จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) – ตอนที่ 269 ความชั่วร้ายไม่ตายสิ้น

บทที่ 268 ประกาศท้าดวล

ต้นไม้ตั้งต้นยืนตระหง่านอยากหยุดพัก แต่สายลมไม่หยุดชะงักเลยแม้แต่น้อย

ประตูวิญญาณสลายโพสต์ข้อความลงบนเว็บบอร์ดชุมนุมชาวยุทธ์มาประโยคหนึ่งว่า

“ฉู่ชวิ๋น แกกล้ามาสู้กับพวกเราหรือเปล่า?”

นี่คือเว็บบอร์ดขนาดใหญ่ มีผู้เข้าใช้งานเป็นจำนวนมาก ไม่ว่าข้อความไหนก็ไม่อาจหลุดพ้นสายตาผู้ใช้งานไปได้ ดังนั้น สาธารณะชนจึงเกิดความแตกตื่นขึ้นแล้ว

นี่คือการต่อสู้ที่ได้รับความสนใจจากทั่วโลก ไม่เพียงแต่จอมยุทธ์ในประเทศจีนเท่านั้น แต่ยังรวมถึงจอมยุทธ์ต่างประเทศอีกด้วย

ชื่อของฉู่ชวิ๋นไม่ได้โด่งดังแค่ในประเทศจีน แต่ยังโด่งดังไปไกลถึงต่างประเทศ

โดยเฉพาะประเทศญี่ปุ่น ที่รู้จักชื่อเสียงของฉู่ชวิ๋นเป็นอย่างดี เนื่องจาก

ผู้ใช้วิชาจากญี่ปุ่นเคยพ่ายแพ้ให้แก่ชายหนุ่มคนนี้มาแล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงมีความแค้นสุมอยู่เต็มอก

บ่ายวันต่อมา ฉู่ชวิ๋นก็ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะชน อีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงกำหนดการต่อสู้แล้ว เขาเห็นข้อความที่ประตูวิญญาณสลายทิ้งเอาไว้ในเว็บบอร์ดของชาวยุทธ์ จึงตอบกลับไปด้วยประโยคที่เรียบง่ายเช่นกันว่า

“ถ้าพวกแกกล้าสู้ ฉันก็ไม่มีปัญหา”

บัญชีผู้ใช้งานของฉู่ชวิ๋นในเว็บบอร์ดนั้น มีแม่หม้ายสาวเป็นคนดูแล ทุกข้อความที่เธอโพสต์ลงไป จะได้รับคำสั่งโดยตรงจากชายหนุ่มทั้งสิ้น

คำตอบของเขาเป็นเหมือนพายุขนาดเล็ก ๆ ลูกหนึ่ง

“นี่น่ะเหรอจอมมารฉู่ตัวจริง ทำไมยังหนุ่มยังแน่นอยู่เลย หน้าตาอย่างกับเด็กมหาลัย”

ฉู่ชวิ๋นมีชื่อเสียงโด่งดังในเมืองจีน แต่คนจำนวนมากจะได้ยินเพียงชื่อเสียงของเขา ไม่เคยเห็นหน้าตามาก่อน

“นายท่านฉู่ชวิ๋นช่างแข็งแกร่งเหลือเกิน ดูหน้าตาก็รู้แล้วว่าอำมหิตขนาดไหน ให้ตายเถอะ”

“จะว่าไปนะ นายท่านฉู่ชวิ๋นจะฆ่าแต่คนที่สมควรตายเท่านั้น พวกนายคิดเหมือนกันไหมว่าประตูวิญญาณสลายก็สมควรตายได้แล้ว”

“จอมมารฉู่ฆ่าคนด้วยการวิธีที่ใจดำอำมหิต แม้กระทั่งผู้ใช้พลังระดับจักรพรรดิก็ไม่ละเว้น มือของเขาแปดเปื้อนเลือดเกินไปแล้ว เขาไม่สมควรมีชีวิตอยู่จนถึงตอนนี้ด้วยซ้ำ”

“นี่แกเป็นพวกญี่ปุ่นแฝงตัวมาหรือไง? เก่งจริงทิ้งชื่อและที่อยู่เอาไว้สิ ถ้าแกพูดว่าร้ายนายท่านฉู่ชวิ๋นอีก ฉันจะไปตัดหัวสุนัขของแกทิ้งซะ”

กระแสตอบรับในเว็บบอร์ดแบ่งแยกออกเป็นสองฝ่าย ฝ่ายหนึ่งสนับสนุนฉู่ชวิ๋น อีกฝ่ายหนึ่งเกลียดชังฉู่ชวิ๋น

เมื่อเห็นมีชาวญี่ปุ่นเข้ามาโพสต์ข้อความทิ้งไว้ว่าฉู่ชวิ๋นสมควรตาย ฉู่ชวิ๋นก็จัดการตอบกลับไปอย่างเผ็ดร้อนว่า “คนญี่ปุ่นอย่างพวกแกน่ะฆ่าง่ายยิ่งกว่าฆ่าหมาซะอีก ถ้ากล้ามาเหยียบเมืองจีนอีกเมื่อไหร่พวกแกตายแน่ ขอบอกก่อนว่าอีกไม่นานหลังจากนี้ ฉันจะไปหาพวกแกที่ญี่ปุ่นเอง”

“นายท่านฉู่ชวิ๋นเข้มแข็งเหลือเกิน”

“พวกเราชาวจีนสมควรเอานายท่านฉู่ชวิ๋นเป็นตัวอย่าง”

“ไอ้พวกญี่ปุ่นหุบปากของพวกแกไปซะ สักวันหนึ่งนายท่านฉู่ชวิ๋นจะต้องฆ่าพวกแกให้หมดไปจากโลกนี้ ฉันขอยืนยันได้เลย”

คราวนี้ กระแสตอบรับต่อข้อความของฉู่ชวิ๋นเป็นไปในทิศทางเดียวกัน แม้แต่ผู้ที่เกลียดชังฉู่ชวิ๋นก็ไม่ต่อว่าเขาเป็นการชั่วคราว เนื่องจากใครก็ตามที่ทรยศประเทศชาติ มันผู้นั้นก็สมควรตกตายเป็นพันปีหมื่นปี

เวลาผ่านไปอย่างเชื่องช้า

จนกระทั่งดวงอาทิตย์เริ่มลอยต่ำ ท้องฟ้าและผืนดินฉาบไล้ไปด้วยแสงสีทอง

ข้อความจากประตูวิญญาณสลายก็ปรากฏขึ้นในเว็บบอร์ดชุมนุมชาวยุทธ์อีกครั้ง

“ฉู่ชวิ๋น พวกเรารอแกอยู่ที่โบราณสถานนอกเมืองแล้ว”

ฉู่ชวิ๋นส่งข้อความตอบกลับไปด้วยความดุเดือดว่า

“เตรียมตัวตายได้เลย !”

ถ้อยคำประโยคสั้นๆ ประโยคนี้ทำให้เว็บบอร์ดลุกเป็นไฟ มีคนเข้ามาแสดงความคิดเห็นเป็นจำนวนมาก

“พวกแกประตูวิญญาณสลายเตรียมตัวตายกันได้เลย พวกแกไม่รอดจากน้ำมือของนายท่านฉู่ชวิ๋นแน่นอน”

“เห็นว่าในภูเขาลูกนั้นมีเสือยักษ์ด้วยนะ แค่เดินเข้าไปก็มีโอกาสโดนเสือกัดตายแล้ว นายท่านฉู่ชวิ๋นช่างมีจิตใจเข้มแข็งเหลือเกิน”

“ยุทธภพของพวกเราใคร ๆ ก็รู้จอมมารฉู่เป็นคนยังไง ฉันไม่รู้ว่าจะพูดยังไงดี”

ในขณะที่ข้อความบนเว็บบอร์ดเริ่มออกทะเลไปไกล ฉู่ชวิ๋นก็เริ่มต้นเดินทางไปยังโบราณสถานที่อยู่นอกเมืองไห่ชิง

ขณะเดียวกัน กลุ่มชาวยุทธ์จำนวนมากก็รีบเร่งเดินทางออกจากเมือง

การต่อสู้ในครั้งนี้มีความน่าสนใจไม่ต่างไปจากการต่อสู้ระหว่างฉู่ชวิ๋นกับสำนักสวรรค์ฟ้าเลยทีเดียว

“วันทยาหัตถ์!” ดวงตาของปันจือหาวคลอไปด้วยน้ำตาในขณะที่คำรามประโยคนี้ออกมา

พรึ่บ!

นายทหารในเครื่องแบบหลายร้อยคนยกมือทำความเคารพฉู่ชวิ๋น

ฉู่ชวิ๋นหันกลับมายกมือตอบรับการทำความเคารพแบบทหาร

“หัวหน้าครับ พวกเราจะรอการกลับมาอย่างผู้ชนะของคุณ” ปันจือหาวตะโกนเสียงดัง

“หัวหน้าครับ พวกเราจะรอการกลับมาอย่างผู้ชนะของคุณ”

นายทหารหลายร้อยคนประสานเสียงกันอย่างพร้อมเพียง

“นายท่านครับ ผมขอไปด้วยได้ไหม” เหลยเป้าเดินออกมาข้างหน้า

หยานชงและแม่หม้ายสาวก็เดินออกมาแสดงตัวเช่นกัน

“อย่าแม้แต่จะคิด พลังฝีมือระดับพวกนาย ตามไปก็ช่วยอะไรไม่ได้อยู่ดี” จิ่วโยวพูดออกมาด้วยน้ำเสียงแข็งกร้าว

ฉู่ชวิ๋นอดยิ้มออกมาไม่ได้

“ฉู่ชวิ๋น ถ้านายตายระหว่างการต่อสู้ ฉันสาบานเลยว่าจะเอาเลือดของพวกประตูวิญญาณสลายมาล้างเท้าให้นายเอง” เสียงเล็ก ๆ ของจิ่วโยวพูดออกมาอย่างหนักแน่นจริงจัง

ฉู่ชวิ๋นเดินเข้ามายีผมสีม่วงของเด็กหญิงเล่น ก่อนที่จะดึงแก้มเธออย่างแรงด้วยความหมั่นเขี้ยว

“ยัยเด็กโง่ แค่ร้อยคนจะมาฆ่าฉันได้ยังไง” ฉู่ชวิ๋นยิ้มก่อนที่จะเปิดจากไป

ฉู่ชวิ๋นออกจากค่ายทหารแล้วเดินออกมาจากตัวเมือง ชายหนุ่มไม่มีทีท่าวิตกกังวลเลยแม้แต่น้อย เขาทำเหมือนออกมาเดินเล่นกินลมชมวิวเท่านั้น

ห่างออกมาประมาณ 10 เมตร มีจอมยุทธ์หลายคนปลอมตัวมาเดินเล่นเช่นกัน แต่ความจริงแล้ว พวกเขาแอบใช้โทรศัพท์มือถือถ่ายรูปชายหนุ่ม และนำไปโพสต์ในเว็บบอร์ดชุมนุมชาวยุทธ์

“ว้าว นายท่านฉู่ชวิ๋นทำไมหน้าตาหล่ออย่างนี้ ฉันยอมรับแล้วว่านายท่านฉู่ชวิ๋นหล่อยิ่งกว่าฉันเสียอีก”

“นี่แหละไอดอลของฉันเอง ทำไมโบราณสถานนั่นไม่มาอยู่ในเมืองหลินอันของฉันนะ ฉันจะได้เจอนายท่านฉู่ชวิ๋นตัวจริงกับเขาบ้าง”

“นายท่านฉู่ชวิ๋นคือเทพเจ้าจริง ๆ แค่เดินเฉย ๆ ก็เท่แล้ว หน้าตาก็หล่อเหลาอะไรขนาดนี้”

ในขณะนี้ มีผู้แสดงความคิดเห็นจนเว็บบอร์ดแทบล่มไปในพริบตา

นอกเมืองไห่ชิง ฉู่ชวิ๋นไม่ได้เดินโชว์ตัวอีกแล้ว

ฟึบ!

ชายหนุ่มใช้วิชาตัวเบาทันที แต่ละก้าวของเขา 1 ก้าวไกลหลายร้อยเมตร

โบราณสถานนอกเมืองยังไม่ปรากฏ มันจะปรากฏขึ้นมาเมื่อแผ่นดินพลิกตัว และเนื่องจากมีการค้นพบซากโบราณสถานบนภูเขา ภูเขาลูกนี้จึงถูกเรียกว่าภูเขาซากโบราณสถาน

ภูเขาขณะนี้ กลายเป็นลานกว้างขนาดใหญ่ ราวกับเป็นลานประลองตามธรรมชาติ

บนโขดหินที่ขึ้นอยู่รอบลานกว้าง มีจอมยุทธ์หลายสิบคนนั่งประจำที่ พวกเขานั่งหลับตาโคจรพลังลมปราณ แต่ละคนมีพลังแข็งแกร่ง ผู้ที่มีฝีมืออ่อนด้อยที่สุด ก็ยังเป็นถึงจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 1

ทันใดนั้น หนึ่งในจอมยุทธ์กลุ่มนี้ก็ลืมตาขึ้นมา ดวงตาของเขาเป็นประกายเย็นเยียบ จอมยุทธ์ผู้นี้มองไปยังจอมยุทธ์คนอื่น ๆ ที่ยืนจับกลุ่มกันอยู่บริเวณเชิงเขา

“จอมมารฉู่มาหรือยัง?”

เสียงของเขาใสกังวาลปานระฆัง

จอมยุทธ์ที่อยู่บริเวณเชิงเขาหันมองซ้ายมองขวา แต่ไม่มีใครตอบอะไรออกมา

จอมยุทธ์ใหญ่พ่นลมทางจมูกอย่างไม่ชอบใจ ก่อนจะหันหลังเดินกลับไปนั่งที่เดิมอีกครั้ง

สิบนาทีต่อมา เขาก็ถามเหมือนเดิมว่า “จอมมารฉู่มาหรือยัง?”

ครั้งนี้ ก็ยังคงไม่มีคำตอบอยู่ดี

“หึ กลัวจนไม่กล้ามาเลยสินะ ปอดแหกจริง ๆ ” จอมยุทธ์อีกคนหนึ่งลืมตาขึ้น พลังลมปราณของเขากล้าแข็ง เวลาหายใจเข้าออกแต่ละครั้ง จะเกิดเป็นกระแสลมพวยพุ่งออกมาจากรูจมูก

“นายท่านฉู่ชวิ๋นจะไม่มาจริง ๆ เหรอ” กลุ่มจอมยุทธ์ที่รวมตัวกันอยู่ด้านล่างแอบกระซิบเบา ๆ

“เหลวไหล แกก็เห็นในเว็บบอร์ดแล้วไม่ใช่หรือไง นายท่านฉู่ชวิ๋นจะต้องมาแน่นอน” ใครอีกคนหนึ่งรีบตอบทันที

“ฉู่ชวิ๋น รีบโผล่หัวมาสู้ซะดี ๆ ”

เกิดเสียงคำรามดังก้องกังวานมาจากข้างเนินเขา

“เอาล่ะ ฉันคิดว่ามันคงไม่กล้ามาแล้วล่ะ ฉู่ชวิ๋นเป็นจอมมารภาษาอะไรกัน แบบนี้มันเป็นได้แค่นกกระจอกเท่านั้นเอง”

“@#¥%…… ” มีจอมยุทธ์คนหนึ่งสวมใส่เสื้อผ้าแบบชาวญี่ปุ่นพูดภาษาที่ไม่มีใครเข้าใจ

“ถ้ามันไม่กล้ามา ฉันจะไปที่เมืองกู่เจียงและถล่มภูเขาเฉียนหลงให้ราบเป็นหน้ากลองไปเลย” ชายคนนี้มีลักษณะการพูดเหมือนกับเหลยเป้าแต่มีพลังลมปราณแข็งแกร่งมากกว่าหลายเท่า

แว๊ก!

พลัน เสียงนกร้องก็ดังกังวานทั่วท้องฟ้า เปลวไฟสาดแสงสว่างจ้า แล้วอุณหภูมิในบรรยากาศก็พุ่งสูงขึ้นทันที

“ดูนั่นสิ!” ชายคนหนึ่งอุทานออกมาด้วยความตกใจ

ทุกคนหันไปมองตามทิศทางที่ชายคนนั้นบอก

นกเพลิงตัวหนึ่งปรากฏในสายตา ปีกของมันแผ่ปกคลุมท้องฟ้าและดวงอาทิตย์ เวลากระพือปีกแต่ละครั้ง จะเกิดเปลวไฟพุ่งกระจายไปทั่วบริเวณ

“พวกเรารีบหาที่หลบ” ลั่วเฟ่ยร้องเตือนพร้อมกับรีบหาที่หลบก่อนใคร

ตู้ม!

นกเพลิงตัวนั้นพุ่งลงมากระแทกพื้นอย่างแรง ทำให้ภูเขาสั่นสะเทือนไปทั้งลูก แผ่นดินถล่ม ก้อนหินทลาย

ลานประลองขนาดใหญ่ปกคลุมไปด้วยเปลวไฟสีแดง เปลวไฟแผดเผาต้นไม้ทุกต้นที่อยู่ในรัศมี 100 เมตร ต้นไม้เหล่านั้นสลายหายไปหลงเหลือไว้เพียงเถ้าถ่าน

บังเกิดเสียงกรีดร้องดังออกมาจากทะเลไฟ ราวกับเป็นเสียงร้องคร่ำครวญจากวิญญาณร้าย ทุกคนที่ได้ยินถึงกับขนลุกขึ้นมาแล้ว

ดวงตาของลั่วเฟ่ยเป็นประกาย เขาโคจรพลังลมปราณและประกบฝามือเข้าด้วยกัน คลื่นพลังพุ่งออกไปทันที เปลวไฟที่กำลังลุกไหม้อยู่ในขณะนี้ พลันถูกพลังลมปราณของเขาพัดดับไปในพริบตา

กลุ่มคนดูที่อยู่บริเวณตีนเขามองไม่เห็นว่าเกิดอะไรขึ้นในลานประลอง แต่สิ่งที่ทุกคนเห็นชัดเจนก็คือ มีจอมยุทธ์จำนวนมากตะเกียกตะกายหนีลงมาจากบนภูเขาด้วยความแตกตื่น

ลานประลองเต็มไปด้วยขี้เถ้าสีดำ คนหลายสิบคนนอนเกลือกกลิ้งส่งเสียงร้องโหยหวน บางคนขาไหม้เกรียม บางคนก็ถูกไฟไหม้ไปทั้งตัว บางคนก็เสียโฉมไปแล้ว ในขณะที่บางคนก็กลายเป็นศพที่จำสภาพเดิมแทบไม่ได้

นอกจากนี้ ยังมีแขนขามนุษย์จำนวนมากกระจัดกระจายอยู่บนพื้นดิน บางศพก็ดำเป็นตอตะโก มีควันลอยขึ้นมาตลอดเวลา ถ้าเข้าไปใกล้ ก็จะได้กลิ่นเนื้อที่ไหม้ไฟลอยมาเตะจมูก

การโจมตีครั้งนี้ คร่าชีวิตคนจากประตูวิญญาณสลายไปได้สองในสามส่วนเลยทีเดียว

นี่คือการลงมือของฉู่ชวิ๋นใช่หรือไม่?

แล้วทุกคนที่สงสัยก็ได้รับคำตอบ เมื่อเงาร่างของใครบางคนปรากฏขึ้นบนยอดเขา

ตู้ม!

พื้นดินยุบตัว ภูเขาสั่นสะเทือน เงาร่างนั้นลุกขึ้นยืนตรง สีหน้าเรียบเฉย ดวงตาเย็นชา

จะไม่ใช่ฉู่ชวิ๋นได้อย่างไร?

คนของประตูวิญญาณสลายร้องตะโกน จอมยุทธ์จำนวนมากรอคอยอยู่ที่ตีนเขา ไม่คิดเลยว่าฉู่ชวิ๋นกลับเดินทางมาทางอากาศ

ยิ่งไปกว่านั้น เขาอาศัยจังหวะนี้เล่นงานประตูวิญญาณสลายจนกระอักเลือดไปแล้ว

“ฉู่ชวิ๋น” ลั่วเฟ่ยกัดฟันกรอด

ฉู่ชวิ๋นตอบด้วยสีหน้าเรียบเฉยว่า “คนของแกก็ไม่เห็นเก่งเท่าไหร่เลย”

“แต่ก็เก่งมากพอที่จะฆ่าแกได้” ลั่วเฟ่ยพูดด้วยน้ำเสียงดุร้าย

“ไม่พอหรอก ถ้าได้สู้ เดี๋ยวก็รู้”

“งั้นก็มาสู้….” ลั่วเฟ่ยยกมือขึ้นพร้อมกับยิ้มอำมหิต แต่คำพูดของเขาก็ติดค้างอยู่ในลำคอเท่านั้น

เนื่องจากฉู่ชวิ๋นเคลื่อนไหวแล้ว

ผลั่ก!

เลือดและเนื้อมนุษยสาดกระจาย หนึ่งในจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 1 ถูกฉู่ชวิ๋นต่อยเข้าไปเต็มแรง

“ฆ่ามัน!” ลั่วเฟ่ยเงยหน้าคำรามอย่างบ้าคลั่ง

ฉั๊วะ!

ประกายดาบวูบวาบบนท้องฟ้า

ฉู่ชวิ๋นโคจรพลังลมปราณมารายล้อมรอบกาย ก่อนที่จะยกมือขึ้นตะปบดาบที่ฟันลงมา ในเวลาเดียวกันนี้เอง เขาก็เหวี่ยงผู้ถือดาบกระเด็นไปทางซ้ายมือ

“ฉู่ชวิ๋น อย่าเหิมเกริมให้มันมากเกินไปนักนะ” จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 คนหนึ่งเข้ามาโจมตีด้วยความรวดเร็ว เขาสะบัดมือออกมาข้างหนึ่ง พลังลมปราณที่รุนแรงราวกับลูกระเบิดก็พุ่งออกมา

ในดวงตาของฉู่ชวิ๋นยังคงมีแต่เพียงความเย็นชาอยู่เช่นเดิม เพียงแค่ชายหนุ่มขยับออกมาข้างหน้าเล็กน้อย มวลอากาศโดยรอบก็สั่นสะเทือนทันที

ผลั่ก!

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 ส่งเสียงร้องโหยหวนในขณะที่ร่างกระเด็นออกไป ใบหน้าของเขาขาวซีด กล้ามเนื้อแขนกระตุกตลอดเวลา พร้อมกับมีเลือดไหลซึมออกมาที่มุมปาก

ร่างกายของฉู่ชวิ๋นมีพลังลมปราณห่อหุ้มเอาไว้ กลายเป็นแสงสีทองเปร่งประกายออกมาจากทุก ๆ รูขุมขนของเขาและเมื่อชายหนุ่มระเบิดพลังออกมา ทุกอย่างก็สว่างจ้า

ตู้ม!

คลื่นพลังลมปราณพุ่งเข้าไปกระแทกจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 คนนั้นจนเขาส่งเสียงกรีดร้อง แขนระเบิดกลายเป็นม่านหมอกเลือด

จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 3 ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฉู่ชวิ๋นเลยสิ่งนี้ทำให้ทุกคนขนลุกเกรียว

มือของฉู่ชวิ๋นหมุนวนไปมา ตัวเขาลอยขึ้นมาในอากาศเล็กน้อย

ตู้ม!

วิชาเซียน 4 นิ้วกำราบมาร!

มวลอากาศสั่นสะเทือน พลังลมปราณแผ่กระจายออกไปในวงกว้าง นิ้วมือขนาดยักษ์ปรากฏตัวขึ้นกลางอากาศและพุ่งลงมาเพื่อทำลายล้างทุกสิ่งทุกอย่าง

ตู้ม!

ภูเขาสะท้าน แผ่นดินสะเทือน ก้อนหินถล่ม คลื่นพลังรุนแรง ราวกับเกิดแผ่นดินไหวไม่รู้จบ

เสียงกรีดร้องที่ดังขึ้นทำให้ผู้ที่ได้ยินรู้สึกเหน็บหนาวไปถึงขั้วหัวใจ หลายคนที่เป็นจอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 1 และระดับ 2 ถูกบดขยี้กลายเป็นเพียงเศษเนื้อและกองเลือดบนพื้นดิน

“ฉู่ชวิ๋น ตายซะเถอะ!”

ดาบทองคำเล่มหนึ่งส่งประกายตัดผ่านท้องฟ้า เสียงดาบแหวกอากาศเข้ามา เป้าหมายคือการตัดหัวฉู่ชวิ๋น

ดวงตาดำขลับของฉู่ชวิ๋นเป็นประกายขึ้นมาเล็กน้อย ในวินาทีต่อมา ตัวเขาก็กระโดดขึ้นไปกลางอากาศ

เกิดเสียงดังโครมแล้วเลือดก็สาดกระจายเต็มท้องฟ้า จอมยุทธ์ขั้นจักรพรรดิระดับ 2 ถูกฉู่ชวิ๋นต่อยเข้าไปแล้ว

ผลั่ก!

ทันใดนั้นเอง ดาบทองคำที่ยาวมากกว่า 10 ฟุตก็หักครึ่ง แผ่นดินยุบตัวลงในวินาทีต่อมา ส่งควันไฟลอยฟุ้งในอากาศบดบังดวงอาทิตย์ ในรัศมี 100 เมตร รอบตัวฉู่ชวิ๋นไม่มีผู้ใดรอดชีวิตอยู่เลย !

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)

จักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来)
Status: Ongoing
อ่านจักรพรรดิเซียนหวนคืน (仙帝归来) เรื่องย่อ จักรพรรดิ์เซียนหวนคืน เมื่อความแค้นทำให้เขาต้องกลับมา.. ฉู่ชวิ๋น เด็กหนุ่มผู้ใสซื่อถูกจับเข้าคุกในข้อหาที่เขาเองก็ยังสงสัยมามันคืออะไร อีกทั้งชีวิตในคุกของเขาเต็มไปด้วยความเจ็บปวด จนกระทั้งเขาถูกกระทืบตาย หลังจากที่เขาตายแล้ววิญญาญได้ข้ามไปยังโลกแห่งผู้ฝึกตน คนอื่นใช้เวลาหมื่นปีเป็นจักรพรรดิ์เซียน แต่สำหรับเขานั้น ใช่เวลาเพียง 3000 ปีก็อยู่บนจุดสูงสุดของจักพรรดิ์เซียน แต่ในเวลานั้นจิตใจของเขายังคงสับสนเพราะต้องการรู้ความจริงที่เกิดขึ้นในภพชาติก่อน เขาจึงใช้พลังเซียนทั้งหมดเพื่อเปิดประตูมิติ ส่งวิญญาณของเขากลับมาที่ร่างเก่าที่อยู่ในคุก ก่อนวันที่เขาจะตายเพียงหนึ่งวัน……….. นี้คือการกลับมาล้างแค้นและค้นหาความจริงแต่เขานั้นไม่ใช่คนเดิมอีกต่อไปเขาคือ จักรพรรดิเซียน!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset