จักรพรรดิมังกร – ตอนที่ 677 เป็นผีหรือคน

จางเจียต้องล้มหงายหลังอยู่บนพื้น เขารู้สึกเจ็บไปทั้งตัว ตับไตไส้พุงรวนไปหมด เขาเจ็บทั้งข้างในและข้างนอกร่างกาย

หลี่โม่เดินเข้ามาข้างจางเจียต้อง จากนั้นจึงพูดอย่างเยือกเย็น “นายมีปัญญาแค่นี้เหรอ เอาปัญญาแค่นี้มาแก้แค้น มันไม่เพียงพอหรอก”

จางเจียต้องมองหลี่โม่ด้วยสีหน้าทุกข์ระทม เขาไม่มีความคิดที่จะตอบโต้กลับ แต่เขาไม่สามารถวางความแค้นลงได้

จางเจียต้องเกลียดหลี่โม่ และเกลียดคนที่ทำให้เขากลายเป็นปีศาจแบบนี้ ดังนั้นจางเจียต้องอยากให้หลี่โม่และคนพวกนั้นแตกหัก ไม่ว่าใครจะแพ้หรือชนะ ก็ถือว่าเขาได้ระบายความแค้นแล้ว

“เฉินฟู่มันโง่ มันคงใช้วิธียอมหักไม่ยอมงอกับแกสินะ โง่จริงๆ! ฉันไม่ได้โง่ ขอแค่แกไม่ทรมานฉัน ฉันสามารถเล่าเรื่องเกี่ยวกับสถาบันวิจัยให้แกฟังทั้งหมด”

“งั้นนายก็เล่ามาสิ ถ้าฉันพอใจ ฉันจะทำให้นายตายอย่างไม่ทรมาน”

จางเจียต้องหลับตา และพูดอย่างอ่อนล้าว่า “แกคงรู้ว่าพวกเขาวิจัยอะไร พวกเขาต้องการทำให้คนแข็งแกร่งขึ้น กลายเป็นเครื่องสังหารให้พวกเขาควบคุม ตอนนี้พวกเขาสนใจในตัวแกมาก เพราะแกแข็งแกร่งกว่าคนทั่วไปมาก พวกเขาพยายามเอาเลือดของแก เพื่อที่จะเอายีนจากเลือดของแก ไปทำการวิเคราะห์ พวกเขาบอกว่าบนตัวของแกมีส่วนประกอบของยีนที่สำคัญ ส่วนจะเป็นอะไรนั้น ฉันไม่รู้ เรื่องมันก็เป็นแบบนี้ ฉันบอกเรื่องที่รู้ให้แกฟังหมดแล้ว การที่แกฆ่าพวกเขา ก็ถือว่าช่วยฉันแก้แค้น พวกเขาฆ่าแก ก็ถือว่าช่วยฉันล้างแค้น ฉันมีแต่ได้กับได้ ไอ้โง่เฉินฟู่……แค่กๆ พรวด”

จางเจียต้องกระอักเลือดออกมา คอของเขาโดนหลี่โม่เตะจนขาด

เมื่อมองศพของจางเจียต้อง หลี่โม่หยิบมือถือขึ้นมา โทรหาหัวหน้าจาง ให้หัวหน้าจางมาจัดการเรื่องที่เหลือ

เมื่อเดินกลับมาที่ศาลา หลี่โม่แก้มัดให้กู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถง หญิงสาวทั้งสองโผเข้าหาหลี่โม่ และปล่อยโฮออกมา

น้ำตาทำให้แผ่นอกของหลี่โม่เปียกชื้น เมื่อกี้เสื้อเชิ้ตของหลี่โม่ขาดไปแล้ว ตอนนี้ร่างกายของเขาเปลือยเปล่า เผยให้เห็นกล้ามเนื้อที่สมส่วน

ใบหน้าของหญิงสาวทั้งสองแนบกับอกของหลี่โม่ น้ำตาไหลพรากออกมา หลี่โม่ยื่นมือออกมากอดหญิงสาวทั้งสอง มือใหญ่ลูบหลังหญิงสาวทั้งสองเบาๆ เขาพูดปลอบเสียงทุ้ม

“ไม่ต้องร้องแล้ว ไม่มีอะไรแล้วนิ พวกเธอตกใจมากสินะ ตอนนี้ไม่ต้องเครียดแล้ว เรื่องมันผ่านไปแล้ว”

“ฮือๆๆๆ คิดไม่ถึงว่าหมอนั่นจะเป็นจางเจียต้อง ทำไมเขาถึงอัปลักษณ์แบบนั้น ฉันตกใจแทบแย่” กู้หยุนหลันส่ายหัวไปมา เธอเอาแผ่นอกของหลี่โม่เป็นผ้าเช็ดหน้า เช็ดน้ำตาของตัวเอง

“ตอนที่พวกเรารอพี่ หมอนั่นบุกเข้ามาจับพวกเรา ตอนนั้นฉันตกใจมาก คิดว่าหมอนั่นจะจับเราไปทำมิดีมิร้ายเสียอีก” เฉินเสี่ยวถงร้องไห้โฮ

หลี่โม่ถอนหายใจ เขาพูดด้วยสีหน้าลำบากใจ “ไม่ต้องร้อง ขืนร้องอีกพวกเธอจะไม่สวยนะ พวกเธอคงไม่อยากน่าเกลียดใช่ไหม”

แน่นอนว่าผู้หญิงใส่ใจกับรูปลักษณ์ของตัวเอง เมื่อได้ยินว่าถ้าร้องอีกจะน่าเกลียด หญิงสาวทั้งสองรีบเช็ดน้ำตา ราวกับว่าถ้าร้องต่อไปจะน่าเกลียดจริงๆ

“เมื่อกี้เราตกใจมาก จางเจียต้องพูดอะไรกับนาย ทำไมสภาพเขาถึงกลายเป็นแบบนั้น”

กู้หยุนหลันยังกลัวไม่หาย เธออดมองศพของจางเจียต้องไม่ได้ จากนั้นจึงรีบหันกลับมาด้วยสีหน้าซีดเผือด เหมือนกำลังตกใจ

ทว่าเฉินเสี่ยวถงเข้มแข็งกว่าเล็กน้อย เพราะเธอเคยผ่านการฝึกมาบ้าง เธอมองศพของจางเจียต้องแล้วพูดว่า “ฉันอยากขัดขืนเขานะ แต่เขาแรงเยอะมาก ทุบคอฉันครั้งเดียว ฉันก็เป็นลมไปเลย”

“จะไม่เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นอีก มีผมอยู่ ใครก็ทำอะไรพวกเธอไม่ได้” หลี่โม่ให้คำสัญญาหนักแน่น

หญิงสาวทั้งสองพยักหน้า และแนบแก้มลงกับอกของหลี่โม่ เมื่อเนื้อสัมผัสกัน ทำให้หญิงสาวทั้งสองเคลิบเคลิ้ม

ไม่นานหัวหน้าจางก็มาถึง เขาเห็นภาพท่อนบนของหลี่โม่เปลือยเปล่า และกำลังกอดหญิงสาวทั้งสอง หัวหน้าจางกระอักกระอ่วน ไม่รู้จะมองดีไหม

“แค่กๆ คุณหลี่ ดึกขนาดนี้ คุณไม่สวมเสื้อผ้า ไม่หนาวเหรอครับ เอาเสื้อผมไปใส่ก่อนเถอะครับ เดี๋ยวจะเป็นหวัด” หัวหน้าจางก้มหน้าและเอ่ยขึ้น

“ไม่หนาว ฉันรู้สึกอบอุ่นมาก” หลี่โม่ตอบอย่างหนักแน่น สายตาของเขามองไปข้างหลัง เพื่อเป็นการบอกให้หัวหน้าจางพาคนไปจัดการที่เกิดเหตุข้างหลัง

หัวหน้าจางก้มหน้าและรีบพาคนไปข้างหลังทันที เขาคิดในใจว่านายท่านคนนี้น่าเกรงขามมาก พวกเราไม่สามารถล่วงเกินได้

กู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงหน้าแดงก่ำ ทำไมจะไม่รู้ว่าคำพูดของหัวหน้าจางสื่อถึงอะไร หญิงสาวทั้งสองผละออกจากอ้อมอกอันแข็งแกร่งของหลี่โม่อย่างอาลัยอาวรณ์ หญิงสาวก้มหน้าลง และนึกย้อนถึงความรู้สึกเมื่อครู่อย่างเงียบๆ

หลี่โม่นวดขมับให้หญิงสาวทั้งสอง และพูดว่า “ตอนนี้รู้สึกยังไงบ้าง ไม่กลัวแล้วใช่ไหม”

“ไม่ ไม่แล้ว” เสียงอันเคอะเขินดังขึ้น กู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงมองหน้ากัน เฉินเสี่ยวถงรีบก้มหน้าลงทันที เหมือนเธอขโมยอะไรของกู้หยุนหลันอย่างไรอย่างนั้น

หลี่โม่เดินไปข้างศาลา และหยิบเสื้อเชิ้ตขาดที่โยนไปเมื่อครู่ขึ้นมา เขาสะบัดเล็บทั้งสิบที่ห่ออยู่ในนั้นออกมา

เล็บดำและแหลมคมหล่นลงบนพื้น หลี่โม่หาท่อนไม้ และหักมัน ทำเป็นเหมือนตะเกียบ เพื่อใช้คีบเล็บพวกนั้นขึ้นมาดูอย่างละเอียด

“เล็บนี่แปลกมาก แหลมคม มีพิษ ถ้าเป็นพิษที่เกี่ยวกับระบบประสาท แค่โดนเนื้อคนก็ถึงแก่ชีวิตได้”

หัวหน้าจางพาคนหามถุงห่อศพเข้ามา เมื่อเห็นเล็บตรงหน้าหลี่โม่ หัวหน้าจางถามอย่างสงสัย “นี่มันเล็บอะไรกันครับ”

หลี่โม่คีบเล็บวางลงบนพื้น จากนั้นจึงยืนขึ้นและพูดว่า “นี่เป็นเล็บของจางเจียต้อง ดูเหมือนว่าการวิจัยของคนพวกนั้นมีอะไรใหม่ๆ ที่สามารถทำให้เล็บของคนประหลาดขนาดนี้”

หลี่โม่เอาเล็บวางบนเสื้อเชิ้ต และใช้ไฟแช็กจุดเผาเล็บไปพร้อมกับเสื้อเชิ้ต

เมื่อเผาเสร็จ หลี่โม่ให้หัวหน้าจางหาเสื้อมาให้เปลี่ยน จากนั้นหลี่โม่จึงพากู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงออกมา

ระหว่างที่เดินในสุสานตอนกลางคืน กู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงรู้สึกเย็นวาบ อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปใกล้หลี่โม่

หลี่โม่ใช้มือซ้ายขวาโอบหญิงสาวทั้งสองคนเอาไว้ เพื่อทำให้กู้หยุนหลันกับเฉินเสี่ยวถงรู้สึกปลอดภัย

เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูสุสาน ชายแก่เฝ้าประตูมองทั้งสามคนอย่างตื่นตระหนก จากนั้นจึงพึมพำว่า “พวกคุณเป็นคนหรือผีกันแน่”

“คนสิ ตาคงไม่ได้คิดว่าฉันเป็นผีหรอกนะ” หลี่โม่อธิบายอย่างเกียจคร้าน และพาหญิงสาวทั้งสองคนออกไป อย่างไม่สบอารมณ์

“ทำไมตาแก่คนนั้นคิดว่านายเป็นผีล่ะ” กู้หยุนหลันเอียงหัวถามอย่างสงสัย

Comment

Options

not work with dark mode
Reset