จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 607 เหล่ากัวคลั่ง

“กล้องวงจรปิดขนาดจิ๋วที่ฉันวางไว้หน้าประตูเชื่อมกับมือถือ ฉันดูผ่านมือถือ เห็นเหล่ากัวถือมีดเข้ามาในห้องของคุณ ฉันเลยมาช่วยคุณได้ทัน มีวิดีโอบันทึกไว้ในเมมโมรี่การ์ด มันสามารถเอาไปเป็นหลักฐานได้!”

ที่แท้เป็นแบบนี้นี่เอง หลี่โม่มองเมมโมรี่การ์ดในมือ และมองเหล่ากัวที่นอนอยู่บนเตียง เขาคิดว่าจะจัดการเรื่องนี้อย่างไร

ฟางรั่วเสว่ถามอีกว่า

“แต่เหล่ากัวขัดแย้งอะไรกับคุณหลี่หรือเปล่า……ทำไมเขาถึงจะลอบฆ่าคุณ แถมฉันยังใช้แรงสุดตัว ก็ไม่สามารถรั้งเขาได้ นี่มันดื้อดึงมาก!”

เมื่อฟางรั่วเสว่พูดเช่นนั้น หลี่โม่จึงนึกถึงกำไลทับทิมสีแดง ที่เขากระชากออกมา

เขาไม่ได้ตอบคำถามของฟางรั่วเสว่ทันที และรีบบอกให้เธอรีบเก็บเม็ดทับทิมที่หล่นบนพื้นขึ้นมา……

ฟางรั่วเสว่มองเม็ดทับทิมที่อยู่บนโต๊ะ สีหน้าของเธอยิ่งสงสัยเข้าไปใหญ่

เธอคิดในใจว่าจะเก็บของพวกนี้ขึ้นมาทำไม หรือว่าเป็นของล้ำค่างั้นเหรอ

หลี่โม่หยิบถุงเล็กๆ ขึ้นมา และใส่เม็ดทับทิมลงไปในถุง และสั่งฟางรั่วเสว่ให้อยู่ดูแลเหล่ากัว ส่วนเขาไปหาชุยเซิ่งจุน

บ้านของชุยเซิ่งจุนใหญ่มาก หลี่โม่ตามหาเขา เหนื่อยจนจุก

เมื่อมาถึงห้องของชุยเซิ่งจุน เห็นเขานอนแผ่หลา และกรนอยู่บนเตียง นึกถึงเรื่องที่ตัวเองเกือบตาย หลี่โม่โมโหจนเกือบจะถีบเขาลงจากเตียง……

หลี่โม่เรียกตั้งหลายครั้ง แต่ชุยเซิ่งจุนก็ไม่ตื่น

จนปัญญา หลี่โม่ใช้ไม้ตาย เขาสูดหายใจลึก และตะโกนข้างหูชุยเซิ่งจุน

“ชุยเซิ่งจุน! รูปปั้นหกสิบกว่าล้านของนาย โดนขโมยไปแล้วโว้ย!”

การเรียกครั้งนี้ได้ผล ชุยเซิ่งจุนรีบเด้งตัวขึ้นมานั่ง และตะโกนว่า

“หา! อะไรนะ!”

เขากุลีกุจอ วิ่งออกจากห้องโดยไม่ใส่สลิปเปอร์ เขาไม่สนใจหลี่โม่ด้วยซ้ำ

หลี่โม่คิดในใจว่าไอ้หนุ่มนี่เหมือนเขาจริงๆ เป็นพวกหวงสมบัติ……

ดังนั้นเขาจึงเดินตามไป

ทั้งสองเดินตามกันมาที่ห้องรับแขก

ชุยเซิ่งจุนเห็นรูปปั้นพระแม่กวนอิมมังกร ยังวางอยู่บนโต๊ะ เขารู้ทันทีว่าตัวเองโดนหลอก และหันมาพูดกับหลี่โม่

คิดไม่ถึงว่าหลี่โม่จะชิงพูดขึ้นมาก่อน

“ชุยเซิ่งจุน เมื่อกี้เหล่ากัวจะฆ่าผม……”

ชุยเซิ่งจุนสร่างเมา หลี่โม่เล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้เขาฟัง และเอาวิดีโอจากกล้องวงจรปิดให้เขา

ขณะที่หลี่โม่กำลังพูด ชุยเซิ่งจุนมีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

เมื่อฟังหลี่โม่พูดจบ ชุยเซิ่งจุนรีบย้อนถามทันที

“ไม่มีเหตุผลเลย เหล่ากัวไม่ได้ขัดแย้งอะไรกับนาย เขามีแรงกระตุ้นอะไร ถึงต้องฆ่านาย นี่มันแปลกประหลาดมาก!”

“เหตุผลคือสิ่งนี้”

หลี่โม่เอาถุงเล็กที่ใส่เม็ดทับทิมแดงโยนลงบนโต๊ะ จากนั้นจึงพูดว่า

“ชุยเซิ่งจุน คุณเคยได้ยินหยกเลือดไหม”

แน่นอนว่าชุยเซิ่งจุนรู้ เมื่อได้ยินหลี่โม่พูดถึงหยกเลือด เขาก็ขมวดคิ้วทันที สีหน้าก็เปลี่ยนไปด้วย

เขาเปิดถุงเล็กออกมา เมื่อเห็นเม็ดสีแดงข้างในถุง ชุยเซิ่งจุนเบิกตาโพลง

เขาเงียบอยู่นาน จึงพูดว่า

“หลี่โม่……นายเอาหยกเลือดมาจากไหน อย่าบอกนะว่าเหล่ากัว……”

ชุยเซิ่งจุนเหมือนจะพูดแต่ก็ไม่พูด แต่เห็นสีหน้าของเขา หลี่โม่รู้ทันทีว่าเขาคงรู้ที่มาที่ไปของเรื่อง

“ใช่ เป็นอย่างที่คุณคิด มันเกี่ยวกับหยกเลือด แต่คุณวางใจเถอะ ตอนนี้เหล่ากัวไม่เป็นอะไร พักสักหน่อยก็คงดีขึ้น ผมจะไม่เอาความเรื่องนี้”

คำพูดของหลี่โม่ ทำให้ชุยเซิ่งจุนซาบซึ้งมาก

“ขอบใจนะหลี่โม่ เหล่ากัวเป็นคนเก่าคนแก่ในโรงรับจำนำจู้ติ่ง เขาเหมือนคนในครอบครัวฉัน นายวางใจได้เลย เรื่องนี้ฉันจะสืบหาความจริงให้ได้ รับรองว่าจะให้คำตอบที่นายพอใจ!”

ถึงชุยเซิ่งจุนจะพบเจออะไรมาไม่มาก แต่หลี่โม่เชื่อใจเขา

หลังจากที่คุยกับชุยเซิ่งจุนเสร็จ ฟ้าก็เริ่มสว่างแล้ว

หลี่โม่เรียกฟางรั่วเสว่กลับไปด้วยกัน เกิดเรื่องแบบนี้ ชุยเซิ่งจุนก็ละอายใจที่จะให้สองคนนี้อยู่ต่อ

เขากล่าวขอโทษทั้งสองคนอีกครั้ง และมองรถของหลี่โม่ไปจนลับตา ชุยเซิ่งจุนกลับเข้ามาในบ้าน

ชุยเซิ่งจุนนั่งบนโซฟา และหยิบมือถือออกมา เขากดโทรทางไกล เมื่อโทรติด เขาจึงพูดว่า

“พ่อ หยกเลือดโผล่มาในบ้านของเราอีกแล้ว……”

อีกด้าน ระหว่างที่หลี่โม่กับฟางรั่วเสว่ขับรถกลับโรงแรม

เพราะเรื่องเมื่อคืนเกิดขึ้นอย่างกะทันหัน ทั้งสองไม่ได้นอนทั้งคืน ร่างกายจึงอ่อนเพลีย จึงตัดสินใจกลับไปพักผ่อนที่โรงแรมกันก่อน

คนที่สุขุมมาตลอดอย่างฟางรั่วเสว่ ถามขึ้นอย่างโมโหว่า

“คุณหลี่ เมื่อกี้ที่บ้านชุยเซิ่งจุน ฉันไม่กล้าพูดอะไร แต่ตอนนี้ฉันทนไม่ไหวแล้ว ทำไมคุณถึงยังให้เหล่ากัวอยู่กับชุยเซิ่งจุน! แถมยังเอาวิดีโอให้เขาด้วย เหล่ากัวเขาจะฆ่าคุณนะ คุณปล่อยเสือเข้าป่า ฉันว่าต่อไปต้องวุ่นวายแน่! ขอโทษด้วยที่ฉันขึ้นเสียง แต่ฉันไม่เข้าใจสิ่งที่คุณทำจริงๆ”

เมื่อได้ยินฟางรั่วเสว่พูดแบบนี้ หลี่โม่จึงนึกขึ้นได้ เขาเอาแต่คิดเรื่องที่คุยกับชุยเซิ่งจุน จนลืมผู้มีพระคุณเอาไว้

ดังนั้นหลี่โม่จึงรีบขอโทษฟางรั่วเสว่ และอธิบายที่มาที่ไปของเรื่องทั้งหมด……

ระหว่างทางกลับโรงแรม

หลี่โม่กำลังอธิบายว่าทำไมถึงไม่เอาความเหล่ากัว รวมไปถึงการที่ยกเรื่องนี้ให้ชุยเซิ่งจุนจัดการ

เมื่อพูดถึงเรื่องที่หยกเลือดสามารถสะกดจิตคนได้ ฟางรั่วเสว่มีสีหน้าเหลือเชื่อ เหมือนกับคนทั่วไปที่ได้ยินเป็นครั้งแรก

“คุณหลี่ จากที่คุณพูด เหล่ากัวจะเอาชีวิตคุณเหมือนคนบ้า มันไม่ใช่ความคิดของเขา แต่เป็นเพราะหยกเลือดอย่างนั้นเหรอ”

“อืม ใช่แล้ว”

“ไม่ใช่ว่าฉันไม่เชื่อคุณนะ แต่พูดแบบนี้ มันเชื่อไม่ได้จริงๆ!”

“ระยะเวลาแค่นี้ ผมรู้ว่าเธอคงไม่เชื่อ แต่เมื่อกี้เธอน่าจะสัมผัสได้ เหล่ากัวบีบคอผมอย่างบ้าคลั่ง เธอล็อกคอเขาแทบตาย เขาก็ไม่ยอมปล่อยมือ แต่หลังจากที่ผมกระชากกำไลนั่นออก ราวกับเขาไร้เรี่ยวแรง และโดนเธอกระชากออกไปได้ง่ายๆ นี่มันก็พอพิสูจน์อะไรได้แล้วไม่ใช่เหรอ”

เมื่อได้ยินที่หลี่โม่พูด ฟางรั่วเสว่ยื่นมือไปลูบท้ายทอยตัวเอง

“เหมือนมันจะเป็นอย่างนี้จริงๆ……จู่ๆ ฉันก็ดึงเขาออกได้ง่ายๆ เหมือนจับลูกบอลที่ไร้แรงถ่วง แต่ฉันร่วงจนแทบจุก ท้ายทอยยังเจ็บอยู่เลย……มิน่าล่ะ คุณถึงให้เก็บเม็ดทับทิมพวกนั้น ฉันเข้าใจว่าเป็นของมีค่าอะไร คิดไม่ถึงว่าเป็นหยกเลือดที่ชั่วร้าย……”

“อืม……ตอนสุดท้ายผมก็แค่ลองดูเท่านั้น ยังดีที่ผมเดาถูก เม็ดทับทิมบนกำไลทับทิมสีแดง ทำมาจากหยกเลือด อีกอย่างคนที่ปลอมมันขึ้นมามีฝีมือมาก เมื่อหยกเลือดตกตะกอน สีของมันแทบจะไม่ต่างจากปะการังแดงเลย มิน่าล่ะ คนที่เล่นโบราณวัตถุมานานอย่างเหล่ากัว ก็แยกไม่ออก……”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset