ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี – ตอนที่ 106 เงินดีผีคุ้ม

ตอนที่106 เงินดีผีคุ้ม
พอได้ยินว่าจ้าวเฉียนจะให้100ล้าน ชายหัวโล้นตกใจอย่างยิ่ง พร้อมเอ่ยถามน้ำเสียงทุ้มต่ำทันที
“นายมีเงินร้อยล้านจริงๆใช่ไหม?”
ท่าทีของจ้าวเฉียนดูผ่อนคลายลงเล็กน้อย ตราบเท่าที่ความภักดีของชายหัวโล้นคนนี้ สามารถซื้อได้ด้วยเงิน ทุกอย่างก็ไม่มีอะไรอันตรายแล้ว
“ไปคุยกันที่เงียบๆกันเถอะ ตรงนี้ดูจะไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่”
ชายหัวโล้นพยักหน้าและเตือนจ้าวเฉียนไปว่า อย่าคิดเล่นตุกติกไม่งั้นเขาลั่นไกใส่ทันที
จ้าวเฉียนหัวเราะ เอ่ยตอบอย่างไม่เป็นเดือดเป็นร้อนอะไรว่า
“ไม่ต้องกังวล ตราบใดที่สามารถใช้เงินแก้ปัญหาได้ นายได้ตามต้องการแน่”
ชายหัวโล้นเอะใจเล็กน้อยก่อนจะคุมตัวจ้าวเฉียนไปคุย
จ้าวเฉียนเข้าประเด็น ถามอีกฝ่ายอย่างตรงไปตรงมาทันทีว่า
“หยางหมิงจ้างพวกนายมาใช่ไหม? นายไม่ต้องปฏิเสธไป ไม่รู้หรอกนะว่าทำไมมันถึงเกลียดฉันขนาดนี้ ถึงขั้นจ้างมือสังหารมาจัดการจริงๆ แล้วฉันก็ไม่รู้หรอกว่ามันจ่ายพวกนายเท่าไหร่ แต่ฉันขอจ้างพวกนายกลับ100ล้านไปจัดการหยางหมิงคืน ว่ายังไง?”
ชายหัวโล้นเอ่ยถามด้วยความสงสัยว่า
“มีเงิน100ล้านแน่นะ?”
จ้าวเฉียนไม่ปริปากตอบใดๆ เพียงหยิบมือถือเข้าแอปธนาคารเปิดโชว์ให้อีกฝ่ายดู
“เอาไปดูตามสบาย นี่คือยอดเงินในบัญชีของฉัน ของพวกนี้เป็นข้อมูลจากธนาคาร คงปลอมแปลงกันไม่ได้อยู่แล้วจริงไหม?”
ชายหัวโล้นรีบคว้ามือถือมาดู ก่อนพบว่ามียอดเงินที่สามารถใช้ได้กว่า300ล้านหยวน เห็นแบบนี้เขาก็ใจชื้นขึ้นมาทันควัน ถ้าได้งินร้อนล้านมาอยู่ในมือ พวกเขาจะสามารถล้างมือในอ่างทองคำ กลับไปใช้ชีวิตดั่งคนธรรมดาทั่วไปได้อย่างมีความสุข
จ้าวเฉียยังคงกล่าวเสริมต่ออีกว่า
“เงินที่ได้ในธุรกิจแบบนี้เป็นยังไงก็คงทราบดี ได้เงินค่าจ้างเก็บคนต่อหัวต้องแบ่งใต้โต๊ะให้ใครต่อใครอีกกว่าจะถึงมือตัวเอง? สู้เอาเงินร้อนล้านไปแบ่งกับอีกสามคน สามารถเอาไปซื้อรถซื้อบ้าน ใช้ชีวิตประจำวันอย่างคนทั่วไป ในอนาคตถ้ารัฐเกิดข้อสงสัย ก็เจียดเงินมาสักก้อนเป็นธุรกิจก็ยังได้ เพื่อส่งบัญชีถึงที่มาของกำไรได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย อย่างน้อยก็ยังดีกว่าโดนจับเพราะฆ่าคน ติดคุกติกตารางหัวโต”
ชายหัวโล้นทึ่งไปชั่วขณะ เขาไม่ใข่คนโง่ที่ไม่รู้ว่าอะไรเป็นอะไร
“แล้วจะรับประกันได้ยังไงว่า นายจะทำตามสัญญา? ถ้าหลังจากปล่อยตัวไป แล้วนายเรียกตำรวจมาจับล่ะ?”
“ฮ่าฮ่า…พวกนายเองก็น่าจะมีชื่ออยู่ในรายชื่อที่ตำรวจต้องการตัวอยู่แล้วไม่ใช่เหรอ? ถ้านายไม่มีความสามารถพอที่จะหนีการจับกุมของตำรวจไปได้ คงไม่อยู่รอดถึงทุกวันนี้หรอกจริงไหม? อีกอย่างถ้าฉันโกหกจริงๆ หลังจากพวกนายหนีไปได้ค่อยมาตามฆ่าฉันใหม่ก็ยังไม่สาย แถมยังได้ไปเต็มๆ300ล้าน แต่นั้นก็ต้องแลกกับการใช้ชีวิตอย่างหลบๆซ่อนๆไปตลอดจนวันตาย แต่ถ้าเลือก100ล้านที่ฉันจะมอบให้ นายจะได้ล้างมือออกจากวงการนี้ และกลับไปใช้ชีวิตกับครอบครัวอย่างสงบสุข ว่าไง…เลือกอย่างไหนดี?”
ชาวหัวโล้นเองก็คิดว่ามันเข้าท่า ยอมตัดใจเอา100ล้านแลกกับอิสรภาพของชีวิตในอนาคต ถึงได้เพิ่มมาอีก200ล้าน แต่ต้องใช้ชีวิตแบบหลบๆซ่อนๆแบบนี้ มีเท่าไหร่ก็ใช้จ่ายไม่ได้เหมือนกัน
“แล้วถ้าฉันเลือก100ล้าน นายมีวิธีล้างมือให้พวกฉันยังไง? เพราะวงการนี้มันไม่ได้ออกกันง่ายๆ?”
“ฉันพอมีเพื่อนที่รู้จักอยู่ในวงการนี้เหมือนกัน เขาค่อนข้างมีอิทธิพลและเชื่อถือได้ พวกเขาจะช่วยล้างประวัติให้พวกนายเอ ส่วนเรื่องเงิน ถ้าโอนผ่านบัญชีธนาครจำนวนขนาดนี้อาจถูกทางตำรวจสงสัยว่าฟอกเงิน ดังนั้นฉันจะโอนใส่ลงในบัญชีหุ้นของนายแทนเป็นจำนวน10ล้าน แล้วเข้าซื้อหุ้นตัวนึงตามที่ฉันสั่ง ภายในหนึ่งเดือนฉันจะปั่นมูลค่าให้ถึง100ล้าน จากนั้นนายก็แค่ขายหุ้นพวกนั้นไป แต่ถ้าไม่สันทัดเรื่องหุ้นเท่าไหร่ จะให้โอนเงินผ่านการประมูลรูปศิลปะก็ได้ มันมีหลายวิธีที่จะจ่ายเงินเข้ากระเป๋านาย ดังนั้นไม่ต้องกังวลเลย”
ชายหัวโล้นเชื่อจ้าวเฉียนสนิทใจและพยักหน้าเห็นด้วยในทันที ทั้งสองเดินกอดคอกลับมาพลางร่วนหัวเราะอย่างสนุกสนาน
ชายหัวโล้นกวักมือเรียกสหายทั้งสามและจากออกไปทันที
พอมือสังหารทั้งสี่เดินทางจากออกไป จู่ๆจ้าวเฉียนก็ระเบิดหัวเราดังลั่นโดยไม่มีสาเหตุ
“เป็นยังไงบ้าง? การแสดงของสี่คนนั้นเนียนดีไหม? หลอกให้พวกนายเชื่อสนิทเลย! ฮ่าฮ่าๆๆ…”
ทุกคนโกรธไม่น้อยพอได้ยินแบบนั้น จึงรีบเอ่ยถามจ้าวเฉียนทันทีว่านี่หมายความว่ายังไงกันแน่? ทั้งหมดเป็นเพียงการแสดงงั้นเหรอ?
จ้าวเฉียนจงใจทำหน้าเก็บอาการไม่อยู่และตอบไปว่า
“ก็นะ…แค่อยากให้ทุกคนเลือดสูบฉีดกันหน่อย!”
จางหยางโมโหอย่างมาก เขาเดินเจ้ามาผลักอกจ้าวเฉียนและสบถด่าขึ้นว่า
“สมองแกมีปัญหาเหรอ? มาเล่นอะไรบ้าบอแบบนี้! คิดว่าคนอื่นๆเขาสนุกกับแกไหม?”
เจวียงหยวนยังดุซ้ำว่า
“นี่มันเกินไปแล้ว จะเล่นอะไรให้มันมีขีดจำกัดหน่อย ทุกคนต่างกังวลถึงความปลอดภัยของนาย นี่คิดว่าตัวเองมีค่าพอที่จะเล่นอะไรแบบนี้จริงๆเหรอ?”
บรรดาเพื่อนร่วมงานของเขาเองล้วนปริปากล่นไม่หยุด ติเตียนไปว่าเล่นอะไรควรมีขอบเขต
มีเพียงหวังเฉียงเท่านั้นที่ไม่พูดอะไรสักคำ เพราะเขารู้ดีว่านี่ไม่ใช่แค่เรื่องอำเล่นของจ้าวเฉียน แต่เป็นการบุกจับตัวจริงๆ ถึงแบบนั้นเขาก็ไม่สามารถเข้าใจได้เลยว่า ทำไมมือสังหารเหล่านั้นถึงยอมกลับไปแต่โดยดี? ไอ้หัวโล้นนั่นคุยอะไรกับจ้าวเฉียนกันแน่? จากดุกลายเป็นเชื่องซะอย่างงั้น?
จ้าวเฉียนไม่ต้องการอธิบายเรื่องให้ใครฟัง เพราะกลัวจะเป็นเรื่องใหญ่เกินควบคุม เขาหยิบปืนเลเซอร์ขึ้นมาทันทีและยิงเจวียงหยวนรัวๆไม่หยุด พร้อมตะโกนลั่นว่า
“เลิกเล่นตลกได้แล้ว! ถึงเวลาตาย! ฉันจะยิงให้หมดแม็กเลย!”
เจวียงหยวนยกปืนขึ้นสู้ตอบทันที จากนั้นทั้งสองก็รีบวิ่งไปหาที่กำบังแล้วสู่กันอย่างดุเดือด พอคนอื่นๆเห็นดังนั้นก็รีบยกปืนขึ้นยิงกันอย่างสนุกสนาน จนดูเหมือนว่าความไม่พอใจก่อนหน้า ทุกคนจะลืมเลือนกันไปหมดแล้ว
หยางหมิงรอข่าวดีบนเรือยอทช์หรู ไม่นานนักมือสังหารทั้งสี่ก็กลับมา แต่เมื่อเห็นพวกเขากลับมามือเปล่า หยางหมิงพลันขมวดคิ้วแน่น ถามด้วยความโกรธขึ้นว่า
“พวกแกทำบ้าอะไร? จ้าวเฉียนอยู่ไหน!?”
ชายหัวโล้นตอบไปว่า
“ขอโทษจริงๆครับ ฝ่ายนั้นมีคนเยอะกว่าก็เลยไม่มีโอกาสลักพาตัวออกมาได้ รอให้พวกเราออกจากเกาะซ่งต้าวก่อนดีกว่า ค่อนหาโอกาสใหม่ครับ”
หยางหมิงฟังดันนั้นก็พลันคิดไปว่า คงทำได้เท่านี้จริงๆ จึงสั่งให้ออกไปและพักผ่อนตามอัธยาศัย
ในอีกด้าน ระหว่างที่เล่นเลเซอร์เกมส์กัน ยิ่งหวังเฉียงครุ่นคิดเท่าไหร่ก็ยิ่งรู้สึกว่ามีบางอย่างไม่ปกติ ดังนั้นจึงรีบแอบส่งข้อความถึงหยางหมิง
“คนที่คุณส่งมาเชื่อถือได้จริงๆใช่ไหม? เห็นไอ้หัวโล้นคนนั้นกอดคอหัวเราะกับจ้าวเฉียนด้วย ไม่ใช่ว่ามันทรยศคุณแล้ว?”
หยางหมิงได้อ่านข้อความดังกล่าวก็เริ่มวิตกกังวลหนัก ถ้านักฆ่าเหล่านี้ถูกจ้าวเฉียนซื้อตัวไปแล้วจริงๆ การออกทะเลครั้งนี้ก็ไม่ต่างอะไรจากนำส่งพวกเขาสู่แม่น้ำสายมรณะ?
เมื่อหยางหมิงกำลังจิตตกหนัก จู่ๆก็มีเสียงไซเรนดังขึ้นจากไม่ใกล้ไม่ไกล ปรากฏว่าเป็นเรือนตำรวจลาดตะเวนของเกาะมา
หยางหมิงดีใจอย่างที่สุดคิดว่าตัวเองรอดแล้ว เขารีบวิ่งไปที่ดาดฟ้าและตะโกนขึ้นว่า
“ช่วยด้วยตำรวจ! ช่วยด้วย! มีคนมาทำร้ายผม รีบจับมันโยนทะเลเลย!”
บรรดาพวกพ้องของหยางหมิงต่างตื่นตระหนกยิ่งพอได้ยินแบบนั้น รีบกระโดดลงทะเลพยายามจ้ำอ้าวว่ายไปทางเรือตำรวจ ส่วนพวกมือสังหารก็รีบวิ่งไปที่ห้องครัว เปลี่ยนเสื้อผ้าซ่อนปืนมิดชิด แสร้งว่ากำลังทำอาหารอยู่
ไม่นาน เรือจตำรวจก็แล่นเข้ามาเทียบกับเรือยอทช์
“พวกเราเป็นตำรวจชายฝั่งของเกาะซ่งต้าว ขออนุญาตขึ้นเรือเพื่อตรวจสอบครับ หวังว่าทางคุณจะให้ความร่วมมืออย่างเต็มที่”
หยางหมิงผงกหัวโดยไม่พูดอะไรสักคำ
“คุณตำรวจช่วยด้วย มีมือสังหารอยู่บนเรือ แถมพวกมันยังมีปืนอีกด้วย”
พอได้ยินคำกล่าวของหยางหมิงแบบนั้น ก็ทำให้บรรดาเพื่อนฝูงหวาดกลัวเข้าไปใหญ่ รีบวิ่งไปหลบในเรือตำรวจทันที
มือสังหารทั้งสี่ที่ดักฟังการเคลื่อนไหวด้านนอก ก็ตระหนักได้ทันทีว่าโดนจับได้แล้ว ก็เลยรีบหยิบปืนออกมาเตรียมสู้ พวกเขาไม่ยอมจำนนแบบนี้แน่นอน ประวัติของแต่ละคนฆ่าคนมาก็เยอะ ถ้าโดนจับกุมคงหนีไม่พ้นโทษประหารอยู่ดี
ที่ตำรวจชายฝั่งแล่นมาหา ที่จริงแล้วแค่อยากเข้ามาสอบถามเฉยๆว่า ทำไมเรือยอทช์ของหยางหมิงจู่ๆถึงออกแล่นตอนกลางดึกแค่นั้น
แต่พอตำรวจได้ยินแบบนั้นก็รีบแจ้งศูนย์ใหญ่โดยด่วนทันที
ขณะที่ก่อเกิดสถานการณ์การไล่ล่ากันอย่างดุเดือดภายในน่านน้ำ พวกจ้าวเฉียนและคนอื่นๆกำลังมีช่วงเวลาอันดีบนเกาะ ต้องบอกเลยว่า กิจกรรมเสริมสร้างความสามัคคีครั้งนี้ที่ฟางนี่จัดขึ้นมันได้ผลจริงๆ ทุกคนต่างทำกิจกรรมร่วมสนุกกันจนลืมเรื่องขับข้องใจส่วนตัว จ้าวเฉียนกับเจวียงหยวนเล่นกันอย่างสนุกสนาน
แต่ในเวลานั้นเอง หวงฉิงก็รีบวิ่งเข้ามาพร้อมกับตำรวจกลุ่มหนึ่ง ถ้าเกิดอะไรขึ้นกับจ้าวเฉียน มีหวังพวกเขาไม่เพียงตกงาน แต่หัวได้หลุดจากบ่าแน่นอน
จ้าวเฉียนมุ่นคิ้วดูไม่พอใจเล็กน้อยที่ถูกขัดจังหวะแบบนี้ ส่วนด้านหวงฉิงเองก็ไม่กล้าเปิดเผยตัวตนของจ้าวเฉียน จึงรีบอธิบายพร้อมรอยยิ้มว่า
“ทุกท่านครับ ทางเราต้องขอโทษจริงๆ ตอนนี้มีบุคคลอันตรายอยู่บนเกาะ จึงจำต้องยุติกิจกรรมกลางแจ้งทุกชนิด และให้ทั้งหมดรีบกลับเข้าโรงแรมโดยเร็ว เชิญขึ้นรถที่เราจัดเตรียมไว้ให้เลยครับ”

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

ฉันนี่แหละ ทายาทเศรษฐี

เนื้อเรื่องย่อ จ้าวเฉียน อายุ23ปี พนักงานกินเงินเดือนธรรมดา รายได้เดือนละแค่5,000หยวน ทุกคนในบริษัทต่างดูถูกดูแคลนเขา เพราะเจ้านี่ขี้เหนียวเหลือเกิน แม้แต่แฟนเก่ายังทนเขาไม่ไหว และหันมาแอบคบชู้กับผู้จัดการของเขาแทน จนเวลาผ่านไปเขาเพิ่งมารู้ความจริง อย่างไรก็ตาม ความจริงที่ชวนน่าตกตะลึงกว่าคือ ตัวตนที่ที่แท้จริงของเขาคือทายาทมหาเศรษฐี บุตรชายของจ้าวฝู บุคคลที่ร่ำรวยที่สุดในโลก แต่เมื่อห้าปีก่อน หลังจากที่ฉลองปาร์ตี้ที่สอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ เขาก็ขับรถกลับทั้งๆที่อยู่ในอาการเมา จนแล้วจนรอด บังเอิญไปเฉี่ยวชนเข้ากับสาวน้อยคนหนึ่ง จนเธอได้รับบาดเจ็บ นอกจากนี้เนื่องจากฤทธิ์ของแอลกอฮอล์ ขาดสติหนัก เกิดอาการคลุ้มคลั่งขึ้น ตะโกนโหวกเหวกโวยวายสร้างปัญหาไปทั่วสถานีตำรวจ ระหว่างนั้นเองก็มีมือดีที่ไหนไทม่ทราบแอบถ่ายคลิปเก็บไว้ได้ทัน พร้อมถูกอัปโหลดลงโซเชียลออนไลน์ ก่อให้เกิดเป็นประเด็นข้อฉกเถียงยกใหญ่ของผู้คนในเวลานั้น ซึ่งเรื่องนี้ก็กระทบไปถึงชื่อเสียงขงอตระกูล จ้าวฝูไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากใช้อำนาจเงินตรา เพื่อไล่ลบคลิปวีดีโอเหล่านี้จนหมด ไม่ให้สืบสาวไปถึงตัวลูกชายของเขา คนเป็นพ่อใช้ไม้แข็งตัดขาดจ้าวเฉียน ไล่ไสส่งออกจากตระกูลจ้าว และให้จ้าวเฉียนหาเงินมาชดใช้ค่ารักษาสาวน้อยคนนั้นเป็นจำนวน 200,000หยวน เมื่อเสร็จสิ้นภารกิจนี้ ถึงจะกลับเข้ามาในตระกูลอีกครั้งได้ ในช่วงห้าปีที่ผ่านมา จ้าวเฉียนจำต้องทนกับความอัปยศนานาชนิด ทั้งยังต้องใช้ชีวิตอย่างประหยัด จนในที่สุดเขาก็จ่ายเงินค่ารักษาพยาบาลจนควบตามที่กำหนดไว้ เขาได้ทุกอย่างคืนกลับมาอีกครั้ง และสิ่งแรกที่เขาต้องการคือ การแก้แค้นพวกที่เคยดูถูกเขา! “ประธานฟาง ฉันยินดีร่วมหุ้นกับบริษัทของคุณเป็นจำนวนเงิน3ล้านหยวน โดยมีเงื่อนไขว่า คุณไม่ได้รับอนญาตให้เปิดเผยสถานะที่แท้จริงของผม ไม่อย่างนั้นผมจะถอนทุนทั้งหมดออกทันที” “เข้าใจแล้วค่ะคุณจ้าว” “ฮิฮิ….ตราบใดที่เข้าใจแล้ว ก็ทำให้ได้ แล้วคุณรู้ไหมว่า ผู้จัดการหวัง เจ้านั้นมันต้องการขับไล่ผมออกจากบริษัท คิดว่าผมควรทำยังไงดี?” “ง่ายมากค่ะ! ฉันจะไล่เขาออกเดี๋ยวนี้!” “ไม่ ไม่… ผมยังเล่นกับเขาไม่จุใจเลย จะไล่ออกไปง่ายๆได้ยังไง?”

Comment

Options

not work with dark mode
Reset