก็ไม่ใช่คนธรรมดา

เห็นได้ชัดว่ากู้ชิงหลินก็ไม่รู้

ในตอนนี้เธอยังมองอู๋เต้าเหวินขึ้นลงหัวจรดเท้า ถึงแม้ในใจจะตกใจบ้าง แต่ก็ไม่ถึงขั้นกลัว

ก็เป็นเพียงแค่ผู้จัดการของร้านอาหารหนึ่งเท่านั้นแหละ ไม่นับว่าเป็นอะไรสักหน่อย

เพราะฉะนั้น

ในตอนนี้อู๋เต้าเหวินหันกลับมา มองกู้ชิงหลินด้วยใบหน้าเย็นชา จับดึงชุดสูทของตัวเองแล้วพูด “อยู่ในร้านอาหารของฉันแล้วกล้าดูถูกลูกค้าคนพิเศษของฉัน เธอเป็นคนแรก!”

ประโยคนี้แอบแฝงคำขู่ไว้

คนดูรอบตัว ได้ยินประโยคนี้ ในใจก็ถึงกับสั่น

แต่ว่าผู้หญิงอย่างกู้ชิงหลินนั้นใจกล้า นิสัยก็เสีย และยังถูกเลี้ยงดูมาอย่างลูกคุณหนู แน่นอนว่าเป็นโรคเอาแต่ใจ แล้วพูดอย่างตำหนิ “ทำไม ผู้จัดการร้านอาหารเล็กๆอย่างนาย มีอะไรดี? มีตาไว้ทำไม ไก่อ่อนที่อยู่ด้านหลังนาย นับว่าเป็นลูกค้าพิเศษ? อย่ามาตลก เขาก็เป็นแค่เพียงหมาที่บ้านฉันเลี้ยงไว้ หมาขอทานตัวหนึ่ง พวกฉันถึงจะเป็นแขกพิเศษของนาย พวกฉันลงมาจากสวนลอยฟ้าทั้งนั้น หรือนายจะมีปัญหากับพวกฉันเพราะเจ้าโง่คนนั้น?”

กู้ชิงหลินยักคิ้วอวดดี กอดอกไว้

แต่ว่า เพื่อนๆที่อยู่ข้างหลังของเธอต่างก็ถอยหลังห่างไป

“ชิงหลิน อย่าพูดมาก รีบมานี่มา”

ผู้ชายหนึ่งเดียวในนั้น ตอนนี้ส่งสายตาห้ามกู้ชิงหลินไม่หยุด

เขารู้จักอู๋เต้าเหวิน รู้จักอีกตัวตนของอู๋เต้าเหวินเป็นอย่างดี แต่เขาไม่กล้าพูดออกมา เพราะว่าอู๋เต้าเหวินกำลังจ้องมาที่เขา

ความหมายของสายตานั่นก็คือ ห้ามพูดมาก!

กู้ชิงหลินหัวเราะแล้วพูด “พวกเธอเป็นอะไร กลัวอะไร ฉันไม่เชื่อว่า ผู้จัดการกวนเหลินกังจะกล้าลงไม้ลงมือกับฉันเพื่อคนไร้ประโยชน์อย่างนั้น”

พูดจบ เธอยื่นหน้าไปด้วยความเยาะเย้ย มองไปที่อู๋เต้าเหวินหนึ่งที แล้วก็เดินไปตรงหน้าหลี่โม่แล้วด่า “หลี่โม่ นายถือเป็นตัวอะไรห๊ะ?นายมีสิทธิ์อะไรมาอยู่ตรงหน้าฉัน?ตอนนี้ ฉันขอสั่งให้นายคุกเข่าขอโทษฉัน ขอโทษสำหรับการกระทำเมื่อกี้ของนาย! ไม่อย่างนั้น นายลำบากแน่ และกู้หยุนหลันก็จะพลอยโดนไปด้วย!”

กู้ชิงหลินพูดขู่ เมื่อก่อนเธอก็เคยทำแบบนี้

ทุกครั้งที่เธอเจอเรื่องให้อารมณ์เสีย ก็จะมาระบายอารมณ์ใส่หลี่โม่

ทุกครั้งก็ใช้คำพูดพวกนี้ขู่

แต่วันนี้เห็นได้ชัดว่าไม่เหมือนเดิม

หลี่โม้บีบมือทั้งสองข้างแน่น ดวงตาฉายแววรำคาญ ส่ายหัวอย่างเบื่อหน่าย ถอนหายใจไปหนึ่งทีแล้วพูดว่า “เพียงเพราะการกระทำเดียวของฉัน ดังนั้นฉันจึงต้องขอโทษเธอ?”

“ใช่แล้ว! ขยะอย่าแก ไม่มีสิทธิ์เงยหน้ามองฉัน ยิ่งไม่มีสิทธิ์ใช้การกระทำอย่างนั้นกับฉัน!”

กู้ชิงหลินยกมือขึ้นแล้วก็เหวี่ยงไปที่ใบหน้าของหลี่โม่

“เพี๊ยะ!”

เสียงตบดังก้องไปทั่วห้องโถง

ซูดๆ!

ทุกคนต่างสูดหายใจเข้าลึกๆ

เพราะว่าหลี่โม่ยังยืนอยู่ตรงนั้น แต่ใบหน้ากลับไม่มีรอยนิ้วมือ

แต่กลับเป็นกู้ชิงหลินที่ตอนนี้กำลังจับหน้าของตัวเองไว้ กว่าจะรู้สึกตัว หันไปหาคนที่ฟาดมือลงมาอย่างอู๋เต้าเหวินด้วยความโมโห “แกกล้าตบฉัน?แกกล้าตบฉันเพื่อไอ้ไก่อ่อนนี่?”

อู๋เต้าเหวินมองด้วยหางตาดุ “ในเมื่อเข้ามาในร้านของพวกเราแล้ว ก็เป็นลูกค้าของฉันทั้งนั้น ไม่ว่าเธอจะเป็นใคร กล้ามาสร้างเรื่องที่นี่ ฉันไม่มีทางปล่อยไว้แน่! รปภ.จับพวกมันโยนออกไป!”

จากนั้นก็มีรปภ.เข้ามาจับตัวกู้ชิงหลินโยนออกไป

ลูกคนรวยคนอื่นๆก็วิ่งหนีออกไปจากร้านอย่างรีบร้อน

กู้ชิงหลินลุกขึ้นจากพื้น โยนจนเจ็บก้นไปหมด

เธอลุกขึ้น แล้วตะโกนด่า “อู๋เต้าเหวิน นายซวยแน่ ฉันเป็นคุณหนูสามของบ้านตระกูลกู้เชียวนะ ผู้จัดการเล็กๆอย่างแก กล้ามาทำอย่างนี้กับฉัน ฉันจะให้คนมารื้อร้านของแกทิ้ง!”

ด่าๆอยู่กู้ชิงหลินยังอยากพุ่งเข้าไป แต่ว่าถูกพวกเพื่อนข้างๆนั้นห้ามไว้

หนุ่มหล่อลูกคนรวยเมื่อกี้ก็มาดึงกู้ชิงหลินไว้แล้วตะโกนใส่ “เธอบ้าไปแล้วหรอ!อู๋เต้าเหวินไม่ใช่แค่เพียงผู้จัดการนะ เขาเป็นถึงหนึ่งในสี่ของสังคมอิทธิพลมือในเมืองฮ่าน!”

เพียงคำเดียว กู้ชิงหลินก็อึ้งอยู่กับที่

“ยังจะรื้อร้านของเขา? เพียงนิ้วเดียวของเขา ก็สามารถทำให้บ้านตระกูลกู้ของเธอล้มละลายได้!”

กู้ชิงหลินร้อนรน ใบหน้าเต็มไปด้วยคำว่าไม่กล้าเชื่อ พูดอย่างเสียงเบาว่า “นายพูดว่าไงนะ?จะเป็นไปได้ยังไง?หนึ่งในสี่ผู้มีอิทธิพลของสังคมมืดในเมืองฮ่านจะตบฉับเพื่อขยะอย่างหลี่โม่?”

ลูกคนรวยคนนั้นขมวดคิ้วแล้วมองเข้าไปในห้องโถงแล้วส่ายหัวอย่างสงสัยว่า “อาจจะ อย่างที่เขาพูดแหละมั้ง นี่เป็นถิ่นของเขา ไม่เคารพลูกค้าของเขาก็เหมือนไม่เคารพเขา ยังไงซะก็เปิดกิจการทำธุรกิจ ถ้ามีข่าวลือออกไปว่าลูกค้ามากินข้าวที่นี่แล้วถูกตบตี แล้วต่อไป ใครจะกล้ามาอีกละ?เธอเกือบจะทำลายชื่อเสียงของกวนเหลินกัง โยนเธอออกมาอย่างเบาแล้ว ถ้าไปทำให้อู๋เต้าเหวินโกรธจริงๆ อาจจะเอาเธอไปลงแม่น้ำฮ่านเจียงก็ได้!”

หลังจากได้ยินคำพูดนี้ กู้ชิงหลินตัวสั่นไปทั้งตัว ตอนนี้ถึงจะมากลัว แต่ว่า เธอเอาความแค้นนี้ไปคิดไว้ที่ตัวหลี่โม่แล้ว ไอ้ขยะนั่น เป็นเพราะมันทั้งนั้น เธอถึงได้ไปมีปัญหากับคนระดับนั้น!

กู้ชิงหลินจากไปด้วยอารมณ์โกรธเคือง

แค่สิ่งเล็กน้อย ไม่จำเป็นต้องพูดถึง

เมื่อหลี่โม่กลับถึงบ้าน พ่อตาแม่ยายก็หลับแล้ว เขาค่อยๆย่องเข้าห้องนอน แล้วก็ค่อยๆดึงผ้าปูนอนออกมาอย่างเบามือ

“พรึ่บ!”

ทันใดนั้นไฟในห้องนอนก็สว่างขึ้น

หลี่โม่จึงมองเห็นกู้หยุนหลันที่อยู่ในชุดนอนกระโปรงบางๆนั่งอยู่ปลายเตียง เหมือนกับว่ากำลังรอเขา

อย่าว่าเลย หุ่นกู้หยุนหลันที่อยู่ใต้แสงไฟนั้นดีจริงๆ หน้าอึ๋มหลังงอน ผิวขาวผ่อง แล้วยังกระดูกไหปลาร้ากับขาเล็กๆนั่นอีก ทำให้หลี่โม่ตื่นตระหนกไปพักหนึ่ง

“กลับมาแล้วหรอ”กู้หยุนหลันมองหลี่โม่

หลี่โม่ปูเตียงอย่างไม่รีบร้อนแล้วตอบไปว่า “อืม”

“สัญญาของบริษัทรุงคางและเรื่องที่กวนเหลินกัง นายมีคำอธิบายที่ดีให้ฉันมั้ย?”กู้หยุนหลันถาม

แม้ว่าในมือของหลี่โม่จะกำลังปูผ้าอยู่ แต่ในใจกลับร้อนรน!

กู้หยุนหลันสงสัยแล้วหรอ?

“ไม่ใช่บอกว่าเป็นเพราะเครดิตของซู๋ไห่เทียนนี่ ทำไมอยู่ๆเธอถึงถามแบบนี้?”หลี่โม่ยิ้มปกปิดในใจที่กำลังร้อนรนของเขา

กู้หยุนหลันพูด “หลี่โม่ นายมีเรื่องอะไรปิดบังฉันใช่รึเปล่า?”

กลางดึก ในห้องนอก ทั้งสองสบตากัน

Comment

Options

not work with dark mode
Reset