จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 583 โดนกระตุ้นจนเป็นบ้า

เหล่าคุณชายแน่ใจว่าหลงโปจะชนะ จึงอยากจะหาอะไรงามๆ ทำสักหน่อย อีกอย่างพวกเขาอยากหาอะไรสนุกๆ ทำ

ไม่มีเรื่องอะไรเหมาะสมไปกว่าหาอะไรทำสนุกๆ ทำกับคางเหวินซิง

คางเหวินซิงขมวดคิ้ว เขากวาดตามองเหล่าคนรวยที่ยืนล้อมตัวเอง “พวกนายจะพนันยังไง”

“โอ้ กล้าดีนี่ จะพนันกับเราจริงเหรอ งั้นถ้าใครแพ้ก็วิ่งแก้ผ้าจากที่นี่ เข้าไปในเมืองฮ่าน นายกล้าพนันไหมล่ะ”

คุณชายคนหนึ่งเอ่ยขึ้น

เขามาพนันกับคางเหวินซิง ไม่ใช่เพราะอยากได้เงิน แต่อยากทำให้คางเหวินซิงอับอายต่างหาก

คางเหวินซิงโกรธมาก เขาเข้าใจทันทีว่าคนพวกนี้จะทำอะไร

ถ้าหลี่โม่แพ้ขึ้นมาจริงๆ งั้นพรุ่งนี้คางเหวินซิงคงจะกลายเป็นข่าวดังทั่วอินเทอร์เน็ต!

โดนคนพวกนี้ถ่ายวิดีโอตอนแก้ผ้า แล้วก็เอาลงอินเทอร์เน็ต เอาลงตามเว็บไซต์ที่ฮิตในการค้นหา คางเหวินซิงคงไม่รู้จะใช้ชีวิตต่อไปอย่างไร

เมื่อคางเหวินซิงคิดถึงเรื่องพวกนี้ เขาก็เริ่มลังเล

ถ้าพนันด้วยเงินหรือสิ่งของ คางเหวินซิงคงตอบตกลงอย่างไม่ลังเล แต่นี่มาพนันกับศักดิ์ศรีของเขา!

“ฮ่าๆ ไอ้สวะนี่ไม่กล้าพนันกับเรา ดูเหมือนเมื่อกี้มันแค่อวดดี นายก็ไม่ได้เชื่อใจอาจารย์อะไรนั่นนี่นา”

“คางเหวินซิง ถ้านายไม่กล้าพนัน ก็ยอมรับมาซะตอนนี้ อาจารย์ของนายจะแพ้ ถ้านายทำ เราจะไม่ทำให้นายลำบากใจอีก”

“เห็นท่าทีอวดดีเมื่อกี้ ให้มันยอมรับยังไม่พอ เดี๋ยวถ้าพี่โปชนะ ต้องให้มันก้มหัวขอโทษพี่โปด้วย”

เมื่อได้ยินทุกคนพูดถึงหลงโป คางเหวินซิงหายใจอย่างรุนแรง

ถ้าหลี่โม่แพ้ ถึงคางเหวินซิงไม่พนัน ผลมันก็ไม่น่าจะดีอยู่แล้ว

เพราะหลงโปคือศัตรูตัวฉกาจของคางเหวินซิง ครั้งนี้มีผลประโยชน์ยิ่งใหญ่เข้ามาเกี่ยวข้อง หลงโปต้องบีบบังคับให้คางเหวินซิงตายอย่างแน่นอน

จู่ๆ เลือดในตัวของคางเหวินซิงก็พลุ่งพล่าน เขาพูดเสียงดังว่า “ฉันจะพนันกับพวกนาย! ถ้าใครแพ้ ต้องแก้ผ้าคลานจากที่นี่กลับไปเมืองฮ่าน!”

“วะฮ่าฮ่า นี่ฉันได้ยินอะไรเนี่ย นายกล้าพนันแบบนี้หรือ งั้นก็มาสิ!”

“เอาเป็นว่าเราพนันกันแบบนี้ ถ้าแพ้แล้วกล้าผิดคำพูด ขอให้ตายทั้งครอบครัว”

“ฮ่าๆๆๆ คางเหวินซิง นายนี่กล้าจริงๆ มาสิๆๆ ให้คางเหวินซิงได้ดูอาจารย์อะไรนั่นแพ้อย่างชัดๆ!”

พวกคุณชายผลักคางเหวินซิง เข้าไปตรงหน้าจอ LCD และดูตรงหน้าจอไปด้วยกัน

ตอนนี้หน้าจอแบ่งออกเป็นสองฟาก ด้านซ้ายคือรถซูเปอร์คาร์แนวคิดของหลงโป ด้านขวาเป็นรถเบนซ์ของหลี่โม่

ตอนนี้นักพากย์กำลังบรรยายเหตุการณ์อย่างออกรส

“ฉันว่าการแข่งครั้งนี้ไม่น่าสนใจแล้ว ตอนนี้ขับผ่านไป 7 โค้งแล้ว ถึงแม้จะเพิ่งเริ่ม แต่หลงโปได้จบเกมเรียบร้อยแล้ว! ตอนนี้เขานำหน้าหลี่โม่อยู่กว่าหนึ่งนาที!”

“และต่อไปจะเป็นถนนเส้นตรงที่มีระยะทางไกล รถซูเปอร์คาร์แนวคิดต้องวิ่งได้อย่างรวดเร็ว และนำห่างหลี่โม่ไปไกลอย่างแน่นอน ถ้าเป็นเช่นนั้น เกมก็จะจบลงทันที…..โอ้มายก๊อด! นี่ฉันกำลังดูอะไรอยู่”

นักพากย์พูดออกมาด้วยความตกใจ และเดินเข้าไปตรงข้างจอ เขาเอาแต่จ้องเบนซ์ของหลี่โม่บนหน้าจอ

“ใครก็ได้บอกฉันที นี่ฉันตาฝาดหรือเปล่า เบนซ์ของหลี่โม่เพิ่มความเร็วขึ้น คาดคะเนความเร็วจากโดรนที่ติดตามไป ความเร็วรถของหลี่โม่สูงถึง 280 กิโลเมตรต่อชั่วโมง!”

“ความเร็วขนาดนี้ ถ้าให้พูดถึงเบนซ์ S600 มันเร็วทะลุไมล์ไปแล้ว! หลี่โม่บ้าไปแล้วหรือไง หรือเขารับความอับอายไหวไม่ไหว และจะจบชีวิตของตัวเองลงบนถนน!”

นักพากย์ไม่ได้พูดเล่น ความคล่องตัวของเบนซ์ S600 ไม่ได้มากนัก ไม่มีทางเทียบรถซูเปอร์คาร์แนวคิดได้

อีกทั้งยังอยู่บนทางโค้ง Hair Pin ของถนนลั่วย่านอีก รถที่มีความคล่องตัวไม่ดี ขับเกินร้อยไมล์ นี่มันเป็นการรนหาที่ตายชัดๆ

หลงโปก็เช่นกัน หลังจากที่ขับเข้ามาในทางตรง เขาก็เพิ่มความเร็วอย่างบ้าคลั่ง ขณะที่อยู่บนโค้ง Hair Pin หลงโปยังขับไม่ถึงร้อยไมล์

ตอนนี้ทุกคนจ้องจอ จนแทบจะหยุดหายใจ ความสนใจของพวกเขา อยู่ที่รถของหลี่โม่ เพราะอยากรู้ว่าจุดจบของการที่ขับอย่างบ้าคลั่ง จะเป็นอย่างไร

คางเหวินซิงเบิกตาโต ปีกจมูกของเขาขยับขึ้นลง เขาหายใจติดๆ ขัดๆ

“นี่อาจารย์จะโชว์แล้วเหรอ ผมได้ดูมันอีกครั้งแล้วสินะ ปาฏิหาริย์ที่คนเป็นหนึ่งเดียวกับรถ!”

คางเหวินซิงพูดออกมาเบาๆ

คนที่อยู่ข้างๆ ได้ยินเสียงพึมพำของคางเหวินซิง จึงแสยะยิ้มอย่างไม่พอใจ

“เหอะๆ ยังจะมาพูดว่าคนเป็นหนึ่งเดียวกับรถ นายนี่พูดโม้ไปทั่ว มั่วไปเรื่อย ก็แค่ขับในความเร็วสูงสุดของเบนซ์ มีอะไรเก่ง ฉันก็เคยขับเบนซ์ S600 ความเร็วทะลุไมล์เหมือนกัน อย่าบอกนะว่าฉันเป็นหนึ่งเดียวกับรถไปด้วยแล้ว”

คางเหวินซิงมองคุณชายคนที่พูด เขาส่ายหน้าและพูดว่า “ความเก่งของอาจารย์ มันเหนือกว่าที่นายจินตนาการเอาไว้ นายอย่ามาพูดว่าขับเกิน 300 ไมล์เลย 400 ไมล์ฉันก็ขับมาแล้ว”

“ตอนนั้นฉันขับ Bugatti Veyron อาจารย์ขับเบนซ์ G-class รถรุ่นนี้มีแรงต้านเท่าไร พวกนายน่าจะรู้ แต่อาจารย์ขับรถเบนซ์ G-class แซง Bugatti Veyron ของฉัน ตอนนั้นความเร็วของรถฉันคือ 400 ไมล์!”

“พวกนายรู้ใช่ไหมว่ารถ Bugatti Veyron ของฉันชนจนพัง มันพังในวันนั้น! ฉันโมโหมาก ตอนโดนอาจารย์แซง ก็เลยเพิ่มความเร็ว พอผ่านด่าน รถก็เลยเสียการควบคุม!”

“แต่อาจารย์ขับเบนซ์ G-class เลี้ยวด้วยความเร็วเต็มที่ พวกนายจินตนาการภาพนั้นไม่ได้หรอก! เดี๋ยวพวกนายรอเปิดโลกได้เลย! อาจารย์ของฉันจะสอนความเป็นคนให้หลงโปเอง!”

“พวกนายคิดว่าหลงโปเก่งมาก สำหรับอาจารย์ เขาก็แค่ไอ้กระจอก อาจารย์ขับเบนซ์แข่งกับหลงโป เพราะไม่เห็นหลงโปอยู่ในสายตา หลงโปไม่คู่ควรกับอาจารย์สักนิด!”

คางเหวินซิงโก่งคอพูดเสียงดัง เขาได้ระบายความโกรธที่อยู่ในใจออกมา

ผู้คนรอบๆ มองคางเหวินซิง เหมือนมองเด็กพิการทางสมอง จากนั้นทุกคนก็พากันหัวเราะเยาะ

“นี่โดนกระตุ้นจนบ้าไปแล้วเหรอ ขับเบนซ์ G-class ถึง 400 กิโลเมตร เบนซ์ G-class ไม่มีทางทำแบบนั้นได้”

“นี่เป็นเรื่องตลกที่สุด เท่าที่ฉันเคยได้ยินมา จะสั่งสอนพี่โปเหรอ รอให้พี่โปกดอาจารย์ของนายจนจมดินเถอะ!”

“จากการคาดเดาของฉัน คางเหวินซิงต้องมีปัญหาทางสมองแน่ พูดกับคนที่ขาดสติแบบนี้ก็เปล่าประโยชน์ เรามาดูกันต่อดีกว่า”

ทุกคนพากันจดจ่อไปที่หน้าจออีกครั้ง

เมื่อกลับไปมองที่หน้าจอ ก็รู้สึกถึงสิ่งที่คาดไม่ถึง

ภาพบนหน้าจอคือเบนซ์กำลังไล่ตามซูเปอร์คาร์แนวคิด!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset