จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 660 คุณคือเจ้านายของผม

ความเจ็บปวด ความรู้สึกเจ็บปวดที่รุนแรงได้เกลื่อนกลาดไปทั่วทั้งตัวกงซุนจุน โดยเฉพาะอย่างยิ่งความรู้สึกเจ็บปวดระหว่างเป้ากางเกง นอกจากนี้ยังทำให้กงซุนจุนมีความรู้สึกอยากตาย

ทันใดนั้นเสื้อแขนยาวด้านหน้าของกงซุนจุนก็ได้ย้อมไปด้วยเลือดสดสีแดง จนกลายเป็นสีแดงเลือด

“เจ็บ เจ็บมาก!”

กงซุนจุนได้ร้องด้วยความเจ็บปวดด้วยใบหน้าที่บิดเบี้ยว และร่างกายก็ค่อยๆคุกเข่าล้มลงอยู่บนพื้น

เชฟได้มองด้วยความตกตะลึงตาค้าง คิดไม่ถึงว่าจานใบหนึ่งก็สามารถมีแรงสังหารได้แข็งแกร่งขนาดนี้ นั่นเป็นเพียงจานธรรมดาๆใบหนึ่งนะ!

“นาย นายน้อย คุณรู้สึกยังไงบ้าง? พวกเราส่งคุณไปโรงพยาบาลก่อนดีมั้ย”

เชฟพูดด้วยความกระวนกระวาย

สายตาของกงซุนจุนเต็มไปด้วยความโกรธแค้นมองไปทางหลี่โม่: “มึง มึงเป็นใครกันแน่! ทำไม ทำไมร้ายกาจแบบนี้”

“ฉันก็เป็นคนธรรมดาคนหนึ่งเท่านั้น เพียงแต่ต้องการจะสอนนายว่าเป็นคนก็ต้องถ่อมตัว ถ้าเสแสร้งจะต้องถูกจานหั่น” หลี่โม่พูดพร้อมยิ้ม

ในใจของกงซุนจุนเจ็บปวดอย่างไม่มีอะไรมาเปรียบได้ วางแผนมานานขนาดนี้ ก็รอวันนี้ที่จะออกหน้าออกตาล่ะ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็เป็นจุดจบที่น่าขายหน้า

ดูเหมือนว่าจะตั้งแต่ที่ได้เจอกับหลี่โม่ ชีวิตของกงซุนจุนก็ไม่ได้ราบรื่นอีกเลย

“มึง รอก่อนเถอะ!”

เขาพูดด้วยความโหดร้าย ตอนที่กงซุนจุนกำลังให้เชฟพาตัวเองไปนั้น ก็ได้มีเสียงรถชนดังส่งมา

หลี่โม่และคนอื่นๆได้มองไปทางนอกประตูด้วยกัน เห็นเพียงรถแลนด์โรเวอร์คันหนึ่งได้ชนไปยังรถที่กงซุนจุนนั่งมาก่อนหน้านี้ ชนจนรถของกงซุนจุนเปลี่ยนรูปไปโดยสิ้นเชิงแล้ว

“ไอสารเลว! ใครกล้าชนรถกู?”

กงซุนจุนตวาดด้วยความโกรธ

ท่ามกลางเสียงตวาดของกงซุนจุน ท่านแปดก็ได้พาคนลงรถ และได้ก้าวเดินเข้ามาในลานบ้าน

“ท่านแปด? ท่านแปดคุณมาได้ยังไง คุณมาได้พอดี รีบช่วยผมจัดการกับหลี่โม่!”

กงซุนจุนพูดตะโกนเสียงดัง ประหนึ่งกับได้พบผู้ช่วยชีวิตให้รอดพ้นจากอันตรายยังไงยังงั้น

ท่านแปดยิ้มเจื่อนๆและเดินมาตรงหน้าของกงซุนจุน ทันทีหลังจากนั้นก็ได้อ้าปากถุยเสลด พ่นใส่หน้าของกงซุนจุน

“ถุย! ไอสารเลวอย่างนาย คิดไม่ถึงว่าจะกล้าก่อเรื่องในงานเลี้ยงขึ้นบ้านใหม่ของคุณหลี่ ก็กล้ามากไปเกินไปแล้วจริงๆ!”

“ท่านแปด นี่คุณหมายความว่าอะไร? พวกเราก่อนหน้านี้ไม่ใช่ว่าตกลงกันแล้ว……เหรอ!”

ไม่รอกงซุนจุนพูดจบ ท่านแปดก็ได้ยกเท้าเหยียบไปบนหน้าของกงซุนจุนอย่างโหดเหี้ยม เหยียบจนกงซุนจุนร้องด้วยความเจ็บปวด

“ก็ไว้หน้าให้นายแล้วจริงๆ ถึงเวลานี้ยังไม่ยอมรับผิดอีก! เด็กๆ จัดการกงซุนจุนคนพวกนี้อย่างโหดเหี้ยมให้ฉัน!”

คล้อยตามเสียงตะโกนลั่นของท่านแปด พวกลูกน้องที่ได้ติดตามท่านแปดมา ก็ได้ทยอยดึงไม้กระบองที่พกติดตัวออกมา และได้ทุบตีพวกกงซุนจุนอย่างรุนแรง

ท่านแปดได้เหลือบมองกงซุนจุนหลังจากที่ถูกทุบตี และเขาได้วิ่งช้าๆไปถึงข้างตัวหลี่โม่

ท่านแปดได้โค้งตัว ยิ้มประจบสอพลอ และพูดราวกับเป็นลูกน้อง: “คุณหลี่ ผมเจ้าแปดมาช้าไป ทำให้คุณต้องตกใจ มันเป็นความผิดของผมจริงๆ”

หลี่โม่เอียงตามองท่านแปดไปครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา: “เกรงว่ามันจะไม่ได้ง่ายขนาดนั้นล่ะสิ คุณคิดว่าผมโง่ใช่ไหม?”

“ไม่ ไม่ใช่ ผมจะกล้าคิดว่าคุณโง่ได้ยังไงล่ะ คุณหลี่คุณโปรดยกโทษให้ผมด้วย เป็นเพราะว่าผมต้องการชัดเจนว่าเขาจะทำอะไร จึงได้จงใจแสร้งคล้อยตามเขา”

ท่านแปดได้แสร้งทำตัวน่าสงสาร และพยายามขอให้หลี่โม่ให้อภัย

หลี่โม่ได้ส่งเสียงไม่พอใจ จากนั้นได้ชี้ไปที่พวกกงซุนจุนพร้อมพูด: “เอาพวกมันออกไปจัดการเถอะ มาตีคนตายในลานบ้านของฉันมันไม่เป็นมงคล”

“โอ้วโอ้ว ผมจะไปจัดการเดี๋ยวนี้”

ท่านแปดได้รีบยืดเอวตรง และให้ลูกน้องที่มีท่าทางแสดงอำนาจบาตรใหญ่ลากพวกกงซุนจุนออกไป

ไม่ช้าพวกกงซุนจุนที่ถูกตีจนใกล้หมดลมหายใจก็ได้ถูกพาไป จากนั้นท่านแปดก็ได้โค้งตัว ยิ้มประจบสอพลอ และพูดต่อ: “ผมเดาว่าอาจจะเกิดเรื่อง ดังนั้นจึงได้เตรียมของขวัญเล็กๆน้อยไว้มากมาย คุณหลี่อีกเดี๋ยวคุณสามารถมอบปลอบขวัญให้กับพวกแขกได้”

หลี่โม่ได้พยักหน้าเล็กน้อย และได้พูดอย่างเฉยเมย: “งั้นคุณก็รับผิดชอบงานส่งแขกเถอะ พาแขกพวกนี้ก็ส่งไปตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสักหน่อย จากนั้นค่อยปลอบโยนอารมณ์ของพวกเขา หากว่ามีใครไม่พอใจ ผมก็จะให้คุณรับผิดชอบเท่านั้น”

“คุณโปรดวางใจ ผมจะต้องจัดการเรื่องอย่างเหมาะสม จะต้องไม่ให้ใครพูดว่าคุณไม่ดี”

“ไปเถอะ”

จากนั้นหลี่โม่จึงได้โบกมือ ให้ท่านแปดไปจัดการเรื่องของเหล่าแขกผู้มาเยือนก่อน

เรื่องเกิดมาถึงขั้นนี้แล้ว พวกแขกผู้มาเยือนล้วนได้ถูกวิธีการเมื่อกี้ของหลี่โม่ทำให้ตกใจกลัว แต่ไม่มีใครกล้าพูดคำว่าไม่พอใจ กลับได้ตกตะลึงการเปลี่ยนแปลงของหลี่โม่อยู่ในใจ

เศษสวะในตำนานที่เกาะผู้อื่นกินคนนั้น วันนี้คิดไม่ถึงว่าจะชอบหาเรื่องเหมือนปรมาจารย์ศิลปะการต่อสู้ในละครโทรทัศน์ ภาพความทรงจำที่ถูกโค่นล้มนี้ได้บังเกิดความรู้สึกบางอย่างอยู่ในใจของกลุ่มแขกจำนวนมาก

ท่านแปดจัดการให้คนส่งแขกไป แต่พวกคุณปู่กู้ต่างก็ถูกส่งเข้าไปยังห้องพักในคฤหาสน์แล้ว

หลังจากที่จัดหาที่พักให้กลุ่มคนเรียบร้อยแล้ว หลี่โม่ก็นั่งอยู่บนโซฟาในห้องรับแขก และได้นั่งตรงข้ามกับท่านแปด

“เจ้าแปด ตอนนี้ก็เป็นช่วงที่ตึงเครียดก่อนที่จะเกิดการปะทะกัน คุณจะต้องคิดให้ดีว่าควรทำยังไง”

“สิ่งนี้ ผมเจ้าแปดได้คิดดีแล้ว ผมตัดสินใจจะติดตามคุณ นายน้อย”

ท่านแปดได้พูดด้วยความจริงจังมาก

“คุณตัดสินใจแล้วจริงเหรอ? ติดตามผม นั่นเป็นทางที่เดินลำบากมากทางหนึ่ง ตลอดทางก็เต็มไปด้วยอุปสรรคขวากหนาม ถึงแม้จะฟันฝ่าขวากหนามได้ก็ไม่แน่ว่าจะสามารถไปถึงอีกฟากฝั่งได้”

หลี่โม่หลับตาพูด

หลังจากที่ออกมาจากวัดหลิงซานแล้ว ในใจของหลี่โม่ก็ได้คิดเรื่องมากมาย ครุ่นคิดถึงสิ่งที่เจ้าอาวาสฝ่าจื้อได้พูดว่า คำพูดพวกนั้นจะต้องมีคนยุยงแน่นอน

นี่หมายความว่าได้มีคนทนไม่ไหวแล้ว จึงคิดอยากจะยุยงในความสัมพันธ์ระหว่างคู่กรณีกับหลี่โม่ เพื่อต้องการให้สถานการณ์ยุ่งเหยิงขึ้นมาก่อน

หากว่าสถานการณ์ยุ่งเหยิงขึ้นมาแล้ว คนที่มีส่วนได้ส่วนเสียที่เกี่ยวข้องกันเมื่อได้ยินข่าวก็จะต้องลงมือทันที เมื่อถึงตอนนั้นก็จะเป็นฉากตะลุมบอนกันฉากหนึ่งแล้ว

การเผชิญหน้ากับฉากตะลุมบอนที่เกิดขึ้นนี้ หลี่โม่ยังไม่ได้เตรียมตัวอย่างรอบคอบไว้ แต่การเปลี่ยนแปลงของสถานการณ์ก็ไม่ใช่ว่าหลี่โม่จะยับยั้งไว้ได้ สิ่งที่เขาสามารถทำได้ก็คือการเผชิญหน้ากับความท้าทายและทุ่มเทแรงกายแรงใจในการทำลายสถานการณ์

ท่านแปดได้ฝืนยิ้มพร้อมพูด: “ตอนนี้ผมก็ไม่เป็นที่รักและเอ็นดูของผู้อื่น ไม่ว่าจะเป็นราชินีของสำนักหลงเหมินทางด้านนั้น หรือจะเป็นราชาใหญ่ทางด้านนั้น ผมก็เป็นคนที่ถูกกีดกันและไม่ยอมรับทั้งสิ้น

การติดตามพวกเขาอาจจะไม่มีผลตอบแทนของผม แต่ถ้าเรื่องตายผมคงเป็นคนแรกแน่ๆ ผมไม่ต้องการเป็นตัวรับกระสุน การติดตามคุณในเวลานี้…แม้ว่าจะพูดได้ว่าอันตรายที่สุด แต่ผลกำไรหลังจากนี้ก็จะมากที่สุด

พูดเล่นประโยคหนึ่ง ผมนี้ก็ได้เดิมพันด้วยชีวิตแก่ๆทั้งชีวิตแล้ว หากว่าคุณชนะ งั้นหลังจากนี้ในทุกวันผมก็จะอยู่อย่างมั่งคั่ง กิน ดื่ม ได้อย่างอิสระ ผลัดกันเล่นกับสาวสวยจากทั่วโลก

แต่หากว่าคุณแพ้แล้ว ยังไงเสียที่สุดแล้วคนก็ต้องตาย ผมตายเร็วไปกี่ปีก็คงไม่เป็นไร ก็นับว่าได้ต่อสู้เพื่อความฝันสักครั้ง ถึงตายก็คุ้มค่านะ”

หลังจากที่ท่านแปดได้กังวลมากี่สิบวัน ในที่สุดเขาก็ได้เลือกสิ่งที่สำคัญมากที่สุดในชีวิตออกมาแล้ว นำแต้มต่อทั้งหมดกดดันอยู่ที่หลี่โม่ทางด้านนี้

หลี่โม่ได้ยิ้มอย่างจืดจางครู่หนึ่ง จากนั้นก็ได้ตบไปที่ไหล่ของท่านแปดเบาๆ: “ในเมื่อคุณเลือกฝั่งนี้ของผมแล้ว งั้นก็ทำตามคำสั่งของผมด้วยความสบายใจ แต่ห้ามทำเรื่องสองจิตสองใจเด็ดขาด ไม่เช่นนั้นผมจะไม่ปล่อยคุณไป”

“คุณวางใจได้ ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ผมเจ้าแปดมีคุณเป็นเจ้านายคนเดียว!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset