จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 669 ต้านทานไม่ไหว

เจ้าของร้านวางมือถือลง แล้วมองไปที่หลี่โม่ด้วยความสงสัย แล้วพูดอย่างขี้เกียจไปว่า“ไอ้หนุ่มไม่เลวเลยนะ รู้เยอะเลยนะ”

“เหอะๆ ชอบเกี่ยวกับสิ่งนี้น่ะครับ ดังนั้นจึงค่อนข้างเข้าใจมากหน่อย แต่แค่ผิวเผินเท่านั้นเอง”หลี่โม่พูดอย่างถ่อมตน

“ถ่อมตัวจังเลยนะ สินค้าในบูธของฉันมีอะไรที่เข้าตานายบ้างไหม? ถ้ามีอะไรเข้าตานายฉันลดราคาให้ได้นะ”

“เหอะๆ สินค้าในบูธของคุณพวกนี้ มีแต่หินเลือดไก่ที่มาจากปาหลิน แถมยังเป็นหินเลือดไก่เนื้อแข็งที่มีความแข็งค่อนข้างสูง ซื้อกลับไปก็เอาไปใช้ประโยชน์อะไรไม่ได้”

หลี่โม่ยิ้มพลางพูด

“นี่ ยังรู้เรื่องหินเนื้อแข็งอีก นายไม่ธรรมดาเลยจริงๆ ดูท่าฉันต้องเอาของดีมาให้คนได้เห็นเป็นขวัญตาแล้วล่ะ เพราะนายเข้าใจวิชาชีพนี้ ฉันจะเอาของดีที่อยู่ในมือของฉันออกมาให้ดูแล้วกัน”

เจ้าของร้านลุกขึ้นมาจากเก้าอี้ เปิดลิ้นชักที่อยู่ด้านล่างบูธออกมา แล้วหยิบกล่องไม้ยาวๆใบหนึ่งออกมา

แล้วค่อยๆวางกล่องไม้ลงบนบูธอย่างระมัดระวัง เจ้าของร้านเปิดฝากล่องไม้ออก เผยให้เห็นตราประทับน้อยใหญ่ที่อยู่ภายในกล่อง

“นี่คือตราประทับที่ฉันรวบรวมมาตลอดทั้งชีวิต ดูสิ นี่คือหินเลือดไก่หลิวกวนจาง หินเลือดไก่เนื้อแก้วที่ได้มาตรฐาน แต่มันดูน่าเกลียดกว่าหินเนื้อแก้วอื่นมาก ยังมีหินสีเหลืองทองชิ้นนี้ นายเห็นไหม มันมีเส้นแครอทเหลืองทอง ยิ่งเป็นหนึ่งในหมื่น และเป็นของที่ดีที่ในบรรดาหินลิ้นจี่ ดูสิ มีสัมผัสของเนื้อลิ้นจี่ไหม สีขาวใสละเอียด ฉันยังอยากกัดชิมหนึ่งคำเลย แล้วมาดูหินโรสควอตซ์ สวยขนาดไหน นี่ก็คือสีชมพูอ่อนของดอกชบา มีสัมผัสของความเยือกเย็นโปร่งแสง จึๆ ต้องเป็นหินที่ดีที่สุดในบรรดาเหล่าหินทั้งหมดอย่างแน่นอน”

เจ้าของร้านแนะนำอย่างตื่นเต้น น้ำลายกระเด็นออกมาจนหมด

กู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงมองตราประทับพวกนั้นอย่างสงสัย โดยเฉพาะหินโรสควอตซ์กับหินลิ้นจี่ที่ถูกดึงดูด สัมผัสของความโปร่งแสงนั้น ให้ความรู้สึกเปล่งประกาย ซึ่งเป็นสิ่งที่ผู้หญิงชอบมาก

หลี่โม่หยิบตราประทับสีดำที่ไม่ค่อยสะดุดตาเท่าไรออกมาจากกล่อง กุมไว้ในมือแล้วเล่นไปมาเบาๆ

“เจ็ทชิ้นนี้ไม่เลวเลย บริสุทธิ์มาก อีกทั้งน้ำหนักก็เพียงพอ เป็นหนึ่งในเจ็ทที่ดีที่สุด”

“นี่ น้องชายเก่งกาจจริงๆ เจ็ทชิ้นนี้คนทั่วไปไม่รู้จักมัน แต่ว่าในอดีต มันเป็นตราประทับที่ถูกใช้โดยบุคคลสำคัญ”

บุคคลที่มีชื่อเสียงที่สุดที่ใช้เจ็ทเป็นตราประทับจะเรียกว่ากู่ตู่ซิ่น ซึ่งกู่ตู่ซิ่นเป็นที่รู้จักในฐานะพ่อตาที่หนึ่งในโลก เป็นพ่อตาของจักรพรรดิสุยเหวินตี้หยางเจียน และเป็นปู่ของจักรพรรดิถังเกาจู่

ลูกสาวทั้งสามคนของตู่กู่ซิ่น แบ่งเป็นพระจักรพรรดินีหมิงจิ้งแห่งราชวงศ์เป่ยโจว พระจักรพรรดินีหยวนเจินมารดาของจักรพรรดิถังเกาจู่ พระจักรพรรดินีเหวินเสี้ยนของจักรพรรดิสุยเหวินตี้หยางเจียน

กู่ตู่ซิ่นผู้เป็นบิดาของจักรพรรดินีทั้งสามพระองค์ ใช้ตราประทับยี่สิบหกด้านที่ทำจากเจ็ท ตราประทับสิบสี่ดวงถูกสลักไว้ทั้งยี่สิบหกด้าน ประกอบเป็นตราประทับหนึ่งดวง

ไม่ต้องพูดถึงอย่างอื่น แค่พูดถึงรูปแบบตราประทับของกู่ตู่ซิ่น ซึ่งเกรดถือว่าสูงมาก ถือได้ว่าเป็นสิ่งไม่เคยปรากฏในอดีตมาก่อนและหลังจากเขาก็ไม่มีใครเป็นเหมือนเขาอีก

หลังจากที่หลี่โม่นำเจ็ทที่อยู่ในมือเล่นอยู่ครู่หนึ่ง ก็วางกลับไป แล้วยิ้มตาหยีมองไปที่เจ้าของร้านพลางพูดขึ้นมาว่า“มีของที่ดีกว่านี้ให้ผมดูอีกไหมครับ?”

“พะ……พวกนี้นายยังคิดว่าดีไม่พออีกเหรอ?วิสัยทัศน์ของนายสูงจริงๆ ของเหล่านี้เอาออกไปอย่างใดอย่างหนึ่ง ล้วนเป็นของดีที่สุดเลยนะ”เจ้าของร้านพูดอย่างจริงจังและมั่นใจ

หลี่โม่ส่ายหัวไปมาแล้วยิ้มอย่างเย้ยหยัน“ของที่ดีที่สุด?ของพวกนี้ของคุณยังห่างไกลเป็นพันลี้ แค่เจ็ทนั่นเนี่ยนะถือเป็นของดีที่สุด อย่างอื่นก็หึๆ”

กู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงขมวดคิ้วเป็นปม แล้วมองไปที่ตราประทับที่อยู่ในกล่องด้วยความสงสัย

“ตราประทับพวกนี้ไม่ถูกต้องเหรอ?หรือตราประทับมีปัญหาอะไร?”

“ฉันว่าตราประทับพวกนี้ก็สวยดีนะ น่าจะไม่มีปัญหาอะไรหรอกมั้ง?”

สีหน้าของเจ้าบูธเปลี่ยนไป เขาพูดอย่างดื้อรั้น“อาหารกินมั่วๆได้ แต่จะพูดพล่อยๆแบบนี้ไม่ได้นะ ถ้านายบอกว่าของพวกนี้ไม่ถูกต้อง งั้นก็พูดอธิบายให้ฉันเข้าใจให้ได้ ไม่อย่างนั้นนี่มันคือการใส่ร้าย”

“คุณคิดว่าผมกำลังใส่ร้ายคุณงั้นเหรอ?คุณไม่รู้แก่ใจรึไง?หลอกลวงคนอื่นไม่เป็นมืออาชีพเลยนะ ผมได้แสดงความรู้ของมืออาชีพไปแล้ว คุณยังอยากหลอกต่อไป?นี่มันมากเกินไปหน่อยมั้ง”หลี่โม่พูดอย่างเริงร่า

“นะ……นายหมายความว่าไง ฉันไม่เข้าใจ ถึงยังไงถ้านายบอกว่าของของฉันไม่ถูกต้อง งั้นนายก็ต้องพูดเหตุผลออกมา”

เจ้าของร้านส่ายหัวแล้วแสร้งทำเป็นไม่รู้เรื่อง

“วงการหยกในตอนช่วงต้นมีการปรากฏตัวของหยกมองโกเลียนอก ในตอนที่หยกพวกนั้นพึ่งปรากฏตัวขึ้น ผู้เล่นที่มีประสบการณ์จำนวนมากถูกตบตา ต่างคิดว่านั่นคือหยกเนื้อขาวโปร่งใสสีขาวขุ่น แต่เมื่อมีผู้เล่นจำนวนหนึ่งทำการศึกษาค้นคว้า สุดท้ายก็พบว่าหยกมองโกเลียนอกพวกนั้นทำมาจากลูกแก้ว และคำว่ามองโกเลียนอก ในวงการภายในหมายความว่า หยกมองโกเลียนอก ของพวกนี้ของคุณ เป็นสูตรเดียวกันกับหยกมองโกเลียนอก เพียงแต่มีการแต่งเติมสีที่ต่างออกไป ต้องให้ผมพูดให้ชัดกว่านี้ไหมครับ?ถ้าผมพูดชัดเจนกว่านี้มันจะไม่ดีต่อคุณนะครับ”

คำพูดของหลี่โม่ ทำให้เจ้าของร้านรู้สึกไร้ชีวิตชีวาไปเลย เขาทำได้เพียงแค่หัวเราะอย่างอึดอัดใจไม่หยุด

กู้หยุนหลันหยิบหยกชิ้นนั้นขึ้นมามองดูอย่างประหลาดใจ มองดูอย่างไรมันก็คือก้อนหิน ไม่มีความเกี่ยวข้องกับกระจกแม้แต่น้อย

“ของสิ่งนี้คือกระจกงั้นเหรอ?แต่ทำไมผมถึงดูไม่ออกว่ามันคือกระจกกัน ถือไว้ในมือสัมผัสก็ไม่เหมือน”

“เทคโนโลยีทุกวันนี้ก้าวหน้ามาก ลูกแก้วแตกต่างจากแก้วธรรมดา ลูกแก้วแปรรูปพิเศษมีความสามารถในเลียนแบบอัญมณีและหยกของเลียนแบบชั้นดีส่วนใหญ่ที่ทำจากลูกแก้ว ถ้าไม่ผ่านการทดสอบด้วยอุปกรณ์ระดับมืออาชีพ จะแยกแยะได้ยากด้วยสายตามนุษย์ เว้นแต่จะมีประสบการณ์มากมายในการระบุอัญมณีและหยก”

หลี่โม่อธิบายอย่างไม่ใส่ใจ และชี้ประเด็นสำคัญออกมา ปัจจุบันเทคโนโลยีการทำอัญมณีและหยกปลอมเริ่มดีขึ้นเรื่อยๆ

“พี่หลี่โม่เก่งที่สุดเลยค่ะ ดูออกของพวกนี้ไม่ถูกต้องออกด้วย พ่อค้าอย่างคุณขี้โกงเกินไปแล้วนะ ถึงได้ใช้ของปลอมมาหลอกลวงคนอื่นแบบนี้ เมื่อกี้ถูกคุณพูดจนรู้สึกตื่นเต้น ฉันก็คิดว่าเจอของดีแล้วซะอีก”เฉินเสี่ยวถงถลึงตาใส่เจ้าของร้านอย่างไม่พอใจ

ท่าทีของของเจ้าของร้านอับอายมากยิ่งขึ้น เขาใช้สองมือทำท่าคารวะให้หลี่โม่“น้องชายเป็นคนสูงส่ง เก่งกาจมากจริงๆ ฉันเลื่อมใสแล้ว จะดูของดีที่ฉันไม่มี แต่ในมือของลูกพี่ใหญ่เราพี่ ถ้านายเชื่อฉัน ฉันก็จะพานายไปดู”

พ่อค้าแม่ค้าที่มาร่วมงานนิทรรศการ ไม่ได้สู้เพียงลำพัง ส่วนใหญ่จับกลุ่มโดยมืออาชีพ วิ่งอยู่ทั่วทั้งประเทศ ทุกสถานที่จะอาศัยอยู่ประมาณสิบวันถึงครึ่งเดือน หลังจากนั้นก็จะเปลี่ยนเมืองเพื่อเริ่มขบวนการขายต่อไป

ตอนนี้เจ้าของร้านต้านทานหลี่โม่ไม่ไหวแล้ว เตรียมจะพาหลี่โม่ไปพบลูกพี่ใหญ่ของพวกเขา

Comment

Options

not work with dark mode
Reset