ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗] – ตอนที่ 199: ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโรงประมูลเจียเต๋อ

บทที่ 199: ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับโรงประมูลเจียเต๋อ

ฉินเย่คลึงขมับของตัวเองขณะที่กดไปที่ปุ่ม ‘ฉันต้องการประมูล’

การทำความเข้าใจกระบวนการทั้งหมดของการประมูลคือ สิ่งที่สำคัญที่สุดในตอนนี้

หน้าจอแชทปรากฏขึ้นมาทันที โดยที่ไม่ได้เชื่อมต่อกับแอปคิวคิวของเขา [1] ข้อความบรรทัดหนึ่งปรากฏขึ้นมาทันทีที่กล่องข้อความปรากฏขึ้นมา “ตรวจพบการใช้งานจากบัญชี VIP ผู้ดูแลอาวุโส 001 ยินดีให้บริการครับ”

ฉินเย่เลิกคิ้วขึ้น อยากรู้จริง ๆ ว่าชายสูงวัยจะต้องเสียเงินไปเท่าไหร่กว่าจะได้รับตำแหน่ง VIP ระดับสูง แน่นอนว่ากู่ชิงมีอำนาจทางการใช้จ่ายอย่างแท้จริงเนื่องจากตำแหน่งและอิทธิพลของเขา และมันก็เป็นธรรมดาที่ลูกค้ากระเป๋าหนักจะได้รับการบริการระดับสูง นี่คงจะช่วยย่นระยะเวลาให้เขาได้มาก

“สวัสดีครับ ทางเราตรวจพบว่าก่อนหน้านี้บัญชีนี้ถูกใช้งานโดยท่านกู่ชิง ไม่ทราบว่าต้องการจะให้ผมเรียกคุณว่าอย่างไรดีครับ?” ผู้ดูแลอาวุโส 001 ไม่ได้เสนอขายอะไร กลับกันอีกฝ่ายเพียงเอ่ยอย่างไม่รีบร้อน

อย่างไรก็ตาม มันสมเหตุสมผลแล้วที่เขาจะทำสิ่งต่าง ๆ อย่างเป็นทางการและสุภาพ ไม่เช่นนั้นมันคงจะน่าตกใจเป็นอย่างมากหากฉินเย่ได้รับข้อความอย่างเช่น “อ้าว กลับมาจากหลุมแล้วเหรอ? ยินดีต้องรับสู่คฤหาสน์สยองขวัญนะ”

นั่นคงเป็นการพัฒนาที่น่าตกใจเกินไป

“ฉิน” ฉินเย่พิมพ์ตอบกลับไปอย่างรวดเร็ว “ผมเป็นเจ้าของบัญชีแทนผู้เฒ่ากู่แล้ว และจะเป็นคนใช้บัญชีนี้ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป ผมขอทราบสิทธิพิเศษที่จะได้รับจากบัญชีนี้ทีได้หรือเปล่า?”

อีกฝ่ายเงียบไปประมาณสองวินาทีก่อนจะตอบกลับมาว่า “คุณแน่ใจนะครับว่าคุณจะเป็นผู้ใช้บัญชีของท่านกู่ชิงจริง ๆ? ทางเราจำเป็นจะต้องยืนยันตัวตนของทุกคนที่ถือบัญชี VIP ระดับสูงทุกคน โปรดระบุข้อมูลที่ถูกต้อง”

ฉินเย่ถ่ายรูปบัตรประชาชนของตนและส่งให้อีกฝ่าย

ในเวลาเดียวกัน ห่างออกไป ณ ใจกลางของเมืองเยียนจิง ชายวัยกลางคนผู้หนึ่งที่สวมชุดเสื้อคลุมยาวสีขาวนั่งอยู่ในอาคารขนาดใหญ่ที่มีสนามหญ้าอยู่ตรงกลางกำลังจ้องมองหน้าจออย่างงงงัน

ภาพที่ปรากฏอยู่บนหน้าจอขณะนี้คือภาพบัตรประชาชนของฉินเย่

เขาเปิดหน้าต่างมากมายและเข้าไปในหน้าเว็บไซต์ที่มีไว้สำหรับยืนยันตัวตน เขากรอกเลขประจำตัวของฉินเย่ลงไปและกดที่ปุ่มค้นหา ทันใดนั้น ข้อความแจ้งเตือนกรอบสีแดงก็ปรากฏขึ้นมากลางหน้าจอ

“คุณไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลนี้”

เขาจ้องมองหน้าจออย่างเหลือเชื่อ ไม่กี่วินาทีต่อมาชายวัยกลางคนก็รีบพิมพ์ตอบกลับฉินเย่ไปทันที “กรุณารอสักครู่”

จากนั้นก็รีบลุกยืนขึ้น “หัวหน้าไป๋!”

ประตูที่ปิดสนิทถูกเปิดออกพร้อมกับเสียงดังแอ๊ดดด…และชายในชุดสูทจีนคนหนึ่งก็เดินเข้ามา

เขาสวมแว่นตากรอบสีเงิน ใบหน้าซูบตอบจนดูเหมือนกับหลุดออกมาจากบทกวีโบราณ เขาเดินมาที่คอมพิวเตอร์ด้วยท่าทางที่สำรวม และมองดูบัตรประชาชนของฉินเย่ก่อนจะอ้าปากค้าง จากนั้นจึงรีบโบกมือไล่ “คุณไปเถอะ ผมจะคุยกับลูกค้ารายนี้เอง”

“หัวหน้าไป๋…” ชายวัยกลางคนเอ่ยอย่างลังเล “เราควรรายงานเรื่องนี้ให้หัวหน้าใหญ่ทราบดีหรือไม่ครับ? เราไม่เคยเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อน สิ่งที่แปลกประหลาดที่สุดที่เราเคยเจอมามีเพียง…บุคคลที่ไม่มีตัวตนอยู่จริงเท่านั้น”

“ไม่จำเป็น” หัวหน้าไป๋สะบัดแขนเสื้อของตนและนั่งลง ชายวัยกลางคนที่เห็นเช่นนั้นก็เดินจากไป และมันก็เป็นเวลานั้นเองที่หัวหน้าไป๋ดูภาพบัตรประชาชนของฉินเย่อย่างละเอียด

เขาเด็กมาก…เพิ่งอายุแค่ 18 เท่านั้น แต่พวกเขากลับไม่มีสิทธิ์เข้าถึงข้อมูลของเด็กคนนี้เนี่ยนะ?

บัญชีของโรงประมูลเจียเต๋อได้รับสิทธิ์ในการตรวจสอบตัวตนของประชากรกว่า 90% แต่พวกเขากลับไม่มีสิทธิ์ตรวจสอบประวัติของเด็กหนุ่มผู้นี้น่ะหรือ? พวกเขาไม่เคยเจอเรื่องแบบนี้ตอนที่รับมือกับผู้ประกอบการที่ร่ำรวยที่สุดด้วยซ้ำ และเขาก็ไม่เชื่อด้วยว่าเด็กหนุ่มคนนี้จะร่ำรวยกว่าคนพวกนี้

“ถ้าอย่างนั้น มันก็หมายความว่าเขา…พิเศษอย่างนั้นหรือ? หรือว่าเขาอาจจะเกี่ยวข้องกับพวกหน่วยงานพิเศษที่ปรากฏตัวต่อหน้าสาธารณะเมื่อไม่นานนี้?” เขาเคาะนิ้วลงบนโต๊ะและพึมพำ “น่าสนใจ…”

เราเริ่มดำเนินการต่ออย่างรวดเร็ว หน้าเว็บไซต์ไม่ได้เปลี่ยนไป กลับกัน เขาเพียงลงชื่อเข้าใช้อีกบัญชีหนึ่ง ในขณะเดียวกัน กลับมาที่เมืองเป่าอัน ฉินเย่สังเกตเห็นข้อความไม่กี่บรรทัดปรากฏขึ้นในกล่องข้อความ “กำลังเชื่อมต่อ…หัวหน้าโรงประมูลหมายเลข 1 ยินดีต้อนรับท่านเข้าสู่โรงประมูลเจียเต๋อของเรา”

เปลี่ยนคน?

ฉินเย่ค่อนข้างประหลาดใจ แต่หัวหน้าไป๋ก็รีบพิมพ์ต่ออย่างรวดเร็ว “สวัสดีครับ ผมหัวหน้าโรงประมูลหมายเลข 1 ของโรงประมูลเจียเต๋อ โรงประมูลของเรามีหัวหน้าโรงประมูลทั้งหมด 3 ท่านและหัวหน้าใหญ่หนึ่งท่าน นอกจากนี้ แต่ละสาขาของเรายังมีผู้ประเมินอีกห้าท่านประจำอยู่ด้วย และด้วยสถานะของคุณ ผมจะเป็นคนรับหน้าที่ดูแลคุณด้วยตัวเองตั้งแต่นี้เป็นต้นไปครับ”

“ผมส่งเอกสารสำหรับการยืนยันตัวตนไปแล้ว แต่คุณอาจจะไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลของผมได้” ฉินเย่ตอบ “สิ่งนี้จะเป็นปัญหาสำหรับผมในการใช้บัญชีของผู้เฒ่ากู่หรือเปล่า?”

“ไม่เป็นปัญหาเลยครับ มันเป็นเพียงการยืนยันตัวตนตามปกติเท่านั้น” หัวหน้าไป๋ตอบกลับอย่างรวดเร็ว “คุณอาจจะยังไม่คุ้นชินกับระบบของเรา ดังนั้นผมจะเริ่มด้วยการสรุปสิทธิประโยชน์ทั้งหมดที่มาพร้อมกับบัญชี VIP ระดับสูงให้นะครับ”

“ประการแรก ก่อนที่งานประมูลใหญ่จะเริ่มขึ้น ทางโรงประมูลเจียเต๋อจะส่งแค็ตตาล็อกที่ถูกออกแบบอย่างสวยงาม ซึ่งจะมีราคาประมูลเริ่มต้นโดยประมาณสำหรับสินค้าทั้งหมดและจำนวนเงินที่เพิ่มขึ้นในแต่ละครั้ง รายการทั้งหมดจะมาพร้อมกับข้อมูลอย่างละเอียดเพื่อการพิจารณาของคุณ”

“ประการที่สอง ก่อนการประมูลใหญ่ สมาชิก VIP ระดับสูงจะได้รับเกียรติในการรู้สถานที่จัดการประมูลที่แท้จริง รวมถึงกำหนดการเดินทางของเจ้าหน้าที่ลงทะเบียนและรายชื่อผู้เข้าร่วมประมูลทั้งหมด”

“ประการที่สาม สมาชิก VIP ระดับสูงทุกท่านจะได้รับการคุ้มครองอย่างเต็มที่ในการประมูลแต่ละครั้ง โดยขึ้นอยู่กับโควตาสูงสุดที่ถูกกำหนดในการประมูลแต่ละครั้ง”

เขาอธิบายต่อ “สิทธิพิเศษที่สามนี้หมายถึงในกรณีที่คุณลงชื่อเข้าร่วมการประมูลครั้งใหญ่ สถานที่ในการจัดประมูลแต่ละครั้งสามารถจุคนได้สูงสุด 100 คนใน ขณะที่แต่ละสาขาของเราจะสำรองที่นั่งสำหรับ สมาชิก VIP ระดับสูงไว้สาขาละ 50 ท่าน ผู้ใดก็ตามที่ขายสินค้าหรือประมูลสินค้าที่มูลค่ารวมทั้งสิ้นมากกว่า 20 ล้านหยวนจะได้รับสิทธิ์ในการเลื่อนเป็นสมาชิก VIP ระดับสูงทันที ผู้ที่ไม่มีส่วนร่วมในการประมูลเป็นเวลาสามปีจะถูกลดหลั่นเป็นสมาชิก VIP ทั่วไป และสมาชิก VIP ทั่วไปก็ต้องแข่งขันกับผู้เข้าร่วมท่านอื่น ๆ เพื่อสิทธิ์ในการเข้าร่วมการประมูลใหญ่”

ฉินเย่ “ต้องแข่งกันอย่างไร?”

“โดยการเข้าร่วมการประมูลเล็กแต่ละครั้ง” หัวหน้าไป๋ตอบ

ฉินเย่เข้าใจ ในที่สุดเขาก็เข้าใจขั้นตอนทั้งหมดและการทำงานของโรงประมูลเจียเต๋อแล้ว หลังจากครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เขาก็ถามต่อ “ถ้าอย่างนั้นมันจะเป็นไปได้หรือเปล่าที่ผมจะขอทราบตำแหน่งของสถานที่ประมูลในครั้งต่อไปตอนนี้เลย?”

“แน่นอนครับ” หัวหน้าไป๋ตอบกลับอย่างรวดเร็ว จากนั้น ประมาณสิบวินาทีต่อมา ภาพหนึ่งก็ถูกส่งมาทางกล่องข้อความ

ฉินเย่พยายามอยู่หลายทางที่จะถ่ายภาพหน้าจอหรือดาวน์โหลดภาพดังกล่าว แต่มันก็ไม่สำเร็จ

ด้วยเหตุนี้เขาจึงล้มเลิกความคิดนั้น และดูภาพตรงหน้าอย่างละเอียด มันเป็นภาพของเกาะเขตร้อนที่มีต้นปาล์มและต้นมะพร้าวเต็มไปหมด

ขนาดของเกาะไม่ได้ใหญ่มากนัก หากไม่รวมท่าเทียบเรือที่มีเรือจอดอยู่ ทั้งเกาะก็คงจะมีพื้นที่เพียงหนึ่งหรือสองตารางกิโลเมตรเท่านั้น และบนเกาะแห่งนั้นก็มีคฤหาสน์สไตล์จีนโบราณหลังหนึ่งตั้งอยู่

“ที่นี่คือ?”

“เราเรียกที่นี่ว่าเกาะมอร์นิ่งสตาร์ 1 ครับ”

“มันตั้งอยู่ที่ไหน?”

“ใต้ช่องแคบเกาหลีครับ ที่นั่นอากาศดีและชายหาดก็สวยมาก แต่โดยปกติแล้วมันไม่ได้เปิดให้คนทั่วไปเข้าชม”

คำตอบของเขาเรียบง่าย แต่มันกลับทำให้ดวงตาของฉินเย่เป็นประกายขึ้น อาร์ทิสที่เห็นเช่นนั้นก็ขมวดคิ้วและถาม “แท้จริงแล้วมันหมายความว่าอย่างไรกันแน่?”

“น่าสนใจ…” ฉินเย่ยกแก้วน้ำขึ้นจิบและมองดูหน้าเว็บไซต์ที่ดูเรียบง่ายด้วยความสนใจเป็นอย่างมาก “โรงประมูลเจียเต๋อ…จะต้องได้รับการสนับสนุนโดยผู้มีอำนาจที่ไม่เปิดเผยตัวอย่างแน่นอน อำนาจและอิทธิพลของพวกเขามากเกินกว่าที่ข้าคิดเอาไว้เสียอีก…”

เด็กหนุ่มเอ่ยต่อโดยไม่เสียจังหวะ “ท่านคิดว่าทำไม…เกาะมอร์นิ่งสตาร์ 1 ถึงปิดจากสายตาของคนภายนอกได้กันล่ะ?”

จากนั้น เขาก็ตามคำถามของตัวเอง “ไม่แปลกใจ…ไม่แปลกใจเลยที่พวกเขาจัดงานประมูลขึ้นแยกจากจุดที่ลูกค้าของพวกเขาอยู่ มันก็เพราะว่า…งานประมูลจะถูกจัดขึ้นที่ทะเลหลวงนี่เอง!”

“เจ้าหมายความว่าอย่างไร?” อาร์ทิสไม่เข้าใจว่าอีกฝ่ายต้องการจะสื่ออะไร

“นี่คือเหตุผลว่าทำไมข้าถึงบอกว่ายายเฒ่าอย่างท่าน ควรจะติดตามสถานการณ์ในปัจจุบันเสียบ้าง” ฉินเย่ยิ้มให้อีกฝ่ายย่างเหนือกว่า “เกาะแห่งนี้ตั้งอยู่นอกน่านน้ำของจีน และมันก็คงจะตั้งอยู่ระหว่างน่านน้ำของเกาหลีและญี่ปุ่น บริเวณชายฝั่งของปูซานและคิวชู”

“นอกจากนี้ ข้อเท็จจริงที่ว่าหัวหน้าไป๋ตอบกลับมาอย่างรวดเร็วแบบนี้ นั่นก็หมายความว่านี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่พวกเขาเปิดเผยสถานที่จัดงานประมูลกับผู้อื่น แต่พวกเขาก็ยังมั่นใจในการให้ข้อมูลที่เพียงพอ เพื่อรับรองถึงความปลอดภัยของคนทั้งหมดที่สถานที่จัดการประมูล นอกจากนี้ พวกเขายังสามารถสร้างคฤหาสน์ขึ้นบนเกาะบนทะเลหลวงได้…ทุกอย่างล้วนนำไปสู่ข้อสรุปที่ว่าโรงประมูลเจียเต๋อได้รับการสนับสนุนจากขุมอำนาจที่ไม่อาจหยั่งรู้ได้”

ทั้งหมดนี้ไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถประสบความสำเร็จได้ง่าย ๆ ด้วยเงินและความมั่งคั่ง มันไม่น่าแปลกใจเลยว่าทำไมพวกเขาถึงไม่จำเป็นจะต้องยืนยันข้อมูลของฉินเย่

มันก็เพราะว่าพวกเขามั่นใจว่าจะไม่มีอะไรผิดพลาด หรือต่อให้มันเกิดเรื่องอะไรขึ้น พวกเขาก็มั่นใจว่าตนเองจะสามารถรับมือกับสถานการณ์ทั้งหมดได้

กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือ เหล่าผู้ที่อยู่เบื้องหลังโรงประมูลเจียเต๋อนั้น ต้องมั่นใจในความสามารถของตัวเองเป็นอย่างมาก

ฉินเย่พิจารณาข้อมูลทั้งหมด เขาไม่คิดเลยว่าโรงประมูลเจียเต๋อจะเป็นองค์กรที่มีเบื้องลึกเบื้องหลังมากมายขนาดนี้ แต่นี่ก็คือสิ่งที่เขาต้องการ ยิ่งพวกเขามีเบื้องลึกเบื้องหลังมากเท่าไหร่ คุณภาพของคู่ค้าก็จะยิ่งสูงขึ้นมากเท่านั้น และคุณภาพที่สูงขึ้นก็หมายถึงการกระจายข้อมูลที่รวดเร็วยิ่งขึ้น และการกระจายข้อมูลที่รวดเร็วยิ่งขึ้นก็หมายความว่าเขามีโอกาสจะได้เจอกับพันธมิตรทางธุรกิจที่มีคุณสมบัติเหมาะสมมากยิ่งขึ้น!

สิ่งที่เขาต้องการที่สุดก็คือพ่อค้ารายใหญ่ที่สามารถซื้อไม้ฮวงหัวลี่ได้ในปริมาณมากในครั้งเดียว และไม่ใช่พวกพ่อค้ารายย่อยที่สามารถซื้อสินค้าได้ทีละน้อย ๆ ก่อนจะหายไปเป็นพัก ๆ ถึงแม้ว่าพ่อค้ารายย่อยพวกนี้จะสามารถควบคุมได้ง่ายจากมุมมองของผู้บริหาร…แต่มันยากเกินไปสำหรับเขาที่ถูกจำกัดความเคลื่อนไหวโดยข้อกำหนดของสำนัก

“เหตุใดมันถึงต้องถูกจัดขึ้นที่ทะเลหลวง?” อาร์ทิสขมวดคิ้ว

“นั่นง่ายมาก เพราะว่าในงานประมูลระดับสูงเช่นนี้ พวกเขาอาจจะมีการขายสินค้าที่ไม่สามารถวางขายในตลาด หากการประมูลถูกจัดขึ้นในแผ่นดินจีน ผู้ขายหลายคนคงจะถูกตีกรอบและผู้ซื้อหลายคนก็คงจะหวาดกลัวในการใช้จ่ายของพวกตน ในความเป็นจริงแล้ว มันอาจจะเกิดเหตุการณ์อย่างเช่นหลังจากจบการประมูล ผู้ซื้อบางคนอาจจะถูกเคาะประตูพร้อมกับคำเชิญ ‘ชวนไปดื่มชา’ ก็เป็นได้” ฉินเย่อธิบายอย่างใจเย็น

“เป็นเช่นนี้นี่เอง…นั่นแปลกมาก! มันน่าแปลกจริง ๆ ที่เจ้ารู้เรื่องเกี่ยวกับการประมูลระดับสูงพวกนี้ทั้ง ๆ ที่เจ้ามีชีวิตที่ยากไร้มาจนถึงตอนนี้!”

“….มันเป็นไปไม่ได้เลยหรือ ที่บทสนทนาระหว่างเราจะน่าฟังและไร้การแดกดันบ้างสักครั้งน่ะ?! ขนาดคางคกยังอยากทานเนื้อห่านฟ้าได้เลยไม่ใช่หรือ?! ความรู้พวกนี้ก็เกิดจากความใฝ่รู้ของข้าทั้งสิ้น!!”

อาร์ทิสพยักหน้าอย่างเข้าใจ ทว่าไม่นานนางก็ขมวดคิ้วอีกครั้ง “ปูซานและคิวชู? คิวชู…เหตุใดชื่อนี้ถึงฟังดูคุ้นหูนัก…”

หางตาของฉินเย่กระตุกอย่างไม่สามารถควบคุมได้ “ข้าขอเตือนไว้เลยนะ…ท่านควรจะบอกข้าก่อนหากมีปัญหาอะไรสถานที่เหล่านี้! ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าต้องเกือบตายตั้งกี่ครั้งเพราะความล้มเหลวในการรายงานสถานการณ์ของท่าน?!”

อาร์ทิสคิดอยู่ครู่หนึ่งก่อนจะส่ายหน้าและเอ่ยว่า “เจ้ากังวลอะไร? ข้าแค่รู้สึกว่าชื่อมันฟังดูคุ้นหูก็เท่านั้น…”

ฉินเย่มองอีกฝ่ายอย่างไม่เชื่อนัก ก่อนจะหันหน้ากลับไปคุยกับหัวหน้าไป๋ต่ออีกเล็กน้อย หลังจากคุยไปสักพักเขาก็เคลื่อนกล่องข้อความลง และเปลี่ยนเสื้อผ้าก่อนจะออกไปจากห้อง

เด็กหนุ่มเดินตรงไปที่ห้องทำงานของโจวเซียนหลงและเคาะประตู หลังจากได้รับเสียงตอบรับ เขาก็เปิดเข้าไปและพบว่าชายสูงวัยกำลังตรวจเอกสารบางอย่างอยู่

“คุณย้ายของเสร็จแล้วเหรอ?” โจวเซียนหลงเอ่ยถามโดยไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมามอง

“ครับ…เอ่อ หัวหน้าครับ พอดีมีเรื่องบางอย่าง ผมเลยอยากจะถามว่า….”

“ไม่ได้” โจวเซียนหลงวางปากกาลงในที่สุด จากนั้นจึงเงยหน้าขึ้นมามองก่อนที่ฉินเย่จะเอ่ยคำถามของตัวเองจบเสียอีก “คุณกำลังจะขอลาหยุดใช่ไหม? เนื่องในเหตุผลอะไรล่ะ? กฎก็คือกฎ และทุกคนก็ต้องปฏิบัติตาม อันที่จริง ส่วนตัวผมคิดด้วยซ้ำว่ากฎของเราในตอนนี้หละหลวมเกินไปแล้ว”

“แผนการสอนของคุณได้รับการอนุมัติหรือยัง? หากอนุมัติแล้วมันจะเป็นการดีมากที่คุณจะให้ความสนใจกับสถานการณ์ในปัจจุบันเสียบ้าง” เข้าชี้ไปที่กองหนังสือพิมพ์ที่วางซ้อนกันจนมีความสูงเกือบหนึ่งฟุต “คุณมาได้ถูกเวลาพอดี หนังสือพิมพ์พวกนี้เพิ่งมาถึง ช่วยนำมันไปแจกให้เหล่าอาจารย์ผู้สอนและศาสตราจารย์คนอื่น ๆ ที”

ให้ตายเถอะ…ผมไม่ได้มาที่นี่เพื่อให้คุณทักทายผมโดยการทำแบบนี้นะ!

ฉินเย่ไม่พอใจจนมุมปากของเขากระตุก เวรเอ๊ย! ผมยังพูดไม่จบด้วยซ้ำ แต่คุณกลับมอบหมายงานให้ผมแล้วเนี่ยนะ?! และผมก็มาที่นี่เพื่อขอลาหยุด! ไม่ได้มาเพื่อเป็นเด็กส่งเอกสารให้คุณ!

อย่างไรก็ตาม เขาพยายามข่มเปลวไฟนรกที่ลุกโชนอยู่ภายในใจของตัวเอง แย่จริง ๆ ที่ผมยังไม่สามารถจัดการคุณได้…ไม่เช่นนั้น คุณคิดหรือว่าผมจะยอมปล่อยเรื่องพวกนี้ไปง่าย ๆ น่ะ?

ฉินเย่ทำหน้ายุ่งและเอ่ยว่า “คืออย่างนี้ครับ…วันครบรอบวันตายของปู่ผมกำลังจะมาถึงแล้ว คุณพอจะมีทางอื่นที่จะสามารถลาหยุดให้ผมได้หรือเปล่าครับ? ผมไม่ได้ขอเวลานานนัก…แค่สักอาทิตย์เดียวก็พอ…”

“ถ้าอย่างนั้นผมก็จะขอพูดอีกครั้งว่าไม่ได้” โจวเซียนหลงมองหน้าอีกฝ่ายด้วยสีหน้าจริงจัง “ประการแรก ต้องให้ผมเตือนคุณหรือเปล่าว่าพวกเรากำลังอยู่ในสายงานแบบไหน? นี่คุณเชื่อในเรื่องพวกนั้นบางหรือเปล่า? ประการที่สอง ในสำนักฝึกตนแห่งแรก ไม่มีผู้ใดได้รับข้อยกเว้นใด ๆ ทั้งนั้น ดังนั้นอะไรทำให้คุณคิดว่าตัวคุณจะได้รับการปฏิบัติที่แตกต่างออกไป? นอกจากนี้ ผมจะขอพูดเป็นครั้งสุดท้ายว่ากฎก็คือกฎ และคุณจะต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด เมื่อคุณตกลงรับสิทธิพิเศษที่มาพร้อมกับการแต่งตั้งตำแหน่งในสำนักฝึกตนแห่งแรก คุณก็ต้องยอมรับหน้าที่และความรับผิดชอบของงานเช่นกัน ทั้งหมดนี้ถูกระบุไว้อย่างชัดเจนในสัญญาที่คุณได้เซ็นไป อาจารย์ฉิน หากคุณขออะไรแบบนี้อีกครั้ง ผมคงจะต้องพิจารณาอย่างจริงจังอีกรอบว่าคุณยังเหมาะสมสำหรับตำแหน่งอาจารย์ผู้สอนของสำนักฝึกตนแห่งแรกอยู่อีกหรือไม่”

[1] โปรแกรมแชทที่นิยมอย่างหนึ่งของจีน

ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]

ฉันนี่แหละจ้าวนรก [我要做阎罗]

Status: Ongoing
ฉินเย่เด็กหนุ่มมัธยมปลายที่ไม่มีวันแก่ เพราะกิน “เห็ดเทียนสุ่ย” เข้าไปทำให้มีชีวิตอยู่ระหว่างสองโลก เป้าหมายในชีวิตของเขาเพียงต้องการมีชีวิตเล่นเกมอยู่ไปวัน ๆ เท่านั้น แต่ดูเหมือนนรกจะไม่ได้ยินเสียงเรียกร้องของเขา เมื่อนรกถึงกาลอวสาน ผีร้ายออกอาละวาดบนโลกมนุษย์ ทำให้ฉินเย่ที่เป็นยมทูตคนสุดท้ายต้องรับหน้าที่จ้าวนรกเพื่อพิทักษ์โลกใบนี้!

Comment

Options

not work with dark mode
Reset