จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 67 ไล่ออก

บทที่ 67 ไล่ออก

“หลินชิงหาน? ” หลี่โม่กล่าวด้วยสีหน้าที่เฉยเมย “ผมไม่พอใจคุณมาก และผมไม่พอใจกับการตกแต่งห้องคอนเสิร์ตในครั้งนี้มาก”

วินาทีนี้ทำเอาหลินชิงหานตกใจจนหัวใจเต้น ตุ้บๆ จนขาของเธอสั่นไปหมด และฝ่ามือของเธอชุ่มไปด้วยเหงื่อ

“คุณหลี่ฉันขอโทษค่ะ ฉันจัดการได้ไม่รอบคอบและฉันคิดไม่ถึงว่าคุณจะมาก่อนเวลา”

หลินชิงหานโค้งตัวลง วินาทีนี้ดูออกว่าเธอเคารพและหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัดเจน!

นี่คือคุณหลี่ผู้ลึกลับที่เหมาห้องคอนเสิร์ตทั้งงาน!

ยิ่งเป็นคนใหญ่คนโตที่เถ้าแก่กำชับนักกำชับหนา ให้ดูแลอย่างดีอีกด้วย

ทำไม?

เพราะคนที่รวยที่สุดในเมืองฉู่โจวคือเฉียนฝู เป็นคนที่มาหาเถ้าแก่ใหญ่ด้วยตัวเอง และได้เหมาห้องคอนเสิร์ตไว้ทั้งงาน!

ลุงเฉียนคนนั้น เป็นคนยิ่งใหญ่ไม่สามารถจับต้องได้ง่ายๆ!

ต้องรู้ว่าเถ้าแก่ของ Vienna Concert Hall เป็นคนเหี้ยมโหดในเมืองฮ่าน เป็นหนึ่งในราชาใต้ดินทั้งสี่ที่ไม่ว่าจะทางกฎหมายหรือพวกนักเลงก็สามารถคุมไว้ได้ทั้งหมด เฉียวเจิ้งหลง!

เฉียวเจิ้งหลงคือใคร?

ไม่มีใครในเมืองฮ่านที่ไม่รู้จักชื่อของเขา!

เกิดมาในฐานะนักเลง ไต่เต้าขึ้นสู่บัลลังก์หนึ่งในสี่ราชาใต้ดินของเมืองฮ่านทีละก้าว!

ในสี่ราชาใต้ดิน ในเมืองฮ่านชื่อเสียงของเขาไม่ได้อยู่ภายใต้ท่านเทียนฉู่จงเทียน!

ไม่ว่าจะทางกฎหมายหรือในพวกนักเลงทุกคนต้องเกรงอกเกรงใจเขา

พูดได้ว่า ขอแค่เฉียวเจิ้งหลงพูดคำเดียว ไม่มีอะไรที่เขาทำไม่ได้ในเมืองฮ่าน

ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา หลินชิงหานติดตามเฉียวเจิ้งหลงและก็มีเสียงดังทั่วในเมืองฮ่านปะปนแล้วได้เข้าสู่ชนชั้นสูงของเมืองฮ่าน

ผู้หญิงที่เย่อหยิ่งอย่างเธอมักจะไม่ก้มหัวให้คนอื่น แต่ในตอนนี้เธอก้มหัวให้หลี่โม่

เพราะเธอรู้ชัดเจนว่าชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้าเธอเป็นคนแบบไหน!

เมื่อวานตอนที่เฉียวเจิ้งหลงเห็นลุงเฉียน ท่าทีที่เคารพนับถือของเขา แทบจะคุกเข่าลงกับพื้นเพื่อพูดคุยกัน อ่อนน้อมถ่อมตัวสุดขีด

ในเวลานั้นลุงเฉียนกล่าวเพียงว่า “ผมมาจัดการเรื่องให้กับนายน้อยของตระกูลผม หวังว่าทุกอย่างจะทำออกมาได้สวยงาม และทุกอย่างต้องเงียบ ห้ามป่าวประกาศออกไป”

นายน้อยในปากของลุงเฉียน เป็นคนแบบไหนกันนะ?

หลินชิงหานไม่กล้าที่จะจินตนาการและตกใจตลอดทั้งคืน!

แม้คำพูดจากหลี่โม่เพียงประโยคเดียว หลินชิงหานก็สามารถเสียสละความงามของเธอเพื่อให้เป็นที่โปรดปรานของหลี่โม่ได้

นั่นเป็นเพราะเฉียวเจิ้งหลงได้เปิดเผยประโยคหนึ่งในคืนนั้น “ฉันเฉียวเจิ้งหลงมีความสำเร็จในวันนี้ หนึ่งคือฉู่จงเทียนท่านเทียนชื่นชม สองคือพระเจ้าประทานให้กิน แต่พระเจ้าองค์นี้ ก็คือลุงเฉียน คุณหลี่ท่านนี้เป็นนายน้อยของลุงเฉียน พวกเราต้องปฏิบัติต่อเขาด้วยความเคารพเป็นหมื่นเท่า ไม่เช่นนั้น อย่าว่าแต่ผมเฉียวเจิ้งหลง ถึงจะเป็นเมืองฮ่าน ก็ต้องพลิกทั้งแผ่นดิน”

น่ากลัว!

น่ากลัวเกินไปแล้ว!

หลี่โม่ค่อยๆมองไปที่หลินชิงหาน ส่ายศีรษะแล้วพูดว่า “ช่างมันเถอะ ไม่ใช่เรื่องใหญ่โตอะไร ผมแค่มาดูสถานที่”

แต่ทันทีที่เสียงสิ้นสุด ฝั่งซุนเสี่ยวหย่าที่ไปหาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยเมื่อสักครู่ ได้พาเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยมาสองสามคน พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยรอยยิ้มที่เย็นชา และชี้ไปที่หลี่โม่ พูดว่า “เขานั่นแหละ ลากคนงานคนนี้ออกไป การที่เขาอยู่มันทำให้ Vienna Concert Hallของเรามัวหมอง! อีกอย่างตรวจสอบด้วยว่าเขาได้ลักเล็กขโมยน้อย หรือขโมยอะไรรึเปล่า “

แววตาของหลี่โม่ตกตะลึง รูม่านตาของเขาหดตัวลง เขาก็ส่งเสียงหึอย่างเย็นชา และพูดกับหลินชิงหานที่อยู่ตรงหน้า “ผู้จัดการหลิน คุณจัดการเองเลย”

ร่างกายของหลินชิงหานสั่นไปถึงกระดูก เมื่อรู้ว่าคุณหลี่โกรธแล้ว!

ท่านเฉียวเคยพูดไว้ว่า ห้ามทำให้คุณหลี่โกรธเด็ดขาด มิฉะนั้น เมืองฮ่านจะจบลงทันที

เธอรีบจ้องมองทันที เหยียบรองเท้าส้นสูง เดินไปหาซุนเสี่ยวหย่า ยกมือขึ้นแล้วตบเธอด้วยความโกรธ!

เพี้ยะ!

เสียงตบดังกึกก้องไปทั่วห้องโถง!

“ช่างกล้า! ใครให้สิทธิ์เธอไล่คุณหลี่?” คู่สายตาที่โกรธแค้นจ้องมองซุนเสี่ยวหย่า แค้นจนอยากจะฉีกเธอเป็นชิ้นๆ!

ถ้าไม่ใช่เพราะเธอ คุณหลี่คงไม่โกรธอย่างนี้

ซุนเสี่ยวหย่ากุมแก้มที่บวมของเธออย่างรวดเร็ว ครึ่งค่อนวันถึงได้สติ ถามด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยความข้องใจ “ผู้จัดการ คุณตบฉันทำไมคะ แล้วคุณหลี่อะไร? “

ซุนเสี่ยวหย่าโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ถูกหลินชิงหานตบโดยไม่มีเหตุผล เธอโกรธมาก!

ถ้าไม่ใช่เหตุผลที่ว่าเธอเป็นผู้จัดการ ซุนเสี่ยวหย่าคงจะฉีกเธอไปนานแล้ว

แค่ปีศาจตัวหนึ่ง!

อาศัยร่างกาย ไปประจบสอพลอเจ้านาย อีนางตอแหล!

ต่อมาซุนเสี่ยวหย่าก็แสดงความโกรธใส่หลี่โม่ ชี้ไปที่เขาและตะโกนว่า “ทำไมพวกคุณยังยืนทำไรอยู่ ลากไอ้ทึ่มนี่ออกไปซะ!”

หลังจากพูดจบ!

เพี้ยะ!

หลินชิงหานสะบัดมือไปตบอีกครั้ง!

ในเวลานี้ ซุนเสี่ยวหย่ารู้สึกอึ้งตะลึงสุดๆ เอามือสองข้างปิดที่แก้มของเธอ

“ซุนเสี่ยวหย่า หุบปากซะ! ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป เธอถูกไล่ออก รีบออกไปจากที่นี่ทันที!”

หลินชิงหานตวาด ใบหน้าเต็มด้วยความโกรธ และชี้ไปที่ประตู

ไอ้โง่ไม่มีตาคนนี้ อยากตายก็อย่าลากคนอื่นไปด้วยสิ!

“ผู้จัดการ คุณจะบ้าเหรอ? คุณตบฉันทำไม มันผิดเหรอที่ฉันขับไล่คนไม่มีประโยชน์ออกไป? คุณมีสิทธิ์อะไรมาไล่ฉัน แฟนฉันเป็นหัวหน้างานที่นี่นะ!”

ซุนเสี่ยวหย่าโกรธมาก แต่ไหนแต่ไรมาก็ไม่ชอบคนชั้นต่ำอย่างหลินชิงหาน ชอบยั่วยวนผู้ชายอยู่กับแฟนเธอทั้งวัน ครั้งก่อนก็ไปเปิดห้องด้วยกัน แถมแฟนยังเรียกชื่อผู้หญิงอีกด้วย!

โกรธจนจะบ้า!

ก็เป็นแค่ผู้จัดการนิ มีอะไรยอดเยี่ยม ยังจะเสแสร้งอะไรอีก?

“สิทธิ์อะไร? ก็เพราะเธอเสียมารยาทกับคุณหลี่ และสิทธิ์ที่ฉันเป็นผู้จัดการที่นี่!” หลินชิงหานตอบด้วยน้ำเสียงที่เย็นชา

“ชิส์! หลินชิงหานอย่าอาศัยบารมีคนอื่นมาอวดเบ่ง คิดว่าเธอเป็นผู้จัดการแล้วจะแน่หรอ? แฟนของฉันยังคงเป็นหัวหน้างาน ฉันจะบอกแฟนของฉัน ให้ไปฟ้องเถ้าแก่!” ซุนเสี่ยวหย่ากระทืบเท้าด้วยความโกรธและหันศีรษะของเธอสะบัดเดินออกไป

อีดอก!

ฉันไม่เชื่อว่าแฟนของฉันจะจัดการเธอไม่ได้ ฉันต้องสั่งสอนเธอให้สาสม!

หลินชิงหานยิ้มอย่างเย็นชา หาเถ้าแก่?

กลัวว่าอีกเดี๋ยวจะไม่รู้ว่า คำว่าตายเขียนยังไง

จากนั้น เธอยืนข้างๆหลี่โม่ ด้วยท่าทางเคารพประจบประแจงและพูดเบา ๆ “คุณหลี่ได้โปรดตาม ฉันมา”

หลี่โม่พยักหน้าและเดินตามหลินชิงหานเข้าไปที่ห้องรับรองด้านในสุดของห้องคอนเสิร์ต

ห้องรับรองนี้มีความเรียบง่ายและหรูหรามาก โดยเน้นสีดำและสีขาวเป็นโทนหลัก ซึ่งดูหรูหราและสะอาดตา มีความรู้สึกเหมือนอยู่ในอุโมงค์สวรรค์ที่ไม่เหมือนใคร ด้วยโทนสีทองด้านนอก

ผนังสี่ด้านมีสีขาว ด้านหนึ่งเป็นผนังกระจกเต็มบาน สามารถมองเห็นเปียโนสีดำและสีทอง

มองเพียงแวบเดียว หลี่โม่ก็จำได้แล้วว่ามันเป็นเปียโนSteinway & Sons ซึ่งหยุดผลิตแล้ว ราคาในตลาดต้องใช้หลายล้านขึ้นไป

ในขณะนี้ หลินชิงหานถอดเสื้อโค้ทของตัวเองออก เหลือเพียงเสื้อลูกไม้สีดำที่เซ็กซี่มาก นั่งชันเข่าอยู่ที่โต๊ะน้ำชา มือที่ขาวนวลเรียวยาวคู่หนึ่ง ตอนกำลังชงชาร้อนนั้นดูเคลื่อนไหวได้อย่างชำนาญมาก

จากนั้นเธอก็หยิบชาร้อนขึ้น เดินไปหาหลี่โม่ที่กำลังมองดูเปียโนที่อยู่ตรงหน้า และพูดเบาๆว่า “คุณหลี่ เชิญดื่มชาค่ะ”

หลี่โม่รับมันขึ้นมาจิบแล้วพูดว่า “ปี้หลัวชุนของเขาตงซานที่ใกล้ซูโจวและหางโจว เป็นชาชั้นดีรสหวานและกลิ่นหอมขึ้นจมูก อย่างไรก็ตามฝีมือการชงชาของผู้จัดการหลินนั้นไม่ธรรมดา”

“คุณหลี่ คุณชมเกินไปแล้ว คาดไม่ถึงว่าคุณจะศึกษาวิจัยเรื่องชาด้วย” หลินชิงหานยิ้ม

“ไม่ได้วิจัยอะไร เพียงแค่ก่อนหน้านี้ดื่มมากไปหน่อย” หลี่โม่ยิ้ม

หลินชิงหานตัวสั่น ต้องดื่มชามากแค่ไหน ถึงจะกล้าพูดถึงเรื่องนั้นขึ้นมา!

หลังจากนั่งไปสักพัก เมื่อหลี่โม่ฟังสิ่งที่หลินชิงหานได้เตรียมแผนจัดการไว้ทั้งหมดแล้ว เขาลุกขึ้นเตรียมตัวจะออกไป

“คุณหลี่ จะกลับแล้วหรอคะ ฉันพาคุณไปเดินดูรอบ ๆก่อนได้นะคะ” หลินชิงหานพูด

หลีโม่ส่ายศีรษะและพูดว่า “ไม่ต้องแล้ว ผมต้องไปตลาดซื้อผัก”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ หลินชิงหานชะงัก น่าประหลาดมากคนอย่างคุณหลี่นี่ เข้าถึงได้ง่ายมากราวกับคนธรรมดา

ไปสถานที่อย่างนั้นเพื่อไปซื้อผักด้วยตัวเอง มีชีวิตที่เรียบง่ายสบายจริงๆ

หลี่โม่ไม่ได้พูดอะไร กำลังเตรียมตัวหันหลังกลับไป

วินาทีนั้น!

ประตูห้องรับรองถูกผลักออก!

ซุนเสี่ยวหย่าผู้ที่โกรธแค้นอยู่ก่อนหน้านี้ ตามหลังชายวัยกลางคนกะล่อนปลิ้นปล้อนเดินเข้ามา กอดอกพร้อมใบหน้าของเขาที่เต็มไปด้วยความเย่อหยิ่ง

“หลินชิงหาน คุณหมายความว่าอะไร กล้าไล่คนของผมออกหรอ? “

ชายวัยกลางคนตะโกนทันทีที่เดินเข้าประตู แถมยังไม่สนใจหลี่โม่ เขานั่งตรงบนโซฟาจิบชาที่ หลี่โม่เพิ่งดื่มไปเมื่อสักครู่และด่าทอว่า ” เชี่ย นี่เล่นขยะอะไรกันเนี่ย ดื่มยากมาก!”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset