จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 64 มองในทางที่ดีขึ้น

บทที่ 64 มองในทางที่ดีขึ้น

เช้าตรู่ คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ออกจากบ้าน เตรียมตัวไปบ้านรองตระกูลกู้

เมื่อข่าวนี้กระจายไปถึงหูคนในบ้านตระกูลกู้ทั้งหลาย แต่ละคนถึงกับตะลึง!

นี่มันกี่ปีแล้ว คุณปู่ไปบ้านรองตระกูลกู้ ในบ้านตระกูลกู้นั้นนี่ถือเป็นข่าวใหญ่ที่สุด!

ตำแหน่งในตระกูลกู้ของบ้านรองตระกูลกู้ เมื่อก่อนคือสวรรค์ แต่หลังจากที่ 4 ปีก่อนมีเรื่องนั้นเกิดขึ้น ก็ตกลงมาจากสวรรค์แล้ว!

“ไม่จริงมั้ง คุณปู่จะไปบ้านของกู้หยุนหลันจริงๆ?”

“ไปทำไม?ใครเป็นคนรู้มา?”

“น่าจะเป็นข่าวลือแหละ คุณปู่จะไปที่นั่นได้ยังไง นั่นไม่ใช่สถานที่ที่ดีอะไร”

หนุ่มสาวตระกูลกู้รวมตัวกัน คุยจ้อกแจ้กจอแจถึงเรื่องนี้ ทั้งหมดต่างก็ไม่กล้าเชื่อทั้งนั้น

แต่ว่า เมื่อพวกเขาเห็นคุณปู่ลงรถหน้าบ้านกู้หยุนหลัน ทั้งหมดถึงกับอึ้ง!

คุณปู่ไปจริงๆ!

ข้างกายมีกู้เจี้ยนกั๋วและกู้ซิงเว๋ยกับคนอื่นๆ

ไม่นาน ทุกคนก็เข้าใจ เพื่อบริษัทวินเซิง ครั้งนี้คุณปู่ถึงได้กล้ายอมลดตัว

หลายปีมานี้ คุณปู่ใช้ชีวิตอย่างสูงส่งมาโดยตลอด ไม่เคยยอมใคร ไม่คิดเลยว่า ครั้งนี้จะยอมก้มหัวให้บ้านรองตระกูลกู้

กู้เจี้ยนหมินและหวังฟางได้ข่าวตั้งแต่เช้า ถึงกับตกใจอย่างที่สุดจนพูดอะไรไม่ออกสักพักใหญ่

ตอนแรกพวกเขาคิดว่าคุณปู่จะไม่มีทางมา อย่างมากก็ให้กู้เจี้ยนกั๋วและกู้ซิงเว๋ยมาอีกรอบเท่านั้น แต่คาดไม่ถึงเลยว่าเขาจะมาด้วยตัวเองจริงๆ

บริษัทวินเซิงตอนนี้มีปัญหาทั้งภายในและภายนอกก็โจมตี สัญญาของบริษัทรุงคาง ก็คือตัวช่วยที่ช่วยตระกูลกู้และบริษัทวินเซิงได้ คุณปู่รู้ดี บริษัทวินเซิงจะผ่านสถานการณ์นี้ไปได้หรือไม่นั้นอยู่ในกำมือของกู้หยุนหลัน

ดังนั้น เมื่อวานที่กู้เจี้ยนกั๋วและกู้ซิงเว๋ยกลับไปพูดถึงสิ่งที่เจอที่บ้านกู้หยุนหลัน คุณปู่ก็เข้าใจแล้ว ครั้งนี้กู้หยุนหลันมีจุดอ่อนของตัวเขาเอง ก็ไม่มีทางเลือก ทำได้เพียงมาด้วยตัวเองเท่านั้น

ถึงแม้ในใจคุณปู่จะไม่ยอม แต่เพื่อตระกูลกู้ ก็ยอมลดศักดิ์ศรีมาแล้ว

กู้เจี้ยนหมินและหวังฟางรออยู่ที่หน้าประตูตั้งนานแล้ว

เมื่อคุณปู่ลงรถก็รีบเข้าไปพยุงไว้

“คุณพ่อ ทำไมท่านถึงมาด้วยตัวเองละ ท่านมีเรื่องอะไร แค่โทรศัพท์มาก็พอแล้วพวกเราไปหาเอง ไม่รบกวนให้ท่านต้องมาด้วยตัวเอง”กู้เจี้ยนหมินพูดด้วยรอยยิ้ม

“ใช่ค่ะคุณพ่อ ท่านมีเรื่องอะไรก็แค่โทรมาก็พอแล้วค่ะ”หวังฟางก็พูดเสริม แล้วยิ้ม

อยู่ในบ้านเธอกล้าบ่น แต่อยู่ต่อหน้าคุณปู่ เธอก็กลัว

คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ยิ้มอย่างเฉยๆ “ถ้าฉันไม่มา พรุ่งนี้ตระกูลกู้จะยังได้เห็นเดือนเห็นตะวันมั้ยก็ไม่รู้ พวกเธอสองคนจะมาทำเป็นเสแสร้งทำไม หยุนหลันละ บอกให้เธอออกมาสิ ฉันมาแล้ว เธอมีอะไรจะให้คนแก่อย่างฉันทำก็พูดมา”

เมื่อได้ยินคำนี้ในใจกู้เจี้ยนหมินก็สั่นกลัว จบแล้ว คุณปู่นั้นโกรธแค้นแล้ว

คิดๆอยู่กู้เจี้ยนหมินก็หันไปมองหลี่โม่ แล้วพูดกับคุณปู่ว่า “คุณพ่อครับ หยุนหลันไม่อยู่ ออกไปท่องเที่ยว น่าจะกลับมาช่วงเย็นครับ”

หลี่โม่ทำหน้าเฉยๆแล้วก็เชิญคุณปู่เข้าบ้านกับกู้เจี้ยนหมิน แล้วก็เทน้ำชามาให้ทุกคน

แต่ว่า จนถึงตอนนี้คุณปู่ก็ไม่มองหลี่โม่สักนิด

เพราะว่าตามที่กู้ซิงเว๋ยพูด เรื่องนี้ มีโอกาสที่หลี่โม่จะเป็นคนต้นคิดสั่งการอยู่เบื้องหลัง

“ท่องเที่ยว?โทรบอกให้เธอรีบกลับมา”คุณปู่นั่งอยู่บนโซฟา แล้วพูดอย่างโมโห

“คุณพ่อ นี่…..น่าจะยากอยู่นะคะ ไม่ใช่ว่าเรียกแล้วก็จะกลับมาได้ทันทีนะคะ”หวังฟางพูดแล้วหันไปถลึงตาใส่หลี่โม่

ถ้าไม่ใช่มันออกความคิด จะทำให้คนทั้งบ้านต้องโกหกตามกันหรอ?

ใครจะไปรู้ว่าหลี่โม่ที่อยู่ข้างๆจะพูดว่า “กลับมาแล้วครับ รออีกไม่กี่นาที”

ทันใดนั้น!

สายตาของทุกคนก็หันไปมองที่ตัวหลี่โม่

คำพูดของหลี่โม่ทำให้กู้เจี้ยนหมินและหวังฟางตกใจ เมื่อกี้พวกเขาเพิ่งพูดว่าต้องรอตอนเย็น แต่ตอนนี้หลี่โม่กลับพูดว่าอีกไม่กี่นาทีก็กลับมาถึง

“หลี่โม่ ที่นี่มีส่วนให้แกพูดได้ด้วยหรอ?รีบไปเดี๋ยวนี้!หยุนหลันออกไปแล้ว และจะกลับมาตอนเย็น”หวังฟางจ้องหลี่โม่อย่างโมโห อยากจะโยนเขาออกไปตั้งแต่ตอนนี้

ต้องการจะทำอะไรกัน?

โกหกคุณปู่ซึ่งๆหน้า?

“คุณพ่อครับ อย่าไปฟังหลี่โม่มันพูดมั่วเลย มันก็แต่พูดลอยเฉยๆครับ”กู้เจี้ยนหมินตกใจมาก รีบพูดขึ้นอย่างกระวนกระวาย

“หึ!”

คุณปู่หึอย่างเย็นชาไปทีหนึ่ง แล้วเงยหน้ามองหลี่โม่ “แกเป็นคนออกความคิดเห็นเรื่องนี้?”

หลี่โม่ไม่ได้ไม่ยอมรับ “ถูกต้องแล้วครับ”

“หลี่โม่ ฉันก็ว่าแกต้องเป็นคนสั่งอยู่เบื้องหลัง คุณปู่ครับ ท่านฟังดูสิ มันยอมรับเอง ไอ้คนนี้ ช่างใจกล้าเหลือเกิน จะต้องไล่มันออกจากตระกูลกู้นะครับ!”

กู้ซิงเว๋ยที่อยู่ข้างๆได้ยินคำนี้ ก็รีบเด้งตัวขึ้น แล้วชี้หน้าด่าหลี่โม่

สายตานั้นเหมือนกับว่าจะกลืนกินหลี่โม่เข้าไปอย่างนั้น

แต่ว่าหลี่โม่แต่เพียงหันไปเล็กน้อย แล้วยิ้มมุมปากอย่างเย็นชา “กู้ซิงเว๋ย ตอนนี้ฉันคุยอยู่กับคุณปู่ ขอให้แกหุบปาก”

“อะไรนะ?แกสั่งให้ฉันหุบปาก?!ตายแล้วๆ!”กู้ซิงเว๋ยโมโหมาก ง้างมือขึ้นฟาดลงไป

แต่ว่า!

หลี่โม่ยกเท้าถีบไปที่ท้องของกู้ซิงเว๋ย ถีบเขาล้มลงไป แล้วพูดอย่างดุดันว่า “ที่นี่ไม่ใช่บ้านใหญ่ตระกูลกู้ ในเมื่อพวกนายมาขอร้องคนอื่น ก็ควรมีกิริยาที่มาขอร้องคนอื่น!”

ภาพนี้ทำให้กู้เจี้ยนหมินและหวังฟางถึงกับตกอกตกใจ!

ไอ้หลี่โม่นี่ยิ่งอยู่ยิ่งบังอาจจริงๆ!

“คุณปู่ครับ!”กู้ซิงเว๋ยร้อนรน

เพี๊ยะ!

คุณปู่ฟาดหน้ากู้ซิงเว๋ยไปทีหนึ่ง “น่าอับอายจริงๆ ไปไกลๆไป!”

กู้ซิงเว๋ยตื่นตระหนก รีบลุกขึ้น มองหลี่โม่อย่างโกรธเกลียด แล้วยืนอยู่ข้างๆอย่างเงียบๆ

จากนั้น คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็พูดต่อ “พูดมา ว่าแกกับหยุนหลันต้องการยังไง?”

หลี่โม่ยิ้มนิดๆ “ง่ายมาก ผมจะไม่ทำให้ท่านลำบากใจ ข้อหนึ่ง ขอเพียงท่านก้มหัวยอมรับผิด ข้อสอง มอบตำแหน่งรองผู้จัดการทั่วไปให้หยุนหลัน อีกอย่างสัญญาของบริษัทรุงคาง คนอื่นห้ามมาแทรกเด็ดขาด”

“บังอาจ!หลี่โม่ แกคิดว่าฉันรังแกง่ายจริงๆหรอ?แล้วถ้าฉันไม่ตกลงละ!”คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ได้ยินเพียงข้อแรกก็โมโหแล้ว

“ถ้าคุณไม่ตกลงก็ได้ พรุ่งนี้เช้าบริษัทวินเซิงก็ประกาศล้มละลาย ตระกูลกู้แบกรับหนี้จำนวนมาก สิ่งที่พวกท่านมีอยู่ตอนนี้ก็จะกลายเป็นฟองอากาศทั้งหมด”หลี่โม่พูด เหมือนกับพูดเรื่องธรรมดาเรื่องหนึ่งซะอย่างนั้น

ประโยคนี้ทำให้ทุกคนในบ้านถึงกับอึ้งไปชั่วขณะ

คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้สีหน้าเคร่งขรึม ลังเลไปสักพัก ถึงได้พูดว่า “ได้ ฉันตกลง!”

“หยุนหลัน ออกมาเถอะ”หลี่โม่เห็นว่าคุณปู่ตกลงแล้วจึงได้ตะโกนออกมา

กู้หยุนหลันที่ซ่อนอยู่ในห้องนอนมาตลอด ก็เดินออกมา

กู้ซิงเว๋ยชี้หน้าเธอ ใบหน้าแสดงถึงความไม่เข้าใจ “เธอ เธอ เธอไปท่องเที่ยวแล้วไม่ใช่หรอ?”

หลี่โม่หัวเราะเหอะๆ แล้วพูดขึ้นว่า “ปัญญาอ่อน”

คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ก็หันไปมองกู้ซิงเว๋ย ส่ายหัวอย่างเอือมระอา

หลังจากที่กู้หยุนหลันออกมา อย่างแรกเลยก็ก้มตัวให้คุณพูด “คุณปู่คะ ขอโทษค่ะ นี่….”

คุณท่านใหญ่ตระกูลกู้ใช้ไม้เท้าในมือกระแทกพื้นอย่างแรงแล้วลุกขึ้น “เธอไม่ต้องขอโทษฉัน คนที่จะขอโทษ คือคนแก่อย่างฉันต่างหาก”

พูดแล้วคุณปู่ก็ก้มตัวให้กู้หยุนหลันต่อหน้าผู้คนทั้งหมดจริงๆ!

“หยุนหลัน ปู่ทำผิดกับเธอเอง ทำให้เธอเสียใจ ตำแหน่งรองผู้จัดการทั่วไปในบริษัท วันนี้ก็มอบหมายให้เธอแล้ว ร่วมธุรกิจกับบริษัทรุงคางดีๆ อย่าทำให้ปู่ผิดหวัง”

ทุกคนตะลึง

จนกระทั่งคุณปู่พาคนของเขากลับไป หวังฟางและกู้เจี้ยนหมินยังอยู่ในอาการตกใจ

หลี่โม่ยิ้มแล้วพูดว่า “ถ้าอย่างนั้นฉันไปทำงานก่อนนะ”

กู้หยุนหลันหันไปมองหลี่โม่ที่กำลังจะออกไปแล้วตะโกนว่า “รอเดี๋ยว ขอบใจนายนะ”

หลี่โม่ไม่ได้พูดอะไร หันหลังแล้วก็เดินจากไป

ตอนนี้หวังฟางถึงได้รู้สึกตัว ดึงแขนกู้หยุนหลันไว้ ถามอย่างไม่กล้าเชื่อว่า “หยุนหลัน เมื่อกี้คุณปู่ขอโทษแกใช่มั้ย?อีกอย่าง ตำแหน่งรองผู้จัดการทั่วไปก็ให้กับแกจริงๆหรอ?”

กู้เจี้ยนหมินนั่งบนโซฟาแล้วหัวเราะเสียงดัง “ดีมาก ดีมาก! บ้านรองของฉันในที่สุดก็จะกลับมาเป็นอย่างเคยแล้ว!”

กู้หยุนหลันพยักหน้าตอบรับ หวังฟางยิ้มจนหุบปากไม่อยู่ แล้วมองหลี่โม่ที่เดินจากไป “ไม่คิดเลยว่า ครั้งนี้จะเป็นเพราะขยะหลี่โม่นั่นจริงๆ ฉันรู้สึกมองเขาเปลี่ยนไปนิดหน่อย”

“แม่ อย่าด่าเขาอีกแล้ว”กู้หยุนหลันพูด

“ได้ๆๆ แม่ไม่พูดแล้ว วันนี้อารมณ์ดี แม่ให้หลี่โม่ซื้อผักกลับมา”หวังฟางพูด เอาโทรศัพท์ออกมาแล้วโทรออกหาเบอร์ของหลี่โม่

แต่ว่า ไม่นานในห้องน้ำก็มีเสียงโทรศัพท์ดัง

กู้หยุนหลันฟังแล้วก็เข้าไป ค้นโทรศัพท์ของหลี่โม่ออกมาจากกองเสื้อผ้าสกปรก แล้วกลับห้องนั่งเล่น “แม่คะ หลี่โม่ลืมโทรศัพท์ไว้ หนูเอาไปส่งให้เขาเอง”

ขณะที่พูด โทรศัพท์ในมือก็มีเสียงกริ๊งดังขึ้นทีหนึ่ง เป็นเสียงแจ้งเตือนข้อความ คนส่งข้อความชื่อเฉียนฝู

ก็มองเห็นข้อความด้านหน้าไม่กี่ตัว : หลังจากที่เทศกาลดนตรีจบลง เจอกับจิ่วสื่ออี…….

เฉียนฝู?

ชื่อนี้ทำไมดูคุ้นจัง?

คิดแล้วกู้หยุนหลันก็กำลังจะเปิดข้อความดู

Comment

Options

not work with dark mode
Reset